มนุษย์เป็นคนสร้างพระเจ้า ล้านเปอร์เซ็นต์

คราวนี้คุณโฮฮับคงเข้าใจแล้วว่า ไม่มีอะไรเป็น ทิพย์ ไม่มีอะไร จุติ ขึ้นมาได้เอง

น่าแปลกใจว่าคุณโฮฮับเคยเรียนวิทยาศาสตร์ ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตยังไม่รู้ ดันให้ต้นไม้เป็นสิ่งไม่มีชีวิตจัดไว้พวกเดียวกับ หิน ดิน ทราย

วิทยาศาสตร์แบ่งแยกการเกิดของสัตว์ตามลักษณะการเกิด
ออกลูกเป็นตัว ออกลูกเป็นไข่ และแตกหน่อ(แบ่งตัว)
ไอ้ที่คุณโฮฮับอธิบายมา สรุปว่าคนให้กำเนิดคุณโฮฮับออกลูกเป็นไข่หรือไง

คนไม่รู้ไม่ได้แปลว่าคนโง่ แต่คนโง่มักจะอวดรู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้

ถามหน่อยคุณไปเอาคำพูดนี้มาจากไหน แบบนี้เขาเรียกจิตเป็นอกุศลเพ้อเจ้อ
ไอ้ที่คุณว่า "ต้นไม้เป็นสิ่งไม่มีชีวิต" ผมพูดตั้งแต่มีไรครับ
คนอย่างคุณนี้มันไม่มีความน่าเชื่อถือเลยครับ มันหาสาระไม่ได้ตั้งแต่ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมาแล้ว
มิหน่ำซ้ำ มาแต่งเรื่องใส่ความชาวบ้านเขาอีก

คำพูดของผมที่เคยสอนตากรัชกายไว้ก็คือ...ต้นไม้เป็นสิ่งมีชีวิต ที่ไม่มีขันธ์ห้า

วิทยาศาสตร์โลกไหนครับ ที่แบ่งการเกิดของสัตว์แบบที่คุณว่า
แกงไดนี่ไม่ได้เรื่อง ทั้งทางธรรมะและทางวิทยาศาสตร์

สัตว์มันมีความหมายเป็นสองนัย เป็นมนุษย์กับเป็นเดรัจฉาน
และในความเป็นสัตว์จะต้องมีขันธ์ห้า เข้าใจมั้ย

ไอ้ที่บอกว่า ออกลูกด้วยวิธีแตกหน่อ สงสัยแกงไดแตกหน่อมาจากผู้ให้กำเนิดล่ะมั้ง

แล้วการที่มาตั้งกระทู้ถามแบบนี้ เรียกว่าอะไรครับ
ผมจะอธิบายให้ฟัง การตั้งกระทู้ถามว่า"ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน"
นี่แสดงว่า คุณแกงได....ไม่รู้
พอถูกคนเขาดูถูกว่า ไร้สาระ เพ้อเจ้อ ปัญญาอ่อน(คนอื่นเขาว่า คุณก็มาออกรับเอง)
ก็รีบมาแสดงอาการตอนท้ายของคำพูดคุณ

นั้นก็คือ"คนโง่มักจะอวดในสิ่งที่ตนไม่รู้"
ก็ไอ้อาการแสดงความเห็นหลังๆไงครับ ไปลากไดโนเสาร์มาเพ้อเจ้อ
ตั้งกระทู้ว่า....ไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน แต่มาเพ้อเจ้อ ว่า วิทยาศาสตร์แบ่งการเกิด
ออกเป็นตัวกับไข่ ถามหน่อยมันเป็นเรื่องเดียวไก่หรือเปล่าครับ ไม่มีสติเสียเลย

แล้ววิทยาศาสตร์ก็ไม่ได้แบ่งการเกิดของสัตว์ไว้แบบนั้น เพียงแต่เขาแบ่งสัตว์แต่ละชนิดไว้ก่อน
หลังจากนั้นจึงอธิบายว่า สัตว์ชนิดนั้น(แบ่งไว่ก่อนแล้ว) มีลักษณะการเผยแพร่พันธ์อย่างไร
แบบนี้แหล่ะเขาเรียกว่า "คนโง่มักอวดรู้ในสิ่งที่ตนไม่รู้"

ตอบแบบนี้มันก็เป็นอีหร่อบเดียวกันกับที่คุณตั้งกระทู้นั้นแหล่ะ
ยังมีหน้ามาบอกว่า....มนุษย์เป็นคนสร้างพระเจ้า
ถ้าเขาย้อนว่า แล้วใครสร้างมนุษย์ หวังว่าคงไม่ไปลากไดโนเสาร์มาเพ้อ
หรือบอกว่า มนุษย์แตกหน่อมาจาก พวกประการัง หรือกัลปังหาหรอกน่ะ

ต้นเหตุของเรื่องนี้เป็นเพราะ คนมันไม่รู้จักหาเหตุผล
ไม่รู้จักพิจารณาที่มาของปัญหา พยายามทำให้ปัญหาที่มีอยู่ขยายความออกไป

ถ้ายืนยันว่ามนุษย์สร้างพระเจ้าล้าน %
ทำไมจึงมีมนุษย์จุดธูปเทียนไปบูชาพระเจ้ากันทำไมล่ะ
ก็สร้างกับมือ

เกิดมาจากไข่กับออกลูกเป็นไข่ความหมายต่างกันนะ เคยเรียนวิทยาศาสตร์มั้ย ไหนตอบหน่อยซิ

โลกเกิดมาได้ยังไง

คนเกิดมาได้ยังไง

อย่าบอกว่าพระเจ้าสร้างนะ เพราะมันคือความเชื่อ ไม่ใช่วิทยาศาสตร์ แยกแยะด้วย

ก็นั่นน่ะสิ่ สงสัยอยู่เหมือนกัน ว่ามนุษย์สร้างพระพุทธรูปขึ้นมากับมือแล้วจุดธูปเทียนไปบูชาพระพุทธรูปกันทำไม มันก็อิฐหินปูนทรายทั้งนั้น สร้างกับมือ

ตราบใดที่เรายังหาทีให้ใจหยุดให้ใจลงไม่ได้ ก็ต้องสร้างกันต่อไปถกเถียงกันต่อไป มนุษย์สร้างพระพุทธรูปมากับมือแล้วกราบไหว้ ก็เพื่อมีที่ให้ใจหยุดให้ใจลง ใจจะได้สงบ ไม่คิดฟุ้งซ่าน (พุทธรูปัง กสิณังๆๆๆ ลองดู)

สมัยก่อนนะมนุษย์นำท่อนไม้มาถากๆแกะๆเป็นรูปเทพเจ้าบ้าง รูปพระภูมิเจ้าที่บ้าง แกะเป็นรูปพระบ้าง (ตามจินตนาการของตน) แล้วก็ไหว้กราบ คือถากเองไหว้เอง นั่นเขาหาที่ทำที่ให้ใจหยุดหาวัตถุเป็นที่ยึดเหนี่ยวให้ใจมีที่ลง ก็ประมาณๆเราทำรูปกสิณ เช่นปฐวีกสิณ (กสิณดิน) ทำทำไมสร้างหาอะไร ? ตอบ ก็สร้างขึ้นทำขึ้นมา เพื่อเพ่งให้ใจหยุดให้ใจมีที่ลง ไม่ยังงั้นแล้วมันคิดฟุ้งซ่าน คิดไปไหนต่อไหนนักก็ไม่รู้

ก็ทำนองๆเราถกเถียงกันเรื่องไก่กับไข่อะไรเกิดก่อนกัน มนุษย์อุบัติมาจากอะไร ใครเป็นมนุษย์คนแรก โลกมีที่สุด โลกไม่มีที่สุด ก็ทำนองเดียวกัน เขาถกเถียงกันมานานแล้ว สมัยพุทธกาลถกเถียงกันจนพระพุทธเจ้าต้องตัดบท ?

เรามองกันคนละมุม แต่ละคนก็ว่ามุมมองของตนถูก ก็กรุณาแสดงเฉพาะมุมมองของตน อย่าแสดงอาการรุกรานผม มิฉะนั้นเราอาจจะต้องขุดบรรพบุรุษของกันและกันขึ้นมาร่วมวงสนทนาด้วย และสิงสาราสัตว์คงได้วิ่งกันเต็มลานธรรมแน่

เรื่องไก่กับไข่ผมคิดว่าผมได้แสดงเหตุผลของผมสมบูรณ์แล้ว ส่วนใครจะแสดงต่อก็เชิญตามสบาย

ส่วนเรื่องมนุษย์สร้างพระเจ้าหรือเทพเจ้าหรือเทวดาหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ต่างๆนั้น ผมยังยืนยันความคิดเดิม
เมื่อมนุษย์ไม่เข้าใจเหตุการณ์ต่างๆรวมทั้งภัยธรรมชาติเกิดขึ้นได้อย่างไร มนุษย์ก็สร้างให้พระเจ้าหรือเทพดาเป็นผู้กระทำให้เกิดเหตุการณ์นั้นๆขึ้น และกราบไหว้อ้อนวอนให้พระเจ้าหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์เมตตาให้พวกตนพ้นอันตรายจากภัยนั้นๆและดลบันดาลให้ตนประสพแต่งสิ่งดีๆ
นักบวชเป็นสื่อกลางระหว่างผู้คนกับพระเจ้า เรื่องราว กฎเกณฑ์และพิธีกรรมต่างๆ นักบวชเป็นผู้สร้างขึ้นทั้งสิ้น

คนบางคนต้องการที่พึ่งทางใจ แต่บางคนต้องการเพียงความเข้าใจเท่านั้น