วันเวลาปัจจุบัน 24 ก.ค. 2025, 07:09  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2011, 10:56 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ต.ค. 2011, 14:22
โพสต์: 21


 ข้อมูลส่วนตัว


ตามที่รู้มาจากการอ่านทราบว่า พระที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ เวลาท่านละสังขารไปแล้ว ทำไมกระดูกของท่านจึงเป็นพระธาตุ ใสๆเหมือนแก้วบ้าง ไม่เหมือนกระดูกของคนทั่วๆไป ทำไมจึงเป็นอย่างนั้นครับ ถ้าตอบตามแง่ศาสนาผมก็เชื่อว่าเป็นเพราะพระท่านคือผู้บริสุทธิ์ ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบไม่มีอะไรด่างพร้อย หรือท่านคือผู้ทรงศิลสะอาดบริสุทธิทั้งกายลัจิตใจจึงเป็นเช่นนั้น แต่ถ้าตอบหรือพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มันจะพิสูจน์ได้ไหมครับว่าทำไมจึงเป็นอย่างนั้นครับ สงสัยจึงถามครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2011, 11:55 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




9 กย 46 113 _resize.jpg
9 กย 46 113 _resize.jpg [ 61.77 KiB | เปิดดู 7871 ครั้ง ]
:b8:
ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบจนได้ถึงความเป็นพระอรหันต์ เมื่อดับขันธ์เข้าปรินิพพานแล้ว อัฐิของท่านจะหลอมตัวเป็นพระธาตุ นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ที่จะเป็นเครื่องพิสูจน์ และตามนุษย์ธรรมดาจะสามารถรู้ถึงความเป็นพระอรหันต์ของท่านผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนั้นๆ

กรที่กระดูกหรืออัฐิหลอมตัวเป็นพระธาตุนั้นยงขึ้นอยู่กับบุญญาบารมีของแต่ละท่านแต่ละองค์ด้วย
อย่างเช่นท่านผู้บรรลุอรหันต์ด้วยปัญญาวิมุติ อัฐิธาตุของท่านจะเป็นเม็ดเป็นก้อน ขาว ขาวมอๆ หรือมีสีสรรต่างๆ มีรูปพรรณสัณฐานแตกต่างกันออกไป

สำหรับพระอรหันต์ที่บรรลุธรรมด้วยเจโตวิมุติ เมื่อดับขันธ์ เผาแลวอัฐิธาตุของท่านมักจะกลายเป็นเหมือนแก้วผลึก เม็ดเล็ก ใหญ่ รูปพรรณสัณฐานต่างๆกันไป ดังเราจะดูได้จากอัฐิธาตุของหลวงปู่มั่น หลวงพ่อครูบาพรมจักร

การที่อัฐิจะหลอมตัวเป็นธาตุหรือแก้วเร็วหรือช้านั้นขึ้นอยู่กับญาณปัญญา สมาบัติ ฌาณที่แต่ละท่านมี ท่านบรรลุอรหันต์อยู่นาน หลังจากเผาอัฐิมักจะหลอมเป็นธาตุทันที แต่บางท่านบางองค์ ต้องรอเวลาไปอีกเป็นปี สองปี อัฐิจึงจะหลอมตัวเป็นธาตุได้หมด อย่างเช่นอัฐิของครูบาอินทจักร วัดน้ำบ่อหลวง อัฐิของหลวงปู่สิม
ถ้าผาปล่อง

การที่กระดูกหลอมตัวเป็นธาตุคงจะเป็นเพราะการที่เเนื้อ หนัง เอ็น กระดูก ถูกฟอกให้เป็นธาตุด้วย
อำนาจฌาณ ญาณ ปัญญาของแต่ละท่านแต่ละองค์ รวมถึงเวลายาวนานในการฟอกธาตุนั้นด้วย


สิ่งที่พึงได้คือ พระอัฐิธาตุคือหลักฐานพยานสำคัญว่าการปฏิบัติธรรมตามคำสอนของพระพุทธเจ้าเมื่อทำจริงถึงจริงก็จะเกิดผลจริงๆที่มีความแตกต่างจากมนุษย์ปุถุชนคนธรรมดา
:b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2011, 12:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




9 กย 46 140 _resize.jpg
9 กย 46 140 _resize.jpg [ 47.32 KiB | เปิดดู 7868 ครั้ง ]
:b8:
พระอรหันต์ธาตุที่เป็นสุขวิปัสสโก ขุดพบที่พระธาตุห้วยบอนเก่า อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2011, 12:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




9 กย 46 113 _resize.jpg
9 กย 46 113 _resize.jpg [ 61.77 KiB | เปิดดู 7868 ครั้ง ]
:b8:
พระอรหันตธาตุที่เสด็จมาเองในผอบแก้วของคุณยายที่มั่นคงในศีลในธรรมมากท่านหนึ่ง ที่บ้านห้วยบอน ต.เวียง อ.ฝาง จ.เชียงใหม่
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2011, 12:11 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


ตะเกียงแก้ว เขียน:
พระธรรม กับ พระธาตุ

คุณคิดว่าอย่างไหนจะดับทุกข์ได้ ระหว่าง "พระธาตุ กับ พระธรรม"

คุณควรจะสนใจ "พระธรรมหรือพระธาตุ"


พระธาตุที่ใส่พานในตู้ให้สาธุชนได้กราบไหว้ เวลาผ่านไปนานตั้ง ๒,๕๐๐ กว่าปี
คุณไม่คิดบ้างหรือ อาจจะมีคนคิดหาประโยชน์จากตำนานพระธาตุ


ชาวพุทธต้องไม่ดูถูกสติปัญญาตัวเอง ไปดูกันที่พระธาตุ ไปใคร่ครวญดูกันให้ดีเถอะค่ะ


:b8: :b39: :b41:

:b12:
ควรสนใจทั้งพระธาตุและพระธรรม เพราะนี่คือของดีที่มีหลักฐานแสดงจริงๆของพระพุทธศาสนา
กระทู้นี้เป็นกระทู้ถามเรื่องพระธาตุ ก็มาคุยกันเรื่องพระธาตุเสียบ้างก็น่าจะดีนะครับ จะได้ผ่อนคลายกันจากเรื่องพระธรรมที่ยังมีข้อถกเถียงกันอยู่อีกเยอะแยะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2011, 12:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ดับขันธ์.jpg
ดับขันธ์.jpg [ 36.57 KiB | เปิดดู 7864 ครั้ง ]
:b8:
ตัวอย่างการดับขันธ์ของท่านที่คาดว่าจะหมดสังโยชน์ ซึ่งจะรู้ได้เมื่อธาตุขันธ์ที่แสดงอยู่แตกสลายลงแล้วสรีระร่างของท่านหลอมรวมเป็นพระธาตุ
:b8:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 12 ธ.ค. 2011, 12:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




ดับขันธ์ในฌาณ.jpg
ดับขันธ์ในฌาณ.jpg [ 51.46 KiB | เปิดดู 7864 ครั้ง ]
ขยาย
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2011, 02:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


คนคนเดียวกัน มีอารมณ์ที่แตกต่าง
ยังทำให้เคมีในร่างกายของเราเปลี่ยนแปลงได้
เช่นเวลาโกรธ หรืออารมณ์ดี ร่างกายยังหลั่งสาร
ออกมาไม่เหมือนกัน ทั้งๆที่ ก็ร่างกายเดียวกัน
เพราะฉะนั้น พระธาตุ ก็คงหลักการเดียวกัน

ไม่มีความรอบรู้ในเรื่องเคมี หรือฟิสิกส์อะไร
แค่คิดตามประสา โปรดพิจารณา :b1:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ธ.ค. 2011, 11:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 10
สมาชิก ระดับ 10
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 พ.ย. 2008, 12:29
โพสต์: 814

ที่อยู่: กรุงเทพฯ

 ข้อมูลส่วนตัว


มจากการจัดเรียงตัวของโมเลกุลที่เปนระเบียบมาก เทียบจะกลายเปนหินก้ว่าได้ แต่เปนหินที่เหมือนขัดเจียระไน ไว้แล้ว ช่องว่างหรือรูุพรุนให้อากาศแทรกในพระธาตุอรหันต์นั้นแทบไม่มี ความแข็งและคงทนมีอย่มาก เปนได้เพราะบารมีอำนาจของความหลุดพ้นจากกิเลส และการหายใจของท่านจะหายใจเปนจังหวะกว่าคนธรรดา ใจเย็นกว่าคนธรรมดา และจิตทรงสมาธิได้นานกว่าคนธรรมดา สามารถหายใจเอาอากาศบริสุทธิเพื่อฟอกตามส่วนสำคัญร่างกายได้ดีกว่าคนธรรมดาเยอะ เพราะฉะนั้นการจัดเรียงโมเลกุลเซลจะละเอียดยิบและเปนระเบียบมาก มีสารเอนโดฟินที่เกิดจากจิตที่เข้าถึงความสงบกระตุ้นร่างกายให้รู้สึกสดชื่นและเบิกบานตลอดเวลา ยิ่งพระที่ได้อภิญญาด้วยแล้วไม่ต้องพูดถึง กำลังฌานและถึงเอกัคตตา จะมีผลกับสภาพร่างกายมาก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2011, 13:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ค. 2008, 21:56
โพสต์: 3925

ชื่อเล่น: เช่นนั้น
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เปิดดูในพระไตรปิฏก ไม่เคยเห็นพุทธวัจจนะให้พิจารณา เรื่องกระดูกของพระสาวกที่สำเร็จอรหัตผลแล้วจะต้องมีวรรณกี่วรรณ มีความเปลี่ยนแปลงอะไร...

บางทีเรื่องกระดูกพวกนี้ คงไม่ได้มีไว้ให้พุทธสาวกพิจารณาเพื่อให้เกิดปัญญา หรือความฉลาด

ง่ายๆ ก็คือ ไร้สาระ

.....................................................
ธรรมะอันยิ่งใหญ่ ไม่อาจเอื้อนเอ่ย
บัญญัติ เป็นเพียงสิ่งต่ำต้อยแบกรับความยิ่งใหญ่


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ธ.ค. 2011, 19:37 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


คนบนเขา เขียน:
ตามที่รู้มาจากการอ่านทราบว่า พระที่ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบ เวลาท่านละสังขารไปแล้ว ทำไมกระดูกของท่านจึงเป็นพระธาตุ ใสๆเหมือนแก้วบ้าง ไม่เหมือนกระดูกของคนทั่วๆไป ทำไมจึงเป็นอย่างนั้นครับ ถ้าตอบตามแง่ศาสนาผมก็เชื่อว่าเป็นเพราะพระท่านคือผู้บริสุทธิ์ ปฎิบัติดีปฎิบัติชอบไม่มีอะไรด่างพร้อย หรือท่านคือผู้ทรงศิลสะอาดบริสุทธิทั้งกายลัจิตใจจึงเป็นเช่นนั้น แต่ถ้าตอบหรือพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์มันจะพิสูจน์ได้ไหมครับว่าทำไมจึงเป็นอย่างนั้นครับ สงสัยจึงถามครับ


ถ้าเป็นไปตามหลักวิทยาศาสตร์ การเกิดของพระธาตุ มีการเกิดคล้ายกับ การเกิดของเพชร ที่กระดูกสามารถควบแน่นจนมีลักษณะสีขาวขุ่น หรือ อาจจะมีขาวใส คล้ายแก้วได้ เกิดจากการที่บุคคลนั้นๆสามารถขจัดอาสวะออกจากร่างกายแม้ในกระดูกก็สามารถขจัดออกไปได้ และเนื่องจากอวัยวะภายในและภายนอกร่างกายของมนุษย์ ส่วนที่เล็กที่สุด ก็คือ ส่วนที่เป็น นิวเคลียส ซึ่งอยู่ในอะตอม สามารถขจัดคลื่นสกปรกต่างๆออกไปจากอวัยวะได้ จึงเหลือเพียงส่วนที่บริสุทธิ์ เมื่อตายลงหรือ มรณภาพ อวัยวะเหล่านั้น ไม่มีออกซิเจนหลงเหลืออยู่ คงมีแต่ คาร์บอนไดออกไซด์ และอื่นๆ เมื่อถูกไฟเผาจึงเกิดการควบแน่น คล้ายการเกิดของเพชร กระดูกจึงมีสีขาวขุ่น คล้ายแก้ว บ้าง ก็สีขาวใสคล้ายแก้ว ฉะนี้


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 11 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร