วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 15:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มี.ค. 2013, 09:36 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2011, 13:22
โพสต์: 79


 ข้อมูลส่วนตัว


ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มี.ค. 2013, 10:02 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว




อริยสัจ 4.jpg
อริยสัจ 4.jpg [ 220.7 KiB | เปิดดู 3988 ครั้ง ]
เข้าถึงความลึกของอริยสัจจ 4 ด้วยภาพ.........(จะมีสักกี่คนเข้าถึงความนัยนี้ได้บ้างหนอ)
:b10:
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มี.ค. 2013, 18:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.ค. 2011, 22:53
โพสต์: 705

แนวปฏิบัติ: รู้สึกตัว
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


อมันตรา เขียน:
ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว


ทางออกก็อยู่ใ่นอริยสัจ แหละครับ มรรคแปด ทางแห่งสัมมา :b16:

.....................................................
"ธรรมะเป็นปัจจัตตัง ต้องทำเอง รู้เอง เห็นเอง เข้าใจเอง"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มี.ค. 2013, 19:15 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


ทางเดียวเลย เต็มที่เลยครับ อย่าเสียเวลา ปฎิปทาที่ทำให้สิ้นกรรมมีทางเดียว มรรคมีองค์แปด


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มี.ค. 2013, 20:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อมันตรา เขียน:
ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว


แม่นแล้วคับ....ทุกสิ่งทุกข์เพราะ...ต้องการให้ร่างกายนี้รอด...คนไม่ได้กิน..ก็ทุกข์....ตัวที่จะถูกกินก็ทุกข์...

เราเบียดเบียนผู้อื่นก็เพื่อแค่กายนี้....แล้วกายนี้มันก็ทรยศเรา...ไม่อยู่กับเราตลอดไป

เราทำผิดตายไปก็ทุกข์ต่อที่นรก....กายนี้มันก็ไม่ไปช่วยเรารับทุกข์ด้วยเลย...

ยังงี้ไม่เรียกว่าเราโง่..ได้งัยเน๊าะ..บ้า..ชัด ๆ

ไม่มีร่างกายซะอย่าง.....เหตุที่จะทำให้ต้องไปเบียดเบียนกันคงไม่มี...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มี.ค. 2013, 20:58 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


อมันตรา เขียน:
ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว

เป็นทุกข์จากความคิดหรือเป็นทุกข์จากการกินเนื้ออยู่ค่ะ ถามความรู้สึกท่านว่าท่านทุกข์เพราะอะไร
ถ้าเราไม่กินแล้วเราพ้นทุกข์หรือค่ะ ขนาดเจ้าชายสิทธัตถะยอมอดอาหารยังไม่หลุดพ้นทุกข์ ยังต้องกลับมาฉันอาหารตามเดิม
ในเมื่อเรามีร่างกาย เราก็ต้องกิน ต้องขับถ่าย การกินไม่ได้เป็นบาปเป็นกรรมหรอกค่ะ พระอรหันต์ที่หมดกิเลสท่านยังต้องกินต้องฉัน ที่ท่านกลัวเรื่องการกิน ท่านกำลังปรุงแต่งทำให้ความคิดมีอิทธิพลเกิดเป็นความรู้สึกกลัว ในเมื่อเรากินซากที่ไร้วิญญานมันจะเป็นบาปด้วยหรือค่ะ หรือจะเปลี่ยนไปกินมังสวิรัสดีละ ท่านจะได้ไม่ทุกข์ไม่ต้องกลัวว่าจะไปเบียดเบียนสัตว์ :b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มี.ค. 2013, 21:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


nongkong เขียน:
อมันตรา เขียน:
ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว

เป็นทุกข์จากความคิดหรือเป็นทุกข์จากการกินเนื้ออยู่ค่ะ ถามความรู้สึกท่านว่าท่านทุกข์เพราะอะไร
ถ้าเราไม่กินแล้วเราพ้นทุกข์หรือค่ะ ขนาดเจ้าชายสิทธัตถะยอมอดอาหารยังไม่หลุดพ้นทุกข์ ยังต้องกลับมาฉันอาหารตามเดิม
ในเมื่อเรามีร่างกาย เราก็ต้องกิน ต้องขับถ่าย การกินไม่ได้เป็นบาปเป็นกรรมหรอกค่ะ พระอรหันต์ที่หมดกิเลสท่านยังต้องกินต้องฉัน ที่ท่านกลัวเรื่องการกิน ท่านกำลังปรุงแต่งทำให้ความคิดมีอิทธิพลเกิดเป็นความรู้สึกกลัว ในเมื่อเรากินซากที่ไร้วิญญานมันจะเป็นบาปด้วยหรือค่ะ หรือจะเปลี่ยนไปกินมังสวิรัสดีละ ท่านจะได้ไม่ทุกข์ไม่ต้องกลัวว่าจะไปเบียดเบียนสัตว์ :b1:


:b8: :b8: ใช่ค่ะคุณน้องก้อง

หากทานเจ ทานมังสวิรัตแล้วไม่ทุกข์ ทานแล้วบรรลุธรรม ป่านนี้ช้างม้าวัวควาย
ไม่บรรลุอรหัต์ไปหมดแล้วรึ เรียนมากปรุงแต่งมากหากไม่เรียนให้ถ่องแท้ รู้มาก
แต่รู้ไม่ถ่องแท้จะกลายเป็นดาบสองคมนะ จริงมั้ยคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 มี.ค. 2013, 22:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


หญิงไทย เขียน:
nongkong เขียน:
อมันตรา เขียน:
ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว

เป็นทุกข์จากความคิดหรือเป็นทุกข์จากการกินเนื้ออยู่ค่ะ ถามความรู้สึกท่านว่าท่านทุกข์เพราะอะไร
ถ้าเราไม่กินแล้วเราพ้นทุกข์หรือค่ะ ขนาดเจ้าชายสิทธัตถะยอมอดอาหารยังไม่หลุดพ้นทุกข์ ยังต้องกลับมาฉันอาหารตามเดิม
ในเมื่อเรามีร่างกาย เราก็ต้องกิน ต้องขับถ่าย การกินไม่ได้เป็นบาปเป็นกรรมหรอกค่ะ พระอรหันต์ที่หมดกิเลสท่านยังต้องกินต้องฉัน ที่ท่านกลัวเรื่องการกิน ท่านกำลังปรุงแต่งทำให้ความคิดมีอิทธิพลเกิดเป็นความรู้สึกกลัว ในเมื่อเรากินซากที่ไร้วิญญานมันจะเป็นบาปด้วยหรือค่ะ หรือจะเปลี่ยนไปกินมังสวิรัสดีละ ท่านจะได้ไม่ทุกข์ไม่ต้องกลัวว่าจะไปเบียดเบียนสัตว์ :b1:


:b8: :b8: ใช่ค่ะคุณน้องก้อง

หากทานเจ ทานมังสวิรัตแล้วไม่ทุกข์ ทานแล้วบรรลุธรรม ป่านนี้ช้างม้าวัวควาย
ไม่บรรลุอรหัต์ไปหมดแล้วรึ เรียนมากปรุงแต่งมากหากไม่เรียนให้ถ่องแท้ รู้มาก
แต่รู้ไม่ถ่องแท้จะกลายเป็นดาบสองคมนะ จริงมั้ยคะ

จริงค่ะ. :b12:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2013, 03:19 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


อมันตรา เขียน:
ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว


เป็นทุกข์ครับ เมื่อใดที่เราปรุงแต่งความคิด เมื่อนั้นเกิดความทุกข์ขึ้น เหตุเกิดของทุกข์ความเบียดเบียนซึ่งกันและกัน การเบียดเบียนซึ่งกันและกัน เพราะเป็นธรรมชาติของการมีชีวิตอยู่ จึงเป็นเหตุเกิดของทุกข์ กินเข้าไปแล้วมีผลคือความทุกข์ เพราะยังเป็นการตั้งอยู่ของทุกข์ ดำรงอยู่เพราะทุกข์เป็นเหตุ แต่เพราะรู้ว่าการมีชีวิตอยู่จึงมีการกินอาหาร จึงกินอาหารเพราะมีความเห็นว่าเป็นการสืบต่อตามความเป็นจริงเป็นการปฏิบัติตามมรรคครับ

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2013, 06:43 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อมันตรา เขียน:
ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว


แม่นแล้วคับ....ทุกสิ่งทุกข์เพราะ...ต้องการให้ร่างกายนี้รอด...คนไม่ได้กิน..ก็ทุกข์....ตัวที่จะถูกกินก็ทุกข์...

เราเบียดเบียนผู้อื่นก็เพื่อแค่กายนี้....แล้วกายนี้มันก็ทรยศเรา...ไม่อยู่กับเราตลอดไป

เราทำผิดตายไปก็ทุกข์ต่อที่นรก....กายนี้มันก็ไม่ไปช่วยเรารับทุกข์ด้วยเลย...

ยังงี้ไม่เรียกว่าเราโง่..ได้งัยเน๊าะ..บ้า..ชัด ๆ

ไม่มีร่างกายซะอย่าง.....เหตุที่จะทำให้ต้องไปเบียดเบียนกันคงไม่มี...
ผมว่าเราเบียดเบียนไม่ใช่เพื่อกายหรอกครับ เพื่อใจมากกว่า ท่านลองคิดดีๆนะกายเรานี้นั้นมันต้องการไม่มากหรอก มันต้องการจริงๆแค่ปัจจัย4เล็กน้อยเท่านั้น แต่ใจนี่ซิท่าน ผู้ทรงคุณวุฒิ มันทำอะไรเกินเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2013, 09:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 ก.พ. 2011, 08:23
โพสต์: 1328


 ข้อมูลส่วนตัว


อมันตรา เขียน:
ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว


ไปรู้ทุกข์ ขณะที่เกิดทุกข์ มีสติกำหนดรู้ เช่น ปวดขี้ ในตอนเช้านั้นแหล่ะ ปวดแล้วก็อย่าให้เสียของเปล่า
มีสติกำหนดรู้ทุกข์ซะ แล้วก็รู้ๆไปเรื่อย เห็นทุกข์กำลังลดลง จนขับถ่ายเสร็จ
แล้วก็เห็นว่า ทุกข์นั้นไม่เที่ยง เห็นมั้ยว่ามันเกิดแล้วก็ต้องดับไปเป็นธรรมดา
จะเห็นความต่างระหว่างทุกข์กับไม่ทุกข์ วันๆ หนึ่งเรามีทุกข์เกิดขึ้นมากมายแต่ไม่เคยกำหนดรู้
นั่งเมื่อยก็รีบหนีทุกข์ เปลี่ยนไปยืนคลายทุกข์ ดังนั้นก่อนยืนก็มีสติกำหนดรู้ทุกข์ขณะนั่งก่อน แล้วค่อยยืน
เพื่อหนีทุกข์จากความเมื่อย เป็นต้น

ถ้าไม่อยากจะเบียดเบียนชีวิตใคร ก็เจริญสติปัฏฐานเพื่อให้พ้นไปจากการเกิดมาเบียดเบียนกินชีวิตสัตว์ค่ะ

.....................................................
พระพุทธศาสนามี ๒ นัย ดังนี้...นัยที่ ๑ คือคำสอนของพระพุทธองค์มี ๓ ประการ...เพื่อประโยชน์ในภพนี้ ในภพหน้า เพื่อเข้าถึงความสุขโดยส่วนเดียวคือพระนิพพาน...นัยที่ ๒ คือแก่นแท้ของพระพุทธศาสนาคืออริยสัจจ ๔ ซึ่งเป็นสภาวะธรรมที่ทำให้ผู้เห็นแจ้ง พ้นทุกข์ทั้งปวงได้ การศึกษาพระอภิธรรมว่าด้วยสภาวะธรรมทั้งสิ้น ผู้เห็นประโยชน์ย่อมได้รับประโยชน์ค่ะ
(เกิดมาไม่ได้เป็นผู้สร้าง ก็จงเป็นผู้ที่รักษา แต่จงอย่าเป็นผู้ที่ทำลาย)


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2013, 11:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อมันตรา เขียน:
ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว


แม่นแล้วคับ....ทุกสิ่งทุกข์เพราะ...ต้องการให้ร่างกายนี้รอด...คนไม่ได้กิน..ก็ทุกข์....ตัวที่จะถูกกินก็ทุกข์...

เราเบียดเบียนผู้อื่นก็เพื่อแค่กายนี้....แล้วกายนี้มันก็ทรยศเรา...ไม่อยู่กับเราตลอดไป

เราทำผิดตายไปก็ทุกข์ต่อที่นรก....กายนี้มันก็ไม่ไปช่วยเรารับทุกข์ด้วยเลย...

ยังงี้ไม่เรียกว่าเราโง่..ได้งัยเน๊าะ..บ้า..ชัด ๆ

ไม่มีร่างกายซะอย่าง.....เหตุที่จะทำให้ต้องไปเบียดเบียนกันคงไม่มี...
ผมว่าเราเบียดเบียนไม่ใช่เพื่อกายหรอกครับ เพื่อใจมากกว่า ท่านลองคิดดีๆนะกายเรานี้นั้นมันต้องการไม่มากหรอก มันต้องการจริงๆแค่ปัจจัย4เล็กน้อยเท่านั้น แต่ใจนี่ซิท่าน ผู้ทรงคุณวุฒิ มันทำอะไรเกินเลย


อะแฮ่ม....ผมแค่ลองไต่ไปที่อรูปภพก่อน

อแมสซิ่ง...เล่นพรวดพราดถึงอวิชชาเลย

แม่นแล้วคับ....เพราะใจโง่ตัวเดียว
:b16: :b16:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มี.ค. 2013, 16:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
amazing เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อมันตรา เขียน:
ผมเรียนมาว่า ทุกข์ สมุทัย นิโรธ และมรรค ท่องจนจำขึ้นใจแต่ไม่เข้าใจ แต่พอมานึกถึงการกินของเราเอะ เรากินเขานี้ เขาเต็มใจให้กินไหมหนอ เห็นแต่วิ่งหนีหน้าตั้งทุกตัวกลัวตายหมด แล้วถัาเราถูกกินบัางละ โอ๊ยกรรมชัดๆ กรรมในความคิด นี้เป็นเหตุแห่งทุกข์ใช้ไหมครับ แล้วผลจากการกินละคงไม่ต้องบรรยาย นะครับ น่ากลัว


แม่นแล้วคับ....ทุกสิ่งทุกข์เพราะ...ต้องการให้ร่างกายนี้รอด...คนไม่ได้กิน..ก็ทุกข์....ตัวที่จะถูกกินก็ทุกข์...

เราเบียดเบียนผู้อื่นก็เพื่อแค่กายนี้....แล้วกายนี้มันก็ทรยศเรา...ไม่อยู่กับเราตลอดไป

เราทำผิดตายไปก็ทุกข์ต่อที่นรก....กายนี้มันก็ไม่ไปช่วยเรารับทุกข์ด้วยเลย...

ยังงี้ไม่เรียกว่าเราโง่..ได้งัยเน๊าะ..บ้า..ชัด ๆ

ไม่มีร่างกายซะอย่าง.....เหตุที่จะทำให้ต้องไปเบียดเบียนกันคงไม่มี...
ผมว่าเราเบียดเบียนไม่ใช่เพื่อกายหรอกครับ เพื่อใจมากกว่า ท่านลองคิดดีๆนะกายเรานี้นั้นมันต้องการไม่มากหรอก มันต้องการจริงๆแค่ปัจจัย4เล็กน้อยเท่านั้น แต่ใจนี่ซิท่าน ผู้ทรงคุณวุฒิ มันทำอะไรเกินเลย


อะแฮ่ม....ผมแค่ลองไต่ไปที่อรูปภพก่อน

อแมสซิ่ง...เล่นพรวดพราดถึงอวิชชาเลย

แม่นแล้วคับ....เพราะใจโง่ตัวเดียว
:b16: :b16:
ผมใจร้อน ท่านผู้ทรงคุณวุฒิ เล่นมันพรอดเดียวจบเลย อิอิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2013, 09:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 3
สมาชิก ระดับ 3
ลงทะเบียนเมื่อ: 26 เม.ย. 2010, 10:41
โพสต์: 114

แนวปฏิบัติ: ลัทธินิยมความจริง
สิ่งที่ชื่นชอบ: เฒ่าทะเล
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ความชอบธรรมมนุษย์เป็นผู้กำหนด
เพราะมนุษย์อยู่บนสุดของห่วงโซ่อาหาร
ปลาใหญ่กินปลาเล็กเป็นเรื่องธรรมดา
ผู้ชนะย่อมถูกเสมอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 มี.ค. 2013, 10:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 2
สมาชิก ระดับ 2
ลงทะเบียนเมื่อ: 31 ส.ค. 2011, 13:22
โพสต์: 79


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอบพระคุณทุกความคิดเห็น ผมอ่านเจอนะครับ พระพุทธองค์ท่านเมตตาสอนสามเณร ตอบปัญหาเรื่องของ อาหาร1 รูปกับนาม1 สองอย่างนี้ควรจะทำให้รู้จริง


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 17 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 126 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร