ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=41656
หน้า 1 จากทั้งหมด 13

เจ้าของ:  คนบนเขา [ 03 เม.ย. 2012, 15:14 ]
หัวข้อกระทู้:  ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

ผมกำลังศึกษาธรรมะยังไม่รู้อะไร ได้เคยได้ยินมาบ้างกับคำว่าพระไตรปิฏกและพอรู้งูๆปลาๆ แต่พอมาอ่านเจอข้อความข้างล่างนี้ผมไม่เข้าใจเลย ท่านผู้รู้ได้โปรดอธิบายให้ผมด้วย กราบขอบพระคุณครับ

"ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์ "

เจ้าของ:  พุทธคุณ [ 03 เม.ย. 2012, 17:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

คนบนเขา เขียน:
ผมกำลังศึกษาธรรมะยังไม่รู้อะไร ได้เคยได้ยินมาบ้างกับคำว่าพระไตรปิฏกและพอรู้งูๆปลาๆ แต่พอมาอ่านเจอข้อความข้างล่างนี้ผมไม่เข้าใจเลย ท่านผู้รู้ได้โปรดอธิบายให้ผมด้วย กราบขอบพระคุณครับ

"ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์ "


ก็ประมาณว่า หาคุณศึกษาพระไตรปิฎก แล้วเชื่อพระไตรปิฎกมากๆ ยึดติดกับพระไตรปิฎกยิ่งมากก็ยิ่งรู้แจ้งหรือเลิกงมงาย

เป็นคำที่คัดค้านคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่องของกาลามสูตร ในข้อ"มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก หรือ ตำรา"
...............................................
อ่านเรื่องหลักความเชื่อ 10 ได้ที่นี่
http://www.buddhadasa.com/rightstudydham/kalamasuta.html

เจ้าของ:  อยู่กับความมืด [ 03 เม.ย. 2012, 18:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

คนบนเขา เขียน:
ผมกำลังศึกษาธรรมะยังไม่รู้อะไร ได้เคยได้ยินมาบ้างกับคำว่าพระไตรปิฏกและพอรู้งูๆปลาๆ แต่พอมาอ่านเจอข้อความข้างล่างนี้ผมไม่เข้าใจเลย ท่านผู้รู้ได้โปรดอธิบายให้ผมด้วย กราบขอบพระคุณครับ

"ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์ "


ที่จริงไม่น่าพูดเลยนะว่าพระไตรปิฏกมีส่วนถูกส่วนผิดเท่าไหร่ เพราะเดียวจะมีคนมาต่อต้านว่าพระไตรปิฏกไม่ใช่คำสอนของพุทธเจ้า เพราะไม่ได้ศึกษา เพียงแต่ไปอ่านหนังสือของอาจารย์บางรูปแล้วก็สรุปตามนั้น โดยไม่ศึกษาให้ละเอียดก่อน ที่นี้อันดับแรกเลยต้องดูว่าพระไตรปิฏกคืออะไรมีความเป็นมาอย่างไรพระไตรปิฏกถือว่าเป็นคำสอนชั้นต้นสุดคือเป็นคัมภีร์ที่บันทึกคำสอนจากพระโอฐของพุทธเจ้าหรือเรียกว่าบาลี ส่วนพระไตรปิฏกของไทยที่ใช้อยู่ทุกวันนี้เป็นฉบับที่แปลมาจากภาษาบาลี วิธีการแปลพระไตรปิฏกจากภาษาบาลีสู่ภาษาไทยนี้แหละเรียกว่าอรรถกถาจารย์ อรรถกถาจารย์คือผู้อธิบายความในพระไตรปิฏกในส่วนของเนื้อหาที่เข้าใจได้อยากเพราะพระไตรปิฏกฉบับดั่งเดิมเป็นภาษาบาลีที่นี้คนที่จะมาศึกษาก็เข้าใจได้อยากอรรถกาจารย์ก็มาอธิบายให้เกิดความเข้าใจได้ง่ายขึ้น ด้วยเหตุนี้ถ้าพระไตรปิฏกจะมีความคลาสเคลื่นบ้างก็ช่วงที่อรรถกาจารย์อธิบายนี้แหละ และอย่าลืมว่าอรรถกาฉบับดั่งเดิมจริงได้สูญหายไปตั่งแต่สมัยหลังพระเจ้าอโศกมหาราช เหลือแต่ฉบับที่เป็นภาษาสิงหลที่พระเถระในสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชนำไปเผยแพร่ในเกะลังกา ดังนั้นปีพ.ศ.946พุทธโฆษาจารย์ได้ไปเกะลังกาเพื่อแปลอรรกถาภาษาสิงหลกลับสู้ภาษาบาลีอีกครั้ง และทุกครั้งที่อรรถกถาอธิบายจะมีการใส่วัฒนธรรมประเพณี ของท้องถิ่นเข้าไปด้วย ดั่งนั้นถ้าพระไตรปิฏกจะมีความคลาสเคลื่อนบ้างก็เป็นเรื่องธรรมดา แต่มีก็เฉพราะส่วนเนื้อหาที่ไม่สำคัญเท่าไหร่ เช่น เรื่องบางเรื่องอรรถกถาจะอธิบายละเอียดมาก โดยเพราะต้นเหตุของการบัญญัติพระวินัยแต่ละข้อ ที่นี้อาจารย์บางรูปท่านอาจจะมองว่าอธิบายละเอียดเกินไปเลยบอกว่าพระไตรปิฏกมีส่วนถูกแค่นี้ เท่านี้ ส่วนที่เหลือเป็นความคิดของอรรถกถาจารย์เองอะไรประมาณนี้ แต่ในส่วนเป็นที่แก่นของธรรมจริงๆก็ยังคงไว้เหมือนเดิม บางคนนะทำเป็นมาอวดเก่งต่อต้านอรรถกาบอกว่าอรรถกาไม่ใช่คำสอนของพุทธเจ้าทั้งๆที่ตัวเองก็ไปเอาความรู้มาจากอรรถกา :b9:

เจ้าของ:  อยู่กับความมืด [ 03 เม.ย. 2012, 18:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

พุทธคุณ เขียน:
คนบนเขา เขียน:
ผมกำลังศึกษาธรรมะยังไม่รู้อะไร ได้เคยได้ยินมาบ้างกับคำว่าพระไตรปิฏกและพอรู้งูๆปลาๆ แต่พอมาอ่านเจอข้อความข้างล่างนี้ผมไม่เข้าใจเลย ท่านผู้รู้ได้โปรดอธิบายให้ผมด้วย กราบขอบพระคุณครับ

"ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์ "


ก็ประมาณว่า หาคุณศึกษาพระไตรปิฎก แล้วเชื่อพระไตรปิฎกมากๆ ยึดติดกับพระไตรปิฎกยิ่งมากก็ยิ่งรู้แจ้งหรือเลิกงมงาย

เป็นคำที่คัดค้านคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่องของกาลามสูตร ในข้อ"มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก หรือ ตำรา"
...............................................
อ่านเรื่องหลักความเชื่อ 10 ได้ที่นี่
http://www.buddhadasa.com/rightstudydham/kalamasuta.html



แปลกนะเวลาอ่านพระไตรปิฏกแล้วใช้หลักการามาสูตรพิจารณาแล้วเกิดความสงสัยบอกว่าเป้นมิจฉาทิฐิแต่เวลาอ่านแล้วเชื่อนำไปปฏิบัติบอกคนนี้เขางมงาย...... สรุปคือการามาสูตรนี้มีหลักว่าไม่ให้เชื่อเลยแต่แรกพบแต่ก็ห้ามสงสัยใช่ม่ะ....:b10:.... :b9: หรือต้องรอหลังแต่งงานก่อนแล้วค่อยปักใจเชื่อว่าเทอกับฉันจะอยู่ด้วยกันตลอดไป//.... :b9: :b9: :b13: :b13:

เจ้าของ:  พุทธคุณ [ 03 เม.ย. 2012, 19:25 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

อยู่กับความมืด เขียน:
พุทธคุณ เขียน:
คนบนเขา เขียน:
ผมกำลังศึกษาธรรมะยังไม่รู้อะไร ได้เคยได้ยินมาบ้างกับคำว่าพระไตรปิฏกและพอรู้งูๆปลาๆ แต่พอมาอ่านเจอข้อความข้างล่างนี้ผมไม่เข้าใจเลย ท่านผู้รู้ได้โปรดอธิบายให้ผมด้วย กราบขอบพระคุณครับ

"ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์ "


ก็ประมาณว่า หาคุณศึกษาพระไตรปิฎก แล้วเชื่อพระไตรปิฎกมากๆ ยึดติดกับพระไตรปิฎกยิ่งมากก็ยิ่งรู้แจ้งหรือเลิกงมงาย

เป็นคำที่คัดค้านคำสอนของพระพุทธเจ้า ในเรื่องของกาลามสูตร ในข้อ"มา ปิฎกสัมฺปทาเนน อย่าเชื่อโดยอ้างปิฎก หรือ ตำรา"
...............................................
อ่านเรื่องหลักความเชื่อ 10 ได้ที่นี่
http://www.buddhadasa.com/rightstudydham/kalamasuta.html



แปลกนะเวลาอ่านพระไตรปิฏกแล้วใช้หลักการามาสูตรพิจารณาแล้วเกิดความสงสัยบอกว่าเป้นมิจฉาทิฐิแต่เวลาอ่านแล้วเชื่อนำไปปฏิบัติบอกคนนี้เขางมงาย...... สรุปคือการามาสูตรนี้มีหลักว่าไม่ให้เชื่อเลยแต่แรกพบแต่ก็ห้ามสงสัยใช่ม่ะ....:b10:.... :b9: หรือต้องรอหลังแต่งงานก่อนแล้วค่อยปักใจเชื่อว่าเทอกับฉันจะอยู่ด้วยกันตลอดไป//.... :b9: :b9: :b13: :b13:


คุณมืดถามผมเหรอครับ ผมก็ไม่รู้จะอธิบายให้คุณมืดเข้าใจยังไงนะครับ ผมบอกตรงๆนะครับ
สำหรับคุณมืดแล้ว ผมยอมรับว่าผมหมดปัญญาอธิบายจริงๆครับ อาจจะเป็นเพราะผมโง่เกินไป
มั้งครับ ผมขออนุญาติสนทนากับคนที่มีสติปัญญาอยู่ในระดับเดียวกันกับผมหรือคนที่เข้าใจใน
สิ่งที่ผมพูดและไม่ยียวนไปมาดีกว่านะครับ

สำหรับสิ่งที่คุณมืดว่าแปลก หากข้องใจและอยากได้รับความกระจ่าง ก็ลองไปถามกับพระพุทธ
เจ้าผู้ให้กำเนิดธรรมมะเอาเองนะครับ เพราะผมยอมรับว่าตัวผมเองโง่เกินกว่าจะอธิบายให้คุณมืด
เข้าใจได้และมีความสามารถไม่ถึงระดับนั้นครับ

ขอตัวนะครับ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 03 เม.ย. 2012, 19:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

อยู่กับความมืด เขียน:


บางคนนะทำเป็นมาอวดเก่งต่อต้านอรรถกถา บอกว่าอรรถกถาไม่ใช่คำสอนของพุทธเจ้าทั้งๆที่ตัวเองก็ไปเอาความรู้มาจากอรรถกถา



บางคนนะทำเป็นมาอวดเก่งต่อต้านอรรถกถา บอกว่าอรรถกถาไม่ใช่คำสอนของพุทธเจ้าทั้งๆที่ตัวเองก็ไปเอาความรู้มาจากอรรถกถา


เห็นด้วยๆขอรับ หนับหนุนๆ พูดได้ตรงประเด็น :b32:

ยังงี้น่าจะไปช่วย...ออกแบบประเทศไทย :b15:

เจ้าของ:  อยู่กับความมืด [ 03 เม.ย. 2012, 20:28 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

ที่ผมตอบไปแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจในหลัการามาสูตร แต่เป็นเพราะผมรู้สึกงุดงิดต่างหาก เมื่อเกิดอาการแบบนี้แล้วสิ่งที่ตามมาคืออะไรต่อต้านอย่างไงละ หลักธรรมในพุทธศาสนาในระดับทั่วไปถือว่าเป็นตรรกที่ง่ายมาก มนุษย์ทุกคนรู้โดยสัญชาตญาณ โดยไม่ต้องศึกษา เพราะมนุษย์รู้อยู่ว่าถ้าอยากเป็นคนดีต้องปฏิบัติอย่างไง เพียงแค่ว่าพุทธศาสนาไปเอามาแล้วก็บัญญัติว่าเป็นคำสอนของพุทธศาสนาเท่านั่น ผมเองก็รู้สึกเฉยๆกับหลักธรรมเหล่านี้นะแต่ดูเหมื่อนว่าชาวพุทธหลายคนทำเป็นอย่างกับว่าคำสอนเหล่านี้มันวิเศษเหลือนเกินเอามาพูดแล้วพูดอีกพูดจนคนที่เขารู้ตั่งแต่เกิดทนไม่ได้จนเกิดการต่อต้าน จะขอยกตัวอย่างเช่น หลักสาธารณียธรรม7ประการ เราเอามาพูดชะอย่างดีเลย ว่าการจะทำให้บ้านสงบสุขเป้นไปเพื่อความเจริญต้องทำอย่างนั้นอย่างนี้ แต่เอาเข้าจริงเป้นไงละ ประเทศไทยเคยมีความสามัคคีไหม มีใครอาสามาปกป้องพระสงฆ์องค์เจ้าไหม พวกส.ส มันเคยประชุมพร้อมเพียงกันไหม แล้วที่นี้หันไปดูประเทศที่เขาไม่มีการสอนหลักสาธารณียธรรม แต่ทำไมประเทศเขาถึงมีความสามัคคี ไม่แตกแยกละ ถ้าจะแตกแยกก็พวกนับถือต่างศาสนาหรือต่างนิกาย ก็เพราะว่าหลักสาธารณียธรรมเป็นสิ่งที่ใครๆก็รู้ไม่จำเป็นต้องมาพูดอวดใครหรอ เคยมีนะมีฝรั่งมาถามพระนักเทศที่ชอบออกทีวีบ่อยๆอ่ะคงรู้นะว่าใคร ฝรั่งเขาถามว่าชาติหน้ามีจริงไหม ตอนแรกนะพระรุปนี้ก็อธิบายมาเรื่อยฝรั่งก็ยังสงสัยอยู่จนสุท้ายพระรูปนี้บอกฝรั่งว่าถ้ายูอยากรู้ว่าชาติหน้ามีจริงไหมก็ให้ไปตายดู ใหนบอกว่าพุทธศาสนามีเหตุผลทำไม่ได้รับคำตอบแบบนี้ละ

คือถ้าเป้นอย่างในประเทศภูฏานผมจะรู้สึกภาคภูมิใจมากที่คำสอนของพุทธเจ้าเข้าไปอยู่จิตใจของประชาขนโดยที่ว่าคนภูฏานไม่จำเป็นต้องเอาหลักธรรมเหล่านั้นมาพูดอวดใคร แต่คนรู้หลักธรรมเหล่านั้นจากการประพฤติปฏิบัติของคนชาวภูฏานต่างหากละ..... :b6: :b6:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 03 เม.ย. 2012, 21:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

อยู่กับความมืด เขียน:
แปลกนะเวลาอ่านพระไตรปิฏกแล้วใช้หลักการามาสูตรพิจารณาแล้วเกิดความสงสัยบอกว่าเป้นมิจฉาทิฐิ


อยู่กับความมืด เขียน:
ที่ผมตอบไปแบบนี้ไม่ใช่ว่าผมไม่เข้าใจในหลัการามาสูตร แต่เป็นเพราะผมรู้สึกงุดงิดต่างหาก
..... :b6: :b6:


น่ารำคาญ.....ฆราวาสเขียนผิดหรือเล่นคำ...จะไม่ว่าสักนิดเลย s004 s004

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 03 เม.ย. 2012, 21:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

อยู่กับความมืด เขียน:
หลักธรรมในพุทธศาสนาในระดับทั่วไปถือว่าเป็นตรรกที่ง่ายมาก มนุษย์ทุกคนรู้โดยสัญชาตญาณ โดยไม่ต้องศึกษา เพราะมนุษย์รู้อยู่ว่าถ้าอยากเป็นคนดีต้องปฏิบัติอย่างไง เพียงแค่ว่าพุทธศาสนาไปเอามาแล้วก็บัญญัติว่าเป็นคำสอนของพุทธศาสนาเท่านั่น ..... :b6: :b6:

ธรรม....มันก็มีธรรมอยู่ในโลก...กับธรรมเพื่อออกจากโลก

มันมีของมัน...

ไม่มีใครไปเอามาเป็นเจ้าของหรอก...แค่บอกว่ามันมีอย่างนั้น...มันเป็นอย่างนี้..ก็แค่นั้น

โรงเรียนธรรมะเขาสอนพระกันมาอย่างนี้หรอ?

เจ้าของ:  ลูกพระป่า [ 03 เม.ย. 2012, 21:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

หลักกาลามสูตรนั้นพระพุทธเจ้าท่านแสดงไว้เป็นอุบายธรรม เพื่อเป็นหลักสะกิดใจ เพราะว่าความเชื่อนั้นหาใช่ความรู้ไม่...ท่านจึงว่า อย่าเชื่อ...ท่านให้พิสูจน์ด้วยตัวเองให้เกิดความรู้อันเป็นปัตจัตตัง.....ที่ว่าอย่าเชื่อหรืออย่าเพิ่งเชื่อนั้น ไม่ได้หมายความว่าให้เราปฏิเสธสิ่งนั้นไปเสีย โดยไม่ใช้ปัญญาพิจารณาตามดูก่อน ไม่ลองปฏิบัติตามดูก่อน เมื่อเราพิจารณาตามปฏิบัติตามดูจนเป็นที่แน่แก่ใจแล้ว จริงไม่จริงยังไงอันนั้นแหละที่เป็นความรู้อันเป็นปัตจัตตังของเราครับ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 03 เม.ย. 2012, 21:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

หลักกาลามสูตร....ต้องไปดูที่ต้นกำเนิดว่าท่านสอนใคร...คนเหล่านั้นมีพื้นเพยังงัย

มีแต่คนบอกว่า...หลักกาลามสูตร...สอนคนว่าอย่าเชื่อเพราะอย่างนั้นเพราะอย่างนี้

ผมกลับคิดว่า..ท่านสอนคนให้เชื่ออย่างมีเหตุผลมากกว่า...อย่างมงาย

แค่...มีเหตุมีผล...มันก็ไม่งมงายแล้ว...

แต่...จะใช่สิ่งที่ถูกที่สุดหรือไม่นั้น...ยังตอบไม่ได้...จะรู้ได้ก็ตอนที่คนนั้นสิ้นกิเลสไปแล้ว...เท่านั้น

อาจจะเรียกว่า...ถูกต้องตามขั้นตามภูมิของขณะนั้น. ๆ มากกว่า..

เจ้าของ:  อยู่กับความมืด [ 03 เม.ย. 2012, 21:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

กบนอกกะลา เขียน:
อยู่กับความมืด เขียน:
หลักธรรมในพุทธศาสนาในระดับทั่วไปถือว่าเป็นตรรกที่ง่ายมาก มนุษย์ทุกคนรู้โดยสัญชาตญาณ โดยไม่ต้องศึกษา เพราะมนุษย์รู้อยู่ว่าถ้าอยากเป็นคนดีต้องปฏิบัติอย่างไง เพียงแค่ว่าพุทธศาสนาไปเอามาแล้วก็บัญญัติว่าเป็นคำสอนของพุทธศาสนาเท่านั่น ..... :b6: :b6:

ธรรม....มันก็มีธรรมอยู่ในโลก...กับธรรมเพื่อออกจากโลก

มันมีของมัน...

ไม่มีใครไปเอามาเป็นเจ้าของหรอก...แค่บอกว่ามันมีอย่างนั้น...มันเป็นอย่างนี้..ก็แค่นั้น

โรงเรียนธรรมะเขาสอนพระกันมาอย่างนี้หรอ?


ก็บอกแล้วไงว่่า มนุษย์ทุกคนรู้โดยสัญชาตญาณ ไม่ต้องศึกษา แต่พุทธศาสนาไปค้นพบแล้วบัญญัติ นำมาสอนแต่ไม่ได้บอกว่าธรรมนั้นเป้นมีพุทธเป็นเจ้า เพราะถ้าไม่มีพุทธศาสนาในโลก มนุษย์ก็รู้จัก การแก่ การเจ็บ การตาย เหมือนกัน และก็รู้ด้วยว่าการขโมยของคนอื่นมันไม่ดีนะ :b6:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 03 เม.ย. 2012, 21:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

อ้างคำพูด:
เพียงแค่ว่าพุทธศาสนาไปเอามาแล้วก็บัญญัติว่าเป็นคำสอนของพุทธศาสนาเท่านั่น


อยู่กับความมืด เขียน:
ก็บอกแล้วไงว่่า มนุษย์ทุกคนรู้โดยสัญชาตญาณ ไม่ต้องศึกษา แต่พุทธศาสนาไปค้นพบแล้วบัญญัติ นำมาสอนแต่ไม่ได้บอกว่าธรรมนั้นเป้นมีพุทธเป็นเจ้า เพราะถ้าไม่มีพุทธศาสนาในโลก มนุษย์ก็รู้จัก การแก่ การเจ็บ การตาย เหมือนกัน และก็รู้ด้วยว่าการขโมยของคนอื่นมันไม่ดีนะ :b6:


ใครว่า 2 ประโยคนี้...เหมือนกัน....

ยกมือขึ้น...
:b12: :b12: :b12:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 03 เม.ย. 2012, 21:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

อยู่กับความมืด เขียน:

เพราะถ้าไม่มีพุทธศาสนาในโลก มนุษย์ก็รู้จัก การแก่ การเจ็บ การตาย เหมือนกัน และก็รู้ด้วยว่าการขโมยของคนอื่นมันไม่ดีนะ :b6:


เห็น...ก็เห็นอยู่

รู้...ก็รู้อยู่

แต่ไม่คิดจะมาพิจารณาเป็นปัญญา..
.


เคยเห็นคำนี้มั้ย....

ไม่ใช่คำของผมหรอก....
:b16: :b16: :b16:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 03 เม.ย. 2012, 21:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ช่วยอธิบายข้อความต่อไปนี้ให้ด้วยครับ

จำใว้...ซะ

พุทธศาสนา..มันอยู่ตรงที่...ปัญญา

ไม่ใช่อยู่ที่..เกิด...แก่...เจ็บ...ตาย

ไม่เห็นมีใคร...ไม่ตาย

rolleyes

หน้า 1 จากทั้งหมด 13 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/