อยากทราบความหมายคะ รบกวนด้วยนะค่ะ

ธรรมทั้งหลายทั้งปวง เป็นอนัตตา แปลง่ายดีไหมครับ 55

แล้วคุณสุทธจิตต์ เข้าใจความหมายว่าอย่างไรค่ะ

อุปปาทสูตร
[๕๗๖] ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติ
ขึ้นก็ตาม ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา
ก็คงตั้งอยู่อย่างนั้นเอง ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง
ครั้นแล้วจึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า
สังขารทั้งปวงไม่เที่ยง ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติขึ้น
ก็ตาม ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา ก็คงตั้ง
อยู่อย่างนั้นเอง ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า สังขารทั้งปวงเป็นทุกข์ ครั้นแล้ว
จึงบอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า สังขาร
ทั้งปวงเป็นทุกข์ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เพราะตถาคตอุบัติขึ้นก็ตาม ไม่อุบัติขึ้นก็ตาม
ธาตุนั้น คือ ความตั้งอยู่ตามธรรมดา ความเป็นไปตามธรรมดา ก็คงตั้งอยู่อย่าง
นั้นเอง ตถาคตตรัสรู้ บรรลุธาตุนั้นว่า ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ครั้นแล้วจึง
บอก แสดง บัญญัติ แต่งตั้ง เปิดเผย จำแนก ทำให้เข้าใจง่ายว่า ธรรม
ทั้งปวงเป็นอนัตตา ฯ

http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v ... 520&Z=7533

หลวงพ่อทูล...ท่านให้ข้อคิดที่น่าฟังทำนองว่า...จะรู้อนัตตา...ก็ต้องรู้ว่าอะไรที่เราว่ามันเป็นอัตตาเสียก่อน

รถของเรา...บ้านของเรา...มันเป็นของเราจริงมั้ย?..ทำไมมันถึงไม่ใช่ของของเรา?

พ่อเรา..แม่เรา..ลูกเรา..เมียเรา...มันเป็นของเราจริงมั้ย?...ทำไมถึงไม่ใช่ของเรา?

ตัวเรา....มันใช่เราจริงมั้ย?...ทำไมถึงไม่ใช่เรา?

ต้องให้เหตุให้ผล..ให้ชัดเจน...ทำบ่อย ๆ ..เดี่ยวก็ค่อย ๆ เกิดปัญญาเห็นจริงขึ้นมาเรื่อย ๆ เอง

การจะเห็นอนัตตาจริง..ก็ต้องเข้าใจอัตตาในจิตใจเราก่อนนั้นเอง

สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

ธรรม คือธรรมชาติ คือทุกสิ่งทุกอย่างนั่นเอง

อนัตตา คือไม่อยู่ในอำนาจ ไม่เป็นไปตามใจ ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของๆเรา

หากแปลแบบนี้ก็จะสอดคล้องกับประโยคที่ว่า

"สรรพสิ่งทั้งหลายไม่เป็นไปตามใจ แต่เป็นไปตามธรรม"

สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา
ธรรมทั้งปวงเป็น อนัตตา

ธรรมทั้งปวง ก็หมายถึง
สมมุติทั้งปวงนั่นเอง เป็น อนัตตา

สัพเพ ธัมมา อนัตตาติ = ธรรมทั้งหมดทั้งปวง(ทั้งที่เป็นสังขารและมิใช่สังขารทั้งหมดทั้งสิ้น)เป็นอนัตตา

อนัตตา.....มาจากคำว่า...อะ..แปลว่า...ไม่..ไม่ใช่ สมาสกับคำว่า....อัตตา...แปลว่า...ตัวตน

แปลรวมว่า ....ไม่ใช่ตัวตน......เมื่อแปลอย่างนี้แล้วอาจทำให้เกิดข้อสงสัยและคำถาม ตามมาอีกหลายเรื่องเมื่อตอนที่เรายังไม่เข้าใจซึ้งถึงความหมายของ....อนัตตา....

สำหรับผู้ใหม่......คำว่า "อนัตตา" ....ตอนเริ่มแรก ให้หมายไปที่ความว่า ...."บังคับไม่ได้"

หลังจากนั้นให้ลงมือ นั่งขัดสมาธิตัวตรง หลังหัวและคอตั้งตรง....หลับตา.....ตั้งใจเอา สติ ปัญญา มาเฝ้าสังเกตดู ในกายในจิต พิสูจน์ดูให้ดีว่า

ในรูปกาย คือตั้งแต่หัวจนถึงเท้า มีอะไรบ้างที่เราบังคับบัญชามันได้ ไม่ให้เปลี่ยนแปลง

เช่น เล็บ..... อย่ายาวนะ

ผม.....อย่าหงอกนะ

หน้า....ห้ามเป็นสิวเป็นฝ้า หน้าตกกระเด็ดขาว จงขาวนวลเป็นสีชมพูเรื่อๆอยู่เสอ

ฯลฯ

ในจิตใจ.....อารมณ์...ความรู้สึก....สภาวธรรมต่างๆที่เกิดขึ้นให้รู้.....ลองพิสูจน์ดูว่ามีอะไรที่มั่นคง ยงยืน
บังคับให้เป็นไปได้ดั่งใจบ้าง

เช่นเวลา เจ็บปวดขึ้นมา บอกว่า ให้หายเดี๋ยวนี้

หรือเวลาสบายขึ้นมา ให้สั่งบอกว่า....สบาย....อยู่กับฉันนานๆ สัก 4 - 5 ชั่วโมงนะ แล้วลองพิสูจน์ดูว่ามันอยู่ได้ไหม

ดังนี้เป็นต้น

ถ้าพิสูจน์แล้วไม่มีอะไรสามารถบังคับบัญชาให้เป็นไปได้ดั่งใจสักอย่าง ........ความเข้าใจถึงความเป็น อนัตตา บังคับบัญชาไม่ได้ ไม่ใช่สัตว์ บุคคล ตัวตน เรา เขา ......จะเกิดรู้และซึ้งขึ้นมาเองที่ใจ

ถ้าใจยอมรับความจริงอันนี้อย่างเต็มที่.......ความเห็นผิด..ว่ากายใจนี้เป็นอัตตา ตัวกู ของกู จะหลบไป หรือตายดับไปจากจิตใจและสัญญาในสมอง