เป็นไปได้ว่า จะถึงขั้นปาราชิกนะ คือน่าจะเข้าองค์ประกอบของการขโมย คือรู้ว่าถ้าโหลดจะต้องเสียตังค์ เลยไปหาวิธีที่จะโหลดโดยไม่เสียตังค์ มันก็เข้าองค์ประกอบของการขโมยนั่นเอง กรณีนี้ไม่ต้องพิจารณาให้ยุ่งยาก
องค์ประกอบของการขโมย คือ (แปลงภาษาเล็กน้อย) ของมีเจ้าของ -รู้ว่าของมีเจ้าของ -จิตคิดจะเอามา -ลงมือทำเพื่อจะเอามา -ได้ของนั้นมา
เรื่องโปรแกรมเถื่อนเป็นประเด็นที่ค่อนข้างละเอียด ในยุคก่อนที่เราไปซื้อตามแผง อาจไม่เข้าข่ายขโมย เพราะเราคิดว่า เราก็ซื้อมาใช้ ไม่ได้ไปจิ๊กมา...
แต่ในสมัยนี้ โดยเฉพาะช่วงหลังๆ มีการโฆษณาประกาศอย่างโครมคราม จึงไม่มีใครที่จะไม่ตระหนักว่า... โปรแกรมที่วางขายนั้น มีเจ้าของอยู่ และเจ้าของไม่ได้ให้
เมื่อทุกคนตระหนักรู้ว่า แผ่นโปรแกรมที่วางขายนั้น เป็นของที่เจ้าของไม่ได้ให้ จึงเข้าองค์ประกอบของการขโมย
เรื่องของทรัพย์สินทางปัญญา (ปัญญาในความหมายทางโลก) เป็นเรื่องที่ต้อง ป่าวประกาศ เพราะโดยธรรมชาตินั้น ปัญญาเป็นคุณสมบัติ ไม่ใช่ทรัพย์สิน จึงต้องป่าวประกาศให้รู้ทั่วกัน ว่าสิ่งนี้เป็นของฉัน...
ถ้าจำกันได้ นานมาแล้ว เราเคยเขียนเรื่องนี้ไป โดยเทียบกับการเอาหนังสือไปถ่ายเอกสาร ว่าจะเป็นการละเมิดลิขสิทธิ์หรือเปล่า นี่เป็นตัวอย่างที่ชัดเจน...
เราเอาหนังสือไปถ่ายเอกสาร โดยไม่รู้สึกว่าเป็นการขโมย เพราะเจ้าของไม่ได้ออกมาประกาศว่า หนังสือนี้เป็นของฉันๆ และฉันไม่ได้ให้ ถ้าคุณจะเอา คุณต้องมาซื้อที่ฉันเท่านั้น
ความเป็นทรัพย์สินของปัญญา จึงไม่มีกฏเกณฑ์ตายตัว มันจะเปลี่ยนแปลงไปตามช่วงเวลา เพราะอย่างที่บอก ปัญญาไม่ใช่ทรัพย์สินโดยธรรมชาติ แต่เป็นสิ่งที่เรากำหนดขึ้นมาเองว่า สิ่งที่ฉันคิดเป็นของๆ ฉัน
ในกรณีที่เจ้าของกระทู้เอามาโพสต์ ถ้าจะให้เป็นธรรม ก็ต้องตักเตือนให้หยุดกระทำ ให้รู้ว่านี่เป็นการขโมย ถ้าไม่หยุดจึงต้องปาราชิก... ที่ไม่ปาราชิกทันที ก็ด้วยเหตุผลเดิมนั่นแหล่ะ คือมันจะเป็นการขโมยได้ เราก็ต้องเข้าใจตรงกันก่อนว่า สิ่งนี้คือทรัพย์สิน
เพราะงั้น เดี๋ยวเราว่าจะซื้อ Windows 7 ตัวถูกสุดมาใช้ พันกว่าบาท ที่ต้องซื้อเพราะโปรแกรมตัดวิดีโอที่มากับกล้อง ต้องใช้กับ windows เท่านั้น
ปกติเราใช้ Ubuntu โปรแกรมฟรี แต่ Ubuntu ไม่มีโปรแกรมตัดวิดีโอเนี่ยซิ แย่จัง...
อ้อ พระไม่มีความจำเป็นใดๆ ต้องใช้ไอโฟน ดังนั้นต่อให้ใช้โปรแกรมถูกต้อง ก็อาบัติอยู่ดี... พระภิกษุต้องไม่สะสมทรัพย์สิน
