วันเวลาปัจจุบัน 24 เม.ย. 2024, 06:03  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 19 มี.ค. 2012, 13:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว




ผลึกน้ำแข็ง.jpg
ผลึกน้ำแข็ง.jpg [ 7.27 KiB | เปิดดู 1884 ครั้ง ]
ดร. มาซารุ อิโมโต เป็นแพทย์แผนใหม่ชาวญี่ปุ่นทีได้ทำการวิจัยศีกษาเกี่ยวกับผลีกของน้ำ ได้ค้นพบว่าจิตของมนุษย์และสภาพแวดล้อมรอบตัวนั้นมีผลต่อการก่อตัวของผลึกน้ำและได้เขียนหนังสือจากงานวิจัยของเขาชื่อ Hidden Messages in Water และได้ตีพิมพ์ขายทั่วโลกได้มากกว่า สี่แสนเล่ม เขาได้ทำการพิสูจน์แล้วว่าความคิดและความรู้สีกของมนุษย์นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงโลกในสามมิติได้

เขาได้ใช้กล้องจุลทรรศน์ที่มีกำลังขยายสูงความไว้สูงถ่ายภาพในอุณหภูมิต่ำ ในช่วงที่ผลีกน้ำพึ่งก่อตัวใหม่ๆ ซี่งน้ำที่อยู่ในสภาพต่างกันจะก่อตัวเป็นผลึกไม่เหมือนกัน เขาได้พบว่าถ้าตัวอย่างน้ำที่เก็บมาจากสภาพแวดล้อมที่ต่างกัน เพี่อทำให้เย็นจะก่อตัวเป็นผลีกรูปร่างไม่เหมือนกัน โดยน้ำที่มาจากสถานที่ตามธรรมชาติจะก่อตัวเป็นผลีกที่สวยงามกว่าน้ำที่เก็บตัวอย่างใกล้ๆกับโรงงานอุตสาหกรรม ซี่งน้ำจากพี้นที่ที่มีมลภาวะเป็นพิษนั้นจะไม่ก่อตัวเป็นผลีกเลย

เสียงเพลงก็ยังมีอิทธิพลต่อผลีกของน้ำเช่นกัน เพลงทีมีความไพเราะก็จะก่อผลีกเป็นรูปร่างสวยงามไม่เหมือนกัน นอกจากนั้นแล้วเขาได้ทำการเปรียบเทียบผลีกของน้ำที่ก่อตัวโดยไม่ได้รับการอวยพร เทียบกับน้ำที่ได้รับการอวยพร พบว่า น้ำที่ได้รับการอวยพรนั้นจะมีผลีกสวยงาม เมื่อเทียบกับน้ำที่ไม่ได้รับการอวยพร โดยที่น้ำที่ไม่ได้รับการอวยพรไม่ก่อตัวเป็นผลึก

สุดท้ายถ้าตัวอักษรหรือคำพูดปิดไว้ที่ภาชนะใส่น้ำแล้วทำให้ก่อตัวเป็นผลีกขี้นของน้ำก็จะได้ผลีกรูปร่างที่ต่างกันออกไป โดยข้อความที่มีความไพเราะจะช่วยให้น้ำมีผลีกที่สวยงามมากกว่าข้อความที่เต็มไปด้วยความรุนแรง

จากการทดลองทั้งหมดพบว่าจิตของมนุษย์นั้นมีผลต่อการก่อตัวของผลีกน้ำ เนื่องจากการที่มนุษย์มีส่วนประกอบของน้ำมากกว่า 70 เปอร์เซนต์นั้นจะเห็นว่าจิตของมนุษย์นั้นนอกจากจะมีอิทธิพลต่อร่างกายตัวเองแล้วยังสามารถมีอิทธิพลต่อสภาพแวดล้อม และ คนที่อยู่รอบข้างด้วย ถ้าเราคิดในสิ่งที่ดีและทำความดีผู้ที่อยู่รอบข้างจะรู้สีกด้วยเช่นกัน และจะทำให้เราใช้ชีวิตอยู่ในโลกได้อย่างมีความสุข

นี่แสดงให้เห็นว่าวัตถุธาตุต่างๆสามารถรับพลังงานทางจิตได้ เพราะฉะนั้นทุกคนควรเมตตาซึ่งกันและกัน เพื่อโลกจะได้เป็นสุข
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 05:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ถ้าเรื่องนี้ เป็นจริง
แสดงว่า คาถาอาคม ไสยศาสตร์ มีจริง แล้วให้ผลจริง

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 20 มี.ค. 2012, 06:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรเลย...คุณโกวิท

แต่มันมีคนทำได้..กะ..คนหลอกลวง

ถึงทำได้..มันก็หนีกฎของกรรมไปไม่ได้

ถึงทำได้..มันก็หนีกฎไตรลักษณ์ไปไม่ได้

ถึงทำได้...มันก็ไม่พ้นจากโลก..พ้นจากทุกข์ไปได้...จึงเรียกเดรัจฉานวิชา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 22 มี.ค. 2012, 14:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ย. 2009, 13:38
โพสต์: 376

ชื่อเล่น: ต้น
อายุ: 0
ที่อยู่: นครสวรรค์

 ข้อมูลส่วนตัว


เบื้องต้นของการสร้างเมตตาคือ
พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๕ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๗ ขุททกนิกาย ขุททกปาฐะ-ธรรมบท-อุทาน-อิติวุตตกะ-สุตตนิบาต
อุทาน โสณเถรวรรคที่ ๕
๑. ราชสูตร

[๑๑๐] ข้าพเจ้าได้สดับมาแล้วอย่างนี้
สมัยหนึ่ง พระผู้มีพระภาคประทับอยู่ ณ พระวิหารเชตวันอารามของท่าน
อนาถบิณฑิกเศรษฐี ใกล้พระนครสาวัตถี ก็สมัยนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศล
ประทับอยู่บนปราสาทชั้นบน พร้อมด้วยพระนางมัลลิกาเทวี ลำดับนั้นแล
พระเจ้าปเสนทิโกศลตรัสถามพระนางมัลลิกาเทวีว่า ดูกรน้องมัลลิกา มีใครอื่น
บ้างไหมที่น้องรักยิ่งกว่าตน พระนางมัลลิกากราบทูลว่า พระพุทธเจ้าข้า หามี
ใครอื่นที่หม่อมฉันจะรักยิ่งกว่าตนไม่ ก็ทูลกระหม่อมเล่ามีใครอื่นที่รักยิ่งกว่า
พระองค์ เพคะ ฯ
ป. ดูกรน้องมัลลิกา แม้ฉันก็ไม่รักใครอื่นยิ่งกว่าตน ฯ
ลำดับนั้นแล พระเจ้าปเสนทิโกศลเสด็จลงจากปราสาทแล้ว เสด็จเข้า
ไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ทรงถวายบังคมแล้วประทับนั่งอยู่ ณ ที่ควร
ส่วนข้างหนึ่ง ครั้นแล้วได้กราบทูลพระผู้มีพระภาคว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ
หม่อมฉันอยู่บนปราสาทกับพระนางมัลลิกาเทวี ได้ถามพระนางมัลลิกาเทวีว่า
มีใครอื่นที่น้องรักยิ่งกว่าตน เมื่อหม่อมฉันถามอย่างนี้ พระนางมัลลิกาเทวีกล่าวว่า
พระพุทธเจ้าข้า หามีใครอื่นที่หม่อมฉันจะรักยิ่งกว่าตนไม่ ก็ทูลกระหม่อมเล่ามีใคร
อื่นที่รักยิ่งกว่าพระองค์ หม่อมฉันเมื่อถูกถามเข้าอย่างนี้ จึงได้ตอบพระนางมัลลิกา
ว่า แม้ฉันก็ไม่มีใครอื่นที่จะรักยิ่งกว่าตน ฯ
ลำดับนั้นแล พระผู้มีพระภาคทรงทราบเนื้อความนี้แล้ว ได้ทรงเปล่ง
อุทานนี้ในเวลานั้นว่า
ใครๆ ตรวจตราด้วยจิตทั่วทุกทิศแล้ว หาได้พบผู้เป็นที่รักยิ่ง
กว่าตนในที่ไหนๆ ไม่เลย สัตว์เหล่าอื่นก็รักตนมากเหมือน
กัน เพราะฉะนั้น ผู้รักตนจึงไม่ควรเบียดเบียนผู้อื่น ฯ

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... 856&Z=2880


ถ้าเรามีเมตตาแล้วพลังนี้จะแผ่ไปยังวัตถุต่างๆ เป็นการช่วยโลกได้.


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 4 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 76 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร