ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ธรรม 3 สาย http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=40926 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 28 ม.ค. 2012, 23:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | ธรรม 3 สาย |
คือว่าอย่างนี้ครับ เท่าที่ผมเห็น ตอนนี้ สายปฎิบัติธรรมในประเทศเรา มีอยู่ 3 สาย คือ 1.สายที่มีฌานเป็นองค์ประกอบหลัก เช่น สายหลวงพ่อฤษีลิงดำ 2.สายปราชน์ เช่น ท่านพุทธทาส 3.สายที่มีทั้งปราชน์ และฌาน เช่น สายหลวงปู่มั่น ที่ได้ฟังมา นิพพาน ไม่เหมือนกัน เลยชวนให้คิดกัน ครับ ปัญหา ปัจจัตตัง อีกแล้วครับ เชื่อด้วยตนเอง (ปัจจัตตัง ) ดั่งคำพุทธองค์ได้สอนกล่าว ว่าจะเชื่อสิ่งใดเล่าต้องมองเห็น รับรู้ได้ที่ความน่าจะเป็น แล้วจะเห็นความจริงในตัวมัน อย่าเพิ่งเชื่อคำกล่าวอ้างที่ได้รับ หากรับมาแล้วจงไตร่คิดนึกเหตุผล ว่าสิ่งนั้นมีตัวตน หรือแค่คำคนโกหกมา มาลองเถิดลองปฏิบัติ แล้วจะทราบถึงเหตุผล จงลองทำด้วยตัวตน แล้วจะเห็นความจริงกระจ่างใจ ศีลพึงมีให้ปฏิบัติจะเห็นแจ่มชัดเมื่อเราสน แล้วจะรู้รับได้ในตัวตน ว่าเราเป็นคนดังเช่นไร ดั่งกระจกส่งตัวเองให้เห็นผิด ให้กลับตัวจากหลงผิดสัมฤทธิ์ผล ตัวเราก็จะเป็นคน มีศีลมีธรรมอยู่ในใจ อันคำว่า ปัจจัตตังที่กล่าวมา บางคนถามหาถึงความหมาย ว่าคำนี้นั้นเป็นดังเช่นไร เราขอใคร่ตอบทุกๆ คน คำว่า ปัจจัตตังนั้น คือการรู้ได้ด้วยตัวตน ว่าสิ่งที่เห็นเป็นเช่นไร ไร้ซึ่งขอกังขาในจิต ไม่มีซึ่งการคิดอกุศล เพราะเข้าใจได้ในตัวตน ตัวเราหายกังวนในหลักธรรม จึงหมั่นเร่งปฏิบัติ เร่งรัดสร้างกุศล เพราะเข้าใจในตัวตน เพราะทุกอย่างเป็นธรรมดา ลอกเขามาครับ ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 29 ม.ค. 2012, 00:27 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
![]() กวีธรรม...ข้างล่าง ยังงัยกับ....ธรรม 3 สาย...ข้างบน ![]() |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 29 ม.ค. 2012, 00:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
กบนอกกะลา เขียน: s006 กวีธรรม...ข้างล่าง ยังงัยกับ....ธรรม 3 สาย...ข้างบน ![]() คือ อีกด้านบอกนิพพาน เป็นดินแดนแห่งหนึ่ง อีกฝ่ายบอกว่า นิพพาน เป็นเหมือนอาการ ความรู้สึกอย่างหนึ่ง บ้างว่านิพพาน เป็น อัตตา บ้างว่าเป็นอนัตตา นะซิครับ สุดท้ายจึงต้องเห็นกันเอง ว่าใครจะไปถึงไหนกัน เริ่มที่ความอยาก แล้วจะจบที่ความปล่อยวาง มั้ยหนอ |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 29 ม.ค. 2012, 00:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
ด้านพระไตรปิฏกบอกว่าเป็นดินแดน และนิพพานเป็นอัตตาสำหรับพระอริยะ ไม่เป็นอัตตาสำหรับปุถุชนแม้ที่สุดโดยความฝัน อันนี้อ้างพระบาลีและอถรรถกถากรุณาอย่าเถียง ![]() ส่วนสายนักปราชญ์ลวงโลกที่เขาหลงยกย่องกัน เขาแปลผิดหน่ะอาจแกล้งแปลผิดเพื่อสนองทิฐิอนัตตาตกขอบของตนเขาก็ได้ |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 29 ม.ค. 2012, 01:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
หลับอยุ่ เขียน: ด้านพระไตรปิฏกบอกว่าเป็นดินแดน และนิพพานเป็นอัตตาสำหรับพระอริยะ ไม่เป็นอัตตาสำหรับปุถุชนแม้ที่สุดโดยความฝัน อันนี้อ้างพระบาลีและอถรรถกถากรุณาอย่าเถียง ![]() ส่วนสายนักปราชญ์ลวงโลกที่เขาหลงยกย่องกัน เขาแปลผิดหน่ะอาจแกล้งแปลผิดเพื่อสนองทิฐิอนัตตาตกขอบของตนเขาก็ได้ ไม่เถียงหรอกท่าน เพราะผมยังไม่เห็น ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 29 ม.ค. 2012, 01:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
http://www.dhammakaya.org/forum/index.p ... 275.5;wap2 |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 29 ม.ค. 2012, 01:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
ถ้ามีจักขุกรณีหน่ะได้เห้นแน่นอน ตอนนี้ทำยังไงให้มีปฐมฌานก่อนให้มีธรรมเอกผุดขึ้นก่อนให้มีดวงพุทโธดวงปฐมมรรคก่อนค่อยว่ากันแค่นี้ก้ยากแล้ว |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 29 ม.ค. 2012, 01:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
หลับอยุ่ เขียน: ด้านพระไตรปิฏกบอกว่าเป็นดินแดน และนิพพานเป็นอัตตาสำหรับพระอริยะ ไม่เป็นอัตตาสำหรับปุถุชนแม้ที่สุดโดยความฝัน อันนี้อ้างพระบาลีและอถรรถกถากรุณาอย่าเถียง ![]() ส่วนสายนักปราชญ์ลวงโลกที่เขาหลงยกย่องกัน เขาแปลผิดหน่ะอาจแกล้งแปลผิดเพื่อสนองทิฐิอนัตตาตกขอบของตนเขาก็ได้ คิดเล่นๆนะครับท่าน หรือจะเป็นอย่างนี้ ก็ที่ว่า เจโต กับ ปัญญา กระมั่งท่าน คือ ฝ่าย ปัญญา ยังไม่เห็นดินแดนนั้น เพราะไม่มี่ฌาน จึงอธิบายลงที่ จิต จบที่จิต แต่เมื่อ ท่านเหล่านี้นิพพานแล้ว ก็ไปสู่ดินแดนนิพพานที่ว่านั้น ได้มั้ยท่าน จะได้ไม่เสียทั้ง 2 ฝ่าย ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 29 ม.ค. 2012, 01:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
ฝึกจิต เขียน: คือ อีกด้านบอกนิพพาน เป็นดินแดนแห่งหนึ่ง อีกฝ่ายบอกว่า นิพพาน เป็นเหมือนอาการ ความรู้สึกอย่างหนึ่ง บ้างว่านิพพาน เป็น อัตตา บ้างว่าเป็นอนัตตา นะซิครับ สุดท้ายจึงต้องเห็นกันเอง ว่าใครจะไปถึงไหนกัน เริ่มที่ความอยาก แล้วจะจบที่ความปล่อยวาง มั้ยหนอ หุ...หุ...หุ... ![]() ![]() ต่อไปนี้...อาจารย์ไม่ได้สอน...แต่ลูกศิกษ์เสือกเอง...อิ...อิ..อิ ![]() พุทธะแบบ...ศรัทธาธิกะ...สาวกก็เป็นศรัทาธิกะเหมือนกัน...เวลานี้สอนศิกษ์แบบ...ทำภาพให้ปรากฎเลยเชียวแหละ... พุทธะแบบ...ปัญญาธิกะ...สาวกก็เป็นปัญญาธิกะเหมือนกัน...เวลาสอนสาวก....ก็สอนให้เห็นภาพด้วยปัญญา... ดังนั้น....ใครเห็นแบบไหนได้ง่าย...ก็สอนอย่างนั้น ใครเห็นได้...จะบอกว่าไม่ใช่ดินแดนได้อย่างไร ใครรู้สึกได้....จะไปบอกว่าเป็นดินแดนได้อย่างไร เรื่องยุ่ง ๆ ก็เมื่อมี....พุทธะแบบศรัทาธิกะ..มาลาพุทธภูมิในศาสนาพุทธะแบบปัญญาธิกะ...นี้แหละ เพราะ..ยังต้องทำหน้าที่พาเหล่าสาวกะที่ทำบุญด้วยกันมา....ไปนิพพาน...ท่านก็สอนศิกษ์ท่านสไตล์ศรัทธาธิกะ สาวกะแบบ...ปัญญาธิกะ....ก็เลย...เง็ง...พาลสงสัยว่าจะเป็นไปได้ยังงัย? เรื่องเดา ๆ ก็เป็นอย่างนี้แหละท่าน... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 29 ม.ค. 2012, 02:04 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
พวกปัญญาอ่อนเท่านั้นครับไม่ใช่ปัญญาอะไรหรอก ไม่เอาสมาธิ คิดเล่นๆก็ไม่ได้แล้วครับ พระไตรปิฏกบอกไว้แล้ว |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 29 ม.ค. 2012, 02:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
Quote Tipitaka: มัณฑุกเทพบุตร กราบทูลพระผู้มีพระภาคเจ้า ว่า
เย จ เต ทีฆมทฺธานํ ธมฺมํ อสฺโสสุ โคตม ปตฺตา เต อจลฏฺฐานํ ยตฺถ คนฺตฺวา น โสจเร. ขุ.วิมาน. ๒๖/๕๑/๙๐ แปลความว่า : ข้าแต่พระโคดม ก็ชนเหล่าใดได้ฟังธรรมของพระองค์สิ้นกาลนาน ชนเหล่านั้นพึงบรรลุ (พระนิพพาน) อันเป็น สถานที่ไม่หวั่นไหว ที่ไปแล้วไม่เศร้าโศก. |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 29 ม.ค. 2012, 08:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
หลับอยุ่ เขียน: พวกปัญญาอ่อนเท่านั้นครับไม่ใช่ปัญญาอะไรหรอก ไม่เอาสมาธิ คิดเล่นๆก็ไม่ได้แล้วครับ พระไตรปิฏกบอกไว้แล้ว คงไม่ใช่ครับท่าน คำสอนทางสายปราชน์ มีสมาธิ เป็นคำสอนหลักอยู่ในนั้นด้วยครับ ตามที่ผมฟังเทศ ของท่านพุทธทาสมานะครับ งั้นผมขอถามด้วยปัญญาอันโง่เขลา (หรืออ่อนด้วยกระมัง) ด้วยว่า ดินแดนนิพพานมีจริง 1.จะเห็นก่อนบรรลุอรหันต์ หรือ บรรลุอรหันต์แล้ว ถ้าตอบว่า ต้องได้ฌาน และบรรลุอรหันต์ งั้นแสดงว่า ฌานเป็นส่วนหลักในการ เข้าสู่แดนนิพพาน ใช่มั้ย 2.ในสมัยพุทธการบุคคลที่แค่ฟังธรรม ก้บรรลุ อรหันต์ นั้นมีอยู่มากโข ทุกท่านนั้น เห็นดินแดนนิพพาน กันแล้ว ทั้งนั้นหรือ แสดงว่าทุกท่านได้ปฎิบัติจนได้ฌาน4 แล้วหรือ 3.แล้วบทที่ว่าด้วย อย่าเชื่อ 10 ประการ (กาลามสูตร) นั้นใช้ไม่ได้กับ พระไตรปิฎก ใช้มั้ย 4.แสดงว่า กฎไตรลักษณ์ จะใช้ไม่ได้กับ ทุกสรรพสิ่งแล้วซิ /จะใช้ไม่ได้ใน ดินแดนนิพพาน ใช่มั้ย เอาแค่นี้ก่อน แล้วค่อยถาม ท่านผู้มีปัญญา ท่างหลาย อีกครั้่งครับ ขอบคุณครับ |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 29 ม.ค. 2012, 08:38 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 4 สาย |
ขอเปลี่ยนเป็นธรรม 4 สาย ได้มั้ยเนีย พอดีพึงนึกออกอีกสายนึง คือ สาย ปริยัติ ไม่มีตัวอย่างนะครับ แต่เป็นสายที่ท่องๆๆๆ แต่ไม่เคยปฏิบัติ หรือ ปฎิบัติไม่ถึง เลยจบแต่ทฤษฎี แล้วก็สอน ได้มั้ยเนี่ย |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 29 ม.ค. 2012, 09:06 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
ฝึกจิต เขียน: 4.แสดงว่า กฎไตรลักษณ์ จะใช้ไม่ได้กับ ทุกสรรพสิ่งแล้วซิ /จะใช้ไม่ได้ใน ดินแดนนิพพาน ใช่มั้ย เอาแค่นี้ก่อน แล้วค่อยถาม ท่านผู้มีปัญญา ท่างหลาย อีกครั้่งครับ ขอบคุณครับ สิ่งใดมีการเกิด....สิ่งนั้นย่อมมีสลายไปเป็นธรรมดา อาการของอนิจจัง...อาการของทุกขัง...มีขึ้นทันที...กับสิ่งที่เกิด สุดท้ายก็แตกสลายลงไป....อนัตตา นี้คือไตรลักษณ์.... เคยเรียนเรื่อง...อิเลคตรอน...ใช่มัยครับ เมื่อเราให้พลังงานเข้าไป...อิเลคตรอนจะกระโดดไปอยู่อีกระดับหนึ่ง.... พอหยุดเติมพลังงาน...อิเลคตรอนจะกลับมาที่เดิมพร้อมกับปลดปล่อยพลังานส่วนหนึ่งออกมา อิเลคตรอนมีคนให้พลังงาน..มีคนหยุดให้พลังงาน แล้วเราละ....มีอวิชชาให้พลังงาน...แล้วจะมีอะไรมาหยุดพลังงานที่ขับดันให้เราเกิดไม่มีหยุด..ได้ แค่นั้นแหละ... แค่กลับมาที่เดิม... ของเดิมที่ไม่ได้มีเกิด...ไม่มีพลังงานที่จะมากระตุ้นให้เกิดอีก ไม่มีอะไรเกิด..แล้วจะมีอะไรไปดับ ไตรลักษณ์...เป็นอาการของสิ่งที่มีเกิด ครับ... |
เจ้าของ: | ฝึกจิต [ 29 ม.ค. 2012, 09:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ธรรม 3 สาย |
กบนอกกะลา เขียน: ฝึกจิต เขียน: 4.แสดงว่า กฎไตรลักษณ์ จะใช้ไม่ได้กับ ทุกสรรพสิ่งแล้วซิ /จะใช้ไม่ได้ใน ดินแดนนิพพาน ใช่มั้ย เอาแค่นี้ก่อน แล้วค่อยถาม ท่านผู้มีปัญญา ท่างหลาย อีกครั้่งครับ ขอบคุณครับ สิ่งใดมีการเกิด....สิ่งนั้นย่อมมีสลายไปเป็นธรรมดา อาการของอนิจจัง...อาการของทุกขัง...มีขึ้นทันที...กับสิ่งที่เกิด สุดท้ายก็แตกสลายลงไป....อนัตตา นี้คือไตรลักษณ์.... เคยเรียนเรื่อง...อิเลคตรอน...ใช่มัยครับ เมื่อเราให้พลังงานเข้าไป...อิเลคตรอนจะกระโดดไปอยู่อีกระดับหนึ่ง.... พอหยุดเติมพลังงาน...อิเลคตรอนจะกลับมาที่เดิมพร้อมกับปลดปล่อยพลังานส่วนหนึ่งออกมา อิเลคตรอนมีคนให้พลังงาน..มีคนหยุดให้พลังงาน แล้วเราละ....มีอวิชชาให้พลังงาน...แล้วจะมีอะไรมาหยุดพลังงานที่ขับดันให้เราเกิดไม่มีหยุด..ได้ แค่นั้นแหละ... แค่กลับมาที่เดิม... ของเดิมที่ไม่ได้มีเกิด...ไม่มีพลังงานที่จะมากระตุ้นให้เกิดอีก ไม่มีอะไรเกิด..แล้วจะมีอะไรไปดับ ไตรลักษณ์...เป็นอาการของสิ่งที่มีเกิด ครับ... ว่าด้วยเรื่อง อิเลคตรอน นะครับ ตามที่เคยฟังมาจากท่านที่เคยทำงานที่ นาซ่า นะครับว่า จริงแล้ว อิเลคตรอน นั้น ตัวมันเอง มีการเกิด ดับ อยู่ตลอดเวลา เร็วมาก แต่จำไม่ได่วากี่ครั้ง ต่อ นาโนวินาที แล้ว และตัวมันเองนั้น เมื่อเกิด มันอยู่ในสภาวะที่ เฉยๆ ไม่ไหวติง จนเมื่อมีคนมาใช้เครื่องมือวัดมัน มันจึงเกิดพลังงาน ทำให้นาซ่าเข้าใจสิ่งที่พระพุทธเจ้าทรงแสดงว่า ทุกอย่างย่อมมีเกิด ดับ ครับ แล้วกฎนี้ใช้ได้ในแดนนิพพาน มั้ยละท่าน |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |