วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 11:10  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2011, 14:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกใหม่
สมาชิกใหม่
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ก.ย. 2011, 21:17
โพสต์: 4

อายุ: 14

 ข้อมูลส่วนตัว


s006 คือเป็นคนกลัวผีมากๆๆๆๆๆ เลยอ่ะค่ะ ทำอย่างไงดีอ่ะคะ
ช่วยหน่อยนะค้าาาาาาาาาาาาาา
ขอบคุณค่าาาาาาาา :b18: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2011, 14:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 ส.ค. 2009, 19:31
โพสต์: 169

แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ทำดี
สิ่งที่ชื่นชอบ: ทุกเล่มที่ชอบ
ชื่อเล่น: เก็บเกี่ยว
อายุ: 0
ที่อยู่: ในธรรม

 ข้อมูลส่วนตัว


cool เพิ่มความรักให้ ซิ จ้าได้ไม่กลัว เพราะรักใครเราอยากอยู่ใกล้เสมอเลย :b27:

.....................................................
รักษาที่ดีไว้ ก่อความดีใหม่ๆ ละๆๆชั่วต่อๆไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2011, 15:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Onion_no ผมใช้วิธีลุยเข้าไปเลยครับ เมื่อก่อนกลัวผีมากเหมือนกันมีืคืนหนึ่งกลัวมากๆ แต่ใจก็เกิดความเบื่อหน่ายความกลัวเหมือนเลือดขึ้นหน้า ว่าถ้าเราต้องกลัวต้องอยู่กับความกลัวไปตลอดชีวิตนั้น วันนี้พิสูจน์ให้รู้กันเลยดีกว่าว่าผีมีจริงใหน ผมสะพายย่าม มีด ไฟฉายเดินเข้าป่าหลังบ้านเลย คืนนั้นเดือนหงาย
ผมเดินประมาณห้ากิโล จนวนกลับมาบ้าน น้ำตาใหลพรากเลยครับเมื่อพบความจริงว่าเราหลอกตัวเองมาตลอด เกิดปิติในความจริงที่พบว่าไม่มีผีครับมีแต่จิ้งหรีด แมลง นกกลางคืน มันไม่เห็นกลัวผีเลยมันกล้ากว่าเราอีก(ที่คิดว่าเป็นคนแล้วประเสริฐกว่ามัน) ตั้งแต่นั้นมาความกลัวผีหายไปกว่าครึ่งและต่อมาเมื่อเกิดความกลัวครั้งใดก็จะใช้วิธีเดินเข้าไปพิสูจน์ในสถานที่ๆกลัวความกลัวก็ลดลงตามลำดับจนปัจจุบันจะเหลือแต่ความหวั่นไหวบ้างเล็กน้อยเวลาจิตไม่เป็นสมาธิ(แต่วิธีนีอาจไม่เหมาะกับสุภาพสตรีอย่างยิ่ง)
ส่นอีกวิธีหนึ่งผมสังเกตุว่าเวลาเรามีศีลดีไม่มีความผิดใจย่อมมีพลัง มีสมาธิความกลัวจะไม่ครอบงำเรา และเราไม่ควรสะสมสัญญา(ความจำ)เกี่ยวกับเรื่องผี เช่นการดูหนังผี อ่านนิยาย คุย หรือฟังเรื่องผีจะทำให้ความกลัวผีเกิดใด้ง่ายขึ้น และถ้าปฎิบัติธรรม ฝึกจิต เห็นความคิด เวลาเกิดความหวั่นใจก็สามารถที่จะดูมันรู้ทันมันความกลัวเหล่านั้นจะทำอะไรเราไม่ได้
แต่พระพุทธเจ้าท่านใช้วิธีตามสูตรนี้ครับใน" ภยเภรวสูตร ว่าด้วยสิ่งที่เป็นภัยและน่าหวาดกลัว"(ลองค้นดูจากเว็บพระไตรปิฏกครับพอดีผมทำลิ๊งค์ไม่เป็น) :b4:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 21 ก.ย. 2011, 15:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


somtamz เขียน:
s006 คือเป็นคนกลัวผีมากๆๆๆๆๆ เลยอ่ะค่ะ :


ผมก็กลัวครับ และผมก็กลัวความมืดด้วย


somtamz เขียน:
ทำอย่างไงดีอ่ะคะ
ช่วยหน่อยนะค้าาาาาาาาาาาาาา
ขอบคุณค่าาาาาาาา :b18: :b13:


คุณต้องเข้าใจก่อนว่าผีคืออะไร ถ้าคุณเข้าใจแล้วคุณก็ต้องพยายามทำใจ
ไม่ให้กลัว มันยากนะครับทำใจ แต่ถ้าเราไม่ทำก็ไม่มีใครช่วยเราได้ครับ
ก็ต้องกลัวต่อไป

สรุปคือเป็นเรื่อของความเชื่อและจิตใจ ความฝังใจครับ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2011, 10:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 มิ.ย. 2004, 12:36
โพสต์: 86

โฮมเพจ: naiyanit.blogspot.com
แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: หนังสือธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ ทุกเล่ม
ชื่อเล่น: นิดนึง
อายุ: 0
ที่อยู่: เมืองนนท์

 ข้อมูลส่วนตัว www


เอาเข้าจริงเรากลัวความมืดกันเป็นส่วนมากค่ะ
ตัวเองก็เคยกลัวผีมากมายเหมือนกัน แต่เมื่อมาดูกันจริงๆ ก็พบว่า

1. เรากลัวความมืด
2. เราปรุงแต่งบางสิ่งขึ้นมาเอง
3. เวลามีสติ เราไม่กลัวผี

ผ่านประสบการณ์จากการไปภาวนานะคะ เคยไปภาวนาที่เขาสวนหลวง ที่นั่นไม่มีไฟฟ้า ตกค่ำก็น่ากลัวพอสมควร ที่เขาสวนหลวง (ของท่านก.เขาสวนหลวง) มีลิงเยอะมาก บางทีอยู่ๆ ก็วิ่งไปไล่กันเกรียวกราวบนหลังคากุฏินี่แหล่ะ แต่ตกดึกส่วนมากมันก็เงียบ คงนอนหลับกันด้วย มีเสียงก็นิดหน่อย เรากลัวผีจนไม่กล้าออกไปจากกุฏิ แต่พอนึกว่าถ้ามีผี ลิงมันไม่เห็นกลัวผีเลย รู้สึกอายลิง เลยออกไปเดินจงกรมดีกว่า พอออกไปเดิน ก็เห็นจิตปรุงแต่งของตัวเองมากมาย เวลากลางวันสถานที่เดียวกัน ความเงียบสงบเหมือนกัน แต่เราไม่กลัว เพราะเราไม่ปรุงแต่งอะไร

แต่ส่งสำคัญอันนึงที่ทำให้หายกลัวผี ก็เพราะไปเห็นคนกลัวผีนี่แหละค่ะ คนข้างบ้านเขาตาย ตอนอยู่เขาเป็นสามีที่ดี เลี้ยงลูกภรรยา ดูแลอย่างดี พอเขาตายไป คนในบ้านกลับกลัวเขา หาทางทำพิธีไม่ให้เขามา รู้สึกสงสารเขาจริงๆ เลย นึกถึงว่า ถ้าเราตายแล้วคนที่รักต่างรังเกียจ ไม่อยากพบอยากเจอ เขาคงเสียใจนะคะ

.....................................................
~รู้สภาวะตามความเป็นจริงลงปัจจุบัน ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง~
สติมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2011, 11:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


โดยส่วนตัวผมก็กล้วเหมือนกันแล้วขี้เกียจเจอด้วย ผมจะเลือกวิธีที่ผมใช้อยู่มาบอกก็แล้วกัน

1.เจริญเมตตา หรือ
2.ทำสมถ หรือ
3.วิปัสสนา หรือ
4.แบบบ้าบิ่น(คือคุยกับผีไปเลย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 ก.ย. 2011, 12:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


:b30: :b30: :b30: :b30:

กลัวผี เพราะ เราไปคิดถึงเขาในลักษณะการปรุงแบบผี ๆ น่ะ

ถ้าจะแก้ ก็แก้ที่ความคิดเรา เวลาที่คิด
ทำความเข้าใจ คุณผีที่เราคำนึงถึงแล้วกลัวนั้น ให้สอดคล้องกับความเป็นจริง

ถ้ามีความพยายามทำความแจ้งในเรื่องนี้

เราอาจจะพบว่า สิ่งที่น่ากลัว ไม่ใช่ คุณผี
แต่เป็น ความคิด เรานั่นเอง

:b30: :b30: :b30: :b30:

หง๋อย หง๋อย ศึกษาธรรม แต่สนทนาในเรื่องสังขาร-อวิชชาต่อไม่ได้

ก็ถอยกลับมา ศึกษาทำความเข้าใจในเรื่อง ผีผี

:b30: :b30: :b30: :b30:

:b10: :b10: :b10: :b10:

อื้อ....นี่ก็ สังขาร-อวิชชา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2011, 00:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


หน้าตาผีเป็นอย่างไรค่ะ? เคยเห็นจริงๆ และจังๆ..หรือเปล่า? :b10:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2011, 08:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 17 ก.พ. 2008, 10:00
โพสต์: 724

แนวปฏิบัติ: พอง-ยุบ
งานอดิเรก: ปฏิบัติวิปัสสนา
อายุ: 0
ที่อยู่: เกษตร-นวมินทร์ กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


คิดถึงเพลงเลย

ผีหลอกยังพอทน แต่คนหลอกคนมันช้ำใจจนวายวุ่น

แต่.....ตอนนี้ต้อง

ผีหลอกยังพอทน แต่ตนหลอกตนมันช้ำใจจนวายวุ่น

.....................................................
เอกายโน อยํ ภิกฺขเว มคฺโค สตฺตานํ วิสุทฺธิยา โสกปริเทวานํ สมติกฺกมาย
ทุกฺขโทมนสฺสานํ อตฺถงฺคมาย ญายสฺส อธิคมาย นิพฺพานสฺส สจฺฉิกิริยาย ยทิทํ
จตฺตาโร สติปฏฺฺฐานา ฯ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ก.ย. 2011, 11:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b14: เจอมาสดๆเมื่อวานไปรับแฟนที่โรงพยาบาลผ่านห้องทำงาน มีห้องพิเศษที่ร่ำลือกันว่าเจอผี สัญญาเกิดทำงานจิตหวั่นไหวมองดูแล้วไม่ได้ความ ขืนปรุงต่อไปเป็นทุกข์แน่จึงไช้สติประคองจิตไว้ไม่ให้ตามความคิดถอยความรู้สึกมาอยู่กับรูปผัสสะที่เห็น ว่าเออที่เห็นมันแค่ห้องๆหนึ่งก่อนหน้านี้มันก็ห้อง จากนี้ไปมันก็เป็นแค่ห้อง แต่จิตหลงไปปรุงแต่งสัญญาที่ได้ยินมาภายหลัง จึงหวั่นไหว จิตจึงคลายตัวลงไปจนเป็นปกติ เกือบไป เผลอไม่ได้จริงๆ :b9:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2011, 10:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 10 มิ.ย. 2004, 12:36
โพสต์: 86

โฮมเพจ: naiyanit.blogspot.com
แนวปฏิบัติ: ดูจิต
งานอดิเรก: ปฏิบัติธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: หนังสือธรรมะของหลวงพ่อปราโมทย์ ทุกเล่ม
ชื่อเล่น: นิดนึง
อายุ: 0
ที่อยู่: เมืองนนท์

 ข้อมูลส่วนตัว www


มาเล่าต่อค่ะ

ตอนไปภาวนาที่เขาสวนหลวง อย่างที่เล่าให้ฟังว่า ที่นั่นไม่มีไฟฟ้า กุฏิที่เราอยู่ มี 2 กุฏิ อยู่บนเขาห่างกันพอเห็นได้ พอคิดว่าลิงมันยังไม่กลัวผีเลย เราอายลิงจริงๆ เลย ไม่กล้าออกมานอกกุฏิ ก็เลยตัดสินใจออกมาเดินจงกรมทั้งมืดๆ นั่นแหละ ทงเทียนไม่จุดด้วย เดินจงกรมอยู่หน้ากุฏิมองไปมีแสงไฟจากเขาอีกด้านนึง มีพระพุทธรูปองค์ใหญ่ แสงไฟส่องมาในความมืดทำให้พอมองเห็น ก็เดินจงกรมตรงหน้ากุฏิเรานี่แหละ

เดินๆ ไปสักพัก เหลือบตามองไปข้างหน้า เห็นอะไรไม่รู้ขาวโพลงยืนสูงอยู่เลยกุฏิอีกกุฏินึงไป ใจก็เริ่มหวั่นๆ แล้ว แต่เราเดินจงกรมอยู่ ภาวนาอยู่ไม่มีสิ่งใดทำอันตรายได้หรอก เวลากลับหลังก็อยู่กับการบริกรรมและก้าวเท้าที่เดิน พอเดินกลับมา ใจมันก็บอกให้ดูที่เดิมว่ายังอยู่หรือป่าว.....อุแม่เจ้า ยืนขาวสูงเลยยอดไม้ไป ยังอยู่อยู่เลย เราก็ไปอีกไม่ยอมเลิก เดินไปกี่รอบๆ ก็มองไปเห็น ทำเป็นไม่สนใจ มองทางจงกรมบ้าง ตั้งสมาธิอยู่ในองค์ภาวนาตลอด สุดท้ายจนกลับเข้าไปในกุฏิเพราะเดินไปพอสมควรแล้ว เช้าขึ้นมาพอเริ่มมีแสงสว่าง ก็ออกไปเดินจงกรมที่เดิมอีก เอ๊ะ...ไม่เห็นมีอะไรในแนวนั้นเลย แต่พอสว่างเต็มที่ แทบเข็กหัวตัวเอง แท้งน้ำปูนสูงเลยยอดไม้ไปนั่น กลางวันไม่ได้เห็น ไม่ทันสังเกตุเลย พอตกกลางคืน สีขาวที่เขาทาไว้มันส่องกับแสงตอนกลางขึ้น กลายเป็นอะไรไม่รู้ที่ยืนตระหง่านท่ามกลางความมืดเล่นเอาเกือบสติแตก....อิอิ

.....................................................
~รู้สภาวะตามความเป็นจริงลงปัจจุบัน ด้วยจิตที่ตั้งมั่นและเป็นกลาง~
สติมา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2011, 11:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


satima เขียน:
มาเล่าต่อค่ะ

สีขาวที่เขาทาไว้มันส่องกับแสงตอนกลางขึ้น กลายเป็นอะไรไม่รู้ที่ยืนตระหง่านท่ามกลางความมืดเล่นเอาเกือบสติแตก....อิอิ


:b14: :b14:

:b18: :b18: :b18:

ดีนะ ที่เดินจนจบ แล้วออกมาดูตอนเช้า ไม่ทิ้งกิจที่ทำอยู่

จริง ๆ เวลาปฏิบัติธรรม ผู้ที่เห็นในลักษณะนี้ จะมีการตอบสนองต่อสิ่งที่ปรากฎต่างกัน

บางคน เห็นแล้ว ก็คงจะผงะ แต่ต้องรู้ให้ได้ ก็ต้องหาไฟฉายแล้วเดินไปดู
บางคน ถ้าใส่ใจอยู่กับจงกรม/หรือใจลอยคิดเรื่องอื่นอยู่ ก็อาจจะไม่สนใจ
บางคน ก็อาจจะพิจารณาความกลัวที่ปรากฎ

อืมมม สำหรับเอกอน ถ้าเจออย่างนั้น อิอิ :b9:
จะต้องตั้งสติและไปหาไฟฉาย ไปส่องดูให้รู้แน่ชัดว่าเป็นอะไร
แม้จะกลัว แต่ความสงสัยใคร่รู้ มันเป็นอุปนิสัยที่เด่นกว่า
ซึ่งเป็นสิ่งที่ดึงเราออกจากการปฏิบัติ ...
นี่คือข้อเสีย :b9: :b9: :b9:
ที่คอยลากให้เราเผลอหลุดไปจากสติ และ สมาธิ


:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2011, 15:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 ก.พ. 2011, 19:56
โพสต์: 1798


 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่ไม่ควรกลัวที่สุดก็คือความกลัว (ความเห็นส่วนตัว)
สิ่งที่่ควรกลัวที่สุดก็คือบาปอกุศลทั้งหลาย (ความเห็นส่วนตัว)

ไอ้ที่กลัวๆก็เป็นเพียงความคิด ชั่ววูบหนึ่ง
ที่ว่าผีๆนั้นก็เป็นเพียงรูปและนาม ที่นั่งพิมพ์อยู่นี่ก็ไม่ต่างกับผีเหมือนกันเป็นอนัตตาด้วยกันทั้งคู่
วิธีแก้ความกลัวมีหลากหลายวิธีแล้วแต่จะใช้

พุทธานุสสติ ธรรมานุสสติ สังฆานุสสติ ระลึกนึกถึงพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์
ต้องไปเจริญอนุสสติ สามอย่างนี้บ่อยๆ อาศัยศรัทธาจะทำให้การเจริญอนุสสติสามอย่างนี้ได้ผล

การเจริญอสุภะนี้ใช้ได้ดีความกลัวมาเมื่อไหร่ก็นึกถึงซากศพเลย

นึกถึงความตาย ท่านว่าสิ่งที่คนกลัวที่สุดคือความตาย รักที่สุดก็คือชีวิตตน ถ้าเราไม่กลัวตายแล้วอะไรมันก็ไม่น่ากลัวทั้งนั้น อย่างมากก็แค่ตาย

นอกจากนี้ เช่นการเจริญเมตตา การเจริญอาโลกสัญญา ทำแสงสว่างไว้ในใจ............และอื่นๆ

สำคัญที่สุดคือการอบรมเจริญปัญญาให้เห็นความเป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ของขันธ์ ๕ วิธีนี้มั่นคงที่สุด

เมื่อเห็นถูก ก็คิดถูก
อะไรๆก็ไม่น่ากลัวเท่าบาปอกุศล
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ก.ย. 2011, 20:26 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


แปลกเนาะ ไม่ว่าที่น่ากลัวขนาดใหน นกหนูปูปลาแมวหมา มันไม่ยักกลัว คนกลัวกันจัง :b14: (ผมก็ด้วย)

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 14 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 107 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร