วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 13:08  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 08:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว



"ปัญญา" คือ ความรอบรู้ รู้ทั่วรู้ถึง คือ ทั้งรู้ทั้งเห็นตามความเป็นจริงของสรรพสิ่ง
เกิดความรู้ความเข้าใจหายสงสัยในสิ่งนั้นเรื่องนั้น รู้แล้วละได้ ปล่อยวางได้ ..

"ปัญญา" คือ ยอดมงกุฎของพระพุทธศาสนา ที่ประกอบด้วย
ศีล สมาธิ เป็นพื้นฐาน ..

ผู้มี "ปัญญา" อันมี ศีล สมาธิ เป็นฐานแล้ว ย่อมยังตนให้
เป็นพระอริยะบุคคล คือ บุคคลอันเยี่ยมในพระพุทธศาสนา ..

"ศีล สมาธิ ปัญญา" เป็นเหตุ "วิมุตติความหลุดพ้น" เป็นผล
"ปัญญา" เป็นสิ่งสูงสุดและผู้มี "ปัญญา" ย่อมเป็นผู้สูงสุด ..

"ปัญญา" มีประโยชน์และคุณอนันต์ สมควรเจริญ ควรบำเพ็ญให้มาก ..


:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 10:20 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญญาที่รู้แล้วไม่ยอมวางจะทำให้เกิดผลกระทบอะไรกับเราบ้างค่ะ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 10:50 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ปัญญาที่รู้แล้วไม่ยอมวางจะทำให้เกิดผลกระทบอะไรกับเราบ้างค่ะ :b1:


รู้สิ่งใดแล้วยังวางไม่ได้ก็เพราะยังรู้ในสิ่งนั้นไม่สุด ยังรู้ไม่รอบทั่วทุกแง่มุมของสิ่งนั้น

ปัญญาอันนั้น ก็เลยโดนกิเลสเอาไปใช้งาน กลายเป็นปัญญาของกิเลสที่ครูบาอาจารย์ท่านคอยเตือน

ตรงไหนที่ยังไม่รู้ ตรงนั้นกิเลสสามารถฉวยเอาไปใช้งานได้เสมอ จะเกิดผลอะไรต่อเรา ก็ขึ้นกับว่ากิเลสตอนนั้นจะพาไปทางไหน

ทางไหนที่ยังกันคลื่นไม่ได้ พอมีคลื่นซัดเข้ามา ก็จะโดนพัดไปตามกระแสความเคยชิน

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คนธรรมดาๆ เขียน:
nongkong เขียน:
ปัญญาที่รู้แล้วไม่ยอมวางจะทำให้เกิดผลกระทบอะไรกับเราบ้างค่ะ :b1:


รู้สิ่งใดแล้วยังวางไม่ได้ก็เพราะยังรู้ในสิ่งนั้นไม่สุด ยังรู้ไม่รอบทั่วทุกแง่มุมของสิ่งนั้น

ปัญญาอันนั้น ก็เลยโดนกิเลสเอาไปใช้งาน กลายเป็นปัญญาของกิเลสที่ครูบาอาจารย์ท่านคอยเตือน

ตรงไหนที่ยังไม่รู้ ตรงนั้นกิเลสสามารถฉวยเอาไปใช้งานได้เสมอ จะเกิดผลอะไรต่อเรา ก็ขึ้นกับว่ากิเลสตอนนั้นจะพาไปทางไหน

ทางไหนที่ยังกันคลื่นไม่ได้ พอมีคลื่นซัดเข้ามา ก็จะโดนพัดไปตามกระแสความเคยชิน

:b27: คุนน้องจะพยายามมีสติเจ้าค่ะ :b8: คือคุนน้องชอบมีอัตตากับคนบางกลุ่ม ยิ่งคุนน้องมีพลังศรัทรามากแค่ไหนอัตตานั้นยิ่งเพิ่มทวีคูณมหาศาลจากขั้วบวกจะกลายเป็นขั้วลบทันที กิเลสมันชอบเข้ามาแทรกตรงนี้ทุกที grin


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 11:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


ปัญญานั้น สามารถเทียบกับ มรรคมีองค์8 ตั้งแต่ มีความเห็นที่เป็นสัมมาทิฏฐิ มีสัมมาสังกัปปะ มีสัมมาวาจา สัมมากัมมันตะ สัมมาอาชีวะ สัมมาวายามะ สติ มีสมาธิ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 13:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


จากประสบการณ์ส่วนตัวของคุณน้องทำให้คุนน้องรู้ว่า อริยสัจสี่ คือธรรมมะที่ทำให้เราเห็นแสงสว่าง ทำให้เราเห็นหนทางดับทุกข์
ทุกข์ คือ สิ่งที่กำหนดรู้ เราทุกข์เพราะอะไรทำไมเราถึงทุกข์ ก็กำหนดรู้ ทุกข์นั้น สิ่งที่เกิดกับเราทำให้ติดในทุกข์ สิ่งนั้นคืออะไร อะไรที่เราเข้าไปยึดไปถือไม่วาง(บอกตัวเองแต่ไม่ยอมจำ :b32: )
สมุทัย ต้นตอของทุกข์คืออะไร อะไรทำให้เรายึดติดในทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ ถ้าเรากำหนดรู้เข้าถึงความจริงแล้วจะรู้ว่าเหตุแห่งทุกข์ก็คือ อุปทานขันธ์5ล้วนคือตัวทุกข์ สิ่งใดที่เราเข้าไปยึดสิ่งนั้นเรามักจะเป็นทุกข์กับมัน (คือคุนน้องสังเกตุจากตนเอง)ทำให้คุนน้องรู้ว่า เหตุแห่งทุกข์ก็คือ วงจรอุบาทตัวนี้ นั่นก็คือ ผัสสะ(สิ่งที่เข้ามากระทบกายใจเรา)ทำให้เกิดเป็นตัณหา ตามด้วย เวทนา จนเกิดอุปทานขึ้น(ปฏิจสมุปปาท)เมื่อเราเห็นวงจรนี้เกิดขึ้นเราก็เริ่มจะเห้นแสงสว่างระยิบระยังอยู่ตรงหน้านั้นแล้ว ไม่ว่าสิ่งใดก็ตามที่เราเข้าไปยึดถ้าเรากำหนดรู้ไปตามความเป็นจริงเราก็จะเห็นสภาวะที่ว่า เมื่อมีสิ่งนี้เกิดสิ่งนั้นย่อมดับเป็นธรรมดา ไม่ว่า เวทนา สัญญา อุปทานขันธ์ทั้งหลายที่เราเข้าไปยึด เมื่อสภาวะนั้นคลายลงเราก็จะเห็นความไม่มีสิ่งนั้น มันเกิดและมันก็ดับ มันเป็นอยู่เช่นนั้น แต่การที่เราจะเห็นมันไม่ได้ง่ายเหมือนปอกกล้วยเข้าปากหรอก :b32: แต่สภาวะนี้ถ้าเรามีปัญญารู้ทัน จะทำให้เราเข้าถึงสภาวะที่เรียกว่า นิโรธ การเข้าถึงความดับ ความว่าง ความรู้สึกวางเฉย ปลอดโปล่งโล่งใจ มันคล้ายๆกับเราสลัดสิ่งๆหนึ่งออกไปแล้วหลุด แล้วเราจะเห็นสภาวะนี้ มรรค นั่นก็คือ สิ่งที่เราต้องปฏิบัติเพื่อให้เกิดความเจริญยิ่งๆขึ้นแกตัวเรา นั่นก็คือ มรรคมีองค์8 สิ่งที่คุนน้องกล่าวมา เป็นความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ของตนเองนะค่ะ อาจจะอธิบายไม่เก่งก็เพราะไม่มีครูบาอาจารย์อบรมสั่งสอน คุนน้องก็งมโข่งไปเรื่อยแหละ ไ้ด้แต่อธิษฐานขอให้พระพุทธองค์โปรดเมตตา :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 13:55 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
ปัญญาที่รู้แล้วไม่ยอมวางจะทำให้เกิดผลกระทบอะไรกับเราบ้างค่ะ :b1:

"ปัญญา" ที่แท้จริงต้อง ละได้วางได้ ถ้ายังละวางไม่ได้ นั่นคือ "สัญญา"
เป็นความจำได้ หมายรู้เท่านั้น ไม่ใช่ตัว "ปัญญา" จริง ๆ ..

แต่ "สัญญา" นั่นแหละคือเหตุให้เกิด "ปัญญา" ..
. :b13:

:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 16:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
nongkong เขียน:
ปัญญาที่รู้แล้วไม่ยอมวางจะทำให้เกิดผลกระทบอะไรกับเราบ้างค่ะ :b1:

"ปัญญา" ที่แท้จริงต้อง ละได้วางได้ ถ้ายังละวางไม่ได้ นั่นคือ "สัญญา"
เป็นความจำได้ หมายรู้เท่านั้น ไม่ใช่ตัว "ปัญญา" จริง ๆ ..

แต่ "สัญญา" นั่นแหละคือเหตุให้เกิด "ปัญญา" ..
. :b13:

:b1:

แล้วธรรมที่คุนน้องพูดถึงอริยสัจสี่จากประสบการณ์ของตนเอง เกิดจากสัญญาแต่ยังไม่ใช่ปัญญาที่แท้จริงของพุทธศาสนา ใช่รึเปล่าค่ะ :b1: คือช่วยแนะนำคุนน้องรึเพิ่มเติมชี้แนะหน่อยจะได้มั้ยค่ะ ท่านวิริยะ :b8: ท่านคนธรรมดาด้วยนะค่ะ คุนน้องรู้สึกว่าท่านมีภูมิธรรมที่พอจะชี้แนะคุนน้องได้ :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 16:35 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 07 มิ.ย. 2011, 10:18
โพสต์: 590

โฮมเพจ: www.bhuddhakhun.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


วิริยะ เขียน:

"ปัญญา" คือ ความรอบรู้ รู้ทั่วรู้ถึง คือ ทั้งรู้ทั้งเห็นตามความเป็นจริงของสรรพสิ่ง
เกิดความรู้ความเข้าใจหายสงสัยในสิ่งนั้นเรื่องนั้น รู้แล้วละได้ ปล่อยวางได้ ..

"ปัญญา" คือ ยอดมงกุฎของพระพุทธศาสนา ที่ประกอบด้วย
ศีล สมาธิ เป็นพื้นฐาน ..

ผู้มี "ปัญญา" อันมี ศีล สมาธิ เป็นฐานแล้ว ย่อมยังตนให้
เป็นพระอริยะบุคคล คือ บุคคลอันเยี่ยมในพระพุทธศาสนา ..

"ศีล สมาธิ ปัญญา" เป็นเหตุ "วิมุตติความหลุดพ้น" เป็นผล
"ปัญญา" เป็นสิ่งสูงสุดและผู้มี "ปัญญา" ย่อมเป็นผู้สูงสุด ..

"ปัญญา" มีประโยชน์และคุณอนันต์ สมควรเจริญ ควรบำเพ็ญให้มาก ..


:b1:


ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีของที่มาคู่กัน ปัญญาก็เช่นกันต้องมาพร้อมกับสติ
กล่าวคือ ปัญญาต้องใช้พร้อมกับสติ ขาดกันไม่ได้ หากมีสติย่อมเกิดปัญญา
หากมีปัญญาเพียงอย่างเดียวยังไม่เรียกว่าปัญญา เพราะอาจเกิดความ
ผิดพลาดได้ ต้องมีสติในการใช้ปัญญา ปัญญานั้นจึงจะเกิดความถูกต้อง
รอบคอบ เรียกโดยรวมว่าสติปัญญา

สติปัญญานั้น ควรมาพร้อมกับคุณธรรม จึงจะเรียกว่าผู้นั้นเป็นผู้มีปัญญา
และก่อประโยชน์ให้ปรากฏต่อตนเองและผู้อื่น เพราะถ้าหากปัญญานั้นอยู่
กับผู้ไม่ชอบธรรม ปัญญานั้นจะนำภัยมาให้คนผู้นั้นและผู้อื่น อย่างนี้ยัง
ไม่เรียกว่าเป็นผู้เจริญด้วยปัญญา

สติปัญญานั้นควรใช้คู่กับคุณธรรม จึงจะนำมาซึ่งความสงบสุขและความเจริญ
จริงมั๊ยล่ะ

.....................................................
รูปภาพ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 16:59 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธคุณ เขียน:
ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีของที่มาคู่กัน ปัญญาก็เช่นกันต้องมาพร้อมกับสติ
กล่าวคือ ปัญญาต้องใช้พร้อมกับสติ ขาดกันไม่ได้ หากมีสติย่อมเกิดปัญญา
หากมีปัญญาเพียงอย่างเดียวยังไม่เรียกว่าปัญญา เพราะอาจเกิดความ
ผิดพลาดได้ ต้องมีสติในการใช้ปัญญา ปัญญานั้นจึงจะเกิดความถูกต้อง
รอบคอบ เรียกโดยรวมว่าสติปัญญา
:b4: :b4:
"สติ สมาธิ ปัญญา" ทั้งสามตัวนี้แยกกันไม่ออกหรอกครับ
เพราะต้องอยู่ร่วมกัน เสริมกันไปเสมอ ..

เพราะฉะนั้น เมื่อพูดถึง "ปัญญา" ต้องเข้าใจว่าจะต้องมี "สติและสมาธิ"
ประกอบอยู่ด้วยกัน หรือถ้าพูดถึง "สติ" ก็ต้องรู้ว่ามี "สัมปชัญญะ"
ผสมอยู่ด้วย ..

เพียงแต่ว่า เราจะเน้นอธิบายตัวไหนเท่านั้นเอง ..


:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 17:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
แล้วธรรมที่คุนน้องพูดถึงอริยสัจสี่จากประสบการณ์ของตนเอง เกิดจากสัญญาแต่ยังไม่ใช่ปัญญาที่แท้จริงของพุทธศาสนา ใช่รึเปล่าค่ะ :b1: คือช่วยแนะนำคุนน้องรึเพิ่มเติมชี้แนะหน่อยจะได้มั้ยค่ะ ท่านวิริยะ :b8: ท่านคนธรรมดาด้วยนะค่ะ คุนน้องรู้สึกว่าท่านมีภูมิธรรมที่พอจะชี้แนะคุนน้องได้ :b8:

ที่คุณน้องคิดนะ ถูกต้องแล้วครับ เพียงแต่การคิดพิจารณา(ฝึกปัญญา)นั้น
ยังไม่เฉียบคม เหมือนมีมีดแต่ยังไม่คมพอที่จะตัดอะไร ๆ หรือยังละวางสิ่งใด ๆ ได้

จึงต้องมีหินลับมีด คือ "สติกับสมาธิ" เข้ามาหนุน จึงจะ
ทำให้มีดนั้นคม ..

จึงเห็นว่า คุณน้องควรฝึกสติสมาธิให้มากขึ้น แล้วคิดพิจารณาแบบเดิมอีก
ก็จะค่อย ๆ เห็นผลของการเปลี่ยนแปลง ที่ละเล็กละน้อย ..

มีดคมมากก็ตัดได้มาก คมน้อยก็ตัดได้น้อย เพียรพยายามไปเรื่อย ๆ
สักวันก็ตัดได้หมด ..

สำหรับ ข้าน้อยมีดทื่อไม่มีคมสักกะติ๊ดเลยอ่ะ .. :b9: :b13:


:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 19:33 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


พุทธคุณ เขียน:
วิริยะ เขียน:

"ปัญญา" คือ ความรอบรู้ รู้ทั่วรู้ถึง คือ ทั้งรู้ทั้งเห็นตามความเป็นจริงของสรรพสิ่ง
เกิดความรู้ความเข้าใจหายสงสัยในสิ่งนั้นเรื่องนั้น รู้แล้วละได้ ปล่อยวางได้ ..

"ปัญญา" คือ ยอดมงกุฎของพระพุทธศาสนา ที่ประกอบด้วย
ศีล สมาธิ เป็นพื้นฐาน ..

ผู้มี "ปัญญา" อันมี ศีล สมาธิ เป็นฐานแล้ว ย่อมยังตนให้
เป็นพระอริยะบุคคล คือ บุคคลอันเยี่ยมในพระพุทธศาสนา ..

"ศีล สมาธิ ปัญญา" เป็นเหตุ "วิมุตติความหลุดพ้น" เป็นผล
"ปัญญา" เป็นสิ่งสูงสุดและผู้มี "ปัญญา" ย่อมเป็นผู้สูงสุด ..

"ปัญญา" มีประโยชน์และคุณอนันต์ สมควรเจริญ ควรบำเพ็ญให้มาก ..


:b1:


ทุกสิ่งในโลกนี้ย่อมมีของที่มาคู่กัน ปัญญาก็เช่นกันต้องมาพร้อมกับสติ
กล่าวคือ ปัญญาต้องใช้พร้อมกับสติ ขาดกันไม่ได้ หากมีสติย่อมเกิดปัญญา
หากมีปัญญาเพียงอย่างเดียวยังไม่เรียกว่าปัญญา เพราะอาจเกิดความ
ผิดพลาดได้ ต้องมีสติในการใช้ปัญญา ปัญญานั้นจึงจะเกิดความถูกต้อง
รอบคอบ เรียกโดยรวมว่าสติปัญญา

สติปัญญานั้น ควรมาพร้อมกับคุณธรรม จึงจะเรียกว่าผู้นั้นเป็นผู้มีปัญญา
และก่อประโยชน์ให้ปรากฏต่อตนเองและผู้อื่น เพราะถ้าหากปัญญานั้นอยู่
กับผู้ไม่ชอบธรรม ปัญญานั้นจะนำภัยมาให้คนผู้นั้นและผู้อื่น อย่างนี้ยัง
ไม่เรียกว่าเป็นผู้เจริญด้วยปัญญา

สติปัญญานั้นควรใช้คู่กับคุณธรรม จึงจะนำมาซึ่งความสงบสุขและความเจริญ
จริงมั๊ยล่ะ

จริงค่ะคุนน้องเห็นด้วย เพราะพระอาจารย์เคยสอนว่า สตินำปัญญาตาม ถ้ามีแต่ปัญญาแต่ขาดสติก็อาจจะทำอะไรผิดพลาดแล้วมาคิดได้ทีหลัง :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 19:41 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


วิริยะ เขียน:
nongkong เขียน:
แล้วธรรมที่คุนน้องพูดถึงอริยสัจสี่จากประสบการณ์ของตนเอง เกิดจากสัญญาแต่ยังไม่ใช่ปัญญาที่แท้จริงของพุทธศาสนา ใช่รึเปล่าค่ะ :b1: คือช่วยแนะนำคุนน้องรึเพิ่มเติมชี้แนะหน่อยจะได้มั้ยค่ะ ท่านวิริยะ :b8: ท่านคนธรรมดาด้วยนะค่ะ คุนน้องรู้สึกว่าท่านมีภูมิธรรมที่พอจะชี้แนะคุนน้องได้ :b8:

ที่คุณน้องคิดนะ ถูกต้องแล้วครับ เพียงแต่การคิดพิจารณา(ฝึกปัญญา)นั้น
ยังไม่เฉียบคม เหมือนมีมีดแต่ยังไม่คมพอที่จะตัดอะไร ๆ หรือยังละวางสิ่งใด ๆ ได้

จึงต้องมีหินลับมีด คือ "สติกับสมาธิ" เข้ามาหนุน จึงจะ
ทำให้มีดนั้นคม ..

จึงเห็นว่า คุณน้องควรฝึกสติสมาธิให้มากขึ้น แล้วคิดพิจารณาแบบเดิมอีก
ก็จะค่อย ๆ เห็นผลของการเปลี่ยนแปลง ที่ละเล็กละน้อย ..

มีดคมมากก็ตัดได้มาก คมน้อยก็ตัดได้น้อย เพียรพยายามไปเรื่อย ๆ
สักวันก็ตัดได้หมด ..

สำหรับ ข้าน้อยมีดทื่อไม่มีคมสักกะติ๊ดเลยอ่ะ .. :b9: :b13:


:b1:

อ่อมิน่าท่านวิ ถึงได้เปรียบสติปัญญาเป็นเหมือนโล่และอาวุธ :b12: ปัญญาคุนน้องคงไม่น่าจะเป็นมีดแต่น่าจะเป็นดาบสองคม ถ้าหยิบมาฟันใครนี่ขาดสองท่อนเลย :b32: :b32:
ปล.คุนน้องล้อเล่น :b13: :b9:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 20:09 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
อ่อมิน่าท่านวิ ถึงได้เปรียบสติปัญญาเป็นเหมือนโล่และอาวุธ :b12: ปัญญาคุนน้องคงไม่น่าจะเป็นมีดแต่น่าจะเป็นดาบสองคม ถ้าหยิบมาฟันใครนี่ขาดสองท่อนเลย :b32: :b32:
ปล.คุนน้องล้อเล่น :b13: :b9:

ฮ่า ๆ ๆ หนุ่ม ๆ ทั้งหลายระวังตัวไว้ให้ดี อาจขาดสองท่อนได้ทุกเมื่อ .. :b32:
ปุ๊กลุ๊ก. ท่านวิ .. แก่แล้วไม่เกี่ยว ขอบาย ..คิกคิก .. :b9:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.พ. 2013, 21:02 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 ก.ค. 2010, 15:02
โพสต์: 146

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ถ้าเป็นผู้เริ่มต้นใหม่ การฝึกปัญญาควรทำอย่างไรคะ :b8:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 18 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 132 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร