ตัวอย่างก็มีให้เห็นแถวๆนี้ล่ะ บางพวกตาดีก็ได้ของดี ตาถั่วจะได้ของดีก็หาไม่

คนบางพวกก็ตื่นตูมเกินเหตุ เขาแค่บอกว่าให้ตั้งสติไว้ ไม่ให้ประมาท เตรียมตัวไว้บ้างก็ดี แต่ไม่ใช่ทำเป็นกระต่ายตื่นตูมเกิดเหตุ บางพวกก็หูหนวกตาบอด ใครบอกอะไรก็เชื่อหมด โดนอะไรมากระทบต่มกิเลสหน่อยก็หวั่นไหวยวบๆ ร้อนเป็นฟืนเป็นไฟ คนบางพวกก็ชอบไล่ตะปบคนอื่นให้เกิดความกังวล แต่พอตัวเองโดนตะปบบ้างก็ หน้าแดง ตัวสั่นหน้าชา ซึ่งเป็นที่มาของโลกร้อนไง

คนบางพวกปากก็บอกว่าถือศีล แต่กำอีโต้ไว้ซะแน่น คนแบบนี้หน้าไหว้หลังหลอก ซึ่งตัวอย่างก็มีอยู่แถวๆนี้เอง

ทุกคนรู้จักตาย แต่ไม่ทุกคนที่รู้จักอยู่
ฝึกการลดความยึดมั่นถือมั่นและปล่อยวางในของของตัวเอง สังขารของตัวเอง เสีย แม้ธรรมชาติจะเปลี่ยนแปลงเช่นไร ก็จะส่งผลต่อจิต น้อยที่สุด หรือเมื่อตัวเอง ถึงเวลาเจ็บ ตาย จิตก็จะเกิดทุกข์น้อยที่สุด ครับ

เรียกว่า....ความตายเราเลี่ยงไม่ได้...แต่..ทุกข์เราเลี่ยงได้...เน๊าะ


โชคดีปีใหม่...ทุกคนนะครับ

ไม่รู้สึกครับ เหตุที่เห็นนั่นเห็นนี่ทางมโน มีเพียงจากผัสสะที่เกิดจากมโนวิญญาณเท่านั้น ต้องขออภัยหากไปลบหลู่ความเชื่อของคนที่มีความเชื่อในเรื่องนี้

การหยั่งรู้ของปุถุชน ถูกบ้าง-ผิดบ้าง เอาแน่นอนไม่ได้หรอก
ผมเองไม่ให้ความสำคัญกับคำทำนายของน้องปลาบู่มากนักหรอก

ข่าวแจ้งความจับคุณพ่อของน้องปลาบู่ ว่า จะดำเนินคดีถ้าคำทำนายไม่ถูก
สงสารคุณพ่อน้องปลาบู่ครับ

มาดูคำทำนายน้องปลาบึก ปลาหมึก ปลาท่องโก๋ กันบ้าง

ถึงเขื่อนไม่แตก แต่ ถังอาจจะแตก


นักวิเคราะห์เตือนเอเชียเสี่ยงดำเนินนโยบายผิดพลาด

โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์

http://bit.ly/rImNs8

ปีนี้ เศรษฐกิจของโลกมีปัญหา ไทยเองก็น่าจะมีปัญหาแน่ๆ

จะใช้เงิน หรือ ก่อหนี้ใดๆ ต้องรอบครอบ สุดๆ เดี๋ยวถ้าเกิดวิกฤตคล้ายๆต้มยำกุ้งขึ้นมาจริง จะลำบากกัน

..................................

สนฺตุฏฺฐี ปรมํ ธนํ (สัน ตุด ถี ปะระมัง ธะนัง)
แปลว่า ความสันโดษ(ความพอเพียง)เป็นทรัพย์อย่างยิ่ง

อิณาทานํ ทุกฺขํ โลเก (อิ นา ทานัง ทุกขัง โลเก)
แปลว่า การเป็นหนี้เป็นทุกข์ในโลก

เป็น พระบาลีจริงจากพระไตรปิฎก

.......................................

ความไม่มีหนี้ เป็นลาภอันประเสริฐ
ก็ น่าจะเป็น อานณฺยปรมา ลาภา (อา นัน ยะ ปะระมา ลาภา) เป็นบาลีสแลง คนรุ่นหลังคิดกันเอง.
แต่ ความหมายดี ครับ.

ช่วงนี้ จะมีการพูดถึงเรื่อง หนี้ 1.14ล้านล้านบาท ของกองทุนฟื้นฟูสถาบันการเงิน ที่สืบเนื่องมาจากปัญหาวิกฤตต้มยำกุ้ง เมื่อปี2540 ยุครัฐบาลพลเอกชวลิต(ที่มีท่านทักษิณเป็นรองนายกคุมกระทรวงเศรษฐกิจ) กันบ่อยๆ


พูดคุย เรื่อง หนี้ ทีไร จะหวลรำลึกถึง ผ้าป่ากู้ชาติ ..... สิ่งมหัศจรรย์แห่งประเทศไทย .


http://bit.ly/o9D3cx

".... วิกฤตการณ์เศรษฐกิจไทยครั้งนี้ มีสาเหตุสำคัญมาจากการก่อหนี้ของภาคเอกชน ประกอบกับการดำเนินนโยบายการเงินของรัฐดังกล่าวได้ก่อให้เกิดความไม่สมดุลของระบบการเงินการคลัง การเปิดเสรีทางการเงินมีส่วนทำให้การก่อหนี้บานปลายโดยเฉพาะหนี้สินต่างประเทศ บริษัทต่างๆ ในประเทศไทยขยายการลงทุนจนเกินความต้องการ ขณะที่ความอ่อนแอของระบบสถาบันการเงิน ความตกต่ำในตลาดอสังหาริมทรัพย์ และนโยบายอัตราค่าเงินบาทคงที่ ทำให้ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันกับต่างประเทศ กระทั่งขาดดุลบัญชีเดินสะพัด ความผิดพลาดในเชิงนโยบายทางการเงินและการใช้นโยบายการคลังที่ผ่อนปรน เป็นเหตุจูงใจให้บรรดากองทุนเพื่อการลงทุนขนาดใหญ่หรือกองทุนเก็งกำไรที่เรียกว่า เฮจฟันด์ (Hedge Fund) เห็นโอกาสเข้าโจมตีค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. ๒๕๓๙ จนกระทั่งเข้าสู่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ ส่งผลให้ธนาคารแห่งประเทศไทยเริ่มสูญเสียทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ ..."


เงินบาทไม่เป็นเศษกระดาษ..เพราะโอ่งคลังหลวง


"....ในด้านทุนสำรองระหว่างประเทศ จากการโจมตีค่าเงินบาทอย่างต่อเนื่องของกองทุนเก็งกำไรตั้งแต่ปลายปี พ.ศ. ๒๕๓๙ จนกระทั่งเข้าสู่ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ โดยที่ธนาคารแห่งประเทศไทยไม่ลอยตัวค่าเงินหรือทำให้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนยืดหยุ่นขึ้นทำให้ต้องสูญเสียทุนสำรองระหว่างประเทศมากขึ้นเรื่อยๆ และรุนแรงมากที่สุดในเดือนพฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ ธนาคารแห่งประเทศไทยได้แก้ไขปัญหาการโจมตีค่าเงินบาทโดยการทุ่มเททุนสำรองระหว่างประเทศเป็นมูลค่ามหาศาลเข้ามาพยุงหรือปกป้องค่าเงินบาทอย่างขาดความรอบคอบ ส่งผลให้สูญเสียทุนสำรองระหว่างประเทศ

จากเดิมที่เคยมีถึงประมาณ ๓๙,๐๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ ในสิ้นปี พ.ศ. ๒๕๓๙

เหลือ ๒๖,๖๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ (เมื่อวันที่ ๑๓ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๐)

และลดลงเหลือ ๒,๘๐๐ ล้านเหรียญสหรัฐ (เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๐)

ประเทศไทยจึงต้องประสบกับภาวะล้มละลายทางการเงินจนต้องยอม “ประกาศลอยตัวค่าเงินบาท” อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้

เมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ จนกระทั่งในช่วงเดือนสิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๐ นับจากต้นปีได้เพียง ๗ เดือนเศษ ทุนสำรองระหว่างประเทศสุทธิก็ได้ลดลงเหลือเพียง ๑๕๘ ล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น...."


.........................................

ในปี2540

ไทยเราเคยทำสถิติ ที่ยากจะหาประเทศไหน ทำได้แบบเรา!!!

เงินทุนสำรองระหว่างประเทศของไทย จาก 39,000ล้าน สรอ. เมื่อสิ้นปี2539 ใช้เวลาเพียง7เดือน ลดลงเหลือ เพียง158 ล้าน สรอ. เมื่อ 2 กค.2540

ตอนนั้น ถ้าไม่มีหลวงตายอมแบกขันธ์ออกมาช่วยชาติ ... ไทยเรายังไม่ฟื้นแน่ๆครับ.

ตอนนี้ หลวงตาก็ไม่อยู่แล้ว ถ้าไทยเราสุ่มเสี่ยงก่อหนี้มากไป จนเศรษฐกิจล้มอีกครั้ง ใครจะช่วยตั้งผ้าป่าอีก....

ปีที่ผ่านมา(ไม่กี่ ชม.) ถึงเขื่อนไม่แตก ตามคำทำนาย
แต่ความเสียหายจากน้ำท่วม ก็ มหาศาลเลยทีเดียว

องค์กรที่เป็นกลางคือ ธนาคารโลก ได้ร่วมมือกับ เอ็นจีโอ อีกหลายชุด ทำการสำรวจ พบว่า ความเสียหายทั้งระบบ(นับรวม โรงงาน/อาคาร/บ้านเสียหาย ต้องหยุดการผลิต เสียโอกาสทางธุรกิจ ภาคเกษตร การท่องเทียว ฯลฯ) น่าจะถึง 1.4ล้านล้านบาท

ถ้าเราไม่รู้ว่าที่ผ่านมาปัญหาเกิดจากอะไร ก็คงยากที่จะป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดซ้ำ

เหนือคำทำนายใดๆ จึงอยู่ที่ "ชี้เหตุเกิด ทางแก้ ให้แลเห็น"

มี บทความน่าสนใจ มาฝาก


1.ข้อสรุปบทเรียนจากน้ำท่วมใหญ่ ปัญหาอยู่ที่ ‘คน’ มากกว่า ‘ธรรมชาติ’
โดย : กรุงเทพธุรกิจออนไลน์ (โดยคุณ กาแฟดำ/สุทธิชัย หยุ่น)

http://bit.ly/vXPe2s




2. มุมมองจากกูรูอีกท่านหนึ่ง

http://bit.ly/supQ2Z

อ้างคำพูด:

"ได้ประกาศนโยบายเด็ดๆ เอาใจชาวนา โดยประกาศโครงการรับจำนำข้าวเปลือกตันละ 15,000 บาท และเริ่มโครงการในวันที่ 7 ตุลาคม 2554 ซึ่งหมายความว่าใครเกี่ยวข้าวก่อนวันนี้จะไม่ได้เข้าโครงการ นี่เป็นที่มาของการกักน้ำในเขื่อนเอาไว้ก่อน "

3.ข้อเสนอ จากทูตญี่ปุ่น ในการป้องกันน้ำท่วม

http://bit.ly/vk7uI5

อ้างคำพูด:

"เมื่อรัฐบาลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรู้ว่าน้ำมีปริมาณที่มาก อาจควบคุมไม่ได้ ต้องแจ้งให้เกษตรกรในพื้นที่แก้มลิงงดเพาะปลูก โดยรัฐบาลต้องมีการจ่ายชดเชยให้" นายมาซาโตะ กล่าว

ทูตญี่ปุ่นท่านนี้ รู้รายละเอียดในทางลึก ของ ปัญหาน้ำท่วมใหญ่ มาก ...มากกว่า ที่คนไทยจำนวนมาก รู้กัน เสียอีก.

เรื่องของน้องปลาบู่ ถ้าเราคิดในแง่ดี มันก็เหมือนเป็นการเตือนไม่ให้ประมาท
มันจะเกิดหรือไม่เกิดไม่มีปัญหาครับ เพราะเราก็เตรียมพร้อมแล้ว คิดแล้วมันไม่
เสียหายตรงไหน

แต่ไอ้ประเภทเอาเรื่องที่มันเกิดแล้ว และจบไปแล้ว
มีคนบางประเภทยังไม่ยอมจบ เอามาพูดซ้ำพูดซาก
คนจำพวกนี้ไม่สร้างสรร น่าจะอายน้องปลาบู่นะครับ
น้องปลาบู่พูดเรื่องที่ยังไม่เกิด อีกคนพูดพูดเรื่องที่เกิดแล้ว
ชนิดไม่ยอมให้มันจบ อีกคนกำลังเตือนภัย แต่อีกคนกำลังสร้างภัยครับ