ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

สัมมาทิฏฐิ และ ทิฏฐิ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=40094
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ไม่เที่ยง เกิดดับ [ 13 พ.ย. 2011, 09:03 ]
หัวข้อกระทู้:  สัมมาทิฏฐิ และ ทิฏฐิ

สัมมาทิฏฐิ คือเห็นชอบ รู้ผิดชอบ ชั่วดี ความเห็นที่ถูกคลองธรรม ทิฏฐิที่ประกอบด้วยปัญญา
ไม่ใช่ทิฎฐิ ทางโลกที่ทุกคนเข้าใจกัน แปลว่า ความเห็น ความคิดเห็น มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า ทัศนะ

เจ้าของ:  โฮฮับ [ 13 พ.ย. 2011, 10:30 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สัมมาทิฏฐิ และ ทิฏฐิ

ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
สัมมาทิฏฐิ คือเห็นชอบ รู้ผิดชอบ ชั่วดี ความเห็นที่ถูกคลองธรรม ทิฏฐิที่ประกอบด้วยปัญญา
ไม่ใช่ทิฎฐิ ทางโลกที่ทุกคนเข้าใจกัน แปลว่า ความเห็น ความคิดเห็น มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า ทัศนะ

ว่ากันตามหลักแล้ว ทิฐิที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนแก่บรรดาสาวก ก็คือ สัมมาทิฐิ
สัมมาทิฐิตัวนี้ไม่ใช่ สัมมาทิฐิแบบที่จขกทอธิบาย สัมมาทิฐิตามความหมายของพระพุทธเจ้า
คือสภาวะหนึ่งที่เราเข้าไปรู้มา รู้ตามความเป็นจริงโดยไม่มีความคิดเข้ามาเจือปน

สัมมาทิฐิที่ว่า ไม่มีชั่ว ไม่มีดี มันเป็นทางสายกลาง

ส่วนทิฐิทางโลก มันเป็นความคิดไม่ใช่ปัญญา ความดี ความชั่ว
อาศัยหลักการของศีลข้อห้ามเป็นกฎเกณท์ ใครทำผิดศีลเท่ากับผิดหลักเกณท์
ก็เป็นคนชั่ว ใครมีทานก็เป็นคนดี มันเป็นไปตามกฏเกณท์ที่ตั้งเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
ในเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา ไม่ได้เกี่ยวกับปัญญาที่ว่าด้วยสัมมาทิฐิ

เจ้าของ:  ไม่เที่ยง เกิดดับ [ 13 พ.ย. 2011, 11:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สัมมาทิฏฐิ และ ทิฏฐิ

โฮฮับ เขียน:
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน:
สัมมาทิฏฐิ คือเห็นชอบ รู้ผิดชอบ ชั่วดี ความเห็นที่ถูกคลองธรรม ทิฏฐิที่ประกอบด้วยปัญญา
ไม่ใช่ทิฎฐิ ทางโลกที่ทุกคนเข้าใจกัน แปลว่า ความเห็น ความคิดเห็น มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า ทัศนะ

ว่ากันตามหลักแล้ว ทิฐิที่พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนแก่บรรดาสาวก ก็คือ สัมมาทิฐิ
สัมมาทิฐิตัวนี้ไม่ใช่ สัมมาทิฐิแบบที่จขกทอธิบาย สัมมาทิฐิตามความหมายของพระพุทธเจ้า
คือสภาวะหนึ่งที่เราเข้าไปรู้มา รู้ตามความเป็นจริงโดยไม่มีความคิดเข้ามาเจือปน

สัมมาทิฐิที่ว่า ไม่มีชั่ว ไม่มีดี มันเป็นทางสายกลาง

ส่วนทิฐิทางโลก มันเป็นความคิดไม่ใช่ปัญญา ความดี ความชั่ว
อาศัยหลักการของศีลข้อห้ามเป็นกฎเกณท์ ใครทำผิดศีลเท่ากับผิดหลักเกณท์
ก็เป็นคนชั่ว ใครมีทานก็เป็นคนดี มันเป็นไปตามกฏเกณท์ที่ตั้งเอาไว้อยู่ก่อนแล้ว
ในเรื่องของ ทาน ศีล ภาวนา ไม่ได้เกี่ยวกับปัญญาที่ว่าด้วยสัมมาทิฐิ



ใช่ครับสัมมาทิฏฐิ คือรู้ความเป็นจริงของโลกและชีิวิต ว่าไม่เที่ยง ไม่มีตัวตน เกิดจากเหตุและปัจจัยมาประชุมกันชั่วคราวแล้วแตกสลายหายไป

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 22 พ.ย. 2011, 07:31 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สัมมาทิฏฐิ และ ทิฏฐิ

มาร่วมวงสนทนาด้วยครบ

คำว่า "ทิฏฐิ" คือความคิดเห็น(ยังเป็นธรรมที่เป็นกลางๆ)
คำว่า "สัมมาทิฎฐิ" คือความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นๆ
คำว่า "มิจฉาทิฏฐิ" คือความเห็นผิดไปจากสภาพธรรมที่เป็นความจริง คือเห็นตรงกันข้ามกับสัมมาทิฏฐิ

เจ้าของ:  ไม่เที่ยง เกิดดับ [ 22 พ.ย. 2011, 10:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สัมมาทิฏฐิ และ ทิฏฐิ

ลุงหมาน เขียน:
มาร่วมวงสนทนาด้วยครบ

คำว่า "ทิฏฐิ" คือความคิดเห็น(ยังเป็นธรรมที่เป็นกลางๆ)
คำว่า "สัมมาทิฎฐิ" คือความเห็นที่ถูกต้องตามความเป็นจริงของสภาพธรรมนั้นๆ
คำว่า "มิจฉาทิฏฐิ" คือความเห็นผิดไปจากสภาพธรรมที่เป็นความจริง คือเห็นตรงกันข้ามกับสัมมาทิฏฐิ


smiley smiley smiley
onion onion onion

"สิ่งใดมีการเกิดเป็นธรรมดา สิ่งนั้นมีความดับเป็นธรรมดา"

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/