ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

กาลามสูตร ท่านเข้าใจว่าอย่างไร
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=40522
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  din [ 22 ธ.ค. 2011, 01:12 ]
หัวข้อกระทู้:  กาลามสูตร ท่านเข้าใจว่าอย่างไร

ตัวกระผมเข้าใจว่ามีความนัยคล้ายๆ โอวาทปาฏิโมกข์
เมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งที่ทำหรือเห็นนั้นชั่ว ก็เลิกทำหรือไม่ข้องแวะเสีย
เมื่อตระหนักได้ว่าสิ่งที่ทำหรือเห็นนั้นดี ก็ควรทำหรือสมาทานให้ถึงพร้อมเสีย

บรรยายมาตามสบายครับ ไม่เคร่งเครียด :b12:

เจ้าของ:  วิริยะ [ 23 ธ.ค. 2011, 08:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กาลามสูตร ท่านเข้าใจว่าอย่างไร

din เขียน:
กาลามสูตร ท่านเข้าใจว่าอย่างไร

"กาลามสูตร" หลักของความเชื่อ จุดประสงค์คือ ไม่ให้หลงงมงาย ไม่ให้เชื่อโดยปราศจากเหตุผลมี ๑๐ ข้อ

ท่านให้ใช้ความคิด ใช้ปัญญา พินิจพิจารณา ไตร่ตรอง ใคร่ครวญ เทียบเคียง นำไปปฏิบัติก่อน แล้วค่อย "เชื่อ"
หากไม่คิดไม่พิจารณา ไม่รอบคอบ เชื่อโดยขาดเหตุผล ก็เรียกว่า "งมงาย"

คำพูดที่ว่า "ไม่เชื่ออย่าลบหลู่" เป็นคำพูดของคนขาดเหตุผล ขาดปัญญา ไม่สามารถอธิบาย
ถึงความเชื่อความศรัทธาของตน ต่อสิ่งหนึ่งหรือเรื่องหนึ่งเรื่องใดได้

"ศรัทธา" ความเชื่อในความหมายของพุทธศาสนา คือ "ความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญา"

:b13:

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 23 ธ.ค. 2011, 20:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กาลามสูตร ท่านเข้าใจว่าอย่างไร

สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคเสด็จจาริกไปในโกศลชนบท นิคมของพวกกาลามะชื่อว่าเกสปุตตะ

ชนกาลามโคตร ชาวเกสปุตตนิคม กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้าว่า

มีสมณพราหมณ์พวกหนึ่งมายังเกสปุตตนิคม สมณพราหมณ์พวกนั้น พูดประกาศแต่เฉพาะวาทะ
ของตัวเท่านั้น ส่วนวาทะของผู้อื่นช่วยกันกระทบกระเทียบ ดูหมิ่นพูดกด ทำให้ไม่น่าเชื่อ พระเจ้าข้า

มีสมณพราหมณ์อีกพวกหนึ่งมายังเกสปุตตนิคมถึงพราหมณ์พวกนั้น ก็พูดประกาศ
แต่เฉพาะวาทะของตนเท่านั้น ส่วนวาทะของผู้อื่นช่วยกันกระทบกระเทียบ ดูหมิ่น พูดกด
ทำให้ไม่น่าเชื่อ พระเจ้าข้า

พวกข้าพระองค์ยังมีความเคลือบแคลงสงสัยในสมณพราหมณ์เหล่านั้นอยู่ทีเดียวว่า ท่านสมณพราหมณ์เหล่านั้น ใครพูดจริง ใครพูดเท็จ

:b42: พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสว่า

ดูกรกาลามชนทั้งหลาย !
ก็ควรแล้วที่ท่านทั้งหลายจะเคลือบแคลงสงสัย
และท่านทั้งหลายเกิดความเคลือบแคลงสงสัยในฐานะที่ควรแล้ว

มาเถิดท่านทั้งหลาย !
ท่านทั้งหลายอย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำที่ได้ยินได้ฟังมา
อย่าได้ยึดถือตามถ้อยคำสืบๆ กันมา
อย่าได้ยึดถือโดยตื่นข่าวว่า ได้ยินอย่างนี้
อย่าได้ยึดถือโดยอ้างตำรา
อย่าได้ยึดถือโดยเดาเอาเอง
อย่าได้ยึดถือโดยคาดคะเน
อย่าได้เชื่อถือโดยความตรึกตามอาการ
อย่าได้ยึดถือโดยชอบใจว่าต้องกันกับทิฐิของตัว
อย่าได้ยึดถือโดยเชื่อว่าผู้พูดสมควรจะเชื่อได้
อย่าได้ยึดถือโดยความนับถือว่าสมณะนี้เป็นครูของเรา


เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า
ธรรมเหล่านี้เป็นอกุศลธรรมเหล่านี้มีโทษ
ธรรมเหล่านี้ผู้รู้ติเตียน
ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้วเป็นไปเพื่อสิ่งไม่เป็นประโยชน์ เพื่อทุกข์
เมื่อนั้น ท่านทั้งหลายควรละธรรมเหล่านั้นเสีย

...............
..............


เมื่อใด ท่านทั้งหลายพึงรู้ด้วยตนเองว่า
ธรรมเหล่านี้เป็นกุศล ธรรมเหล่านี้ไม่มีโทษ
ธรรมเหล่านี้ท่านผู้รู้สรรเสริญ
ธรรมเหล่านี้ใครสมาทานให้บริบูรณ์แล้ว เป็นไปเพื่อประโยชน์เกื้อกูล เพื่อความสุข
เมื่อนั้นท่านทั้งหลายควรเข้าถึงธรรมเหล่านั้นอยู่


พระสูตรนี้ยังมีเนื้อความที่ทรงแสดงไว้ต่อไปอีก
เชิญศึกษา อ่านได้ใน เกสปุตตสูตร
http://www.84000.org/tipitaka/pitaka_it ... A%D9%B5%C3

เจ้าของ:  พุทธคุณ [ 23 ธ.ค. 2011, 20:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: กาลามสูตร ท่านเข้าใจว่าอย่างไร

สรุปสั้นๆคือ กาลามสูตรสอนให้เราเชื่ออย่างมีสติ ไม่งมงาย รู้แจ้งแล้วจึงเชื่อ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/