ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

เรื่องของคำพูด
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=39693
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  เสียงธรรม [ 27 ก.ย. 2011, 16:11 ]
หัวข้อกระทู้:  เรื่องของคำพูด

มิตร สร้างขึ้นได้ด้วยปาก
มิตร ทำลายได้ด้วยปาก

ทำให้คนรัก พูดให้คนรัก ยากและต้องอาศัยเวลายาวนาน
ทำให้คนเกลียด พูดให้คนเกลียด ไม่ต้องใช้เวลา แค่เพียง
คำพูดไม่กี่คำ ก็สามารถทำลายมิตรภาพและสร้างศัตรูได้ในพริบตา

เจ้าของ:  กามโภคี [ 27 ก.ย. 2011, 16:15 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องของคำพูด

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  ทักทาย [ 28 ก.ย. 2011, 00:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องของคำพูด

ลมพายุที่ว่าร้าย...ยังไม่ร้ายเท่าลมปากของคน

สาธุค่ะ :b8:

เจ้าของ:  ขณะจิต [ 28 ก.ย. 2011, 07:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องของคำพูด

:b1: ปากร้าย ย่อมเกิดจากจิตร้าย สัดส่ายในโลกธรรม นำทุกข์

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 28 ก.ย. 2011, 12:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องของคำพูด

ความร้ายกาจ ความเลวมันไม่ได้อยู่ที่ คำพูด
แต่มันอยู่ที่ อารมณ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้คำพูดครับ
ไอ้ที่น่ากลัวก็พวกปากปราศรัย น้ำใจเชือดคอ
คนพวกนี้ผมเจอมาเยอะครับ เห็นพูดจาไพเราะแบบนี้
พอมีคนจี้ใจดำเข้า ออกหมดครับไอ้กิเลสที่ซุกซ่อนไว้

ผู้ปฏิบัติธรรมเขาไม่ต้องการหรอกครับ มิตรภาพเพื่อนฝูง
สิ่งที่เข้าต้องการคือกัลยาณมิตรครับ


แนะนำอีกอย่าง คนที่ชอบพูดจาทำนองนี้ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่า
มันก่อศัตรู เพราะฟังแล้วมันไม่ได้ส่อไปในทางดีเลยครับ
มันเป็นคำที่กระทบกระเทียบคนอื่น

ไม่มีใครสนใจเราหรอก ถ้าเราไม่ไปสนใจเขา

เจ้าของ:  เสียงธรรม [ 28 ก.ย. 2011, 13:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องของคำพูด

โฮฮับ เขียน:
ความร้ายกาจ ความเลวมันไม่ได้อยู่ที่ คำพูด
แต่มันอยู่ที่ อารมณ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้คำพูดครับ


อารณ์ที่ซ่อนเร้น ถ้าปล่อยให้มันซ่อนอยู่อย่างนั้นไม่พูดมันออกมา
ก็จะไม่ทำให้ใครต้องเจ็บช้ำน้ำใจเพราะคำพูดของเรา ซ่อนมันไว้
แล้วกลบฝังมันไปจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบครับ คำพูดที่มุงหวังประทุษร้าย
บางครั้งหากพูดกับคนที่กำลังผิดหวัง จิตตก หมดกำลังใจ อาจทำ
ให้คนผู้นั้นหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตายเพราะความมืดมน ไม่เท่า
ทันอารมณ์และคิดไปว่ากำลังถูกสังคมซ้ำเติม ซึ่งหากเขาต้องด่วน
ตัดสินใจอย่างนั้น คนที่บาปก็คือคนที่พูดเอง หากการพูดให้กำลังใจจะ
พอทำให้เขารู้สึกดีขึ้นบ้าง ก็ไม่เสียหายอะไรที่เราจะพูดให้กำลังใจเขาบ้าง
หรือหากเราไม่ต้องการให้กำลังใจ สิ่งที่ดีที่สุดคือการเงียบ เพราะ
ไม่มีใครได้ใครเสียครับ


โฮฮับ เขียน:
แนะนำอีกอย่าง คนที่ชอบพูดจาทำนองนี้ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่า
มันก่อศัตรู เพราะฟังแล้วมันไม่ได้ส่อไปในทางดีเลยครับ
มันเป็นคำที่กระทบกระเทียบคนอื่น

ไม่มีใครสนใจเราหรอก ถ้าเราไม่ไปสนใจเขา



เสียงธรรม เขียน:
มิตร สร้างขึ้นได้ด้วยปาก
มิตร ทำลายได้ด้วยปาก

ทำให้คนรัก พูดให้คนรัก ยากและต้องอาศัยเวลายาวนาน
ทำให้คนเกลียด พูดให้คนเกลียด ไม่ต้องใช้เวลา แค่เพียง
คำพูดไม่กี่คำ ก็สามารถทำลายมิตรภาพและสร้างศัตรูได้ในพริบตา


งั้นรบกวนขอคำแนะนำเพิ่มเติมจากคุณโฮฮับอีกอย่างได้มั้ยครับ

1.การพูดจาทำนองนี้ มันก่อศัตรูยังไงครับ
2.ฟังแล้วมันส่อไปในทางที่ไม่ดียังไงครับ
3.มันเป็นคำที่กระทบกระเทียบคนอื่นยังไงครับ

ขอบคุณล่วงหน้าครับ

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 30 ก.ย. 2011, 05:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องของคำพูด

เสียงธรรม เขียน:
โฮฮับ เขียน:
ความร้ายกาจ ความเลวมันไม่ได้อยู่ที่ คำพูด
แต่มันอยู่ที่ อารมณ์ที่ซ่อนเร้นอยู่ภายใต้คำพูดครับ

อารณ์ที่ซ่อนเร้น ถ้าปล่อยให้มันซ่อนอยู่อย่างนั้นไม่พูดมันออกมา
ก็จะไม่ทำให้ใครต้องเจ็บช้ำน้ำใจเพราะคำพูดของเรา ซ่อนมันไว้
แล้วกลบฝังมันไปจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบครับ

คุณมองธรรมเป็นการมองในลักษณะแคบๆครับ ธรรมมันมีเหตุมีผล มีที่มาที่ไปครับ
ถ้าเอาคำพูดของคุณกับผมมาเปรียบเทียบกัน แล้วลองพิจารณาดูครับ

ลักษณะคำพูดที่คุณแสดงความเห็น ความสำคัญคนที่พูดต้อง
มีศีลธรรมครับ ยิ่งศีลเรื่องมุสานี่เป็นหลักเลยครับ

ถ้าอารมณ์หรือความคิดของเราอย่าง คำพูดที่แสดงออกอีกอย่าง
คุณว่า คำพูดที่แสดงออกมามันถูกต้องในเชิงศีลธรรมหรือไม่ครับ

ส่วนการพูดจาขวานผ่าซากหรือการพูดจาที่คุณมองว่าร้ายกาจ
เราเป็นคนฟังเรามีสิทธิ์ที่จะใส่ใจหรือไม่ก็ได้ มันสำคัญอยู่ตรงที่
เราได้รู้ตัวตนที่แท้จริงของผู้พูด มันทำให้เราตัดสินใจได้ว่าเราอยากจะคบ
หรือเสวนากับคนๆนั้นหรือไม่

คุณอย่าเอาความเห็นของคุณแล้วกำหนดกรอบ ลองปล่อยให้มันเป็นธรรมไปตามธรรมชาติ
คำพูดของคุณมันแย้งกับความเป็นจริงครับ ใจที่เป็นกิเลส มันก็คือใจมีกิเลส
ความหมายที่คุณบอกว่าให้กลบซ่อนเร้น มันต้องอาศัยการกระทำหรือคำพูดครับ
กายเท่านั้นถึงจะซ่อนเร้นใจได้

คุณลองเอาสิ่งที่คุณมองว่าเป็นคำพูดที่ร้ายกาจ แล้วลองคิดในแค่ที่ซ่อนเร้น
คนบางคนที่พูดจาร้ายกาจ เขาอาจซ่อนเร้นความมีเมตตาไว้ก็ได้
การมองธรรมให้ถูก ต้องมองในลักษณะเป็นคู่ครับ เรามองอะไรเป็นอกุศล
ต้องมองในแง่กุศลด้วย แล้วลองเอาทั้งสองมาเปรียบเทียบกันในความเป็นไปได้
ผลที่ได้จึงจะถูกต้องครับ

เสียงธรรม เขียน:
[อารณ์ที่ซ่อนเร้น ถ้าปล่อยให้มันซ่อนอยู่อย่างนั้นไม่พูดมันออกมา
ก็จะไม่ทำให้ใครต้องเจ็บช้ำน้ำใจเพราะคำพูดของเรา ซ่อนมันไว้
แล้วกลบฝังมันไปจะได้ใช้ชีวิตอย่างสงบครับ คำพูดที่มุงหวังประทุษร้าย
บางครั้งหากพูดกับคนที่กำลังผิดหวัง จิตตก หมดกำลังใจ อาจทำ
ให้คนผู้นั้นหาทางออกด้วยการฆ่าตัวตายเพราะความมืดมน ไม่เท่า
ทันอารมณ์และคิดไปว่ากำลังถูกสังคมซ้ำเติม ซึ่งหากเขาต้องด่วน
ตัดสินใจอย่างนั้น คนที่บาปก็คือคนที่พูดเอง หากการพูดให้กำลังใจจะ
พอทำให้เขารู้สึกดีขึ้นบ้าง ก็ไม่เสียหายอะไรที่เราจะพูดให้กำลังใจเขาบ้าง
หรือหากเราไม่ต้องการให้กำลังใจ สิ่งที่ดีที่สุดคือการเงียบ เพราะ
ไม่มีใครได้ใครเสียครับ

นี้อีกตัวอย่างครับ ที่เป็นความเห็นที่คุณตั้งโจทก์เองแล้วกำหนดคำตอบเองครับ
ในความเป็นจริงมันไม่ได้เป็นอย่างที่คุณพูด ธรรมที่มีเหตุมีผล มันต้องอยู่ในกรอบของ
เหตุและผลนั้นๆ ไม่ใช่ผลอย่างแต่ไปเอาเหตุอีกอย่างมาวิเคราะห์

ด้วยเหตุและผลที่คุยกันตอนแรก มันเป็นเรื่องของการใช้คำพูด
ในการสนทนาของบุคคลที่อยู่ในยามปกติ สิ่งที่คุณยกขึ้นมาอ้าง
มันทำให้ เหตุมันเปลี่ยนไปแล้ว แต่คุณยังเอาผลตัวเดิมครับ

กับคำพูดที่คุณกล่าวว่า"คำพูดที่ประทุษร้าย"ผมอยากให้คุณมองในแง่นี้ครับ
พ่อแม่ที่สอนลูกที่มีนิสัยเกเร ด้วยถ่อยคำที่ไม่น่าฟัง บ้างครั้งออกจะหยาบคาย
คุณคิดว่า พ่อแม่มีใจประทุษร้ายลูกหรือครับ

อีกกรณีครับ ถ้าเพื่อนฝูงมาชวนเราไปเที่ยวในสถานที่อโคจรหรือชวนเราไปเสพยา
จุดประสงค์เพื่อให้เราเป็นเจ้ามือ คุณคิดว่าเพื่อนจะใช้คำพูดอย่างไรกับเราครับ

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 30 ก.ย. 2011, 06:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องของคำพูด

เสียงธรรม เขียน:
โฮฮับ เขียน:
แนะนำอีกอย่าง คนที่ชอบพูดจาทำนองนี้ เจ้าตัวคงไม่รู้ว่า
มันก่อศัตรู เพราะฟังแล้วมันไม่ได้ส่อไปในทางดีเลยครับ
มันเป็นคำที่กระทบกระเทียบคนอื่น
ไม่มีใครสนใจเราหรอก ถ้าเราไม่ไปสนใจเขา

เสียงธรรม เขียน:
มิตร สร้างขึ้นได้ด้วยปาก
มิตร ทำลายได้ด้วยปาก

ทำให้คนรัก พูดให้คนรัก ยากและต้องอาศัยเวลายาวนาน
ทำให้คนเกลียด พูดให้คนเกลียด ไม่ต้องใช้เวลา แค่เพียง
คำพูดไม่กี่คำ ก็สามารถทำลายมิตรภาพและสร้างศัตรูได้ในพริบตา

ก่อนอื่นคุณต้องแยกแยะกันให้ออกก่อนว่า "ไม่มีใครสนใจเราหรอก ถ้าเราไม่ไปสนใจเขา"
ความหมายก็คือ การกระทำหรือคำพูดใดๆมันก็เป็นของคนที่ทำหรือพูด

การที่เราไปฟังมาแล้วก็มาติโน้นตินี่ว่า เป็นคำพูดไม่ดีก้าวร้าวหรืออะไรก็ตามแต่
มันเป็นเรื่องของเราทั้งนั้น อันที่จริงมันต้องเป็นเรื่องของเขา คำพูดเป็นคำพูดของเขา
ก็ต้องดูที่ใจเขา ไม่ใช่เอาการกระทำของคนอื่นแล้วมาดูที่ใจตัวเอง มันคนละเรื่องครับ

การที่คุณมาบอกว่า มิตรสร้างด้วยปากและทำลายด้วยปากถูกต้องครับ
แต่ผมอยากทราบครับคำว่า"มิตร"ของคุณ มันถูกปรุงแต่งด้วยกิเลสหรือเปล่าครับ
ความหมายของคำว่ามิตร คือการคบกันด้วยใจนะครับ คือการยอมรับในความเป็น
ตัวตนของคนๆนั้นครับ

คุณไม่ยอมเอาประสบการณ์ความเป็นจริงมาพูด ตั้งแต่เล็กจนโต
เพื่อนฝูงที่เรียนหนังสือกันมา ที่เป็นเพื่อนที่เรียกว่ามิตร มีมั้ยครับ
ที่จะเรียก คุณเสียงธรรมว่า"คุณ" มันเรียก"ไอ้"ทั้งนั้น ที่หนักกว่านั้น
มันเรียกชื่อพ่อชื่อแม่เราด้วยซ้ำ เราเคยคิดว่ามันเป็นศัตรูเรามั้ยครับ

แค่นี้ยังน้อยครับ บางที่มันเอาปมด้อยเรามาเรียกเป็นชื่อครับ
แล้วอย่าคิดว่า คนแบบนี้ไม่ดีนะครับ คนอย่างนี้ล่ะครับมันสามารถออกหน้าแทนเราได้
เพราะมันเห็นเรา เป็นเพื่อนที่ด้อยกว่ามันจึงพร้อมที่จะปกป้องครับ
(อันนี้มีประสบการณ์ครับ ไอ้ตัวเล็กเพื่อนผม ชอบไปก่อเรื่องแต่คนที่เจ็บตัว
เป็นผมทุกที)

เสียงธรรม เขียน:
ทำให้คนรัก พูดให้คนรัก ยากและต้องอาศัยเวลายาวนาน
ทำให้คนเกลียด พูดให้คนเกลียด ไม่ต้องใช้เวลา แค่เพียง
คำพูดไม่กี่คำ ก็สามารถทำลายมิตรภาพและสร้างศัตรูได้ในพริบตา[/color]
[/quote]
ในกรณีนี้คุณต้องพิจารณาว่า มันมี"คนทั่วไป"มี"มิตร"และมี"กัยาณมิตร
เราต้องแยกแยะการใช้คำพูดครับ ที่สำคัญต้องเลือกที่จะใช้กับตัวบุคคลให้ถูกต้อง
ไม่อย่างนั้นมันจะเสียมิตร หรือไม่ได้มิตรแต่จะได้ศัตรูครับ

คนธรรมดาทั่วไปจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องใช้วาจานุ่มนวล ไปตามมรรยาทที่สังคมกำหนด
ในส่วนนี้เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเรื่องสร้างศัตรู มันเป็นหลักการทั่วไป ซึ่งไม่ได้บ่งบอกถึงจิตใจ
ภายในว่าเป็นกุศลหรืออกุศล มันแล้วแต่จะคิดกันไป

แต่ถ้าเราต้องการให้คนนั้นมาเป็นมิตร เราก็ต้องสร้างความสนิทสนมด้วยการเปลี่ยน
ลักษณะการใช่คำพูดที่เป็นกันเองขึ้น อาจหยาบกว่าคำพูดที่ใช่กับบุคคลทั่วไป
วาจาที่ใช่กับมิตรกับคนทั่วไปมันสวนทางกันครับ คุณยิ่งพูดจาไพเราะกับมิตรมากเท่าไร
มิตรภาพย่อมจืดจางไปเท่านั้นครับ มันเกิดการระแวงครับ

ส่วนกัลยาณมิตรพูดหยาบไม่ได้ครับ พูดไพเราะก็ไม่ได้ครับ
การพูดการจามันต้องชี้ให้ผู้ฟังเห็นสภาวะธรรมจริง บ้างครั้งดูแรงไป
มันก็ขึันอยู่กับผู้ฟังว่าจะเข้าใจความหมายที่กัลยาณมิตรต้องการสื่อหรือไม่

คนอื่นผมไม่รู้นะครับ แต่คำพูดของผมที่ดูแรงก็ด้วย ผมไม่มีเจตนาให้ผู้ฟังเชื่อครับ
แต่มีเจตนาให้ผู้ฟังจำครับ ยามเมื่อเกิดอารมณ์หรือสภาวะใดขึ้น จะได้เอาไปเปรียบ
เทียบว่ามันใช่หรือไม่

เจ้าของ:  จางบาง [ 01 ต.ค. 2011, 20:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: เรื่องของคำพูด

อันอ้อยตาลหวานลิ้นก็สิ้นซาก

แต่ลมปากหวานหูมิรู้หาย

แม้นเจ็บอื่นหมื่นแสนยังแคลนคลาย

เจ็บจนตายก็เพราะเหน็บให้เจ็บใจ

ไม่รู้จำมาถูกรึเปล่า ถ้าจำมาผิดก็ขออภัยท่านสุนทรภู่ด้วยความเคารพเนื่องจากนานมาแล้ว


โดยความคิดส่วนตัว หากเราจะหามิตรสักคน ก็คงไม่คบกันเพราะแค่คำพูด
แต่ จะฟังเขาพูด เพื่อดูว่าใจของเขาเป็นอย่างไร คบได้แค่ไหน

ใจต่างหากคือส่วนสำคัญ เมื่อใจตรงกัน ความสัมพันธ์จึงเกิดขึ้น

คำพูดที่ประดิษฐ์ ประดอย บางครั้งน่ากลัวกว่าคำพูดที่โผงผาง
และคำพูดที่ดูแล้วนุ่มหูอ่อนหวาน ก็อาจเป็นสิ่งทรงพลังในการใช้ควบคุมคนให้อยู่ในอำนาจ

คำพูดที่สะอาด เป็นคนละอย่างกับคำพูดที่ฉลาด

s004

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/