ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

สอบถามหน่อยครับ พอดีฝันประหลาดๆ และไม่ค่อยรู้จักพระอาจารย์
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=41642
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  Nothing [ 01 เม.ย. 2012, 20:03 ]
หัวข้อกระทู้:  สอบถามหน่อยครับ พอดีฝันประหลาดๆ และไม่ค่อยรู้จักพระอาจารย์

ในฝันบอกว่า พระม่วง วัดระฆังโฆษิตาราม ท่านจะมาหา ตื่นมาตอนรุ่งเช้าเลยครับ
วันนั้นกำลังจะไปเยี่ยมอาม่าที่โรงพยาบาล อาม่าบอกไม่ไหวแล้ว ผมถึงกับต้องจับมืออาม่าบอกให้สู้
แล้วอยู่ๆ หัวใจก็เต้นเป็นปกติครับ

มีพระอาจารย์ชื่อนี้จริงๆ หรือเปล่าครับ หรือไม่มี

ขอบคุณครับ

เจ้าของ:  nongkong [ 01 เม.ย. 2012, 21:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามหน่อยครับ พอดีฝันประหลาดๆ และไม่ค่อยรู้จักพระอาจาร

รู้จักแต่ วัดม่วง สมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พฺรหฺมรํสี) ที่อยู่ จ.อ่างทอง เคยไปครั้งหนึ่งกับญาติ อาจจะเป็นนิมิตดีก็ได้นะเจ้าค่ะ ลองไปกราบและขอพรท่านดูสิเจ้าค่ะ (เป็นความเชื่อ เห็นเค้าเล่ากันว่า สามารถอธิษฐานขอพรได้หนึ่งอย่าง) tongue

เจ้าของ:  Nothing [ 14 เม.ย. 2012, 17:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามหน่อยครับ พอดีฝันประหลาดๆ และไม่ค่อยรู้จักพระอาจาร

ขอบพระคุณครับ

เจ้าของ:  student [ 15 เม.ย. 2012, 02:54 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: สอบถามหน่อยครับ พอดีฝันประหลาดๆ และไม่ค่อยรู้จักพระอาจาร

ผมเข้า google มาครับลองอ่านประวัติดู

“พระพุทธรูปที่ใหญ่ที่สุดในโลก!” วัดม่วง อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง
?
“พระพุทธมหานวมินทรศากยมุนีศรีวิเศษชัยชาญ” พระพุทธรูปปูนปั้นปางมารวิชัย ประดิษฐานอยู่ที่วัดม่วง ต.หัวตะพาน อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ซึ่งถือว่าเป็นพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุดในโลก

หน้าตักกว้างถึง ๖๗ เมตร (เข่าซ้ายถึงเข่าขวา) และสูงถึง ๙๒ เมตร (มีขนาดหน้าตัก ๑ ไร่ ๙ วา สูงเท่าตึกประมาณ ๓๕ ชั้น) สร้างนานถึง ๒๕ปีเต็ม เพื่อถวายเป็นพุทธบูชาแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว องค์อุปถัมภ์พุทธศาสนา

นอกจากนี้ยังมีจุดอื่นๆที่น่าสนใจอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอุโบสถล้อมรอบด้วยกำแพงกลีบบัว ซึ่งใหญ่ที่สุดในโลก และวิหารกระจก ภายในมีรูปปั้นพระเกจิอาจารย์ชื่อดังทั่วประเทศ รวมทั้ง แดนเทพเจ้า แดนนรก แดนสวรรค์ และมีรูปปั้นแสดงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์เกี่ยวกับสงครามไทย-พม่าอยู่ด้วยวัดม่วงเจริญธรรมตั้งอยู่ริมถนนสายวิเศษชัยชาญ-สุพรรณบุรีห่างจากตัวจังหวัดประมาณ ๕ กิโลเมตร

เดิมเป็นวัดร้าง ซึ่งต่อมามีพระธุดงค์มาพัก นำศรัทธาความเลื่อมใสให้เกิดขึ้น จนสามารถพัฒนาให้เจริญงดงามได้อย่างน่ายกย่อง มีการสันนิษฐานว่า วัดแห่งนี้สร้างขึ้นในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น ประมาณปี พ.ศ.๒๓๖๕ โดยแต่เดิมมีต้นมะม่วงอยู่มาก จึงเรียกว่า “วัดม่วง”

พระปลัดวินัยจ้าอาวาสวัดม่วง เล่าว่า เดิมทีวัดแห่งนี้เป็นวัดร้างมาตั้งแต่กรุงศรีอยุธยาเจริญรุ่งเรือง จากนั้นก็โดนพม่าเผาทำลายเหมือนวัดอื่นใน จ.พระนครศรีอยุธยา จึงถูกปล่อยร้างเรื่อยมา

จนกระทั่ง หลวงพ่อเกษม อาจารสุโภ อดีตเจ้าอาวาส ธุดงค์มาปักกลดอยู่ที่วัดแห่งนี้ เมื่อวันที่ ๘ ธันวาคม ๒๕๒๕ ขณะนั้นมีพระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์อยู่เพียงองค์เดียวคือ หลวงปู่ขาว ซึ่งตั้งอยู่บนเนินดินเล็กๆ (ปัจจุบันนี้ตั้งอยู่ในวิหารแก้ว)

เดิมวัดแห่งนี้มีพื้นที่เพียง๗ ไร่ ๓๐ ตารางวาเท่านั้น ด้วยแรงศรัทธาของญาติโยม ประกอบกับการเป็นพระนักพัฒนาของ หลวงพ่อเกษม โดยเริ่มสร้างเมื่อปี พ.ศ.๒๕๒๖ จากนั้นปี พ.ศ.๒๕๒๙ ได้วางศิลาฤกษ์ก่อสร้างอุโบสถ ระหว่างนี้มีการก่อสร้างสิ่งต่างๆ ในวัดมากมาย เช่น ดินแดนแห่งเทพเจ้า แดนนรก แดนสวรรค์ เป็นต้น

ส่วนวิหารแก้วนั้น สร้างเสร็จเมื่อปี พ.ศ.๒๕๓๙ นอกจากนี้ หลวงพ่อเกษม ยังซื้อที่ดินเพิ่ม ขยายอาณาเขตออกไปรวมเป็นที่ดินวัด ๖๘ ไร่

แนวความคิดในการสร้างวัดของหลวงพ่อเกษมคือ วัดทั่วไปส่วนใหญ่มีแต่เขตสังฆาวาสเท่านั้น (ที่อยู่ของพระสงฆ์) ส่วนเขตพุทธาวาสไม่ค่อยมี เช่น แดนประสูติ ตรัสรู้ และปรินิพพาน ของพระพุทธเจ้า รวมทั้งแดนนรกสวรรค์ ดังนั้นท่านจึงสร้างเขตพุทธาวาสขึ้นมา เมื่อญาติโยมเข้ามาไหว้พระที่วัดโดยทั่วไป จะมีพระสงฆ์คอยชี้ทางธรรม
แต่ ที่วัดแห่งนี้ไม่ต้องบอก เพราะสามารถเรียนรู้ธรรมจากการเข้าไปชมแดนพุทธาวาส

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/