ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ภิกษุ ท. ! การนอน ๔ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่..เราควรนอนอย่างไร http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=43960 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | พุทธวจน บางบัวทอง [ 30 พ.ย. 2012, 17:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | ภิกษุ ท. ! การนอน ๔ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่..เราควรนอนอย่างไร |
อาการที่อยู่ในฌาน เรียกว่าตถาคตไสยา ภิกษุ ท. ! การนอน ๔ อย่าง เหล่านี้ มีอยู่. สี่อย่าง อย่างไรเล่า? สี่ อย่างคือ เปตไสยา กามโภคิไสยา สีหไสยา ตถาคตไสยา. ภิกษุ ท. ! เปตไสยา (นอนอย่างเปรต) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! โดยมาก พวกเปรต ย่อมนอนหงาย. นี้เรียกว่า เปตไสยา. ภิกษุ ท. ! กามโภคิไสยา (นอนอย่างคนบริโภคกาม) เป็น อย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! โดยมาก คนบริโภคกาม ย่อมนอนตะแคงโดยข้าง เบื้องซ้าย. นี้เรียกว่า กามโภคิไสยา. ภิกษุ ท. ! สีหไสยา (นอนอย่างสีหะ) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! สีหะเป็นพญาสัตว์ ย่อมสำเร็จการนอนโดยข้างเบื้องขวา เท้าเหลื่อมเท้า สอดหางไว้ที่ระหว่างแห่งขา. สีหะนั้นครั้นตื่นขึ้น ย่อมชะเง้อกายตอนหน้าขึ้น สังเกตกายตอนท้าย ถ้าเห็นความดิ้นเคลื่อนที่ของกาย (ในขณะหลับ) ย่อมมี ความเสียใจเพราะข้อนั้น. ถ้าไม่เห็น ย่อมมีความดีใจ. นี้เรียกว่า สีหไสยา. ภิกษุ ท. ! ตถาคตไสยา (นอนอย่างตถาคต) เป็นอย่างไรเล่า ? ภิกษุ ท. ! ในกรณีนี้ ภิกษุ สงัดแล้วจากกาม สงัดแล้วจากอกุศลธรรมทั้งหลาย เข้าถึง ฌานที่ ๑ ซึ่งมีวิตกวิจาร มีปีติและสุขอันเกิดแต่วิเวก แล้วแลอยู่. เพราะ วิตกวิจารรำงับไป เธอเข้าถึง ฌานที่ ๒ อันเป็นเครื่องผ่องใสแห่งใจในภายใน สามารถให้สมาธิผุดขึ้นเป็นธรรมเอก ไม่มีวิตกวิจาร มีแต่ปีติและสุขอันเกิดแต่ สมาธิ แล้วแลอยู่. เพราะปีติจางหายไป เธอเป็นผู้เพ่งเฉยอยู่ได้ มีสติ มีความ รู้สึกตัวทั่วพร้อม และได้เสวยสุขด้วยนามกาย เข้าถึง ฌานที่ ๓ อันเป็นฌานที่ พระอริยเจ้าทั้งหลาย กล่าวสรรเสริญผู้ได้บรรลุว่า “เป็นผู้เฉยอยู่ได้ มีสติอยู่ เป็นสุข” แล้วแลอยู่. เพราะละสุขและทุกข์เสียได้ เพราะความดับหายไปแห่ง โสมนัสและโทมนัสในกาลก่อน เธอเข้าถึง ฌานที่ ๔ อันไม่ทุกข์และไม่สุขมีแต่ สติอันบริสุทธิ์เพราะอุเบกขา แล้วแลอยู่. นี้เรียกว่า ตถาคตไสยา. ภิกษุ ท. ! เหล่านี้ แล การนอน ๔ อย่าง. - จตุกฺก.อฺ. ๒๑/๓๓๑/๒๔๖. |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |