วันเวลาปัจจุบัน 27 เม.ย. 2024, 17:43  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 23:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


แม้อาจจะพูดความจริง....แต่ไม่ได้ติชมอย่างเป็นธรรม...ก็เรียกหมิ่นประมาท..ได้

http://www.posttoday.com/การเมือง/161912/คุก4เดือนปรับ1แสนเจิมศักดิ์หมิ่นอภิพล

อ้างคำพูด:
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่า ข้อความที่จำเลยพูดถึงนายอภิพล ผู้ตายว่า เป็นผู้ที่กระทำการเรียกรับสินบน กทช. จนถึงกับถูกให้ออกหรือปลดออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา และเป็นผู้ที่ไม่ได้จบการศึกษาระดับปริญญาเอก แต่แอบอ้างว่าจบการศึกษาดังกล่าว ไม่ใช่การแสดงความเห็นหรือข้อความโดยสุจริตโดยติชมด้วยความเป็นธรรม ยังรับฟังไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นความจริง

ข้อความที่พูดดังกล่าวเป็นการทำให้ผู้ฟังเข้าใจว่า ผู้ตายเป็นคนไม่ดีแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบโดยเรียกสินบนหากบุคคลอื่น อันมีลักษณะเป็นการกระทำผิดกฎหมายและแอบอ้างว่าจบการศึกษาระดับปริญญาเอก เป็นบุคคลที่ไม่สมควรคบหา เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงของผู้ตายและส่งผลกระทบต่อโจทก์และครอบครัว น่าจะทำให้โจทก์ซึ่งเป็นภริยาของผู้ตายถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท


ถ้าจะติชมอย่างเป็นธรรม...เพื่อน ๆ คิดว่า...ต้องทำอย่างไร?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 27 มิ.ย. 2012, 23:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b1: การติชมนั้นสำหรับชาวโลกทั่วๆไปไม่ว่าจะพูดจริงหรือเท็จกับเขา เขาคงชอบใจแต่คำพูดถูกใจเท่านั้น

แต่สำหรับชาวเรา คำพูดจริงที่หวังให้ประโยชน์และความเจริญในธรรมแต่ผู้ฟังล้วนเป็นธรรม

ยิ่งถ้าผู้พูดเป็นผู้รู้จังหวะเวลาที่เหมาะสม การเลือกธรรมที่พูด รู้ความหนักเบาของการพูด

ผู้นั้นสมควรถูกยกย่องว่าเป็นครูผู้ชี้ทางออกโดยแท้ :b8:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2012, 00:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8: :b8: :b8:

หากคุณขณะจิต....คิดอะไรได้เพิ่ม....จะเพิ่มเติมภายหลัง....ก็ได้นะครับ...

สาธุล่วงหน้า.. :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2012, 01:17 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


หากผูดถึงประเด่น ตามข่าว ผมเห็นคำว่า ไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นความจริง เป็นตัวแดงเด่นขึ้นมาครับ

หากมามองคำว่า ติชม ให้เป็นธรรม ก็จะลงที่ สัมมาวาจา วาจาสุจริต ครับ
ก็ ไม่ เท็จ ส่อเสียด หยาบ เพ้อเจ้อ พร้อม กับ กาละเทศะ
ดังนี้
ตถาคต... ย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง วาจาที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น

ตถาคตย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น


นี้และ วาจาธรรม ที่บริบูรณ์ ยิ่ง ครับ แต่ในโลกนี้ จะหาได้สักแค่ไหน น้ำบริสุทธ์ยังหายาก แล้วจะเอาน้ำคำคน มาบริสุทธิ์ เห้อ+ คิดแล้วเหนื่อย อิอิ :b12:

:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 มิ.ย. 2012, 01:45 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


โค้ด:
ตถาคต... ย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ แต่ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง วาจาที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นไม่เป็นที่รัก ไม่เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น

ตถาคตย่อมรู้วาจาที่ไม่จริง ไม่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ ไม่ประกอบด้วยประโยชน์ แต่วาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ตถาคตไม่กล่าววาจานั้น

อนึ่ง ตถาคตย่อมรู้วาจาที่จริง ที่แท้ และประกอบด้วยประโยชน์ และวาจานั้นเป็นที่รัก เป็นที่ชอบใจของผู้อื่น ในข้อนั้น ตถาคตย่อมรู้กาลที่จะพยากรณ์วาจานั้น


:b8: :b8: :b8: คุณฝึกจิต

ท่านไหนพอจะมีลิงค์พระสูตรที่เกี่ยวกับเรื่องนี้ไหมครับ ผมอยากเข้าไปศึกษา

ขอบพระคุณล่วงหน้าครับ

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 มิ.ย. 2012, 21:57 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 28 ธ.ค. 2011, 16:32
โพสต์: 324


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
แม้อาจจะพูดความจริง....แต่ไม่ได้ติชมอย่างเป็นธรรม...ก็เรียกหมิ่นประมาท..ได้

http://www.posttoday.com/การเมือง/161912/คุก4เดือนปรับ1แสนเจิมศักดิ์หมิ่นอภิพล

อ้างคำพูด:
ศาลพิเคราะห์พยานหลักฐานโจทก์และจำเลยแล้ว เห็นว่า ข้อความที่จำเลยพูดถึงนายอภิพล ผู้ตายว่า เป็นผู้ที่กระทำการเรียกรับสินบน กทช. จนถึงกับถูกให้ออกหรือปลดออกจากตำแหน่งที่ปรึกษา และเป็นผู้ที่ไม่ได้จบการศึกษาระดับปริญญาเอก แต่แอบอ้างว่าจบการศึกษาดังกล่าว ไม่ใช่การแสดงความเห็นหรือข้อความโดยสุจริตโดยติชมด้วยความเป็นธรรม ยังรับฟังไม่ได้แน่ชัดว่าเป็นความจริง

ข้อความที่พูดดังกล่าวเป็นการทำให้ผู้ฟังเข้าใจว่า ผู้ตายเป็นคนไม่ดีแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบโดยเรียกสินบนหากบุคคลอื่น อันมีลักษณะเป็นการกระทำผิดกฎหมายและแอบอ้างว่าจบการศึกษาระดับปริญญาเอก เป็นบุคคลที่ไม่สมควรคบหา เป็นที่เสียหายแก่ชื่อเสียงของผู้ตายและส่งผลกระทบต่อโจทก์และครอบครัว น่าจะทำให้โจทก์ซึ่งเป็นภริยาของผู้ตายถูกดูหมิ่นเกลียดชัง อันเป็นความผิดฐานหมิ่นประมาท


ถ้าจะติชมอย่างเป็นธรรม...เพื่อน ๆ คิดว่า...ต้องทำอย่างไร?

ไม่แน่ใจว่า"เป็นธรรม"ที่ว่านี้หมายถึงเป็นธรรมโดยกฏหมายในรัฐธรรมนูญ หรือว่า"เป็นธรรม"ในสัจธรรม ที่ท่านผู้พิพากษาท่านหมายความถึงครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 30 มิ.ย. 2012, 01:03 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


คงจะหมายถึงหลาย ๆ อย่าง..เช่น...

ตามกฏหมาย....คือ..ไม่ได้กล่าวอย่างยุติธรรม...ในกรณีนี้ที่ผู้ถูกกล่าวตำนิไม่ได้มีโอกาสได้อธิบายมูลเหตุแต่ถูกตัดสินแล้วจากผู้พูด..(ยังพิสูจน์ไม่ได้แน่ชัดว่าผิด...คือศาลยังไม่ได้ตัดสินว่างั้นเถอะ)

ตามธรรม...คือ..ไม่ได้ติเพื่อก่อ...แต่มุ่งหมายเพื่อทำลาย...ซะมากกว่า

คงจะทำนองนี้แหละ.. :b12:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 201 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร