ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
พระแถวหมู่บ้านผม นั่งเบนซ์บิณฑบา่ต http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=44148 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | deecup [ 24 ธ.ค. 2012, 18:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | พระแถวหมู่บ้านผม นั่งเบนซ์บิณฑบา่ต |
มีอยู่รูปเดียว ตอนแรกก็เดินบิณฑบาต ระยะหลังๆ ซ้อนมอเตอร์ไซค์ ล่าสุดนั่งเบนซ์บิณฑบาตเลยทีเดียว พอให้พรโยมเสร็จ ก็เปิดประตูรถเข้าไปนั่ง พอป้ายหน้ามีโยมรอบิณฑบาต ก็ลงจากรถ มารับบาตร แล้วก็นั่งรถเบนซ์ต่อ รู้สึกหมดศรัทธายังไงไม่รู้ แต่จะให้เลิกไส่บาตร ก็ไม่ใช่เรื่อง เวลาใสส่ผมก็จะขอใส่แด่หมู่สงฆ์ทั้งหลาย ไม่รู้จะได้บุญบ้างหรือเปล่า |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 24 ธ.ค. 2012, 23:30 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระแถวหมู่บ้านผม นั่งเบนส์บิณฑบา่ตร |
ขออนุโมทนาสาธุ...ด้วยครับกับการใส่บาตร ![]() ![]() ![]() ใจเราถึงพระ....ทำบุญอย่างไรก็ไม่พลาดบุญแน่ ๆ ใจผีใจเปรต....อยู่ติดกับพระอรหันต์ก็ยังไม่ได้บุญ |
เจ้าของ: | MANA_BHUN [ 26 ธ.ค. 2012, 12:18 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระแถวหมู่บ้านผม นั่งเบนซ์บิณฑบา่ต |
การทำบุญใส่บาตรได้บุญแน่นอนอยู่แล้ว จะได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับผู้ใส่เป็นสำคัญ ทำใจให้เป็นบุญก็ได้บุญเยอะ อย่าไปคิดเล็กคิดน้อย คิดจนทำให้เราไม่อยากทำบุญเห็นจะไม่ดีเป็นแน่ ข่าวเกี่ยวกับความไม่ดีไม่งามของพระสงฆ์เทียมชอบประโคมกันนักแล คนที่มีศรัทธาไม่มั่นคงย่อมหวั่นไหวแน่ แต่คนที่มีศรัทธามั่นคงไม่คลอนแคลน ไม่สามารถทำให้จิตใจเขาหวั่นไหวได้แน่นอน พระท่านอาจจะนั่งเบ็นซ์หรือบีเอ็มดับเบิ้ลยู ก็เป็นเพราะอาจจะมีผู้มีศรัทธาถวาย เพราะพวกเขาจะถวายของที่ดี ที่เลิศ ที่ประเสริฐ แด่พระภิกษุสงฆ์ครับ เป็นกำลังใจให้กับ จขกท. ทำบุญต่อไปครับ ขอให้มีศรัทธาที่มั่นคงในพระพุทธศาสนาด้วยครับ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 27 ธ.ค. 2012, 13:07 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระแถวหมู่บ้านผม นั่งเบนซ์บิณฑบา่ต |
ความ อิสสา มัจฉริยะ กุกกุจจะ ได้เกิดขึ้นแก่เราแล้วครับ |
เจ้าของ: | พุทธคุณ [ 27 ธ.ค. 2012, 17:54 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระแถวหมู่บ้านผม นั่งเบนซ์บิณฑบา่ต |
deecup เขียน: มีอยู่รูปเดียว ตอนแรกก็เดินบิณฑบาต ระยะหลังๆ ซ้อนมอเตอร์ไซค์ ล่าสุดนั่งเบนซ์บิณฑบาตเลยทีเดียว พอให้พรโยมเสร็จ ก็เปิดประตูรถเข้าไปนั่ง พอป้ายหน้ามีโยมรอบิณฑบาต ก็ลงจากรถ มารับบาตร แล้วก็นั่งรถเบนซ์ต่อ รู้สึกหมดศรัทธายังไงไม่รู้ แต่จะให้เลิกไส่บาตร ก็ไม่ใช่เรื่อง เวลาใสส่ผมก็จะขอใส่แด่หมู่สงฆ์ทั้งหลาย ไม่รู้จะได้บุญบ้างหรือเปล่า พระพุทธเจ้าทรงสอนให้เรารู้จักพิจารณาตนเอง อบรมตนเอง มีสติ อะไรที่เราเห็นว่าไม่เหมาะสม เราก็ไม่ทำตาม สอนลูกหลานของเรา ครอบครัวของเรา แนะนำเพื่อนของเราในสิ่งที่ถูกต้องและเหมาะสม ผู้ใดนำพาศาสนาไปในทางเสื่อม ผู้นั้นย่อมถึงทางเสื่อม ผู้ใดนำพา ศาสนาไปในทางเจริญ ผู้นั้นย่อมเจริญ คำว่านำพาศาสนาไปในทาง เจริญนี้หมายถึงการเข้าใจถูก ทำถูก มีสติ รู้ตื่น ไม่มัวหมอง หาก คุณไม่สบายใจที่ทำบุญกับพระที่แสดงออกแบบนั้น คุณลองหันมา ทำบุญทางอื่นบ้างสิ่ ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก แยะนำเขาในทาง ที่ถูกต้อง ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสทุกประเภท นี่ก็ไดบุญเช่นกัน ศาสนาต้องการอะไร ตามความเข้าใจของคนทั่วไป เราต้องการศาสนสถาน คือที่อยู่อาศัยของสงฆ์ สถานที่ประกอบพิธีทางศาสนา บางครั้งก็ต้องการ ศาสนวัตถุ โต๊ะหมู่บูชา คุณก็ลองพิจารณาดูว่า ศาสนสถานและศาสนวัตถุ ณ ที่แห่งนั้นๆ ยังใช้การได้ดีอยู่หรือไม่ สมควรได้รับการบูรณะหรือยัง อีกอย่าง คืออาหารที่เราถวายพระเป็นเคื่องบำรุงสงฆ์ก็ทำแค่พอเหมาะ พอให้พระท่านไม่อด มีกำลังศึกษาพระพุทธศาสนา คำสอนของพระพุทธองค์ แค่นี้เราก็ถือว่าได้บำรุงศาสนาแล้ว บางวัดนี้นมีจนเกินพอดี เราก็ไม่ต้องไปทำแล้ว เลือกวัดที่ยังต้องการ ยังขาดแคลน หากเรามีภาระในเรื่องเวลาและการเดินทาง เราก็ทำที่วัดใกล้บ้าน แต่ควรทำให้ถูกทาง ทำให้พอเหมาะ มนุษย์ต้องการเพียงปัจจัย 4 แต่ปัจจัย 4 นี้มีไว้แค่ยังชีพ หากต้องการมากกว่านี้ หรูหรา ฟุ้งเฟ้อ นี่คือกิเลสแล้ว เราไม่ต้องถามว่าทำแล้วจะได้บุญมั๊ย แต่ลอง ถามใจตัวเองดูว่า ทำแล้วสบายใจมั๊ย หากสบายใจนั่นก็คือบุญแล้ว |
เจ้าของ: | govit2552 [ 30 ธ.ค. 2012, 05:47 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: พระแถวหมู่บ้านผม นั่งเบนซ์บิณฑบา่ต |
เรื่องยาน [๑๔] ก็โดยสมัยนั้นแล พระฉัพพัคคียี์ขี่ยานซึ่งเทียมด้วยโคตัวเมีย มีบุรุษเป็นสารถีบ้าง เทียมด้วยโคตัวผู้ มีสตรีเป็นสารถีบ้าง ประชาชนจึง เพ่งโทษ ติเตียน โพนทะนาว่า เหมือนชายหนุ่มหญิงสาวไปเล่นน้ำในแม่น้า คงคาและแม่น้ำมหี ฉะนั้น ภิกษุทั้งหลาย กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระ ภาคเจ้า ๆ ทรงบัญญัติห้ามภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุไม่พึง- ไปด้วยยาน รูปใดไปต้องอาบัติทุกกฏ. สมัยต่อมา ภิกษุรูปหนึ่งไปพระนครสาวัตถีในโกศลชนบทเพื่อเฝ้า พระผู้มีพระภาคเจ้า แต่อาพาธเสียกลางทาง และได้หลีกจากทางนั่งอยู่ ณ โคนไม้แห่งหนึ่งประชาชนพบภิกษุนั้น จึงเรียนถามว่า พระคุณเจ้าจะไปไหน ขอรับ ? ภิกษุนั้นตอบว่า อาตมาจะไปพระนครสาวัตถุ เพื่อเฝ้าพระผู้มีพระภาค เจ้า. ป. นิมนต์มา ไปด้วยกันเถิด ขอรับ. ภิ. อาตมาไม่อาจ เพราะกำลังอาพาธ. ป. นิมนต์มาขึ้นยานเถิด ขอรับ. ภิ. ไม่ได้ เพราะพระผู้มีพระภาคเจ้าทรงห้ามยาน. ภิกษุนั้นรังเกียจอยู่ ดังนั้นจึงไม่ยอมขึ้นยาน ครั้นไปถึงพระนครสาวัตถี แล้วจึงแจ้งเรื่องนั้น แก่ภิกษุทั้งหลาย ๆ กราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า. ลำดับนั้น พระผู้มีพระภาคเจ้าทรงทำธรรมีกถา ในเพราะเหตุเป็น เค้ามูลนั้น ในเพราะเหตุแรกเกิดนั้น แล้วรับสั่งกะภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อน ภิกษุทั้งหลายเราอนุญาตยานแก่ภิกษุผู้อาพาธ. ครั้งนั้น ภิกษุทั้งหลายได้คิดกันว่า ยานที่ทรงอนุญาตนั้นเทียมด้วยโค ตัวเมีย หรือเทียมด้วยโคตัวผู้ แล้วกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงอนุญาตแก่ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตยานที่เทียม ด้วยโคตัวผู้และยานที่ใช้มือลาก. สมัยต่อมา ภิกษุรูปหนึ่งไม่ผาสุกอย่างแรง เพราะความกระเทือนแห่ง ยาน ภิกษุทั้งหลายกราบทูลเรื่องนั้นแด่พระผู้มีพระภาคเจ้า ๆ ทรงอนุญาตเก่ ภิกษุทั้งหลายว่า ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เราอนุญาตยานหามมีตั่งนั่ง และเปลผ้า ที่เขาผูกติดกับไม้คาน. |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |