ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=41486 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | suttiyan [ 11 มี.ค. 2012, 09:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
มีความเห็นอย่างหลากหลายเกี่ยวกับการปฎิบัติ บ้างเห็นว่าต้องวิปัสสนาก่อน บ้างต้องสมถะก่อน บ้างไม่มีความรู้จึงคอยพิจารณาจากผู้ให้เหตุผล บ้างให้เหตุผลตามตามความชอบของตน สัมมาสมาธิเป็นมรรคองค์สุดท้าย ก่อนบรรลุมรรคผลนิพพาน สัมมาสมาธิจึงมีนัยยะสำคัญ โดยเน้นที่ความตั้งมั่นในการรู้ความจริงของกายและใจ และความตั้งมั่นนี้ต้องระดับปฐมฌาน ฃึ่งนิวรณ์ 5 ได้ระงับแล้ว แม้เข้าถึงสมาธิระดับนี้เพียง 1 วินาทีก็เพียงพอแล้ว ที่จะเป็นบาทของมรรคญาณ ปัญหามีอยู่ว่าทำไมจึงไม่สามารถตั้งมั่นในการรู้ความจริงของกายและใจได้อย่างต่อเนื่อง ขอความเห็นครับ ![]() |
เจ้าของ: | โกเมศวร์ [ 11 มี.ค. 2012, 12:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
เป็นคำถามที่ดีครับ ขอให้พิจารณาความเห็นต่อไปนี้ตามสมควร เราไม่ได้เห็น อยู่ตลอดเวลา เพราะมันเกิดดับๆ แต่เรารู้จักภาวะปกติ เมื่อมันผิดปกติไป เรารู้ เมื่อมันกลับสู่ภาวะปกติแล้ว เราก็รู้ ที่มาของความสามารถนี้เริ่มจาก ศรัทธาและพอใจ ที่จะฝึกฝนปฏิบัติ น้อมศีลเข้ามา สำรวมระวัง เจริญสติ ละอายเมื่อพลั้งเผลอ ไม่พักแต่ก็ไม่เพียรเพ่งเกินไป ค่อยๆสังเกตุไปๆ |
เจ้าของ: | asoka [ 13 มี.ค. 2012, 11:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
![]() มรรค 8 นั้นพระบรมศาสดาทรงเรียงลำดับไว้ถูกต้องตามธรรมดีแล้วคือ...ปัญญา.....ศีล.......สมาธิ....ผู้หวังความเป็นชาวพุทธแท้ย่อมต้องได้ศึกษาปริยัติศาสนาจนเกิดสุตตมยปัญญา จินตมยปัญญาเกิดสัมมาทิฏฐิโดยทางทฤษฎีขึ้นมาก่อนจนเมื่อได้ทำภาวนามยปัญญาพิสูจน์ธรรมเต็มที่แล้วจึงจะเกิดสัมมาทิฏฐิโดยภาคปฏิบัติ ปัญญาอบรมมาดีแล้วจึงไปอบรมศีลให้ดี ปัญญาดี ศีลดี สมาธิก็เกิดจนเป็นสัมมาสมาธิ แล้วเป็นเหตุนำไปสู่โสดาปัตติมรรค ดังนี้แล ![]() |
เจ้าของ: | suttiyan [ 13 มี.ค. 2012, 12:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
ขอขอบคุณในทุกความเห็น ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 13 มี.ค. 2012, 12:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
suttiyan เขียน: มีความเห็นอย่างหลากหลายเกี่ยวกับการปฎิบัติ บ้างเห็นว่าต้องวิปัสสนาก่อน บ้างต้องสมถะก่อน บ้างไม่มีความรู้จึงคอยพิจารณาจากผู้ให้เหตุผล บ้างให้เหตุผลตามตามความชอบของตน สัมมาสมาธิเป็นมรรคองค์สุดท้าย ก่อนบรรลุมรรคผลนิพพาน สัมมาสมาธิจึงมีนัยยะสำคัญ โดยเน้นที่ความตั้งมั่นในการรู้ความจริงของกายและใจ และความตั้งมั่นนี้ต้องระดับปฐมฌาน ฃึ่งนิวรณ์ 5 ได้ระงับแล้ว แม้เข้าถึงสมาธิระดับนี้เพียง 1 วินาทีก็เพียงพอแล้ว ที่จะเป็นบาทของมรรคญาณ ปัญหามีอยู่ว่าทำไมจึงไม่สามารถตั้งมั่นในการรู้ความจริงของกายและใจได้อย่างต่อเนื่อง ขอความเห็นครับ ![]() เพราะ กระแส..ปัจจัย ให้เป็นไป ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 13 มี.ค. 2012, 12:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
ปลาที่แข็งแรง ต้องมีกำลังในการว่ายทวนกระแส และ ทรงตัวได้ดีในสภาวะที่กำลังทวนกระแส ![]() |
เจ้าของ: | suttiyan [ 13 มี.ค. 2012, 12:43 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
คำว่า"กระแส"แทนสิ่งที่ปรากฎต่อจิตได้ดี กระแสธารที่กรากเชี่ยว ผู้ตกลงไปยังผุดขึ้นมาได้ แต่กระแสกิเลสยากยิ่งนัก สัตว์โลกจึงถูกจองจำ เมื่อไหร่หนอจะหลุดออกมาได้ หากยังขาดสัจจะความจริงใจต่อตนเอง ![]() |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 13 มี.ค. 2012, 12:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
suttiyan เขียน: เมื่อไหร่หนอจะหลุดออกมาได้ หากยังขาดสัจจะความจริงใจต่อตนเอง ![]() แม้ไม่ขาดสัจจะความจริงใจต่อตนเอง ก็ใช่ว่าจะหลุดได้ ![]() เมื่อภาระได้บรรลุแล้ว ได้วางแล้ว เมื่อธาตุที่มาประชุมนั้น เปลื้องภาระแล้ว.. ![]() |
เจ้าของ: | potikul [ 13 มี.ค. 2012, 13:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
กัลยาณมิตรซิ สำคัญสุด คนสมัยก่อน มีพระพุทธเจ้าเป็นกัลยาณมิตร และท่านทั้งหลายล่ะ มีกัลยาณมิตร กันหรือยัง ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 13 มี.ค. 2012, 14:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
มีแล้ว...ครับ.... ![]() ![]() |
เจ้าของ: | suttiyan [ 13 มี.ค. 2012, 21:56 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
ปลาที่แข็งแรง ต้องมีกำลังในการว่ายทวนกระแส และ ทรงตัวได้ดีในสภาวะที่กำลังทวนกระแส คือการมีสัมปชัญญะต่อเนื่อง จิตมีความเร็ว(ความถี่)สูงกว่าตัณหา รู้จักอินทรีย์ของตนว่าสิ่งใดเกิน สิ่งใดขาด รู้วิธีการปรับอินทรีย์ |
เจ้าของ: | หลับอยุ่ [ 16 มี.ค. 2012, 12:37 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ฌานเป็นบาทของมรรคญาณ |
เพราะอินทรีย์มันยังอ่อนเพราะนิวรณ์กิเลสอาสวะภวตัณหาวิภาวตัณหาอวิชชา,เพราะมาร! ตำรากล่าวไว้ว่าอาตาปีเพียรให้กลั่นกล้า ๆลๆ ไม่งั้นบรรลุกันง่ายๆไปหมดแล้ว |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |