ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ผู้มีชาติเป็นบัณฑิต
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=45318
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 05 พ.ค. 2013, 06:05 ]
หัวข้อกระทู้:  ผู้มีชาติเป็นบัณฑิต

บุคคลที่มีปัญญา มีชาติเป็นบัณฑิตจึงไม่ควรปฏิเสธพระไตรปิฎก
ก็น่าจะสำเหนียกกันอย่างนี้บ้างว่า การที่พระไตรปิฎกมีอายุยืนนานนับเป็นพันปี ที่ยังอยู่จนถึงสมัยนี้ ยังไม่สูญหายไปไหน นั้นเป็นเพราะเหตุใด? เป็นเพราะคนในสมัยก่อนๆ ช่วยกันรักษาสืบทอดกันมาใช่หรือไม่? ถ้าหากพระไตรปิฎกไม่ใช่ของดีมีคุณค่าควรศึกษาแก่การเล่าเรียนจริงแล้วไซร้ ไฉนท่านเหล่านั้นจึงได้ทุ่มเทความวิริยะอุตสาหะช่วยกันรักษาไว้ โดยวิธีศึกษาเล่าเรียนด้วยตนเอง ทรงจำไว้และบอกต่อกันไป เป็นต้น ซึ่งเป็นเรื่องทำไม่ง่ายเลย เพราะฉะนั้นพึงเชื่อได้อย่างแน่นอนว่าพระไตรปิฎกเป็นของดีมีประโยขน์แท้

ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมานี้ น่าจะเป็นเครื่องยืนยันและเตือนสติให้นักเผยแผ่พระศาสนาบางท่านฉุกคิดบ้างว่า การที่เที่ยวประกาศอยู่เสมอว่า "พระไตรปิฎกมีความผิดพลาด ไม่มีความเชื่อถือเป็นสาระ ไม่ใช่พุทธพจน์" อะไรๆ ทำนองนี้นั้น เป็นการกระทำที่สมควรแล้วหรือไม่ และการเที่ยวประกาศอย่างนี้นั้น ไม่กลัวเป็นทางให้ผู้อื่นติฉินนินทาเอาได้ว่า "ผู้นี้ไม่มีความรู้ในพระไตรปิฎก กลัวว่าเขาจะซักถามความรู้ในพระไตรปิฎก จึงได้ปฏิเสธพระไตรปิฎก" อย่างนี้บ้างเลยหรือ อีกอย่างหนึ่งก็เที่ยวประกาศว่าอย่าเชื่อถือเลยพระไตรปิฎก มาเชื่อถือกระผมดีกว่า เชื่อฉันดีกว่า เชื่ออาตมาดีกว่า อย่างนี้นั่นเอง

ส่วนสำหรับพวกที่กล่าวว่า ตนเองไม่เชื่อพระไตรปิฎกแล้วชอบยกเอาพุทธพจน์ในเกสปุตตสูตร ที่รับสั่งกะพวกกาลามชน ว่า "มา ปิฎกสมฺปทาเนน" อันแปลว่า อย่าได้เชื่อถือโดยการอ้างอิงปิฎก" หมายความว่าผู้ใดผู้หนึ่งยกปิฎกคือตำรามาอ้างอิง ก็อย่าพึงเชื่อถือ เพราะเหตุที่เขาอ้างตำรานั้น โดยมุ่งหวังจะโจมตีผู้ที่เชื่อถือพระไตรปิฎกนั้น แม้แต่พุทธพจน์นี้ก็ปรากฎอยู่ในพระไตรปิฎก เมื่อเป็นเช่นนี้ ก็ไม่ทราบว่าตัวเขาเองก็อ้างพระไตรปิฎกนั่นแหละ เพราะการพูดมันไม่คล้อยตามกัน

ก็แลในเกสปุตตสูตรนั้น ผู้ศึกษาควรพิจารณาอย่างนี้ว่า พระพุทธเจ้าทรงเป็นผู้มีปกติตรัสสรรเสริญภิกษุผู้ว่าง่าย ไฉนในเกสปุตตสูตรนี้ กลับสอนว่าไม่ให้เชื่ออะไรง่ายๆ ที่ตรัสไว้อย่างนั้นเพื่อเป็นหลักความเชื่อ ๑๐ ประการที่ตรัสไว้นี้ทรงประสงค์จะให้ประโยชน์สำหรับพวกกาลามชนผู้สดับตรับฟังในเวลานั้นเท่านั้น เพื่อหวังให้กาลามชนผู้สดับตรับฟังแล้วให้ปฏิบัติให้เห็นแจ้งแล้วค่อยเชื่อ อย่างนี้เป็นต้น

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 05 พ.ค. 2013, 18:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มีชาติเป็นบัณฑิต

คนบาปมีทุกยุคทุกสมัยแหละลุง...ตราบใดยังมีกิเลสอยู่...ฆ่าให้ตายเไม่มีวันหมด....แต่ก็ต้องพูดบ้างแหละเน๊าะ..

แม้ขนาด...ยึดพระไตรปิฎก...ยังตีความผิด...ผิดคนเดียวไม่พอ...ยังแพร่ความผิด ๆ นั้นออกไปอีก...อันนี้ก็บาปแม้จะเกิดจากความไม่รู้ก็ตาม...

ทั้งนี้เพราะ...ปริยัติ...ปฏิบัติ...ปฏิเวท...ไม่สมดุลย์

รู้แต่พอดี....ปฏิบัติให้มาก...มีความสังเกตสังกา....ก็น่าจะเพียงพอสำหรับสาวก..นะผมว่า..

เจ้าของ:  student [ 06 พ.ค. 2013, 00:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มีชาติเป็นบัณฑิต

พระไตรปิฏกก็คือพระธรรมคำสอน เป็นพระรัตนตรัย เป็นเครื่องจำแนกว่า นี่คือ การรวบรวมเอาคำสอนของพระศาสดาของพุทธศาสนา ทั้งเรื่องราว ระเบียบวินัย และความรู้เพื่อการปฏิบัติสู่ปัญญา ส่วนตัวนั้นการศึกษาในพระไตรปิฏกน้อย การแปลความก็ไม่เก่ง แต่อ่านบ่อยๆก็เกิดการพิจารณาได้ว่าลงตัว แนวเดียวกัน ชื่อเดียวกัน ความหมายเดียวกัน แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเข้าใจจากการอ่านทั้งหมดโดยไม่ลงมือปฏิบัติเลยตั้งแต่เริ่มแรก อย่าง อานาปานสติ จนถึงขั้นปัญญา เช่น ทุกขังอนิจจังอนัตตา ล้วนแล้วแต่ต้องเอาตัวเราเข้าไปพิสูจน์ ต้องเห็นได้ด้วยตนเอง

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 22 พ.ค. 2018, 13:49 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ผู้มีชาติเป็นบัณฑิต

Kiss Kiss Kiss

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/