ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=40746 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 12 ม.ค. 2012, 11:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
ถาม ๔ ตามหลักพระปริยัติแล้ว เมื่อพูดถึง ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่ข้างหลัง แต่นักปฏิบัติทั้งหลายท่านยกเอาตัวปัญญาไว้ข้างหน้า (ปัญญา ศีล สมาธิ*) อันนี้ถูกหรือไม่ คำตอบ ๔ อันนี้ก็ในทำนองอันเดียวกับ ทาน ศีล ภาวนา ท่านยกเอา ศีล สมาธิ ปัญญา มาตั้งไว้เป็นลำดับแล้วก็เอา ปัญญา ไว้สุดท้าย ยกเอาศีลไว้เบื้องตน สมาธิเป็นอันดับ ๒ ปัญญาเป็นอันดับ ๓ เพื่อว่าบัญญัติเหล่านี้เป็นของสาธารณะทั่วไป พูดแต่หยาบไปหาละเอียด คนจะได้รู้ง่ายเข้า ถ้าหากนักปฏิบัติแล้วมันตรงกันข้ามอีกเหมือนกัน เมื่อเราปฏิบัติธรรมคืออบรมใจให้เข้าถึงความสงบแล้วนั้น จะเห็นได้ว่าผู้จะรักษาศีลให้บริสุทธิ์หมดจดเรียบร้อยหรือมั่นคงหนักแน่นนั้น เพราะปัญญาเกิดก่อน คือปัญญาเห็นว่าสิ่งนี้ดี สิ่งนี้ถูก สิ่งนี้ดีสิ่งนี้ชั่ว สิ่งนี้ควรทำสิ่งนี้ไม่ควรทำ ปัญญาเกิดขึ้นแล้ว จึงค่อยงดเว้นจากความชั่ว คือรักษาศีล นี่จึงว่าปัญญาเกิดขึ้นก่อนศีล สมาธิก็เหมือนกัน ที่เราจะทำสมาธิให้สงบแน่วแน่เป็นเอกัคคตารมณ์ เอกัคคตาจิตได้ มันต้องมีปัญญาฉลาด มีแยบคายไหวพริบในตัว มีการชำระจิตตนอยู่รอบด้าน หรือระวังสังวรในอินทรีย์ทั้งหลายไม่ให้ฟุ้งซ่าน ส่งไปภายนอก เห็นโทษเห็นภัยในอารมณ์นั้นๆ จึงจะสละอารมณ์ทั้งหลายนั้น ๆ ทำให้เข้าถึงความสงบได้ เมื่อเราพูดถึงเรื่องปัญญาเกิดก่อนศีลก่อนสมาธิแล้ว คราวนี้ตัวปัญญาก็ไม่ต้องพูดกันละตอนนี้ เป็นอันว่าหมดไป แต่คราวนี้ถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่ง ปัญญาในทีนี้ท่านบัญญัติปัญญาไว้สุดท้ายนั้น (ศีล สมาธิ ปัญญา*)ท่านพูดถึงปัญญาขั้นสูง ปัญญาที่พิจารณาวิปัสสนา คือ รู้แจ้งเห็นสัจธรรมตามความเป็นจริงถ้าไม่มีศีล ไม่มีสมาธิ ปัญญาก็ไม่เกิด ปัญญาที่จะเกิดวิปัสสนาปัญญาจะต้องมีศีลสมบูรณ์ สมาธิแน่วแน่จนกระทั่งถึงอัปปนาสมาธิ เมื่อออกจากอัปปนาสมาธิแล้ว ปัญญาวิปัสสนาจึงจะเกิดขึ้น เหตุนั้นท่านจึงบัญญัติไว้ตอนท้าย นักปฏิบัติทั้งหลายผู้ที่มองเห็นว่า ปัญญา เกิดก่อน ศีล สมาธิ (ปัญญา ศีล สมาธิ*) บางคนอาจจะลบล้างหรือลบหลู่ว่าอันนั้นผิดก็ได้(ศีล สมาธิ ปัญญา*) เมื่อผู้ที่ได้พิจารณาเห็นถึงวิปัสสนาปัญญาตรงนี้แล้ว จะเห็นภูมิฐานชั้นเชิงที่ท่านเทศนาไว้เป็นของจริงทุกสิ่งทุกประการ เพราะธรรมะมันมีหลายขั้นหลายภูมิ เหตุนั้นปัญญาที่ท่านบัญญัติไว้ ท่านหมายเอาปัญญาขั้นสูงที่เรียกว่า ปัญญาวิปัสสนา หรือปัญญาที่รู้แจ้งสัจธรรมตามความเป็นจริงจนกระทั่งสละหรือเบื่อหน่าย ปล่อยวางอุปาทานทั้งหลายได้ http://www.thewayofdhamma.org/page4_3/bunta.html ====== ... เพราะปัญญาวิปัสสนามิได้เกิดแก่สาธารณชนทั่วไป จะเกิดได้ก็แต่ชั้นพระอริยภูมิเท่านั้น เมื่อเกิดก็เกิดครั้งเดียวและขณะจิตเดียวแล้วก็มิได้เกิดอีกในภูมินั้นๆ เมื่อเกิดย่อมพิจารณาเห็นพระไตรลักษณญาณชัดแจ้งตามเป็นจริงทุกอย่าง ในที่ทุกแห่งทุกหนและทุกอาการของสิ่งสารพัดทั้งปวงหมด เมื่อจิตถอนออกจากนั้นแล้วพิจารณาตามอาการนั้นก็ชัดอย่างเดิม แต่จิตไม่ได้เป็นอย่างเดิม ... ... ส่วนวิปัสสนา แปลว่าความรู้แจ้งไปสัจธรรมของจริงตามเป็นจริงจนถอนอัตตานุทิฏฐิเสียได้ ถ้าถอนยังไม่ได้ก็ยังไม่เรียกว่า วิปัสสนา มันเป็น วิปัสสนูกิเลส ไปเสีย ... การปฏิบัติสมถ-วิปัสสนา ขออย่าได้หอบเอาตำรามาปฏิบัติเลย ขว้างเก็บเข้าตู้ไว้เสียก่อน จงพากันมาฝึกอบรมใจให้เข้าถึงความสงบ เอกัคคตารมณ์ จริงๆดูก่อน แล้วจึงค่อยเอาตำรามาพูดกัน ถ้าทำได้ดังนั้นแล้ว นักปฏิบัติภาวนาทั้งหลายก็จะไม่สิ้นเปลืองน้ำลายโดยใช่เหตุ ตอบปัญหา โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี http://www.thewayofdhamma.org/page4_1/pucha3.html * ความเห็นของผู้โพส ![]() |
เจ้าของ: | ไม่เที่ยง เกิดดับ [ 12 ม.ค. 2012, 12:01 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
วิริยะ เขียน: ถาม ๔ ตามหลักพระปริยัติแล้ว เมื่อพูดถึง ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่ข้างหลัง แต่นักปฏิบัติทั้งหลายท่านยกเอาตัวปัญญาไว้ข้างหน้า (ปัญญา ศีล สมาธิ*) อันนี้ถูกหรือไม่ คำตอบ ๔ อันนี้ก็ในทำนองอันเดียวกับ ทาน ศีล ภาวนา ท่านยกเอา ศีล สมาธิ ปัญญา มาตั้งไว้เป็นลำดับแล้วก็เอา ปัญญา ไว้สุดท้าย ยกเอาศีลไว้เบื้องตน สมาธิเป็นอันดับ ๒ ปัญญาเป็นอันดับ ๓ เพื่อว่าบัญญัติเหล่านี้เป็นของสาธารณะทั่วไป พูดแต่หยาบไปหาละเอียด คนจะได้รู้ง่ายเข้า ถ้าหากนักปฏิบัติแล้วมันตรงกันข้ามอีกเหมือนกัน "ปัญญา ศีล สมาธิ" คือ ผลการตรัสรู้ /ผลการวิปัสสนาภาวนา หรือ มรรคมีองค์ 8 ข้อ 1-2 เป็น ปัญญา (สัมมาทิฏฐิ สัมมาสังกัปปะ) ข้อ 3-4-5 เป็น ศีล (สัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ) ข้อ 6-7-8 เป็น สมาธิ (สัมมาวายามะ สัมมาสติ สัมมาสมาธิ) ส่วน " ศีล สมาธิ ปัญญา" ก็มาจาก อธิศีล อธิจิต อธิปัญญา หรือ ไตรสิกขา คือข้อศึกษาหรือข้อปฏิบัติของพระสงฆ์เพื่อให้บรรลุมรรคผลนิพพานเร็วขึ้น ส่วน "ทาน ศีล ภาวนา" หรือ "ทาน ศีล วิปัสสนาภาวนา " คือ ข้อปฏิบัติสำหรับฆราวาส ใ้ห้ทาน เพื่อลดความเห็นแก่ตัว รักษาศีล เพื่อไม่ให้เบียดเบียนตนเอง และผู้ือื่น ภาวนา หรือ วิปัสสนาภาวนา คือ วิธีการปฏิบัติเพื่อให้เกิด "ปัญญา" ที่เรียกว่าการเจริญปัญญา คุณไม่มีปัญญา คุณจะแก้ทุกข์ หรือ ปัญหาได้อย่างไร แค่ความสงบไม่ทำให้เกิดปัญญาได้อย่างแน่นอน |
เจ้าของ: | ธงชาติ [ 12 ม.ค. 2012, 12:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
วิริยะ เขียน: ... ส่วนวิปัสสนา แปลว่าความรู้แจ้งไปสัจธรรมของจริงตามเป็นจริงจนถอนอัตตานุทิฏฐิเสียได้ ถ้าถอนยังไม่ได้ก็ยังไม่เรียกว่า วิปัสสนา มันเป็น วิปัสสนูกิเลส ไปเสีย ... สาธุ ขอโมทนา ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 12 ม.ค. 2012, 13:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
ไม่เที่ยง เกิดดับ เขียน: คุณไม่มีปัญญา คุณจะแก้ทุกข์ หรือ ปัญหาได้อย่างไร แค่ความสงบไม่ทำให้เกิดปัญญาได้อย่างแน่นอน ไม่เที่ยง จ๊ะ ไม่เที่ยง อย่างที่ท่อง ซิจ๊ะ อย่าลืมสิ่จ๊ะ ทุกสิ่ง ไม่เที่ยง ไม่ใช่หรือจ๊ะ แค่นี้ก็หลุด แร๊ววววว เห็นมั๊ย มีพอใจ มีไม่พอใจ มีเลือกปฏิบัติ จร้าาาาาา ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ความจริง มันเป็นอย่างนี้ล่ะจ๊ะ |
เจ้าของ: | ให้ทาง [ 12 ม.ค. 2012, 13:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
วิริยะ เขียน: ... เพราะปัญญาวิปัสสนามิได้เกิดแก่สาธารณชนทั่วไป จะเกิดได้ก็แต่ชั้นพระอริยภูมิเท่านั้น เมื่อเกิดก็เกิดครั้งเดียวและขณะจิตเดียวแล้วก็มิได้เกิดอีกในภูมินั้นๆ เมื่อเกิดย่อมพิจารณาเห็นพระไตรลักษณญาณชัดแจ้งตามเป็นจริงทุกอย่าง ในที่ทุกแห่งทุกหนและทุกอาการของสิ่งสารพัดทั้งปวงหมด เมื่อจิตถอนออกจากนั้นแล้วพิจารณาตามอาการนั้นก็ชัดอย่างเดิม แต่จิตไม่ได้เป็นอย่างเดิม ... ... ส่วนวิปัสสนา แปลว่าความรู้แจ้งไปสัจธรรมของจริงตามเป็นจริงจนถอนอัตตานุทิฏฐิเสียได้ ถ้าถอนยังไม่ได้ก็ยังไม่เรียกว่า วิปัสสนา มันเป็น วิปัสสนูกิเลส ไปเสีย ... การปฏิบัติสมถ-วิปัสสนา ขออย่าได้หอบเอาตำรามาปฏิบัติเลย ขว้างเก็บเข้าตู้ไว้เสียก่อน จงพากันมาฝึกอบรมใจให้เข้าถึงความสงบ เอกัคคตารมณ์ จริงๆดูก่อน แล้วจึงค่อยเอาตำรามาพูดกัน ถ้าทำได้ดังนั้นแล้ว นักปฏิบัติภาวนาทั้งหลายก็จะไม่สิ้นเปลืองน้ำลายโดยใช่เหตุ ตอบปัญหา โดยหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี http://www.thewayofdhamma.org/page4_1/pucha3.html * ความเห็นของผู้โพส ![]() สาธุ ขอโมทนาขอรับ หลวงปู่่ฯ ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 12 ม.ค. 2012, 17:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
![]() อืมมม จริง ๆ มีประเด็นให้ต้องมานั่งสนทนาอย่างนี้ ![]() ![]() ทำให้ธรรมหลวงปู่ หลวงตา ได้ฟื้นคืนกลับมาส่องประกายอย่างนี้ ก็ดีเหมือนกันนะ ธรรมอันออกมาจากใจที่บริสุทธิ์ อ่านเมื่อไรก็ชื่นใจ ส่งให้ใจได้สัมผัสถึงความสงบเย็นขึ้นมาทันที ![]() ![]() ![]() บางครั้ง เราคิดว่า พุทธศาสนาถึงกาลที่จะค่อย ๆ เสื่อมไปในวันนี้ วันพรุ่งแล้ว เราก็รู้สึกสะท้อนใจ สะเทือนใจ น้ำตาคลอได้ทุกที แต่พอเห็นธรรมที่เพื่อน ๆ พี่ ๆ น้อง ๆ ที่นำมาร่วมแจมการสนทนาธรรมแล้ว ก็ได้รู้สึกว่า ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 12 ม.ค. 2012, 17:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
พระพุทธเจ้าแบ่งคนออกเป็น สี่จำพวก จำพวกสุดท้าย ท่านชักสะพานหนีเสีย ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 12 ม.ค. 2012, 18:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
วิริยะ เขียน: พระพุทธเจ้าแบ่งคนออกเป็น สี่จำพวก จำพวกสุดท้าย ท่านชักสะพานหนีเสีย ![]() ![]() อื้อ ตามนั้น ![]() ![]() ![]() จริง ๆ ที่ทำไปเพราะห่วงตะเองน่ะแหละ เค้ากลัวตะเองจะเผลอไปมีอื่น ![]() นี่เค้าหน้ามึนมาทั้งหมด ก็เพื่อตะเองทั้งน๊านนนนน ![]() ![]() ![]() แต่เมื่อเห็นตะเองหยิบยกธรรมมาแต่ละบท ![]() ![]() ![]() เค้าก็อุ่นใจขึ้นแล้วววววว ล๊าาาาาาาาลาาาา ลั่นล้าาาาา ธรรมของพระพุทธองค์ และพระเกจิอาจารย์ผู้บริสุทธิ์ด้วยศีล สมาธิ ปัญญา ยังเบ่งบานในใจคนได้ ตลอดกาลเวลา ที่ธรรมนั้นถูกนำขึ้นมาแสดง ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 12 ม.ค. 2012, 18:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
ธรรมะพระพุทธเจ้า ไม่ได้มีไว้เร่ขาย แลกเปลี่ยน หรือยัดเยียดให้ใคร เหมือนพิมเสน ท่านไม่ให้เอาไปแลกกับ เกลือ ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 12 ม.ค. 2012, 18:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 12 ม.ค. 2012, 19:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
โห้ยยย......อะไรจะด่วนเอวัง...ง่าย ๆ อย่างงั้น. อ้างคำพูด: แต่คราวนี้ถ้าจะพูดอีกนัยหนึ่ง ปัญญาในทีนี้ท่านบัญญัติปัญญาไว้สุดท้ายนั้น (ศีล สมาธิ ปัญญา*)ท่านพูดถึงปัญญาขั้นสูง ปัญญาที่พิจารณาวิปัสสนา คือ รู้แจ้งเห็นสัจธรรมตามความเป็นจริงถ้าไม่มีศีล ไม่มีสมาธิ ปัญญาก็ไม่เกิด ปัญญาที่จะเกิดวิปัสสนาปัญญาจะต้องมีศีลสมบูรณ์ สมาธิแน่วแน่จนกระทั่งถึงอัปปนาสมาธิ เมื่อออกจากอัปปนาสมาธิแล้ว ปัญญาวิปัสสนาจึงจะเกิดขึ้น เหตุนั้นท่านจึงบัญญัติไว้ตอนท้าย ![]() ![]() ![]() วิปัสสนูกิเลสคลับ...โปรดได้พิจารณา ![]() |
เจ้าของ: | ให้ทาง [ 13 ม.ค. 2012, 14:21 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ปัญญาขึ้นก่อน หรือ ปัญญาลงท้าย |
กบนอกกะลา เขียน: วิปัสสนูกิเลสคลับ...โปรดได้พิจารณา ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |