วันเวลาปัจจุบัน 04 พ.ค. 2024, 23:05  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 11:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


สืบเนื่องจากประเด็นนี้
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=40818
โฮฮับ เขียน:
เข้าประเด็น เอาเฉพาะฆราวาสนะครับ ถ้าฆราวาสมีอาชีพแต่งหนังสือธรรมขาย
ถ้าดูในแง่ของสัมมากัมมันตะ บุคคลนั้นย่อมไม่ผิด เพราะเขาแต่งหนังสือธรรมะ
ไม่ใช่หนังสือต้องห้ามผิดกฎหมาย

ถ้าเป็นเรื่องของสัมมาอาชีวะ มันก็ต้องไปดูที่ราคาของหนังสือว่า
พอเหมาะแก่การดำรงชีวิตของผู้ที่แต่งหนังสือหรือไม่ ไม่มากไป ไม่น้อยไป

ธรรมสองอย่างนี้มันเกี่ยวข้องกันอยู่ ต้องทำให้ถูกทั้งสองอย่าง
ถ้าอย่างหนึ่งผิด อีกอย่างก็ผิดตามไปด้วย

ขอเทียบจากหนังสือเป็นอย่างอื่นนะครับ

แล้วเรื่องเก็บลิขสิทธิ์ยาแพงๆ และขายราคาแพงเป็นสัมมาอาชีวะได้ไหมครับ ในเมื่อเขาก็ต้องมีต้นทุนการวิจัย และค่าความเสี่ยง จนถึงการผลิต

แล้วคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์จะผิดไหมเมื่อชำแหละตัวยา จนสามารถผลิตได้เอง และนำออกขายในราคาถูก ให้คนทั่วไปได้ใช้ ผิดหรือไม่ครับ ในเมื่อเขาเขาใช้วัตถุดิบของเขาเอง และคิดย้อนไปถึงวิธีผลิตจากตัวยาได้เอง

ขอบอกไว้ก่อนนะครับผมมีความคิดโน้มเอียงไปทาง ไม่ควรเก็บลิขสิทธิ์ยา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ม.ค. 2012, 21:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b12:
เจริญสุขครับ คุณdin

เรื่องของสัมมากัมมันตะและสัมมาอาชีวะ 2 ข้อ หรือสัมมาอีก 6 ข้อนั้น ถ้าคุณจับหลักได้ คุณจะไม่มีความสงสัยลังเลใจอีกต่อไป และสามารถวินิจฉัยได้เลยว่าใครพูดถูกต้องตามธรรม

ในสัมมาทั้ง 8 ข้อ ของมรรคมองค์ 8 นั้น สำคัญที่มรรคข้อที่ 1 คือ ปัญญามรรค สัมมาทิฐิ ถ้าข้อที่1 เป็นสัมมาแล้ว ข้อที่เหลือจะเป็นสัมมาตามกันไปหมด
มีดำรัสไว้ในพระสูตรลองไปค้นมาแสดงสู่กันดูนะครับ

สัมมาทิฐินั้น พระพุทธองค์ทรงแสดงไว้ชัดเจนว่า
สัมมาทิฐิ(ความเห็นชอบ เห็นถูกต้อง)นั่นเป็นอย่างไรเล่า
ความเห็นในทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และ วิธีทำให้ถึงความดับทุกข์ อันนี้เรากล่าวว่า"สัมมาทิฐิ"

ได้หลักอันนี้แล้วข้อที่ 2 ถึง 8 ก็ง่ายขึ้นมาทันทีคือถ้าการกระทำอันใดชี้ไปที่ ทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ ความดับทุกข์และวิธีทำให้ถึงความดับทุกข์แล้ว การกรทำทั้งหมดนั้นจะเป็นสัมมาทั้งสิ้น เช่น

สัมมาสังกัปปะ (ความดำริชอบ ความคิดถูกต้อง)ก็คือคิดค้นสังเกต พิจารณา ในเรื่องของทุกข์ ว่าเป็นอย่างไร
อะไรเป็นสมุทัยเหตุแห่งทุกข์(สมุทัย) จะเอาเหตุทุกข์นี้ออกได้อย่างไร(มรรค) เมื่อเหตุทุกข์นี้ดับไปแล้ว อะไรจะเกิดขึ้นเป็นผลให้ได้รับ (นิโรธ)

มาถึงศีลมรรค อีก 3 ข้อ
สัมมาวาจา การพูดจาชอบ ตามหลักคือไม่พูดเท็จ ไม่พูดคำหยาบ ไม่พูดส่อเสียด ไม่พูดเพ้อเจ้อเหลวไหล
แล้วก็จึงมาพูด สนทนาธรรมใคร่ครวญกันอยู่แต่ในเรื่อง ทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และวิธีทำให้ถึงความดับทุกข์

สัมมากัมมันตะ การทำการงานชอบ ตามหลักคือทำงานที่ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม แต่ตามปฏิบัติการ ก็คือการทำงานเจริญมรรค 8 สติปัฏฐาน 4 หรือที่รวมเรียกว่า "วิปัสสนาภาวนา"เพื่อให้รู้ทุกข์ เหตุเกิดทุกข์ ความดับทุกข์ และวิธีทำให้ถึงความดับทุกข์


สัมมาอาชีวะ การประกอบอาชีพชอบ ตามหลักคือการทำมาหากินเลี้ยงปากท้อง ชีวิตและครอบครัวด้วยอาชีพที่ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม และไม่สนับสนุนให้ผิดศีลผิดธรรม อย่างบิณฑบาตรฉันนี่ก็เป็นสัมมาอาชีวอันสูงสุด
ความหมายที่ลึกซึ้งในข้อนี้ก็คือทำอาชีพอะไรก็ได้ที่ไม่ผิดศีลไม่ผิดธรรม แล้วเอาทรัพย์ที่ได้มาซื้อ มาแลกเอาเวลาชีวิตมาเพื่อจะให้ได้ปฏิบัติสัมมากัมมันตะให้ได้มากที่สุดเพื่อให้รู้ทุกข์ ละเหตุเกิดทุกข์ ทำให้แจ้งในนิโรธ ด้วยการเจริญมรรค 8 หรือวิปัสสนาภานา

สัมมาวายามะ ความเพียรชอบ ก็ ละบาปเก่า ระวังบาปใหม่ เพียรรักษาและทำกุศลเก่าให้เจริญงอกงาม
สุดท้ายที่สำคัญคือ กุศลใหม่ที่ยังไม่เคยเกิดในจิตในใจมาก่อน คือ มรรคทั้ง 4 มรรค ได้แก่ โสดาปัตติมรรค สกิทาคามีมรรค อนาคามีมรรค และอรหัตมรรค ยังไม่เคยเกิด เพียรทำให้เกิดขึ้นตามลำดับจนครบทั้ง 4

สัมมาสติ ความระลึกชอบ ตามหลักคือระลึกรู้อยู่ในสติปัฏฐาน 4 เพื่อทำอริยสัจ 4 ให้แจ้ง ตามปฏิบัติการคือ ให้ระลึกรู้อยู่แต่ปัจจุบันอารมณ์ เพื่อให้สติปัญญาได้พบเหตุทุกข์และทำลายเหตุทุกข์จนหมดสิ้น

สัมมาสมาธิ ความตั้งใจมั่นชอบ ข้อนี้ไม่ต้องพะวงและกังวล เพราะถ้าสติอยู่กับปัจจุบันอารมณ์ได้ดี ความคิดนึกและนิวรณ์ธรรมจะไม่เกิด ความตั้งมั่นอยู่ในงานเจริญวิปัสสนาภาวนาหรือสติปัฏฐาน 4 ย่อมมีอย่างแน่นอน ถึงที่สุดจิตหมดนิวรณ์ การเข้าถึง ฌาณ 4 หรือสังขารุเปกขาญาณจะเกิดขึ้นตามมาเป็นผลให้ในที่สุด

:b27: :b8: :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 03:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 พ.ค. 2009, 02:41
โพสต์: 5636

แนวปฏิบัติ: พอง ยุบ
ชื่อเล่น: เจ
อายุ: 0
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว www


:b8: :b8: :b8:

.....................................................
"มิควรหวังร่มเงาจากก้อนเมฆ"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 03:29 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
เจริญสุขครับ คุณdin

คุณโสกะครับ ไปไหนมาสามวาสองศอกอีกแล้วครับ
ดูก่อนซิครับว่า คุณดินแกถามอะไร ที่สาธยายมาทั้งหมด
เข้าข่ายพูดจาเพ้อเจ้อนะครับ

คุณดินแกให้พิจารณาธรรมในเรื่องที่แกยกมา แต่นี้คุณโสกะ
มาพูดแบบน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งสักต้นก็ไม่มี เอาสาระที่มันเกี่ยว
กับคำถามหน่อยซิครับ

ข้อความอ้างอิงข้างล่างครับเป็นคำถามของคุณดินแก
มีสติหน่อยซิครับ อย่าเอาแต่จำบทความมาตอบ มันคนละเรื่อง
ทำแบบนี้จขกท แกก็เซ็งนะซิครับ


din เขียน:
สืบเนื่องจากประเด็นนี้
แล้วเรื่องเก็บลิขสิทธิ์ยาแพงๆ และขายราคาแพงเป็นสัมมาอาชีวะได้ไหมครับ ในเมื่อเขาก็ต้องมีต้นทุนการวิจัย และค่าความเสี่ยง จนถึงการผลิต

แล้วคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์จะผิดไหมเมื่อชำแหละตัวยา จนสามารถผลิตได้เอง และนำออกขายในราคาถูก ให้คนทั่วไปได้ใช้ ผิดหรือไม่ครับ ในเมื่อเขาเขาใช้วัตถุดิบของเขาเอง และคิดย้อนไปถึงวิธีผลิตจากตัวยาได้เอง

ขอบอกไว้ก่อนนะครับผมมีความคิดโน้มเอียงไปทาง ไม่ควรเก็บลิขสิทธิ์ยา

ตั้งสติดีๆแล้วตอบใหม่นะครับ
ผมจะเอาใจช่วย
:b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 08:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
asoka เขียน:
เจริญสุขครับ คุณdin

คุณโสกะครับ ไปไหนมาสามวาสองศอกอีกแล้วครับ
ดูก่อนซิครับว่า คุณดินแกถามอะไร ที่สาธยายมาทั้งหมด
เข้าข่ายพูดจาเพ้อเจ้อนะครับ

คุณดินแกให้พิจารณาธรรมในเรื่องที่แกยกมา แต่นี้คุณโสกะ
มาพูดแบบน้ำท่วมทุ่ง ผักบุ้งสักต้นก็ไม่มี เอาสาระที่มันเกี่ยว
กับคำถามหน่อยซิครับ

ข้อความอ้างอิงข้างล่างครับเป็นคำถามของคุณดินแก
มีสติหน่อยซิครับ อย่าเอาแต่จำบทความมาตอบ มันคนละเรื่อง
ทำแบบนี้จขกท แกก็เซ็งนะซิครับ
din เขียน:
สืบเนื่องจากประเด็นนี้
แล้วเรื่องเก็บลิขสิทธิ์ยาแพงๆ และขายราคาแพงเป็นสัมมาอาชีวะได้ไหมครับ ในเมื่อเขาก็ต้องมีต้นทุนการวิจัย และค่าความเสี่ยง จนถึงการผลิต

แล้วคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์จะผิดไหมเมื่อชำแหละตัวยา จนสามารถผลิตได้เอง และนำออกขายในราคาถูก ให้คนทั่วไปได้ใช้ ผิดหรือไม่ครับ ในเมื่อเขาเขาใช้วัตถุดิบของเขาเอง และคิดย้อนไปถึงวิธีผลิตจากตัวยาได้เอง

ขอบอกไว้ก่อนนะครับผมมีความคิดโน้มเอียงไปทาง ไม่ควรเก็บลิขสิทธิ์ยา

ตั้งสติดีๆแล้วตอบใหม่นะครับ
ผมจะเอาใจช่วย
:b13:

Onion_L
Onion_R
คุณโฮฮับครับ คุณพูดโดยมีสติแต่ขาดสัมปะชัญญะ(ปัญญา)อย่างแรงอีกแล้ว
คุณต้องกลับไปดูทีชื่อกระทู้ให้ดีๆซิครับ ว่าเขาเขียนและประสงค์จะรู้อะไร
ไอ้เรื่อง "ลิขสิทธิ์ยาแพงๆ และขายราคาแพงเป็นสัมมาอาชีวะได้ไหมครับ?" นี่มันเป็นประเด็นย่อยในประเด็นใหญ่ตามหัวข้อของกระทู้

หรือเจ้าของกระทู้ปารถนาจะรู้คำตอบของประเด็นย่อยจริงๆ ไม่สนใจประเด็นใหญ่ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แล้วไปนะครับ ต้องขออภัยด้วยครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ชิญคุณโฮฮับ สธยายธรรมตามสไตล์ของคุณโฮ.....ต่อไป

:b12: :b1: :b16:
:b34:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 09:59 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


din เขียน:
สืบเนื่องจากประเด็นนี้
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=40818
โฮฮับ เขียน:
เข้าประเด็น เอาเฉพาะฆราวาสนะครับ ถ้าฆราวาสมีอาชีพแต่งหนังสือธรรมขาย
ถ้าดูในแง่ของสัมมากัมมันตะ บุคคลนั้นย่อมไม่ผิด เพราะเขาแต่งหนังสือธรรมะ
ไม่ใช่หนังสือต้องห้ามผิดกฎหมาย

ถ้าเป็นเรื่องของสัมมาอาชีวะ มันก็ต้องไปดูที่ราคาของหนังสือว่า
พอเหมาะแก่การดำรงชีวิตของผู้ที่แต่งหนังสือหรือไม่ ไม่มากไป ไม่น้อยไป

ธรรมสองอย่างนี้มันเกี่ยวข้องกันอยู่ ต้องทำให้ถูกทั้งสองอย่าง
ถ้าอย่างหนึ่งผิด อีกอย่างก็ผิดตามไปด้วย

ขอเทียบจากหนังสือเป็นอย่างอื่นนะครับ

แล้วเรื่องเก็บลิขสิทธิ์ยาแพงๆ และขายราคาแพงเป็นสัมมาอาชีวะได้ไหมครับ ในเมื่อเขาก็ต้องมีต้นทุนการวิจัย และค่าความเสี่ยง จนถึงการผลิต

แล้วคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์จะผิดไหมเมื่อชำแหละตัวยา จนสามารถผลิตได้เอง และนำออกขายในราคาถูก ให้คนทั่วไปได้ใช้ ผิดหรือไม่ครับ ในเมื่อเขาเขาใช้วัตถุดิบของเขาเอง และคิดย้อนไปถึงวิธีผลิตจากตัวยาได้เอง

ขอบอกไว้ก่อนนะครับผมมีความคิดโน้มเอียงไปทาง ไม่ควรเก็บลิขสิทธิ์ยา

ต้องแยกกันนิดหนึ่ง...ระหว่าง...กฎหมาย...กับ...คุณธรรม
กฎหมาย...ละเมิดสิทธ์เขา..นี้ผิดเต็ม ๆ ครับ..หากจะทำก็ต้องแก้กฎหมายก่อน...อย่างที่รัฐบาลไทย
ประกาศว่าจะยกเลิกชั่วคราว

ด้านคุณธรรม...อย่าลืม..การค้าขายมีกำไรได้ไม่เป็นผิดศีล
แต่...เท่าไรจึงเรียกว่ามากเกินไป

ไปถามคนซื้อ..ก็ว่าแพง
ไปถามคนขาข...ก็ว่าไม่แพง

รัฐซึ่งมีอำนาจดูแลประชาชน...ต้องรู้ว่าอะไรต้องควบคุมราคา..อะไรปล่อยไปตามกลไกตลาด
หากว่าโดยคุณธรรม...ผิดหรือไม่ผิด...ขึ้นอยู่กับจิตเจตนาของคนขาย...พอเห็นคนเดือดร้อนต้องการมาก
ก็ขึ้นราคา...ทั้งที่ร้นทุนไม่ได้ขึ้น..อันนี้คนขายผิด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 10:54 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
คุณโฮฮับครับ คุณพูดโดยมีสติแต่ขาดสัมปะชัญญะ(ปัญญา)อย่างแรงอีกแล้ว
คุณต้องกลับไปดูทีชื่อกระทู้ให้ดีๆซิครับ ว่าเขาเขียนและประสงค์จะรู้อะไร
ไอ้เรื่อง "ลิขสิทธิ์ยาแพงๆ และขายราคาแพงเป็นสัมมาอาชีวะได้ไหมครับ?" นี่มันเป็นประเด็นย่อยในประเด็นใหญ่ตามหัวข้อของกระทู้

หรือเจ้าของกระทู้ปารถนาจะรู้คำตอบของประเด็นย่อยจริงๆ ไม่สนใจประเด็นใหญ่ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็แล้วไปนะครับ ต้องขออภัยด้วยครับ ถ้าเป็นอย่างนั้นก็ชิญคุณโฮฮับ สธยายธรรมตามสไตล์ของคุณโฮ.....ต่อไป

ฮะ ฮะ คุณโสกะเนี่ยตลกดีนะครับ เถียงไปได้เรื่อยๆ เถียงจนเป็นนิสัย
ผมว่าปานนี้หัวหูโนแล้วมั้ง ก็เพราะไอ้เถียงหัวชนฝานี่แหล่ะ :b13:

ก็แค่มาเตือนกลัวจขกทแกจะไม่เข้าใจ กับความเห็นที่พูดเองเข้าใจเอง
คนอื่นเป็นไงฉันไม่สน สนอย่างเดียวเถียงไว้ก่อนพ่อสอนไว้ :b13:

นี่มาอีกแหล่ะประเด็นย่อย ประเด็นใหญ่
ธรรมะมีด้วยหรือประเด็นย่อยประเด็นใหญ่
ธรรมะมีแต่เหตุกับผลหรือการเป็นเหตุปัจจัย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 11:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


din เขียน:
สืบเนื่องจากประเด็นนี้
ขอเทียบจากหนังสือเป็นอย่างอื่นนะครับ

แล้วเรื่องเก็บลิขสิทธิ์ยาแพงๆ และขายราคาแพงเป็นสัมมาอาชีวะได้ไหมครับ ในเมื่อเขาก็ต้องมีต้นทุนการวิจัย และค่าความเสี่ยง จนถึงการผลิต

คำถามส่วนนี้ ที่ว่าเก็บลิขสิทธิ์ยาและขายแพง ต้องพิจารณาจากเหตุที่มา
ว่าทำไมถึงขายหรือเก็บลิขสิทธิ์ คุณบอกว่า เพราะมีต้นทุน การวิจัย ค่าความเสียง
และการผลิต ถ้าเหล่านี้เป็นเหตุมันก็น่าจะเป็นเหตุเป็นผล น่าจะเป็นสัมมากัมมันตะ
เพราะการผลิตยาเป็นสิ่งที่ดีมีประโยชน์ต่อคนอื่น และเป็นสัมมาอาชีวะด้วยเพราะ
ขั้นตอนการผลิตและการลงทุนมาก จึงต้องขายของแพง
ถ้าเราลองคิดในมุมกลับ ถ้าลงทุนแพง แต่มาขายถูกได้รายไม่สมดุลย์กับรายจ่าย
สักวันก็ต้องเจ๊งปิดกิจการ แบบนี้ไม่เป็นสัมมาอาชีวะ มันเป็นการทำลายอาชีพตัวเอง
din เขียน:
แล้วคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์จะผิดไหมเมื่อชำแหละตัวยา จนสามารถผลิตได้เอง และนำออกขายในราคาถูก ให้คนทั่วไปได้ใช้ ผิดหรือไม่ครับ ในเมื่อเขาเขาใช้วัตถุดิบของเขาเอง และคิดย้อนไปถึงวิธีผลิตจากตัวยาได้เอง
ขอบอกไว้ก่อนนะครับผมมีความคิดโน้มเอียงไปทาง ไม่ควรเก็บลิขสิทธิ์ยา

ส่วนในกรณีนี้ เป็นเพียงสัมมากัมมันตะเพียงอย่างเดียว ถึงแม้การกระทำจะผิดกฎหมาย
แต่จุดประก็เพื่อช่วยคนอื่นให้ได้มียามารักษา เป็นการกระทำที่เป็นกุศล
แค่ในการนี้ยังไม่เกิดหรือไม่มี สัมมาอาชีวะ เป็นเพียง สัมมากัมมันตะเพียงอย่างเดียว

ที่กล่าวว่ายังไม่มีสัมมาอาชีวะเป็นเพราะ
การไปละเมิดลิขสิทธิ์คนอื่นเป็นการผิดกฎหมาย
การเป็นสัมมาอาชีวะจะต้องเป็นสิ่งที่ไม่ผิดกฎหมาย
ดังนั้นการกระทำครั้งนี้ไม่ถือเป็นอาชีพ แต่เป็นการกระทำเพื่อช่วยเหลือคนอื่น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 12:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


din เขียน:
สืบเนื่องจากประเด็นนี้
http://www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=40818
โฮฮับ เขียน:
เข้าประเด็น เอาเฉพาะฆราวาสนะครับ ถ้าฆราวาสมีอาชีพแต่งหนังสือธรรมขาย
ถ้าดูในแง่ของสัมมากัมมันตะ บุคคลนั้นย่อมไม่ผิด เพราะเขาแต่งหนังสือธรรมะ
ไม่ใช่หนังสือต้องห้ามผิดกฎหมาย

ถ้าเป็นเรื่องของสัมมาอาชีวะ มันก็ต้องไปดูที่ราคาของหนังสือว่า
พอเหมาะแก่การดำรงชีวิตของผู้ที่แต่งหนังสือหรือไม่ ไม่มากไป ไม่น้อยไป

ธรรมสองอย่างนี้มันเกี่ยวข้องกันอยู่ ต้องทำให้ถูกทั้งสองอย่าง
ถ้าอย่างหนึ่งผิด อีกอย่างก็ผิดตามไปด้วย

ขอเทียบจากหนังสือเป็นอย่างอื่นนะครับ

แล้วเรื่องเก็บลิขสิทธิ์ยาแพงๆ และขายราคาแพงเป็นสัมมาอาชีวะได้ไหมครับ ในเมื่อเขาก็ต้องมีต้นทุนการวิจัย และค่าความเสี่ยง จนถึงการผลิต

แล้วคนที่ละเมิดลิขสิทธิ์จะผิดไหมเมื่อชำแหละตัวยา จนสามารถผลิตได้เอง และนำออกขายในราคาถูก ให้คนทั่วไปได้ใช้ ผิดหรือไม่ครับ ในเมื่อเขาเขาใช้วัตถุดิบของเขาเอง และคิดย้อนไปถึงวิธีผลิตจากตัวยาได้เอง

ขอบอกไว้ก่อนนะครับผมมีความคิดโน้มเอียงไปทาง ไม่ควรเก็บลิขสิทธิ์ยา

:b12:
...ขอร่วมแจมด้วยคนค่ะ...เรื่องลิขสิทธิ์เนี่ย...ข้าพเจ้าว่าเป็นอะไรที่ทำขึ้นเพื่อป้องกันกลโกงอย่างนึง...
...มันเป็นการจดทะเบียนการคิดค้นเกี่ยวกับนวัตกรรมใหม่ใช่ไหมคะ...เพราะมนุษย์ชอบการเลียนแบบ...
...ถ้าเป็นการเลียนแบบเช่นการแต่งกายก็เห็นจะเป็นเรื่องธรรมด๊า ธรรมดา จริงไหมคะ...
...แต่เมื่อมนุษย์ยุคใหม่ที่มีการซื้อขายแลกเปลี่ยนที่มันเพิ่มมูลค่าเป็นทรัพย์คือเงินตรามากขึ้น...
...ความโลภทำให้เกิดการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่น...และมีการแอบจิ๊กเอาของคนอื่นมาก๊อปปี้ได้เนียนมาก...
...สังคมเริ่มตั้งกฎให้มีการจดลิขสิทธิ์เพื่อไม่ให้คนที่ฉลาดแกมโกงทำมาหากินได้โดยสะดวกจริงไหม...
...โดยปกติของยาที่มีขายในท้องตลาดที่เป็นยาหลักๆก็ไม่ได้อนุญาตให้จดลิขสิทธิ์จริงไหมคะ...
...ที่คิดค้นใหม่ๆ...ตามโรคต่างๆที่ร้ายแรงเพิ่มมากขึ้น...กลไกก็เป็นไปตามสังคมกำหนดโดยถูกต้อง...
...อย่างยาโรคเอดส์เนี่ยก็จดลิขสิทธิ์ได้...ถ้าคนที่คิดได้ไม่จดลิขสิทธ์...คิดดูละกันว่าใครจะรวยได้บ้าง...
:b1:
...สัมมาอาชีวะสำหรับฆราวาส...ข้าพเจ้าว่าน่าจะแปลความถึงประกอบอาชีพสุจริต...
...ทำตามระเบียบและกฎเกณฑ์ที่สังคมกำหนดโดยไม่ผิดกฏหมายและจารีตประเพณี...
:b16:
...ส่วนสัมมากัมมันตะ...ข้าพเจ้าว่าน่าจะแปลความถึงการไม่ได้ปล้นหรือว่าขโมยมาหรือโกง...
...ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือความคิดที่เจ้าของเขาไม่อนุญาตนำมาทำการค้าขายกำไรเกินควร...
:b11:
...ส่วนการค้าขายทุกชนิดก็ต้องเพิ่มมูลค่าได้...ไม่ได้ผิดศีลธรรมเพราะเป็นไปตามเหตุและผล...
...อย่างยานอกถึงจะคุณสมบัติเดียวกันกับยาในไทย...ราคายานอกก็ต้องแพงกว่าแน่นอน...
...เพราะเป็นเรื่องที่ผู้ผลิตก็มีค่าขนส่ง ผู้จำหน่ายก็ต้องมีค่าเช่าร้าน และผู้บริโภคก็จำเป็นต้องใช้...
...ไม่มีอะไรที่ได้มาเปล่าๆ หรือได้มาฟรี ๆโดยไม่ต้องลงทุน...แต่มีบางคนที่โลภเกินไปถึงต้องมีลิขสิทธิ์...
:b4: :b4:
:b44:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 25 ม.ค. 2012, 13:11 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss
...ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างสัมมาอาชีโว สัมมากัมมันโต เกี่ยวกับการให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง...
...ที่ข้าพเจ้าประสบด้วยตนเองจากการดำเนินชีวิตประจำวันก็คือปฏิปทาขององค์หลวงตามหาบัว...
...แห่งวัดป่าบ้านตาด...เพราะธรรมะที่หลวงตาได้แสดง...ท่านได้ประจักษ์มาด้วยตัวท่านเอง...
...ท่านแสดงธรรมเพื่ออบรมทั้งพระและฆราวาสในสิ่งที่ท่านได้รู้แจ้งเห็นจริงตามพระธรรมคำสอน...
...หนังสือ เทป ซีดีธรรมะของวัดป่าบ้านตาดไม่สงวนลิขสิทธิ์ถ้านำไปผลิตเพื่อแจกฟรีเป็นธรรมทาน...
...นอกจากนี้ก็ยังมีสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนเผยแผ่ธรรมตลอด 24 ชั่วโมงและมีเว็บไซต์...
...http://www.luangta.com...หลวงตาท่านเคยเทศน์ว่ามีคนมาขอจดลิขสิทธิ์ทำหนังสือ...
...แต่องค์หลวงตาพระมหาบัว...ท่านไม่อนุญาตเพราะเห็นแก่ธรรมที่จะเข้าสู่จิตใจผู้คนตั้งมากมาย...
...ท่านสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำไปจำหน่าย...ท่านอนุญาตและไม่สงวนสิทธิ์สำหรับการทำแจกฟรี...
:b8: :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2012, 00:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 4
สมาชิก ระดับ 4
ลงทะเบียนเมื่อ: 21 มิ.ย. 2010, 22:55
โพสต์: 213

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: ขอบคุณทุกท่านมาก :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2012, 02:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
......สัมมาอาชีวะสำหรับฆราวาส...ข้าพเจ้าว่าน่าจะแปลความถึงประกอบอาชีพสุจริต...
...ทำตามระเบียบและกฎเกณฑ์ที่สังคมกำหนดโดยไม่ผิดกฏหมายและจารีตประเพณี....

สัมมาอาชีวะสำหรับฆราวาส ไม่ใช่การประกอบอาชีพที่สุจริตเพียงอย่างเดียว
แต่จะต้องเป็นอาชีพที่ไม่ผิดศีลธรรมด้วย อย่างเช่น ขายเหล้าเป็นอาชีพสุจริตแต่ไม่เป็น..
สัมมาอาชีวะ อาชีพเลี้ยงสัตว์ไว้ขายเนื้อเหล่านี้เป็นต้น
Rosarin เขียน:
.........ส่วนสัมมากัมมันตะ...ข้าพเจ้าว่าน่าจะแปลความถึงการไม่ได้ปล้นหรือว่าขโมยมาหรือโกง...
...ไม่ว่าจะเป็นสิ่งของหรือความคิดที่เจ้าของเขาไม่อนุญาตนำมาทำการค้าขายกำไรเกินควร.

สัมมากัมมันตะ มีความหมายว่า การกระทำที่เป็นกลาง สังเกตุมีการกระทำอยู่

การไม่ปล้นหรือขโมยเป็นศีลข้อห้าม ท่านไม่ให้กระทำ แตกต่างจากสัมมากัมมันตะ
เพราะอย่างหนึ่งห้ามทำอีกอย่างให้กระทำครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2012, 03:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


Rosarin เขียน:
Kiss
...ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างสัมมาอาชีโว สัมมากัมมันโต เกี่ยวกับการให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง...
...ที่ข้าพเจ้าประสบด้วยตนเองจากการดำเนินชีวิตประจำวันก็คือปฏิปทาขององค์หลวงตามหาบัว...
...แห่งวัดป่าบ้านตาด...เพราะธรรมะที่หลวงตาได้แสดง...ท่านได้ประจักษ์มาด้วยตัวท่านเอง...
...ท่านแสดงธรรมเพื่ออบรมทั้งพระและฆราวาสในสิ่งที่ท่านได้รู้แจ้งเห็นจริงตามพระธรรมคำสอน...
...หนังสือ เทป ซีดีธรรมะของวัดป่าบ้านตาดไม่สงวนลิขสิทธิ์ถ้านำไปผลิตเพื่อแจกฟรีเป็นธรรมทาน...
...นอกจากนี้ก็ยังมีสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนเผยแผ่ธรรมตลอด 24 ชั่วโมงและมีเว็บไซต์...
...http://www.luangta.com...หลวงตาท่านเคยเทศน์ว่ามีคนมาขอจดลิขสิทธิ์ทำหนังสือ...
...แต่องค์หลวงตาพระมหาบัว...ท่านไม่อนุญาตเพราะเห็นแก่ธรรมที่จะเข้าสู่จิตใจผู้คนตั้งมากมาย...
...ท่านสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำไปจำหน่าย...ท่านอนุญาตและไม่สงวนสิทธิ์สำหรับการทำแจกฟรี...
:b8: :b8: :b8:

คุณพูดไม่มีสัมมาวาจานะครับ ปฏิปทาของหลวงตามีอยู่ก็จริง
แต่คุณไม่ควรเอามาเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้ มันจะทำให้คนอื่นเข้าใจ
ความหมายในธรรมเรื่องที่กำลังคุยผิดเพี้ยนครับ

เรื่องลิขสิทธิ์ที่คุณบอกว่า หลวงตาไม่อนุญาตให้คนอื่นทำ
มันเป็นเรื่องของศีลเรื่องของพระวินัยครับ ไม่เกี่ยวกับสัมมา

และที่คุณบอกว่า หลวงตาสอนสิ่งที่รู้แจ้งเห็นจริงตามมพระธรรม
ดังนั้นหลวงตาก็ไม่มีสิทธิ์จะไปอนุญาตหรือไม่อนุญาตใครในเรื่องลิขสิทธิ์
เพราะพระธรรมเป็นของสาธารณะ ยิ่งผู้สอนเป็นพระภิกษุยิ่งไม่มีสิทธิ์
มันผิดพระวินัยและทางโลกครับ

เรื่องนี้เฉพาะพระภิกษุนะครับ ถ้าเป็นฆราวาสก็ต้องพิจารณาอีกที


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2012, 16:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7502

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
Rosarin เขียน:
Kiss
...ข้าพเจ้าขอยกตัวอย่างสัมมาอาชีโว สัมมากัมมันโต เกี่ยวกับการให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวง...
...ที่ข้าพเจ้าประสบด้วยตนเองจากการดำเนินชีวิตประจำวันก็คือปฏิปทาขององค์หลวงตามหาบัว...
...แห่งวัดป่าบ้านตาด...เพราะธรรมะที่หลวงตาได้แสดง...ท่านได้ประจักษ์มาด้วยตัวท่านเอง...
...ท่านแสดงธรรมเพื่ออบรมทั้งพระและฆราวาสในสิ่งที่ท่านได้รู้แจ้งเห็นจริงตามพระธรรมคำสอน...
...หนังสือ เทป ซีดีธรรมะของวัดป่าบ้านตาดไม่สงวนลิขสิทธิ์ถ้านำไปผลิตเพื่อแจกฟรีเป็นธรรมทาน...
...นอกจากนี้ก็ยังมีสถานีวิทยุเสียงธรรมเพื่อประชาชนเผยแผ่ธรรมตลอด 24 ชั่วโมงและมีเว็บไซต์...
...http://www.luangta.com...หลวงตาท่านเคยเทศน์ว่ามีคนมาขอจดลิขสิทธิ์ทำหนังสือ...
...แต่องค์หลวงตาพระมหาบัว...ท่านไม่อนุญาตเพราะเห็นแก่ธรรมที่จะเข้าสู่จิตใจผู้คนตั้งมากมาย...
...ท่านสงวนลิขสิทธิ์สำหรับการนำไปจำหน่าย...ท่านอนุญาตและไม่สงวนสิทธิ์สำหรับการทำแจกฟรี...
:b8: :b8: :b8:


คุณพูดไม่มีสัมมาวาจานะครับ ปฏิปทาของหลวงตามีอยู่ก็จริง
แต่คุณไม่ควรเอามาเป็นตัวอย่างในเรื่องนี้ มันจะทำให้คนอื่นเข้าใจ
ความหมายในธรรมเรื่องที่กำลังคุยผิดเพี้ยนครับ

เรื่องลิขสิทธิ์ที่คุณบอกว่า หลวงตาไม่อนุญาตให้คนอื่นทำ
มันเป็นเรื่องของศีลเรื่องของพระวินัยครับ ไม่เกี่ยวกับสัมมา

และที่คุณบอกว่า หลวงตาสอนสิ่งที่รู้แจ้งเห็นจริงตามมพระธรรม
ดังนั้นหลวงตาก็ไม่มีสิทธิ์จะไปอนุญาตหรือไม่อนุญาตใครในเรื่องลิขสิทธิ์
เพราะพระธรรมเป็นของสาธารณะ ยิ่งผู้สอนเป็นพระภิกษุยิ่งไม่มีสิทธิ์
มันผิดพระวินัยและทางโลกครับ

เรื่องนี้เฉพาะพระภิกษุนะครับ ถ้าเป็นฆราวาสก็ต้องพิจารณาอีกที

rolleyes
...ข้าพเจ้าน่ะนะคุณโฮฮับ...เคารพธรรมของพ่อแม่ครูบาอาจารย์ทางธรรมคนแรกของข้าพเจ้าด้วยชีวิต...
...ก็คือองค์พระหลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโณ...ข้าพเจ้าก็แค่ได้เคยฟังท่านเทศน์สดๆ...
...แล้วก็ในขณะที่ฟังนั้นก็ได้นั่งสมาธิไปด้วยจนจิตสงบรวมเป็นหนึ่งแล้วก็รูตัวว่าลมหายใจหายไปหมด...
...จึงหาญกล้าที่จะเป็นพยานยืนยันว่าธรรมที่องค์พระหลวงตาท่านแสดงเป็นธรรมแท้ของพระพุทธเจ้า...
...เพราะข้าพเจ้าได้ฟังจนกระทั่งได้รู้แจ้งเห็นตามธรรมที่หลวงตาทรงแสดงว่าความสงบจริงๆคืออะไร...

:b8:
...แล้วคุณโฮฮับรู้ไหมว่ากำลังประมาทธรรมของพระพุทธเจ้าเกี่ยวกับความเป็นปัจจัตตัง วิญญูหิอยู่...
...ถ้าคุณโฮฮับยังไม่เคยเจอสภาพธรรมที่กายกับจิตแยกกันว่าเป็นยังไงแบบที่ข้าพเจ้าเคยประสบมา...
...คุณโฮฮับก็ประมาทในความรู้ที่คนอื่นแสดงด้วยเจตนาบริสุทธิ์ใจ...รู้รึยังว่าข้าพเจ้ากำลังบอกอะไร...
...อยู่ๆคุณโฮฮับก็มาตีความสิ่งที่ข้าพเจ้าเขียนไปตามความคิดของตัวเองเอาเอง...บาปมากรู้เปล่า...
...คือถ้าสงสัยในสิ่งที่คนอื่นเค้าเขียนหรือแสดงความคิดเห็นเอาไว้น่ะ...ควรถามนะ...คุณโฮฮับ...
:b16:
...เอางี้แล้วกันนะ...ข้าพเจ้าขอบอกคุณโฮฮับเพื่อเอาบุญว่า...สัมมาอาชีโวกับสัมมากัมมันโต...
...ที่ข้าพเจ้าพยายามบอกเกี่ยวกับการให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวงขององค์หลวงตาคืออะไร...
...สัมมาอาชีโวก็คือการเป็นนักบวชที่ปฏิบัติตามคำสอนของพระพุทธเจ้าจนได้บรรลุอรหัตตผลแล้ว...
...แล้วการเป็นนักบวชที่ทำสัมมากัมมันตะเนี่ยก็คือวัดป่า กรรมฐานดำเนินตามรอยพระบาทพระพุทธเจ้า...
...แล้วการให้ธรรมเป็นทานชนะการให้ทั้งปวงคือความเมตตาที่องค์พระหลวงตามหาบัวแสดงธรรมทั้งหมด...
...ด้วยความเข้าใจและผ่านการปฏิบัติเป็นสัมมาครบตามอริยสัจจ์สี่และอริยมรรคมีองค์แปดแล้ว...
:b1:
...และองค์พระหลวงตามหาบัวท่านก็สำเร็จความเป็นพระอรหันต์มาก่อนที่จะมาตั้งวัดป่าบ้านตาด...
...แล้วก็ที่องค์พระหลวงตามหาบัวท่านได้แต่งเป็นหนังสือ อัดเทปตอนท่านเทศน์ ซีดี วีซีดีสารพัด...
...แล้วก็แจกฟรีมาตั้งแต่สร้างวัดป่าบ้านตาดมาแล้ว...คุณโฮฮับเคยได้ยินได้ฟังได้ดูบ้างรึเปล่าล่ะ...
...แล้วการที่อยากได้บุญก็คิดว่าพิมพ์หนังสือธรรมะแจกก็เป็นบุญแล้ว...นั่นน่ะเข้าใจเพี้ยนไปเพราะ...
...การพิมพ์หนังสือธรรมะแจกโดยไม่มีความรู้ในสิ่งที่พิมพ์เลยไม่ใช่การทำบุญด้วยปัญญาเลยล่ะนะ...
...ทั้งหมดที่ข้าพเจ้าได้อธิบายไปแล้วคุณโฮฮับก็อ่านหลายๆรอบให้เข้าใจ...ถ้าสงสัยก็ถามมาได้อีก...
:b12:
:b4: :b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ม.ค. 2012, 23:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


สวัสดีครับพี่โฮฮับ :b8:
เนื่องจากผมเห็นว่าพี่มีความเข้าใจที่ผิดในเรื่องพระธรรมและองค์หลวงตามหาบัว จากข้อความที่พี่กล่าวไว้ข้างล่างจึงอยากขออธิบายเพิ่มเติมจากพี่Rosarin
อ้างคำพูด:
และที่คุณบอกว่า หลวงตาสอนสิ่งที่รู้แจ้งเห็นจริงตามพระธรรม
ดังนั้นหลวงตาก็ไม่มีสิทธิ์จะไปอนุญาตหรือไม่อนุญาตใครในเรื่องลิขสิทธิ์
เพราะพระธรรมเป็นของสาธารณะ ยิ่งผู้สอนเป็นพระภิกษุยิ่งไม่มีสิทธิ์
มันผิดพระวินัยและทางโลกครับ

**พระธรรมนั้นมีหลายความหมายนะครับ...โดยเฉพาะในที่นี้นั้นหมายถึงธรรมที่ออกมาจากใจของหลวงตาที่ได้เมตตาแสดงอบรมสั่งสอนลูกศิษย์ของท่าน ธรรมอันนี้หลวงตาท่านไม่ได้ไปท่องจำหรือไปซื้อใครเขามาแต่เป็นธรรมที่ท่านรู้แจ้งจากการปฏิบัติจนบรรลุผลสำเร็จของท่านเอง ดังนั้นเมื่อลูกศิษย์ของท่านกราบอาราธนาขอนำเอาคำสั่งสอนของหลวงตาไปทำการบันทึกเป็นหนังสือ เทป ซีดี ดีวีดี หรือไฟล์ข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ เพื่อเก็บไว้เป็นอนุสรณ์ท่านก็เมตตาอนุญาต รวมไปถึงหากใครต้องการคัดลอกเก็บเอาไว้ส่วนตัวหรือทำเป็นหนังสือเพื่อนำไปแจกจ่ายเพื่อเป็นธรรมทาน ท่านก็เมตตาอนุญาตโดยมีข้อแม้ว่าถ้านำไปเพื่อเป็นการค้าหรือหวังเป็นกำไร ถ้าไม่ใช่เพื่อแจกเป็นทานแล้ว ท่านไม่อนุญาตเด็ดขาด เพราะธรรมนี้ท่านแสดงออกมาด้วยเมตตาล้วนๆไม่มีอามิสใดๆ
:b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48: :b48:
**ขอตอบพี่din เกี่ยวกับกระทู้นี้ด้วยนะครับ เริ่มที่สัมมากัมมันตะการกระทำชอบนั้นผมใช้ศีล 5 มาเป็นหลักในการดำเนินครับ คือการสำรวมการกระทำของตนไม่ให้ล่วงในอกุศลกรรมทางกาย 3 อย่างนี้ครับ คือ เว้นจากการฆ่าสัตว์เบียดเบียนสัตว์(ปาณาฯ) เว้นจากการลักทรัพย์ฉ้อโกง(อทินนาฯ) และเว้นจากการประพฤติผิดในกาม(กาเมฯ) อาจจะมีผู้อื่นไม่เห็นชอบด้วยกับผมในเรื่องนี้ แต่สิ่งนี้คือแนวทางปฏิบัติของผม เพราะผมสมาทานศีล 5 เพราะงั้นบาทแห่งมรรคของผมก็คือศีล 5 ครับ
**ส่วนสัมมาอาชีวะการประกอบอาชีพชอบนั้น ก็ใช้หลักเดียวกับที่กล่าวในข้างต้นคือ ยึดศีล 5 เป็นหลักในการดำเนินครับ แต่จะมีรวมเพิ่มไปถึงความซื่อสัตย์ ความยุติธรรม ไม่เอารัดเอาเปรียบเข้าไปไว้ด้วยครับ อาจจะมีผู้อื่นไม่เห็นชอบด้วยกับผมในเรื่องนี้ แต่สิ่งนี้คือแนวทางปฏิบัติของผม เพราะผมสมาทานศีล 5 เพราะงั้นบาทแห่งมรรคของผมก็คือศีล 5 ครับ
ขอบคุณครับ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 44 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 16 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร