วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 22:59  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2012, 07:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




buddha2_resize.gif
buddha2_resize.gif [ 37.14 KiB | เปิดดู 3890 ครั้ง ]
Kiss
พระไตรปิฎกฉบับเดินได้

พระไตรปิฎกฉบับเดินได้เป็นพระไตรปิฎกฉบับดั้งเดิมเป็นต้นฉบับของพระไตรปิฎกฉบับตัวหนังสือที่เราใช้ศึกษาและอ้างอิงกันอยู่ทุกวันนี้ แม้แต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าเองก็ทรงศึกษา และใช้อ้างอิงสอนชาวโลกตลอดพระชนม์ชีพของพระองค์

พระไตรปิฎกฉบับเดินได้นี้พกพาสะดวกยิ่งกว่าพอคเก็ตบุ้คเสียอีกเพราะติดตัวหรือรูป นาม กาย ใจของคนเรานี้ไปตลอดเวลา เพียงแต่ว่าต้องรู้จักวิธีอ่าน วิธีค้นคว้าให้ถูกต้องแล้วก็สามารถจะอ่าน จะค้นคว้า นำมาอ้างอิงได้และจะทำได้ดีกว่า สะดวกกว่าการไปค้นคว้าพระไตรปิฎกฉบับตัวหนังสือที่เรานิยมค้นคว้ามาอ้างอิงกันในการสนทนาธรรมแลกเปลี่ยนธรรมกันในลานธรรมและเวบไซด์ต่างๆ

วิธีอ่านหรือศึกษาค้นคว้าพระไตรปิฎกฉบับเดินได้นี้ต้องใช้วิธีการที่พระพุทธเจ้าทรงค้นพบและสอนไว้ เป็นวิชาเอกหรือวิชาหลักที่สำคัญเป็นสัญลักษณ์แก่นสาร ความหมายและเอกลักษณ์ของพระพุทธศาสนา นั่นคือ “วิชาวิปัสสนาภาวนา” ในกระทู้นี้เราจะได้ศึกษาวิชาวิปัสสนาภาวนากันในอีกแง่หรือมุมมองหนึ่งที่อาจแปลกแตกต่างไปจากที่เราได้พบเห็นและตั้งกระทู้คุยกัน ถามกัน ถกเถียงกันอยู่ทุกวันนี้ เพราะจะใช้การอ้างอิงข้อมูลจากพระไตรปิฎกฉบับเดินได้เป็นส่วนใหญ่ โปรดติดตามอ่านกันต่อไป หรือจะมาช่วยกันแสดงความเห็น วิตกวิจารณ์กันอย่างสร้างสรรด้วย ก็จะเป็นคุณประโยชน์ต่อ่ชาวโลกในยุคปัจจุบันนี้เป็นอย่างยิ่ง เพราะบันทึกในพระไตรปิฎกฉบับเดินได้นี้เป็นภาษาสากล ไม่ว่าใคร เชื้อชาติศาสนา ระดับการศึกษา เพศ วัย ใดๆก็สามารถจะอ่านศึกษาหาความรู้ได้ เพราะภาษาที่ใช้ในพระไตรปิฎกฉบับเดินได้เป็นภาษาสากล (International Language)
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2012, 07:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


มีอยู่...แต่ไม่เห็น

เห็นแต่ของ...ไม่มีอยู่

ปุถุชน...เป็นอย่างนี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2012, 09:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


กราบขออนุญาตยกเอาธรรมคำสอนของพ่อแม่ครูอาจารย์ผู้สำเร็จด้วยชอบแล้วในกาลก่อนมาแสดง "ธรรมก็คือใจ ใจก็คือธรรม อยากเห็นธรรมแท้ก็ไม่ต้องไปหาดูที่ไหนให้ดูที่ใจที่กายเจ้าของนี่แหละ" และ "ธรรมะชี้เข้ากายกับจิตเป็นคัมภีร์เดิม"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ม.ค. 2012, 20:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
สาธุอนุโมทนากับคุณกบนกะลากับคุณลูกพระป่าครับ :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ม.ค. 2012, 19:46 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ธ.ค. 2010, 08:25
โพสต์: 326


 ข้อมูลส่วนตัว




ภาวนา.jpg
ภาวนา.jpg [ 6.22 KiB | เปิดดู 3829 ครั้ง ]
:b8: :b8: :b8: :b4: :b4: :b4:

.....................................................
สุดปลายฟ้า... เชื่อมั่นและสัทธาในพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ ผู้รู้แจ้ง เห็นจริง ยึดถือพระองค์เป็นสรณะ อย่างไม่มีสิ่งใดเหนือกว่า
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ม.ค. 2012, 15:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.ค. 2006, 22:43
โพสต์: 29

โฮมเพจ: http://www.thaimillionaire.net
อายุ: 0
ที่อยู่: กรุงเทพ

 ข้อมูลส่วนตัว www


รออ่านต่อครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ม.ค. 2012, 00:20 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
อนุโมทนาสาธุกับทุกๆท่านที่เข้ามาแสดงความเห็น

หลายวันเข้ามาแล้วทุกท่านคงจะพอทราบและเข้าใจแล้วว่าพระไตรปิฏกฉบับเดินได้คือกาย ใจ กว้างศอก ยาววา หนาคืบ ของเรานี่เอง ข้อมูลที่มีอยู่และแสดงอยู่ตลอดเวลาในกายใจนี้เป็นปรมัตถธรรม หรือสัจจธรรม ประกอบด้วย กลุ่มของจิต เจตสิก รูป หรือแม้แต่ นิพพาน ก็จักแสดงในรูป นาม กาย ใจ นี้เช่นกัน หากบุคคลผู้นัันทำลายความเห็นผิดหรือสักกายทิฐิลงได้

วิธีที่จะอ่านก็ง่ายๆ เพียงแค่สำรวมกายใจเข้ามานิ่งรู้ นิ่งสังเกต ปัจจุบันอารมณ์ เรื่องราวในกายและจิตจะฉายออกมาให้ได้รู้ได้อ่านผ่านปัจจุบันอารมณ์ หากต้องการวิเคราะห์เจาะลึกลงไปเป็นเรื่องๆก็ต้องอาศัยอดีตอารมณ์ที่ได้ประสบการณ์ผ่านปัจจุบันอารมณ์มา การวิเคราะห์อดีตอารมณ์นี้เรียว่าธัมมวิจัย หรือการใคร่ครวญธรรม ยกตัวอยางเช่นอยากวิเคราะห์หาที่มาของตัณหา ความอยาก ก็ให้ลองสังเกตให้ดีว่าเมื่อมีการกระทบสัมผัสของทวารทั้ง 6 เช่น หูกระทบเสียงเพลงหรือกระดิ่งรถขายไอติม เกิดความอยากทานไอติมขึ้นมาในใจ วิเคราะห์ย้อนกลับไปดีๆจะรู้ว่า ถ้ามีสติรู้ทันปัจจุบันอารมณ์ มีปัญญาสังเกตดีๆตอนที่เสียงเพลงหรือกระดิ่งกระทบหู โสตวิญาณธาตุรับรู้ มโนวิญญาณธาตุรับทราบ สัญญาจำเสียงได้ เวทนายินดีเกิด
ตัณหาใจอยากทานไอติม สังขาร คิดนึกเรื่องไอติมและวิธีการที่จะได้ไอติมมากิน วิเคราะห์เจาะลึกลงไปอีกนิดหนึ่งว่า "ใครอยากกินไอติม"ปาก จิต ใจ เรา หรือ ฉัน หรือ กู ที่อยากกินไอติม เราจะพบว่า ใจเป็นเราเป็นฉันหรือเป็น กู นั่นแหละที่อยากกินไอติม อย่างนี้เป็นตัวอย่างคร่าวๆ ธัมมวิจัยหรือใค่รครวญธรรมนี้บางท่านก็เรียกว่า "วิปัสสนึก"

แต่ถ้าจะให้เป็นวิปัสสนาภาวนาล่ะทำอย่างไร ก็เพียงแต่ให้นิ่งรู้นิ่งสังเกตอย่างเดียว ไม่พิจารณาหรือปรุงแต่งคิดนึก ให้มีแต่ใจรู้ ใจสังเกต เห็นหรือรู้ว่าอารมณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในจิตเขาเพียงแต่เกิดขึ้นถ้าไม่มีการตอบโต้กลับไปด้วยคำสั่งของเราหรือ กู ทุกอารมณ์จะดับไปเองเมื่อหมดกำลังดิ้นรน ให้รู้และสังเกตทุกปัจจุบันอารมณ์จนเขาดับไปต่อหน้าต่อตา งานวิปัสสนาภาวนามีเท่่านี้เอง ผลของการทำเช่นนี้เขาจะเกิดตามมาให้รู้ที่ใจในภายหลังโดยไม่ต้องไปค้นหา

:b36:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 13 ม.ค. 2012, 20:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
พระไตรปิฎกฉบับเดินได้นั้นไม่มีเรื่องต้องอ่านศึกษามากเท่ากับพะไตรปิฎกฉบับตัวหนังสือ
ส่วนใหญ่จะเป็นเรื่องของพระธรรมปิฎก หรืออภิธรรม คือเรื่องของ จิต เจตสิก รูปและนิพพาน

สำหรับส่วนที่เป็นพระวินัยนั้น การอ่านพระวินัยให้ใช้ดูที่สติ ว่าถูกอบรมมาให้มี หิริ ความละอาย
โอตัปปะ ความเกรงกลัวต่อบาป มากแค่ไหน

ส่วนของพระสูตร นั้นจะเป็นการอ่านกายใจแบบพิสูจน์ธรรมว่าเป็นไปตามข้อธรรมที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงไว้ในพระสูตรหรือไม่ อย่างเช่นพิสูจน์ความเป็น อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ว่าเกิดขึ้นในกายใจทุกขณะอารมณ์จริงหรือไม่ หรือพิสูจน์ว่า อายตนท้ง 6 เป็นของร้อน ดังทรงแสดงในอาทิตตปริยยสูตร จริงหรือไม่

:b27:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ม.ค. 2012, 07:49 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
ถ้าเราสังเกตดูให้ดีจะเห็นว่าการสนทนากันในกระทู้ต่างจะมีการอ้างพระไตรปิฎกฉบับตัวหนังสือมาอธิบาย ให้ความหมาย แทนการอธิบายธรรมมะจากประสบการณ์จริงของผู้ตอบซึ่งก็คงจะต้องอ้างจากพระไตรปิฎกฉบับเดินได้

จะเป็นเพราะมีแต่ผู้รู้ธรรมจากพระไตรปิฎกฉบับตัวหนังสือ หรือที่ครูบา อรรถกถาจรย์ทั้งหลายท่านเมตตาแจกแจงไว้ เสียเป็นส่วนมากที่มาสนทนากัน แต่ผู้ที่มีประสบการณ์ธรรมจนสามารถอ่านธรรมเอาธรรมจากพระไตรปิฎกฉบับเดินได้มาแสดงยังมีจำนวนน้อย หรือมีอยู่แต่ไม่ยอมแสดง

การแสดงและอ้างธรรมจากพระไตรปิฎกฉบับเดินได้ที่่จริงแล้วเป็นของง่ายเพราะไม่ต้องไปค้นไกลไม่ต้องไปอ่านมาก
เพียงแต่สงบกายสงบใจกำหนดรู้เข้าไปในกายและจิตก็จะเห็นสภาวธรรมต่างๆปรกฎแสดงขึ้นให้เห็นให้อ้างได้เสมอ บางเรื่องก็สามารถหยิบเอาอารมณ์สด ยกตัวอย่างจากอารมณ์สดๆในปัจจุบันมาให้ผู้ฟังทดลองแล้วแสดงเป็นธรรมให้เข้าใจได้เลย บางอย่างก็อาจต้องอาศัยประสบการณ์ธรรมของผู้แสดงที่ท่านเคยได้ทำธัมมวิจัยในเรื่องนั้นๆมาจนช่ำชองแล้ว

ธรรมมะจากประสบการณ์จริงจะมีรสชาดดีมีกลิ่นหอมหวนรัญจวนใจกว่าธรรมมะจากตำราเยอะเลยทีเดียว ดังเช่นธรรมมะจากใจของครูบาอาจารย์พระป่าทั้งหลายที่เราเคยได้ยินได้ฟังอย่างเช่นธรรมมะจากหลวงปู่ชา ธรรมมะของหลวงปู่แหวนเป็นต้น ท่่านเว้าซื่อๆ จากเรื่องง่ายๆไม่ไกลตัวและสามัญสำนึกของคนทั่วไปเลย
กระทู้นี้จึงเปิดมาเพื่อเชิญชวนกัลยาณมิตรสหายในธรรมทุกๆท่่านได้นำธรรมมะจากพระไตรปิฎกฉบับเดินได้มาแสดงสู่กันฟังบ้าง เพื่อเป็นการเปลี่ยนรสชาดและมุมมองธรรมให้หลากหลายไปสู่ความจริงของโลกปัจจุบันให้มากขึ้นๆครับ

onion


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 62 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร