ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ขณะนี้กำลังเซ็งจิต http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=43492 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | นะโมน้อย [ 02 ต.ค. 2012, 15:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | ขณะนี้กำลังเซ็งจิต |
ตอนเช้าตื่นมาสวดมนต์ไหว้พระ สมาทานศีล อธิฐานว่าจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด จะรักษาศีล 5 ให้ครบถ้วน จะยิ้มกับทุกปัญหาทีเข้ามา จะมีสติรู้ตัว ตื่นตัว ตลอด ก่อนไปทำงาน และก็เป็นอย่างที่ตั้งใจจนผ่านไปครึ่งวัน คิดว่าศีลไม่ได้ขาดนะ แต่มันทำให้เราเซ็ง เรื่องมีอยู่ว่า ได้ไปสั่งซื้อยางรถยนต์กับเจ้าของร้านจำนวน 4 เส้น แล้วเจ้าของร้านเขาดูแลเทคแคร์ดีมาก แต่ก่อนที่จะไปสั่งซื้อกับทางร้าน ก็ได้บอกกับแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ยังคงสัมพันธ์ภาพเป็นเพื่อน แล้วเขาก็รับปากจะหาให้ และบอกว่าจะส่งมาให้ ผ่านไปเป็นเดือนก็ไม่มีคำตอบ โทรหาก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ เราก็เลยไปสั่งซื้อเองที่ร้าน พอสั่งซื้อเสร็จแล้ว โทรหากลับรับโทรศัพท์ก็เลยถามว่าตกลงว่ายังไง คำตอบที่ได้รับบอกว่า ได้แล้ว แต่ยังไม่ส่งให้ ก็เกิดการโต้เถียง เราก็เลยโทรไปยกเลิกเฮียที่ร้าน ก็บอกความจริงทุกอย่าง แต่เหมือนเฮียทางร้านมีอารมณ์นิดหน่อย ก็เข้าใจเฮียเขานะ เป็นเราคงโมโหมากกว่านี้ เพราะเขาสั่งของแล้ว แต่เราไปยกเลิกการสั่งซื้อเขา ก็เลยหงุดหงิด ใจเราไปคิดแทนเฮีย รู้สึกผิดในใจตลอดเวลาที่บอกยกเลิก และรู้สึกโกรธผู้ชายคนนั้น แต่ก็กำหนดจิตว่ารู้ รู้ ว่าหงุดหงิด แต่ไม่หายสักที อยากสอบถามว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ผิดศีลข้อ 4 ใช่ไหมค่ะ ข้าพเจ้ากำหนดจิตรู้ว่าหงุดหงิด มาครึ่งวันแล้ว แต่ก็หงุดหงิดอยู่ดี ทำยังไงดีเจ้าค่ะ |
เจ้าของ: | วิริยะ [ 02 ต.ค. 2012, 15:50 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขณะนี้กำลังเซ็งจิต |
ขอร้องเขาให้หาให้ ก็ต้องรอได้ สั่งซื้อแล้วก็ต้องรักษาคำพูด เพราะถ้าที่ร้านไม่มี เขาก็ต้องไปซื้อที่ร้านอื่นมาให้เรา พอยกเลิกเราก็ผิด เขาก็ต้องไปยกเลิกกับคนอื่นอีก เรื่องนี้ ถ้ายอมเสียเงินซื้อใหม่และยอมรับกับสิ่งที่แฟนเก่าหาให้ ทุกอย่างก็จบ เรียกว่า ถ้ายอมเสียทรัพย์เพื่อรักษาศีล ก็คงไม่ต้องมานั่งวิตกจริตอย่างนี้ .. "ศีล" ต้องศึกษาให้ดี ต้องมีปัญญาจึงจะรักษาได้ ก็ให้พยายามต่อไปนะ .. ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | MANA_BHUN [ 02 ต.ค. 2012, 17:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขณะนี้กำลังเซ็งจิต |
อ้างคำพูด: จะยิ้มกับทุกปัญหาที่เข้ามา จะมีสติรู้ตัว ตื่นตัว ตลอด ก่อนไปทำงาน ![]() ![]() ![]() นี่ขนาด จขกท. คิดเตรียมรับกับปัญหาที่จะเกิดขึ้นนะเนี่ย ยังวิตกกังวลขนาดนี้ ๕๕๕ ![]() ![]() ![]() การรักษาศีลมีอวิปปฏิสารเป็นผล มีอวิปปฏิสารเป็นอานิสงส์ (อวิปปฏิสาร = ไม่ขุ่นมัว ไม่กังวล ไม่รู้สึกผิด ไม่ตำหนิตัวเอง) ![]() ![]() ![]() ![]() ขออนุโมทนาในกุศลเจตนาด้วยครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 02 ต.ค. 2012, 17:41 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขณะนี้กำลังเซ็งจิต |
ไม่ผิดศีลข้อ 4 หรอกครับ...การสั่งซื้อ...การขอยกเลิกเป็นเรื่องปกติของธุรกิจครับ...เฮียแกก็ต้องหงุดหงิดเป็นธรรมดา...เพราะต้องโทรไปยกเลิกอีกที....ซึ่งก็เป็นปกติของงานค้าขายเขา.... แต่ใจเราเศร้าหมอง...เพราะไปกังวลที่เป็นต้นเหตุ...ทั้ง ๆ ที่ไม่ได้ตั้งใจ....คิดไปคิดมาก็ยิ่งหงุดหงิด....ตกหลุมนิวรณ์กิเลส..นะครับ...ยิ่งมาวิคกว่าจะผิดศีลอีก...ก็ยิ่งไปใหญ่.....อย่าไปคิดมาก...มันเป็นเรื่องของธุระกิจ....เฮียแกต้องเจอเป็นธรรมดาคราบ..ผม |
เจ้าของ: | firstini [ 03 ต.ค. 2012, 09:08 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขณะนี้กำลังเซ็งจิต |
ศีลนั้นว่ากันตรงๆก็ต้องว่ากันที่เจตนา คุณมะโนน้อยไม่ได้มีเจตนาจะโกหก ซ้ำยังเล่าความจริงให้ฟังด้วยซ้ำ ดังนั้นศีลยังอยู่ครับปลอดภัยดีครับ แต่บารมีที่จะพร่องไปบ้างก็คือ สัจจะบารมี ดังนั้นคราวหลังถ้าเป็นไปได้พึงกระทำการใดๆด้วยความระมัดระวัง ส่วนเรื่องโมโห... มันมีหลายวิธีคิดนะครับ แต่ผมชอบคิดแบบนี้ คือคิดว่า ถ้าตายตอนนี้ ตายตอนที่เรายังโมโหอยู่นี้ เราตกนรกแหงๆ แล้วเรารู้หรือว่าเราจะตายเมื่อไหร่ ดังนั้น เราเลิกโมโหดีกว่า แน่นอนว่าอารมณ์ยังคั่งค้างตามวิสัยของผู้ที่ไม่ใช่พระอานาคามี ดังนั้น กรรมฐานทั้งหลายทั้งปวงต้องเอามาใช้ โดยกรรมฐานที่คลายอารมณ์โกรธนั้นมีสองหมู่ คือ พรหมวิหาร ๔ และ วรรณกสิณ (กสิณสี) เมื่อเจริญบ่อยๆแล้ว เราจะมีจิตใจสงบ เมื่อจิตสงบแล้วปัญญาจะเกิดได้ง่าย เจริญในธรรมครับ |
เจ้าของ: | MANA_BHUN [ 03 ต.ค. 2012, 09:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขณะนี้กำลังเซ็งจิต |
![]() ![]() ![]() สิกขาบทที่ ๔ มุสาวาทา เวรมณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ แปลว่า "ข้าพเจ้าขอสมาทานสิกขาบท คือ เจตนาเป็นเครื่องงดเว้นจากมุสาวาท" คำว่า "มุสาวาทา เวรมณี" แปลว่า เว้นจากมุสาวาท, ความเท็จ ชื่อว่า มุสา, กิริยาที่พูด หรือแสดงอาการมุสา ชื่อว่า มุสาวาท ในสิกขาบทที่ ๔ นี้ ในสิกขาบทที่ ๔ มีข้อห้ามเป็น ๓ อย่าง ได้แก่ ๑.มุสา กล่าวเท็จ ๒.อนุโลมมุสา กล่าววาจาที่เป็นตามมุสา ๓.ปฏิสสวะ รับแล้วไม่ทำตามรับ ๑.มุสา มีลักษณะ ดังนี้ ๑.เรื่องที่กล่าวนั้นไม่เป็นความจริง ๒.ผู้กล่าวจงใจ ๓.กล่าวให้คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริง ๔.ผู้ฟังเข้าใจผิด การแสดงมุสานี้ไม่เฉพาะแต่ทาง วาจาอย่างเดียวเท่านั้น แม้ทางกายก็อาจเป็นไปได้ เช่น เขียนหนังสือมุสาเขา แสดงอาการ หรือ สั่นศีรษะ ที่ทำให้เขาเข้าใจผิดจากความเป็นจริง มุสามี ๗ ประเภท ได้แก่ ๑.ปด ได้แก่ มุสาจัง ๆไม่อาศัยมูลเลย ท่านแสดงตัวอย่างไว้ ๔ อย่าง ได้แก่ ก.ส่อเสียด หมายถึง ปดเพื่อจะให้เขาแตกแยกกัน ข.หลอก หมายถึง ปดเพื่อจะโกงเขา ค.ยอ หมายถึง ปดเพื่อจะยกย่อง ง.กลับคำ หมายถึง พูดแล้วไม่ทำตามรับ ๒.ทนสาบาน ได้แก่ กิริยาที่เลี่ยงสัตย์ว่าจะพูดตามเป็นจริง แต่ไม่ได้ตั้งใจจริงอย่างนั้น มีปดเป็นบริวาร, หมายถึง สาบานเพื่อหวังผลประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เป็นพยานทนสาบานแล้วเบิกความเท็จในศาล เป็นต้น ๓.ทำเล่ห์กระเท่ห์ ได้แก่ กิริยาที่อวดอ้างความศักดิ์สิทธิ์อันไม่เป็นจริง เช่น อวดรู้วิชาว่าคงกระพัน หรือพูดมุสาด้วยการใช้เพทุบาย ไม่พูดตรง ๆ ๔.มารยา ได้แก่ กิริยาที่แสดงอาการให้เขาเห็นผิดจากที่เป็นจริง เช่น คนไม่มีศีลแต่ทำทีให้เขาห็นว่าเป็นคนมีศีล, หรือเจ็บเล็กน้อยแต่ทำทีเป็นเจ็บปวดเสียมากมาย เป็นต้น ๕.ทำเลส ได้แก่ การพูดมุสาเล่นสำนวน คือ อยากจะพูดเท็จแต่ทำเป็นเลสเล่นสำนวนให้ผู้ฟังนำไปคิด ๖.เสริมความ ได้แก่ พูดมุสาอาศัยมูลเดิม แต่เสริมความให้มากกว่าที่เป็นจริง หรือเรื่องจริงมีนิดหน่อยแต่กลับพูดขยายความออกเสียยกใหญ่จนเกินความจริงไป เช่น พูดพรรณนาถึงสรรพ คุณยาให้เกินกว่าทั่วยาจะรักษาโรคได้ ๗.อำความ ได้แก่ พูดมุสาเดิม แต่ตัดความที่ไม่ประสงค์จะให้รู้เสีย เพื่อทำความเข้าใจกลายไปเป็นอย่างอื่น (หมายถึง เรื่องจริงนั้นมีมาก แต่กลับพูดให้เห็นเป็นเรื่องเพียงเล็กน้อย) ๒.อนุโลมมุสา อนุโลมมุสากำหนดรู้ได้ด้วยลักษณะ ๒ อย่าง ได้แก่ ๑.วัตถุที่จะกล่าวนั้นไม่เป็นความจริง ๒.ผู้กล่าวไม่จงใจกล่าวให้ผู้ฟังเข้าใจผิด มี ๒ ประเภท ได้แก่ ก.เสียดแทง ได้แก่ กิริยาที่ว่าให้ผู้อื่นเจ็บใจ เช่น พูดประชด ด่า ข.สับปรับได้แก่พูดปดด้วยความคะนองวาจาแต่ผู้พูดไม่ตั้งใจจะให้เขาเข้าใจผิด คำพูดที่จริงที่ไม่สมควรพูด คำพูดที่จริง แต่ให้โทษแก่ผู้อื่นและผู้พูดเอง เป็นคำพูดที่มุ่งหมายอย่างนั้น ซึ่งคำพูดนั้นมีมูลเหตุมาจากมุสาจึงจัดเข้าในอนุโลมมุสา ได้แก่ ๑.คำส่อเสียด ได้แก่ คำพูดที่ได้ยินข้างหนึ่งติเตียนข้างหนึ่งแล้วเก็บไปบอกยุยงเขา เป็นเหตุให้เขาแตกแยกกัน ๒.คำเสียดแทง ได้แก่ การพูดให้เขาเจ็บใจ อ้างวัตถุที่เป็นจริงอย่างนั้นขึ้นพูด เป็นเหตุให้ผู้ที่ต้องถูกว่านั้นเจ็บใจ ๓.ปฏิสสวะ ปฏิสสวะ ได้แก่ กิริยาที่รับคำผู้อื่นด้วยเจตนาที่บริสุทธิ์คิดจะทำตามที่รับปากไว้จริง ๆ แต่ภายหลังกลับไม่ได้ทำตามที่รับปากไว้นั้น ปฏิสสวะนี้มี ๓ ประเภท ได้แก่ ๑.ผิดสัญญา ได้แก่ การที่ทั้งสองฝ่ายทำสัญญากันว่าจะทำเช่นนั้นเช่นนี้ แต่ภายหลังกลับไม่ได้ทำตามที่สัญญานั้น ๒.เสียสัตย์ ได้แก่ กิริยาที่ให้สัตย์แก่เขาฝ่ายเดียวว่าตนเองจะทำหรือไม่ทำเช่นนั้น เช่นนี้ แต่ภายหลังกลับไม่ทำตามคำพูดนั้น ๓.คืนคำ ได้แก่ การที่รับปากว่าจะทำหรือไม่ทำสั่งนั้นสิ่งนี้โดยมีไม่สัญญา แต่ภาย หลังกัลบไม่ทำตามนั้น ปฏิสสวะ เป็นเหตุให้ผู้ประพฤติเสียชื่อเสียง จึงควรจะละเสีย ส่วนการ"ถอนคำ" ไม่นับเป็นปฏิสสวะ ยถาสัญญา การพูดมุสาที่ไม่ผิดศีล เรียกว่า "ยถาสัญญา" คือ คำพูดที่บุคคลพูดตามความสำคัญ หรือพูดตามโวหารที่ตนเองจำได้ และผู้พูดมีเจตนาบริสุทธิ์ ไม่มีเจตนาที่จะพูดให้ผิดไปจากความเป็นจริง มี ๔ ลักษณะ ได้แก่ ๑.โวหาร ได้แก่ ถ้อยคำที่ใช้กันเป็นธรรมเนียม เช่น คำลงท้ายของจดหมายซึ่งแสดงความอ่อนน้อมว่า ขอแสดงความนับถืออย่างยิ่ง เป็นต้น ๒.นิยาย ได้แก่ เรื่องที่เปรียบเทียบเพื่อให้ได้ใจความเป็นสุภาษิต เช่น นิยายที่จินตกวีแต่งขึ้น ๓.สำคัญผิด ได้แก่ กิริยาที่ผู้พูดสำคัญผิดและพูดออกไปตามความสำคัญผิดนั้น เช่น วันนี้เป็นวันอังคาร เมื่อมีผู้ถามว่าวันนี้เป็นวันอะไร ? ผู้พูดสำคัญว่าเป็นวันพุธ จึงตอบไปว่า "วันพุธ" เช่นนี้ต้น ๔.พลั้ง ได้แก่ กิริยาที่ผู้พูดตั้งใจจะพูดอย่างหนึ่งแต่พูดออกไปอีกอย่างหนึ่ง และการพูดเช่นนี้เมื่อพูดออกไปแล้วควรบอกใหม่ทันที เช่น ถูกถามว่า "ไปไหนมา ?" ก็รีบตอบเลยทันทีว่า "เปล่า…! ไปธุระมานิดหน่อย" คำว่า "เปล่า" นั้นเป็นคำพูดพลั้งหรือพูดด้วยความเคยชิน โดยไม่มีเจตนาจะพูดให้เขาเข้าใจผิด ............................................................................... |
เจ้าของ: | MANA_BHUN [ 03 ต.ค. 2012, 10:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขณะนี้กำลังเซ็งจิต |
อานิสงส์แห่งการรักษาศีล ข้อที่ ๔ มี ๑๔ ประการ 1. มีอินทรีย์ทั้ง 5 ผ่องใส 2. มีวาจาไพเราะอ่อนหวาน 3. มีฟันเสมอชิดสะอาด 4. ไม่อ้วนจนเกินไป 5. ไม่ผอมจนเกินไป 6. ไม่สูงจนเกินไป 7. ไม่เตี้ยจนเกินไป 8. กลิ่นปากหอมเหมือนดอกบัว 9. ได้สัมผัสแต่ที่เป็นสุข 10. มีบริวารล้วนขยันขันแข็ง 11. บุคคลอื่นจะเชื่อถือถ้อยคำ 12. ลิ้นบางแดง อ่อนเหมือนกลีบดอกบัว 13. ใจไม่ฟุ้งซ่าน 14. ไม่ติดอ่าง ไม่เป็นใบ้ โทษของการไม่รักษาศีลข้อที่ ๔ 1. พูดไม่ชัด 2. ฟันไม่เป็นระเบียบ 3. ปากเหม็นมาก 4. ไอตัวร้อนจัด 5. ตาไม่อยู่ในระดับปกติ 6. กล่าววาจาด้วยปลายลิ้นและปลายปาก 7. ท่าทางไม่สง่าผ่าเผย 8. จิตไม่เที่ยงคล้ายคนวิกลจริต ................................................................ |
เจ้าของ: | นะโมน้อย [ 03 ต.ค. 2012, 12:58 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขณะนี้กำลังเซ็งจิต |
ขอบพระคุณทุก ๆ คำตอบ จะพยายามรักษาศีลให้ดีที่สุดในทุก ๆ วัน |
เจ้าของ: | student [ 04 ต.ค. 2012, 15:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ขณะนี้กำลังเซ็งจิต |
นะโมน้อย เขียน: ตอนเช้าตื่นมาสวดมนต์ไหว้พระ สมาทานศีล อธิฐานว่าจะทำวันนี้ให้ดีที่สุด จะรักษาศีล 5 ให้ครบถ้วน จะยิ้มกับทุกปัญหาทีเข้ามา จะมีสติรู้ตัว ตื่นตัว ตลอด ก่อนไปทำงาน และก็เป็นอย่างที่ตั้งใจจนผ่านไปครึ่งวัน คิดว่าศีลไม่ได้ขาดนะ แต่มันทำให้เราเซ็ง เรื่องมีอยู่ว่า ได้ไปสั่งซื้อยางรถยนต์กับเจ้าของร้านจำนวน 4 เส้น แล้วเจ้าของร้านเขาดูแลเทคแคร์ดีมาก แต่ก่อนที่จะไปสั่งซื้อกับทางร้าน ก็ได้บอกกับแฟนเก่าที่เลิกกันไปแล้ว แต่ยังคงสัมพันธ์ภาพเป็นเพื่อน แล้วเขาก็รับปากจะหาให้ และบอกว่าจะส่งมาให้ ผ่านไปเป็นเดือนก็ไม่มีคำตอบ โทรหาก็ไม่ยอมรับโทรศัพท์ เราก็เลยไปสั่งซื้อเองที่ร้าน พอสั่งซื้อเสร็จแล้ว โทรหากลับรับโทรศัพท์ก็เลยถามว่าตกลงว่ายังไง คำตอบที่ได้รับบอกว่า ได้แล้ว แต่ยังไม่ส่งให้ ก็เกิดการโต้เถียง เราก็เลยโทรไปยกเลิกเฮียที่ร้าน ก็บอกความจริงทุกอย่าง แต่เหมือนเฮียทางร้านมีอารมณ์นิดหน่อย ก็เข้าใจเฮียเขานะ เป็นเราคงโมโหมากกว่านี้ เพราะเขาสั่งของแล้ว แต่เราไปยกเลิกการสั่งซื้อเขา ก็เลยหงุดหงิด ใจเราไปคิดแทนเฮีย รู้สึกผิดในใจตลอดเวลาที่บอกยกเลิก และรู้สึกโกรธผู้ชายคนนั้น แต่ก็กำหนดจิตว่ารู้ รู้ ว่าหงุดหงิด แต่ไม่หายสักที อยากสอบถามว่า ข้าพเจ้าไม่ได้ผิดศีลข้อ 4 ใช่ไหมค่ะ ข้าพเจ้ากำหนดจิตรู้ว่าหงุดหงิด มาครึ่งวันแล้ว แต่ก็หงุดหงิดอยู่ดี ทำยังไงดีเจ้าค่ะ เป็นความอ่อนไหวของจิตครับ คือ จิตไม่ตั่งมั่น มีอะไรมากระทบก็รู้สึกถึงความทุกข์ได้เกิดขึ้นแล้ว ก็ต้องฝึกจิตต่อไปครับผม เช่น นั่งสมาธิแล้วอยากเลิก ก็อย่าพึ่งเลิก ให้นั่งต่อไป จะเพิ่มความเข้มแข็งของจิตได้ครับ |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |