คำสอนในแต่ละศาสนาบางศาสนาสอนไม่เหมือนกัน บางศาสนามีคำสอนที่คล้ายๆกัน แต่ละศาสนาจะสอนไม่เหมือนกัน ผมได้ยินมาว่าคำสอนต่างๆในแต่ละศาสนานั้นคือ”ความเชื่อ”หรือเป็นเพียงความเชื่อของคนที่นับถือศาสนานั้นๆเท่านั้น ผมจึงมีความคิดว่าในศาสนาทั้งหมดที่มีอยู่ถึงแม้ว่าจะเป็นความเชื่อของคนที่นับถือศานานั้นๆ แต่ผมก็ยังเชื่อว่าต้องมีศาสนาใดศาสนาหนึ่งที่เป็น “ความจริง” หริอใกล้เคียงความจริงมากที่สุดอย่างแน่นอน ท่านผู้รู้โปรดได้ช่วยแนะด้วยว่าศาสนาใดที่เป็นความจริงมากหรือใกล้ความเป็นจริงมากที่สุดครับ

ความจริงอย่างหนึ่งที่พระพุทธเจ้าทรงบอกกล่าวเอาไว้ว่าคือ
ในทุกๆความเชื่อทั้งหลาย ล้วนมีผัสสะเป็นมูลเหตุปัจจัยทั้งสิ้น.

และความจริงอย่างหนึ่งที่ว่า ถึงแม้นโลกนี้จะมีศาสนาหรือไม่มีศาสนาใดๆเลยก็ตาม
แต่ธรรมสิ่งนี้จะมีอยู่ตลอดเวลา นั้นก็คือ
เมื่อสิ่งๆนี้มี ความเป็นอย่างนี้ๆจึงมี
เมื่อสิ่งๆนี้เกิด ความเป็นอย่างนี้ๆจึงเกิด

เมื่อสิ่งๆนี้ไม่มี ความเป็นอย่างนี้ๆจึงไม่มี
เมื่อสิ่งๆนี้ดับ ความเป็นอย่างนี้ๆจึงดับ.


และ..บุคคลใดยึดถืออย่างใด มีความเชื่ออย่างใด ก็ย่อมมีคติที่ไปอย่างนั้น..
นี้ก็คือความจริงอีกอย่างหนึ่ง.

เชื่อว่าต้องมีศาสนาใดศาสนาหนึ่งที่เป็น “ความจริง” หริอใกล้เคียงความจริงมากที่สุดอย่างแน่นอน
เชื่อได้เลยค่ะ ศาสนาพุทธ แน่นอนที่สุด พระพุทธองค์ตรัสแล้วต้องจริง จริงและมีประโยชน์ค่ะ ตถาคตจะไม่ตรัสในเรื่องที่ไม่จริง และไม่มีประโยชน์ ฉะนั้นทุกคำที่ท่านทรงตรัส ทรงแสดงเทศนาคำสอนของพระพระองค์ทุกคำจึงเป็นจริง จริงและมีประโยชน์ สามารถปฏิบัติได้ รู้ได้ด้วยตัวเองค่ะ เป็นปัตจัตตังที่ทุกคนไม่สามารถรู้ได้เท่าตัวเอง พระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์จึงเจริญยั่งยืนยาวนานไม่มีวันเสื่อมสลายค่ะ สาธุ สาธุ สาธุ

ทุกศาสนา....เป็นความจริง...แต่ความจริงก็มีระดับ

ความจริงระดับ...เทวดา..(ไปด้วยจิตใจมีความละอายต่อความชั่ว..กับเกรงกลัวบาป)

ความจริงระดับ...พรหม...(ไปด้วยจิตใจมีสมาธิ)

กับความจริง...ที่พ้นจากแรงดึงดูดของวัฏฏสงสาร

แต่..เทวดา..พรหม..เขาก็ไปต่อได้

แต่การจะไปต่อได้นี้..มีเงื่อนไข

เงื่อนไขคือ..ละสังโยชน์ทั้ง 10

การจะละข้อที่ 2 ได้..ก็ต้องเกิดมาใหม่ในศาสนาพุทธ

สุดท้าย....ทุกศาสนาต้องมาที่พุทธก่อน...ก่อนจะหลุดวงโคจร

แต่เป็นเพราะ..เขาเชื่อในหัวหน้าของเขา...หัวหน้าของของเขาจะเป็นคนสอนเขา

เขาจะสอนบริวารของเขาได้...เขาก็ต้องตัดกิเลสให้ได้ก่อน...

สรุปไปแล้ว....อย่ามั่วไปหาว่าใครจะดีแค่ไหน...ใครดีมากเท่าไร...งานของเขา..เขาก็ดำเนินไปตามทางของเขา

งานของเราชาวพุทธ( .ณ. ปัจจุบัน) ให้รีบทำให้เสร็จ

ศาสนาอื่นมาทีหลังแล้วแซง...มันจะขายหน้า

ขันธ์ เป็นลักษณะไตรลักษณ์
น่าจะไม่มีสอนในศาสนาใดๆ นอกจากศาสนาพุทธ

คน สัตว์ วัตถุ สิ่งของ ที่เราเห็นๆ อยู่ เป็นตัว เป็นตน
แต่ในคำสอนแล้ว
ทุกวัตถุ สิ่งของ เหล่านั้น มีอากาศธาตุแทรกคั่น มีลักษณะโปร่ง
และถูกแยกออกเป็นรูปธรรม ซึ่งเป็นลักษณะซ้อนๆ กันถึงราว 28 รูป
แต่ละรูป เกิดขึ้น ตั้งอยู่ เสื่อม และดับไป อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็เกิดขึ้นใหม่อีกด้วยเหตุปัจจัย(ปัจจัย24)
แต่ถ้าเป็นคน และสัตว์ ก็จะมีอีกสิ่งหนึ่งประกอบร่วมคือ นาม

นามขันธ์ เกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ตลอดเวลาเช่นกัน แล้วเกิดขึ้นใหม่อีก(ด้วยเหตปัจจัย24)

มองทุกอย่าง เป็นรูป เป็นนาม ไปหมด
นี่คือความจริง เกี่ยวกับคำสอนในพระพุทธศาสนา

มองด้วยตาปัญญา
ตาเนื้อย่อมไม่เห็นนาม ย่อมไม่เห็นรูป ครบทุกรูป(ในรูป28)
รูปแค่ไม่กี่รูปเท่านั้นที่ตาเนื้อมองเห็น
รูปหลายประเภทที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงแล้ว .............ไม่ใช่เห็นได้ด้วยตาเนื้อเลย

ถูกต้องแล้วครับ เป็นคำถามที่ถูกที่สุด คือ ทุกศาสนานั้นเริ่มต้นที่ความเชื่อ หรือศรัทธา ไม่ว่าจะมีความศรัทธามากแค่ไหนหากไม่แสวงหาความจริงของการเกิดแก่เจ็บตาย หรือการเสื่อมสลายลงของสรรพสิ่งก็ยังได้ชื่อว่ายังไม่เห็นความจริง ความจริงคือปัญญา ดังนั้น ศาสนาพุทธสอนให้เจริญปัญญา จนถึงขั้นดับทุกข์ครับผม