วันเวลาปัจจุบัน 19 เม.ย. 2024, 08:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 07:44 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ความที่จิตมีความไม่รู้..คืออวิชชา...จึงหลงว่ารูปนี้เป็นเรา....เฝ้าถนอมรักษา...เห็นผิดว่ามีสุขเพราะมีรูป

จึง...ทำทุกวิถีทาง...ให้รูปนี้คงอยู่...แค่ความคิดหวังของมันก็สร้างทุกข์มโหฬารแล้ว...เพราะมันหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

การที่เพียรทำในสิ่งที่ไม่อาจเป็นได้นี้.....มันก็จะมีแต่ทุกข์กับทุกข์...นะซิครับ..พี่น้อง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 08:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 03 ธ.ค. 2011, 21:40
โพสต์: 952


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
ความที่จิตมีความไม่รู้..คืออวิชชา...จึงหลงว่ารูปนี้เป็นเรา....เฝ้าถนอมรักษา...เห็นผิดว่ามีสุขเพราะมีรูป

จึง...ทำทุกวิถีทาง...ให้รูปนี้คงอยู่...แค่ความคิดหวังของมันก็สร้างทุกข์มโหฬารแล้ว...เพราะมันหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

การที่เพียรทำในสิ่งที่ไม่อาจเป็นได้นี้.....มันก็จะมีแต่ทุกข์กับทุกข์...นะซิครับ..พี่น้อง



:b8: :b8: :b8:

เพิ่มเติมจาก คัมภีร์ หน่อยนะครับ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
! ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว จะพึงเข้าไปยึดถือเอากาย
อันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้งสี่นี้ โดยความเป็นตัวตน ยังดีกว่า. แต่จะเข้าไป
ยึดถือเอาจิตโดยความเป็นตัวตน ไม่ดีเลย. ข้อนั้นเพราะเหตุไรเล่า? ดูก่อนภิกษุ
ทั้งหลาย! ข้อนั้นเพราะเหตุว่า กายอันเป็นที่ประชุมแห่งมหาภูตทั้งสี่นี้ ดำรงอยู่ปี
หนึ่งบ้าง สองปีบ้าง สามปีบ้าง สี่ปีบ้าง ห้าปีบ้าง สิบปีบ้าง ยี่สิบปีบ้าง สามสิบปีบ้างสี่
สิบปีบ้าง ห้าสิบปีบ้าง ร้อยปีบ้าง เกินกว่าร้อยปีบ้าง ปรากฏอยู่. ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย!


ส่วน
สิ่งที่เรียกกันว่า "จิต" ก็ดี ว่า "มโน" ก็ดี ว่า "วิญญาณ" ก็ดี นั้น ดวงอื่น
เกิดขึ้น ดวงอื่นดับไป ตลอดวัน ตลอดคืน.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
! เปรียบเหมือน วานร เมื่อเที่ยวไปอยู่ในป่าใหญ่ ย่อม
จับกิ่งไม้ : ปล่อยกิ่งนั้น จับกิ่งอื่น ปล่อยกิ่งที่จับเดิม เหนียวกิ่งอื่น เช่นนี้เรื่อย ๆ ไป,
ข้อนี้ฉันใด
; ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย! สิ่งที่เรียกกันว่า "จิต" ก็ดี ว่า "มโน" ก็ดี
ว่า "วิญญาณ" ก็ดี นั้น ดวงอื่นเกิดขึ้น ดวงอื่นดับ ไป ตลอดวัน .

*************
ส่วนพวกเราที่ได้สดับฟังคำของ ตถาคตแล้ว ก็เพียร ฝึกให้เห็นว่า กายก็ดี จิตก็ดี ไม่ใช่เรา นะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 14:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
ผู้จัดการ
ผู้จัดการ
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 มี.ค. 2006, 17:34
โพสต์: 7781

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


Kiss :b8: :b8: :b8:

.....................................................
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว เป็นกฎตายตัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


:b44: :b44: :b44:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 14 ก.ค. 2012, 22:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


ฝึกจิต เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
ความที่จิตมีความไม่รู้..คืออวิชชา...จึงหลงว่ารูปนี้เป็นเรา....เฝ้าถนอมรักษา...เห็นผิดว่ามีสุขเพราะมีรูป

จึง...ทำทุกวิถีทาง...ให้รูปนี้คงอยู่...แค่ความคิดหวังของมันก็สร้างทุกข์มโหฬารแล้ว...เพราะมันหวังในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้

การที่เพียรทำในสิ่งที่ไม่อาจเป็นได้นี้.....มันก็จะมีแต่ทุกข์กับทุกข์...นะซิครับ..พี่น้อง



:b8: :b8: :b8:

เพิ่มเติมจาก คัมภีร์ หน่อยนะครับ

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย


สาธุ.... :b8:
นี้ก็เป็นการเอาบุญมาฝากด้วยเช่นกัน...นะนี้
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 15 ก.ค. 2012, 22:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สติปัฎฐาน 4.....กาย...เวทนา....จิต.....ธรรม

เห็นกายในกาย...ก็ให้เห็น...ทุกข์...เห็นเหตุให้เกิดทุกข์....เห็นความดับทุกข์...เห็นทางดับทุกข์..

เห็นเวทนาในเวทนา...ก็ให้เห็น...ทุกข์...เห็นเหตุให้เกิดทุกข์....เห็นความดับทุกข์...เห็นทางดับทุกข์..

เห็นจิตในจิต...ก็ให้เห็น...ทุกข์...เห็นเหตุให้เกิดทุกข์....เห็นความดับทุกข์...เห็นทางดับทุกข์..

เห็นธรรมในธรรม....ก็ให้เห็น...ทุกข์...เห็นเหตุให้เกิดทุกข์....เห็นความดับทุกข์...เห็นทางดับทุกข์...

แค่ข้อคิด....แต่ไม่รู้เป็นธรรมหรือเปล่านะ...

หากเป็นธรรม...ก็ขอให้ถือว่าเอาบุญมาฝาก...ครับ. :b8: :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2012, 15:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สมาธิ...คือ....ใจที่ตั้งมั่น....อยู่ในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง....

สัมมาสมาธิ....มีผลให้ใจสงบ....

ใจที่สงบ...ต้องเป็นใจที่วางโลก...

ใจที่วางโลก...คือใจที่รู้ว่าการไปเอาโลกธรรม8..คือลาภ..เสื่อมลาภ..ยศ...เสื่อมยศ....สรรเสริญ...นินทา..สุขในฌาณ...ทุกข์เสื่อมจากฌาณ.....ล้วนเป็นทุกข์ทั้งสิ้น

เมื่อวางโลกออกจากใจ......ใจก็สงบ

ใจที่สงบจากการวางโลก....ใจย่อมเกิดสัมมาสมาธิ...

สัมมาสมาธิ...จึงปรากฎอยู่ได้ทุกที่..ทุกเวลา..ทุกอาการ..ยืน..เดิน..นั่ง..นอน..

ก็ด้วยเหตุนี้... :b8: :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 7 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 42 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร