ลานธรรมจักร :: แสดงกระทู้ - ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม

"ใจเป็นธรรม" ฮานาโกะนึกถึง..เมื่อเวลาเราถูกกระทบด้วยสิ่งใดก็ตาม ก็ให้ตั้งธงไว้ในใจก่อนว่า มันมีสัจธรรมอยู่ คือ พระไตรลักษณ์ เช่น มันไม่เที่ยงแท้แน่นอน มันต้องเผื่อใจไว้ มันไม่ได้อย่างใจที่เราอยากได้หรอก คือ คอยสอนตัวเอาไว้ ให้มันระลึกถึงลักษณะของมันตามสัจธรรมอะค่ะ จะเจอเรื่องดีก็ เออ...ดีได้ก็ร้ายได้ เจอเรื่องร้ายก็...เออ มันร้ายได้ก็ดีได้

แต่พอใช้คำว่า "ใจเป็นกลาง" ฮานาโกะก็นึกถึงอีกแง่หนึ่ง คือ การเว้นจากอคติ ๔ ได้แก่ ความรัก ความชัง ความหลง ความกลัว ซึ่งควรจะคอยชั่งหัวใจเราไว้เสมอๆ ว่า ตอนนี้เราตกอยู่ในอำนาจของหนึ่งในสี่ประการนี้หรือเปล่า ถ้าเราตกอยู่ในอำนาจของมัน เราจะผิดศีลไหม เราจะขัดประเพณีดีงามไหม เราจะผิดสภาวะหรือหน้าที่ที่เรารับผิดชอบไหม เราจะขัดกฏหมายไหม ถ้าผิดก็ต้องหักห้ามใจ

คอยชั่งใจไว้ด้วยอคติ ๔ ยังมีประโยชน์ด้วย รู้สึกเหมือนพรหมวิหาร ๔ จะเจริญขึ้นตามได้ด้วยแหะ.. :b9:

พรหมวิหาร..ก็ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ใช่ไหมคะ :b46:

เจ้าของ:	ต้อยตีวิด [ 09 พ.ค. 2013, 13:04 ]
หัวข้อกระทู้:	ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม เหมือนกันหรือเปล่าค่ะ

เจ้าของ:	เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 09 พ.ค. 2013, 13:14 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม

เจ้าของ:	govit2552 [ 09 พ.ค. 2013, 14:03 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
ใจเป็นธรรม ได้โดยไม่ต้องเกี่ยวข้องกับใคร ใจเป็นกลาง ระหว่างฝ่ายโน้น กับฝ่ายนั้น

เจ้าของ:	student [ 09 พ.ค. 2013, 14:44 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
คิดว่าไม่เหมือนกันแต่ไปด้วยกันได้ครับ คือ สามารถอาศัยซึ่งกันและกัน

เจ้าของ:	เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 09 พ.ค. 2013, 16:02 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
ใจเป็นกลาง ยังยึดตึด อยู่ตรงความเป็นกลาง ใจเป็นธรรม ไม่ยึดฝ่ายใดเลย แม้แต่ตรงกลาง

ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/

ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=45344	หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:	nongkong [ 09 พ.ค. 2013, 16:10 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
ขอตอบจากที่เคยฝึกฝนมามานะค่ะ (ไท่รู้จะสอบตกป่าว ) ใจเป็นกลาง คือการที่เราไม่เอาจิตไปจับกับอารมณ์ที่เข้ามากระทบกับกับ หู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ คือไม่ว่าจะมีอะไรมากระทบจิตเราก็ไม่ปรุงแต่ง ให้เกิดความยินดียินร้าย(ด่านอรหันต์เลยนะเนียะ ) ใจเป็นธรรม คือสภาวะที่ปรากฏในปัจจุบันขนะนั้น ไม่ว่าจะเกิดความรู้สึกเช่นไรก็ตาม จะชอบใจ ไม่ชอบใจ อะไรมากระทบก็รู้ กำหนดรู้สภาวะนั้นและน้อมจิตมาพิจารณาว่า สิ่งใดที่เกิดขึ้นสิ่งนั้นย่อมดับลง เป็นการรักษาไจ สำรวมใจ ถ้าเราเห็นถึงความดับทุกกรณี ตัวปัญญาจะเกิดค่ะ

เจ้าของ:	amazing [ 09 พ.ค. 2013, 18:01 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
ใจเป็นกลางจริงๆจะต้องเป็นจิตของอรหันต์เท่านั้น แต่ใจเป้นธรรมนั้นขึ้นอยู่กับเหตุและผล

เจ้าของ:	Hanako [ 10 พ.ค. 2013, 14:37 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
"ใจเป็นธรรม" ฮานาโกะนึกถึง..เมื่อเวลาเราถูกกระทบด้วยสิ่งใดก็ตาม ก็ให้ตั้งธงไว้ในใจก่อนว่า มันมีสัจธรรมอยู่ คือ พระไตรลักษณ์ เช่น มันไม่เที่ยงแท้แน่นอน มันต้องเผื่อใจไว้ มันไม่ได้อย่างใจที่เราอยากได้หรอก คือ คอยสอนตัวเอาไว้ ให้มันระลึกถึงลักษณะของมันตามสัจธรรมอะค่ะ จะเจอเรื่องดีก็ เออ...ดีได้ก็ร้ายได้ เจอเรื่องร้ายก็...เออ มันร้ายได้ก็ดีได้ แต่พอใช้คำว่า "ใจเป็นกลาง" ฮานาโกะก็นึกถึงอีกแง่หนึ่ง คือ การเว้นจากอคติ ๔ ได้แก่ ความรัก ความชัง ความหลง ความกลัว ซึ่งควรจะคอยชั่งหัวใจเราไว้เสมอๆ ว่า ตอนนี้เราตกอยู่ในอำนาจของหนึ่งในสี่ประการนี้หรือเปล่า ถ้าเราตกอยู่ในอำนาจของมัน เราจะผิดศีลไหม เราจะขัดประเพณีดีงามไหม เราจะผิดสภาวะหรือหน้าที่ที่เรารับผิดชอบไหม เราจะขัดกฏหมายไหม ถ้าผิดก็ต้องหักห้ามใจ คอยชั่งใจไว้ด้วยอคติ ๔ ยังมีประโยชน์ด้วย รู้สึกเหมือนพรหมวิหาร ๔ จะเจริญขึ้นตามได้ด้วยแหะ.. พรหมวิหาร..ก็ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ใช่ไหมคะ

เจ้าของ:	eragon_joe [ 10 พ.ค. 2013, 15:26 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
Hanako เขียน: "ใจเป็นธรรม" ฮานาโกะนึกถึง..เมื่อเวลาเราถูกกระทบด้วยสิ่งใดก็ตาม ก็ให้ตั้งธงไว้ในใจก่อนว่า มันมีสัจธรรมอยู่ คือ พระไตรลักษณ์ เช่น มันไม่เที่ยงแท้แน่นอน มันต้องเผื่อใจไว้ มันไม่ได้อย่างใจที่เราอยากได้หรอก คือ คอยสอนตัวเอาไว้ ให้มันระลึกถึงลักษณะของมันตามสัจธรรมอะค่ะ จะเจอเรื่องดีก็ เออ...ดีได้ก็ร้ายได้ เจอเรื่องร้ายก็...เออ มันร้ายได้ก็ดีได้ แต่พอใช้คำว่า "ใจเป็นกลาง" ฮานาโกะก็นึกถึงอีกแง่หนึ่ง คือ การเว้นจากอคติ ๔ ได้แก่ ความรัก ความชัง ความหลง ความกลัว ซึ่งควรจะคอยชั่งหัวใจเราไว้เสมอๆ ว่า ตอนนี้เราตกอยู่ในอำนาจของหนึ่งในสี่ประการนี้หรือเปล่า ถ้าเราตกอยู่ในอำนาจของมัน เราจะผิดศีลไหม เราจะขัดประเพณีดีงามไหม เราจะผิดสภาวะหรือหน้าที่ที่เรารับผิดชอบไหม เราจะขัดกฏหมายไหม ถ้าผิดก็ต้องหักห้ามใจ คอยชั่งใจไว้ด้วยอคติ ๔ ยังมีประโยชน์ด้วย รู้สึกเหมือนพรหมวิหาร ๔ จะเจริญขึ้นตามได้ด้วยแหะ.. พรหมวิหาร..ก็ไม่เลือกที่รักมักที่ชัง ใช่ไหมคะ

เจ้าของ:	วิริยะ [ 11 พ.ค. 2013, 06:38 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
ต้อยตีวิด เขียน: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม เหมือนกันหรือเปล่าค่ะ ใจเป็นกลาง ก็คือ ใจเป็นธรรม .. อันประกอบด้วย "อุเบกขาธรรม" ไม่เอียงซ้าย เอียงขวา ไม่ประกอบด้วย "อคติ ๔ " ไม่เอียงเพราะรัก เพราะชัง ..

เจ้าของ:	เช่นนั้น [ 11 พ.ค. 2013, 23:03 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
ต้อยตีวิด เขียน: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม เหมือนกันหรือเปล่าค่ะ สภาพธรรมในจิตตุปปาทกัณพ์ ใจเป็นธรรม มี 3 สภาวะ คือ ใจเป็นกุศล ใจเป็นอกุศล ใจเป็นอัพยากต แต่ ใจที่เป็นอัพยากต กล่าวว่าเป็นกลางๆ คือไม่ใช่เป็นจิตเหตุกุศล หรือจิตเหตุอกุศล ซึ่งใจที่เป็นอัพยากต เป็นวิบาก แม้ว่าจะเป็นวิบากของกุศล หรือวิบากของอกุศลก็ตามแต่ โดยใจที่เป็นอัพยากต เป็นกลางๆ ด้วยเหตุที่ว่าเป็นใจที่พลิกผัน ไปกระทำเหตุอันเป็นกุศล ก็ได้ กระทำเหตุอันเป็นอกุศลก็ได้ แล้วแต่เจตนา

เจ้าของ:	ต้อยตีวิด [ 12 พ.ค. 2013, 09:26 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: ใจเป็นกลางกับใจเป็นธรรม
ขอบพระคุณคะ

หน้า 1 จากทั้งหมด 1	เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/