วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 03:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 165 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 11  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 20:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


"วิธีแก้ไข น้ำท่วมและสภาพภูมิอากาศแปรปรวน"
ปัจจุบันนี้ ประเทศไทยกำลังประสบกับวิกฤตน้ำท่วมอย่างหนักในทุกภาค เหตุเพราะฝนตกมากเกินอัตราซึ่งเป็นเรื่องผิดปกติ ตามระบบนิเวศน์ของโลก ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดจากเหตุ หากรู้เหตุก็ต้องรู้ผลรู้วิธีแก้ไข ซึ่งอาจจะต้องใช้เวลามากหรือน้อยก็ขึ้นอยู่กับความเชื่อความศรัทธา
ความศรัทธาหรือความเชื่อนั้น มีอยู่หลายหลากรูปแบบ เช่น เหล่านักวิทยาศาสตร์ไทย รวมไปถึงพวกสื่อมวลชนบางคนบางแขนง เชื่อว่าเกิดจาก ปรากการณ์ "เอลนินโญ-ลานินญา ตามพวกต่างชาติ ซึ่งเป็นความเชื่อโดยไม่ได้ใช้วิจารณญาณและไม่ได้ความรู้จากแขนงต่างๆมาพินิจวิเคราะห์ ก็เชื่อกันไปอย่างนั้น อ้างว่าได้ตรวจสอบน้ำทะเลแล้วมีความร้อนสูงกว่าเก่าบ้าง ตรวจสอบสภาพอากาศแล้วร้อนขึ้นกว่าเดิมบ้าง โดยไม่ได้คำนึงถึง ความรู้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์กันบ้างเลย
สภาพภูมิอากาศที่แปรปรวน ที่เกิดขึ้นในปัจจุบันนี้ ความจริงเกิดจากระบบนิเวศน์ของมนุษย์และระบบนิเวศน์ของอากาศที่ปกคลุมโลกแปรเปลี่ยนไป ต้นไม้หรือป่าไม้ถูกทำลายลงมากเกินขีดจำกัด อากาศทั่วโลก ถูกใช้มากขึ้นเนื่องจากมนุษย์มีจำนวนมากขึ้น สภาพธาตุอากาศไม่สมดุล ออกซิเจนลดน้อยลงเกินมาตรฐาน ระบบนิเวศน์หรือระบบธรรมชาติของโลก จึงจำเป็นที่จะต้องซ่อมสร้างสภาพแวดล้อมของโลก ถ้าไม่ซ่อมสร้างสภาพแวดล้อมคือสร้างอากาศให้มีความสมดุล การหมุนของโลก ระบบการลอยตัว แรงดัน(พลังงานสนามแม่เหล็ก)แรงดึงดูดของโลกก็จะแปรเปลี่ยน ซึ่งย่อมเป็นอันตรายต่อสิ่งมีชีวิตทั้งหลายที่มีอยู่บนโลก
ดังนั้น เมื่อมวลอากาศของโลกไม่สมดุลกัน กล่าวคือ ออกซิเจนถูกใช้มาก แต่ระบบนิเวศน์ของโลกผลิตออกซิเจนได้น้อย ระบบธรรมชาติหรือระบบนิเวศน์ของโลก จึงจำเป็นต้องสร้าง ออกซิเจนให้เกิดความพอดี ป่าไม่ต้นไม้ถูกลักลอบทำลายตัดไปมากจนเกินขนาด ฝนหรือน้ำก็จะเป็นตัวสรัางออกซิเจนได้อีกทางหนึ่ง ดังนั้นฝนจึงตกมาก ทำให้เกิดน้ำท่วมอย่างผิดปกติ
จงมาร่วมมือกันทั่วโลก รักษาป่า ปลูกป่า อย่าตัดไม่ทำลายป่า หากทำได้ สภาพภูมิอากาศก็จะกลับเป็นปกติเหมือนเดิม หรืออาจจะดีกว่าเดิม หมายถึงดีกว่าเมื่อประมาณ 10 ปีที่ผ่านมา
อีกประการหนึ่ง มนุษย์ทุกคน ต้องมีศีลธรรม ต้องรักษาธรรมรักษาศีลตามศาสนาที่ศรัทธา เพราะเป็นหนทางหนึ่งเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะทำให้โลกเย็นลง หมายถึงสภาพภูมิอากาศเย็นลงกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน เหตุเพราะ ความโลภ ความโกรธ ความหลง เป็นคลื่นไฟฟ้า ที่สามารถดูดกลืนความร้อนจากดวงอาทิตย์เก็บไว้ได้ โดยที่มนุษย์ไม่สามารถมองเห็นได้ และคลื่นแห่งความโลภ ความโกรธ ความหลง ที่มนุษย์มีอยู่นั้น สามารถหลุดออกจากร่างกายมนุษย์และสามารถล่องลอยอยู่รอบตัวเรา ล่องลอยอยู่ในอากาศได้ เพราะเป็นคลื่นไฟฟ้า หากมนุษย์ทั่งโลกทุกประเทศสามารถปฏิบัติได้ เพียงสัก 40 ถึง 60 เปอร์เซ็นต์ สภาพภูมิอากาศก็จะเป็นปกติอย่างแน่นอน
ที่ข้าพเจ้ากล่าวไปทั้งหมด ก็ขึ้นอยู่กับสมองสติปัญญา ศรัทธาหรือความเชื่อ และขึ้นอยู่กับการได้คิดพิจารณาอันเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์พื้นฐาน และหลักศีลธรรมทางศาสนา
ถึงแม้ว่าจะไม่ได้เขียนก่อนที่จะเกิดขึ้น และมาเขียนช่วงนี้ซึ่งเป็นระยะที่ประสบเภทภัยกันไปแล้ว ก็ขอให้ท่านทั้งหลายได้ช่วยกันเผยแพร่ ประชาสัมพันธ์ ให้เกิดความรู้ความเข้าใจ เพื่อการแก้ไข ป้องกันมิให้เกิดอันตรายจากภัยธรรมชาติขึ้นอีก
เขียนเมื่อ 10 ต.ค.2554
จ่าสิบตรี เทวฤทธิ์ ทูลพันธํ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 21:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เกิดจากกิเลส....

หากไม่มีกิเลส..คนคงไม่มีใครอยากร่ำอยากรวย

เพราะอยากรวย...จึงผลิตของมาขายให้มาก ๆ

หากกินแค่พออยู่...แล้วจะขายของได้มาก ๆ ได้งัย

จะขายให้ได้มาก ๆ ..ก็ต้องกระตุ้นให้คนอยากซื้ออยากกิน..ก็ไปกระตุ้นกิเลสคนอีกนั้นแหละ

วิชาการตลาดก็เกิดขึ้น...

พอของขายดี..ก็ต้องผลิตออกมาให้มาก ๆ...วิชาการต่างๆ ก็เกิดเพื่อสนองการผลิต

ที่หลวงตาบอกว่า..วิชาการทั้งหลายในโลกเป็นของอวิชชาก็น่าจะด้วยเหตุนี้

พอผลิตมาก ๆ...ก็ใช้วัตถุดิบมากเป็นเงาตามตัว

พอมีสิ่งใดหายไปจากสมดุลย์...

ทุกอย่างจึงเคลื่อนไหว....ไปหาจุดที่ทำให้สมดุลย์ใหม่

แล้วก็ให้พอดี...มีเจ้าตัวการคือมนุษย์...อยู่ในนั้นด้วย...

สัตว์โลกเป็นไปตามกรรม...

กรรมยุติธรรมเสมอ...

กรรม..ศักดิ์ยิ่งกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์..


กบนอกกะลา

10 ต.ค 2554 21:28 น
:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ต.ค. 2011, 22:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อากาศแปรปรวน...ต้องแก้ที่มนุษย์

เพราะจิตใจมนุษย์เร้าร้อน...มีก็ไม่รู้จักพอ..เอารัดเอาเปรียบกัน...ประชาชนก็เดือดร้อน...

ประชาชนเดือดร้อน...จักรพรรดิก็ร้อนรน

จักรพรรดิร้อนรน...เทวดาก็กระวนกระวาย

เทวดากระวนกระวาย....อากาศจึงแปรปรวน

อากาศแปรปรวน...ภัยพิบัติก็เกิด

ภัยพิบัติเกิดขึ้นมา....มนุษย์ก็ล้มตาย

พอล้มหายตายจาก...คนก็ลดลง

คนลดลง....ความเร้าร้อนก็ลดลง

ความเร้าร้อนลดลง...คนก็ไม่เดือดร้อน

คนไม่เดือดร้อน...จักรพรรดิก็หายร้อนรน

จักรพรรดฺไม่ร้อนรน...เทวดาก็ไม่กระวนกระวาย

เทวดาไม่กระวนกระวาย...อากาศก็ปกติ

อากาศเป็นปกติ....ภัยพิบัติก็ไม่เกิด

จุดที่แก้..คือแก้ที่...ความเร้าร้อนของมนุษย์

แก้ด้วยให้มนุษย์...พากันมาถือศีลถือธรรม...รู้จักกินจักใช้แค่พอเพียง..เพียงพอแค่กิน...ไม่เบียดเบียนกัน...สังคมก็ไม่เดือดร้อน...ประชาชนก็เป็นสุข...คนที่เป็นสุข..จิตใจจะไม่ร้อนรน


ช่วย ๆ กันส่งกระแสใจ...ที่ใสสงบ...ให้แก่กันและกัน...นำพาให้มารักษ์ศีลรักษ์ธรรม..ทำกรรมดีกรรมใหม่...กันเถอะ
:b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2011, 00:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อนุโมทนาครับ ต้นไม้ในใจคนนั้นแห้งแล้งลงทุกวัน เหตุเพราะกิเลสสิ่งยั่วยุต่างๆนา ๆหากลงมือปลูกต้นไม้ในใจตน ด้วยการปฏิบัติบ้างตามสมควรแก่ธรรม ไม่หยุดอยู่ที่ความศรัทธาอย่างเดียว เอาศีล สมาธิ ความเพียร มาเกี่ยวด้วยให้ครบองค์

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 11 ต.ค. 2011, 23:34 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ธรรมชาติสร้างมนุษย์
มนุษย์ทำลายธรรมชาติ
เปรียนเสมือนอกตัญญูผู้มีพระคุณ
วิบัติจึงมามาเยือน....
มาช่วยกันชำระล้างโลกให้ใสสะอาด
โดยการถือศิล ปฏิบัติธรรมกันเถิด... :b8:

อนุโมทนา สาธุ :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2011, 11:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว





ธรรมชาติของน้ำ ย่อมไหลลงสู่ที่ต่ำที่ลุ่ม คนสมัยก่อนท่านรู้เข้าใจธรรมชาติ ใครอยู่ที่ลุ่มจะสร้างบ้านใต้ถุนสูงๆเดินลอดได้สบายๆ เช่นบ้านแถบ จ. อยุธยาเงี้ย เขาจะไม่สร้างสิ่งกีดขวางทางน้ำ จะขุดคูคลองให้น้ำไหลสะดวก ฯลฯ หน้าน้ำแม้จะท่วมก็ไม่นาน ไหลลงสู่ทะเลหมด บลาๆ

แต่ปัจจุบันเป็นไง เราถมคูถมคลองสร้างบ้านแล้วก็สร้างทรงต่ำๆเตี้ยๆ แล้วน้ำมันจะไปทางไหนล่ะ สร้างถนนหนทางขวางทางน้ำ ถึงจะมีสะพานมีช่องน้ำไหลแต่ไม่พอที่น้ำเดินสะดวก สะพานขาดถนนขาดดิทีนี้ ฯลฯ

ข้ออ้างที่ทันสมัยอีกอย่างหนึ่งคือข้ออ้างเขตเศรษฐกิจ แล้วก็ทำสิ่งกีดขวางทางน้ำไม่ให้น้ำไหลลงมา ทั้งๆที่ทางน้ำผ่าน น้ำเหนือก็อัดลงมาๆ กันกั้นไม่อยู่มันแตกก็พังกระแสน้ำก็แรงดิทีนี้

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2011, 13:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เส้นทางน้ำ เขื่อนใหญ่ๆก็เหลือน้ำไว้บ้าง อย่าปล่อยสะหมด เดี๋ยวหน้าแล้ง ไม่มีน้ำทำการเกษตร

รูปภาพ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แก้ไขล่าสุดโดย กรัชกาย เมื่อ 12 ต.ค. 2011, 21:04, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2011, 21:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าศูนย์ราชการพัง..ศูนย์กลางธนาคารพัง...ระบบอิเล็คโทรนิคธนาคารใช้ไม่ได้

ทีนี้ละ...ไม่อยากจะนึกเลย
:b7: :b7: :b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2011, 21:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


ทางเหนือน้ำจะเอ่อล้นประมาณต้นพรรษา
กลางพรรษาจะไหลล่องมาล้นทางภาคกลาง ปลายพรรษาถึงปลายปี
ทางใต้จะประสบสภาวะเหล่านี้ น้ำทางใต้ยังไม่ทันแห้งดี
ต้นปีทางเหนือ อีสาน น้ำแล้งอีกแล้ว วนอยู่อย่างนี้ทุกๆปี
ระหว่างอุทกภัย กับภัยแล้ง....ทำได้แค่ส่งกำลังใจ
ที่แสนจะหดหู่มาถึงพี่น้องชาวไทย... :b7:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2011, 21:54 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ความจริงแล้ว...น้ำมาก..น้ำน้อย..ก็เป็นปกติของมัน

แต่...พอมันไม่เป็นที่พอใจเรา....ขัดใจเรา...เราไม่สมปรารถณา...

มันจึงกลายมาเป็น..อุทกภัยบ้าง...ภัยแล้งบ้าง

หากเราไม่ต้องหาเงิน...เพื่อมาผ่อนรถ...ผ่อนบ้าน...เงินให้ลูกไปโรงเรียน...

น้ำมาก็จับปลากิน...น้ำลดก็ทำนาหาข้าวกิน

อุทกภัยก็ไม่มี....มีแค่น้ำมามากกว่าปกติ...

ก็แค่นั้น..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ต.ค. 2011, 22:01 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


วิธีหาอยู่หากินสลับซับซ้อนมากเท่าไร..

จุดเปราะบาง..ก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

เราพากันอาศัยอยู่ในสังคมที่เปราะบาง....ที่พวกเราสร้างมันขึ้นมาเอง

แล้วเรา ๆ ก็ว่ามันดี....อีกเสียด้วย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 04:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


กบนอกกะลา เขียน:
วิธีหาอยู่หากินสลับซับซ้อนมากเท่าไร..

จุดเปราะบาง..ก็เพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

เราพากันอาศัยอยู่ในสังคมที่เปราะบาง....ที่พวกเราสร้างมันขึ้นมาเอง

แล้วเรา ๆ ก็ว่ามันดี....อีกเสียด้วย


น่านนะซิ :b7: :b7:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 04:47 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


หากย้อนเวลาได้ จะเริ่มต้นกันใหม่ คือ ย้อนไปยุคที่มนุษย์นุ่งใบไม้ อยู่ตามรูตามถ้ำ หิวก็เหลาไม้แหลมๆไล่ทิ่มไล่แทงปลาตามแม่น้ำจ๋อมๆเอา ก็เข้าท่าดีเหมือนกันนิ :b9: :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 13:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ต.ค. 2010, 12:11
โพสต์: 5013


 ข้อมูลส่วนตัว


หัวใจ กัปตัน

http://www.youtube.com/watch?v=ztN4WhjN ... r_embedded

พอดีเอาวีดีโอมาลงไม่เป็น

:b8: :b8: :b8:

http://fws.cc/whatisnippana/index.php?t ... 1#msg10691

:b48: :b48: :b48:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ต.ค. 2011, 17:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องภัยธรรมชาตินี่ผมว่ามันน่าจะเป็นกฎปกติของมัน เหมือนกับว่ารถเราสกปรกเกินไปมันก็ต้องล้างเป็นธรรมดา

ถ้าเกี่ยวกับทางศาสนา ก็เป็นเรื่องเกี่ยวกับยุคกึ่งพุทธกาลตามพระสูตร ตามพระพุทธทำนายถ้าพระพุทธเจ้าทำนายละก็ ไม่ต้องไปเชื่อหมอดูคนไหนแล้ว เตรียมตัวพิสูจน์เถอะ ผมว่าเหตุการณ์มันต้องร้ายแรงกว่านี่แน่นอน เพราะว่ามันยังไม่หายสกปรก ต้นเหตุของการเกิดภัยนี่ก็อยู่ที่มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในโลกนี้ มันเริ่มจะไม่มีความเป็นมนุษย์ มันก็เลยต้องมาสนุกตื่นเต้นกันหน่อย..ใช่ไหม

ถ้ามันร้ายแรงจริงๆ เดี๋ยวพวกเราเตรียมเต๊น 1 หลัง ที่กรองน้ำ ผ้าสักผืน เตรียมกินหญ้ากินใบไม้ แล้วไปตามภาษา ตามปฏิปทาแบบลุ่มๆดอนๆ ดีไหม

ถ้าพวกเราอยากช่วยโลก ก็จงทำตนเองให้ดีขึ้น เท่านั้นเป็นใช้ได้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 165 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5 ... 11  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 131 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร