ลานธรรมจักร :: แสดงกระทู้ - คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ ?

คือบางทีก็สงสัยครับ บางคนก็บอกว่าเราไม่ได้ไปเป็นชู้ใครไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ หรือบอกกันว่าเป็นการแลกเปลี่ยนสบายใจ วินๆทั้งคู่ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ

ก็เลยกลายเป็นคำถามที่อยู่ในใจ เขาผิดศีลไหม แล้วบาปมากไหมครับ ถึงขั้นตกนรกหมกไหม้เลยหรอครับ ?

ขอบคุณครับ :)

PaiKung26 เขียน:

ต่อไปความเห็นส่วนตัว

การซื้อขายบริการทางเพศเนี่ย ครั้งพุทธกาลก็มี เรียกว่าโสเภณี (หญิงงามเมือง) ที่มีบันทึกไว้ในตำราชัดๆ ชื่อสิริมา สวยงามมากเขาว่างั้น ค่าตัวเธอแพงลิบลิ่ว ผู้ที่ใช้บริการมีแต่พวกเศรษฐีคนมีระดับทั้งนั้น งามถึงว่าภิกษุรูปหนึ่งเห็นหน้าครั้งเดียวถึงกับเพ้อละเมอหา ข้าวปลาไม่กินทิ้งให้ข้าวบูดคาบาตรเลยว่างั้น (หาอ่านดู)

ถึงคำถาม ผู้ซื้อผิดศีลข้อ 3 ไม่น่าผิด แต่วัยกลัดมันจะเที่ยวพึงระวังป้องกันโรคติดต่อให้ดี และไม่พึงหมกมุ่นเที่ยวเพลินจนโยงเข้าอบายมุข 6 :b1:

ศีลข้อ 3 ขอให้เจ้าของกระทู้ลองไปศึกษาดูให้กระจ่างแจ้งครับ
ศีลข้อ 3 กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ
ไม่ได้หมายถึงไปพรากลูกพรากเมียเขามาหรือเล่นชู้กับลูกกับเมีย
เขาเพียงอย่างเดียว การนอกใจภรรยาตนเอง ไม่มีผัวเดียวเมีย
เดียว การเที่ยวสำส่อนก็ผิดศีลข้อ 3 ครับ

คนมีเมียแล้ว ไปเที่ยวนี่ อาจผิด (รอฟังข้อสรุปอยู่ จากท่านอื่นๆ)

แต่คนโสด ไปเที่ยวนี่ ผิดมั๊ย

PaiKung26 เขียน:

ประโยคสีแดง คุณน้องฝากไปถามมันผู้นั้นหน่อยนะว่า แน่ใจหรอว่าสบายใจจริง บางทีผู้หญิงเค้าอาจจะสะอิดสะเอียนแต่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนหลับนอนกับคนที่ตนไม่ได้รักเพียงเพื่อต้องการเงินก็ได้ :b32: :b32:

ปล.ถ้าผู้หญิงเค้าบอกว่า เค้าไม่กล้านอนด้วยเพราะเค้ากลัวติดโรคถึงจะป้องกันก็เถอะนะ เค้าอาจจะรู้สึกรังเกียจประเภท อ้วนดำ :b32:

แต่เค้าอยากได้ตัง ถามหน่อยมีใครหน้าไหนกล้าให้เค้าฟรีๆแบบไม่ต้อง
เปลื่องเนื้อเปลืองตัวรึป่าว ปุ๊ดโธ่
ของขึ้นอีกแล้ว :b21:

nongkong เขียน:

PaiKung26 เขียน:

กรัชกาย เขียน:

ใจเย็นๆอย่าเอาแต่อารมณ์ เอ๊ะอะๆก็ของขึ้นของลงไม่ได้นะครับนะ คิกๆๆ :b32:

คิดให้เลยหัวแม่เท้าไปดิ

ไปอยู่ภูเก็ตแล้วไม่ใช่หรอ สังเกตดูบ้างดิ

น่ารำคาญจังเรยอิตานี่ คุณน้องอ่านความเห็นพี่ยังไงๆความคิดพี่ก็ยังไม่พ้นตาตุ่มอยู่ดี :b32:

อ้างคำพูด:

ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับชาติ ทางรัฐบาล ต้องมีนโยบายส่งเสริมให้คนมีการศึกษา ครอบครัวไหนไม่มีทุนเรียน ทางรัฐก็ต้องมีช่องทางช่ว่ยเขา จบแล้วมีงานรองรับให้เขามีงานมีเงินเลื้องตัวเลี้ยงครอบครัวได้ แล้วใครเขาจะไปทำงานเช่นนั้นเล่า

โอ้ยน่าเบื่อกรัชกาย เอะอะๆอะไรก็โทษแต่รัฐบาล เหมือนสำนวนสุภาษิตที่ว่ารำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง คนเราถ้าเค้ามีสามัญสำนึกเค้าไม่ซื้อไม่ขายกันหรอก มันอยู่ที่ศีลธรรมการปลูกฟังมาตั้งแต่ต้น เรียกง่ายๆว่าพื้นฐานทางครอบครัว กรัชกายอย่าไปโทษรัฐบาลเลย รัฐบาลยุคไหนๆมันก็ไม่สามารถแก้ปัญหาแบบนี้ได้หรอก กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องพอมีปัญหาก็โบ้ยให้คนอื่น แบบนี้สามีนอกใจไปมีชู้ก็ไปโทษรัฐบาลเลยไป เด็กขี้เกียจไปโรงเรียนเพราะไม่อยากเรียนก็ไปโทษรัฐบาลเลยสิ พอไม่เรียนก็ไม่มีงานทำแล้วมาโทษๆๆแต่รัฐบาล น่ารำคาญจังพวกนี้ แบบนี้ไงเค้าเรียกว่าเอาดีเข้าตัวปัดความชั่วให้ผู้อื่น :b32:

กรัชกาย เขียน:

เมื่อไม่มีผู้ขายก็ไม่มีผู้ซื้อ แต่ทางรัฐก็ต้องวางกรอบตรงอื่นอีก นี่แหละถึงว่าเป็นปัญหาระดับชาติ

ถ้าเมียยินยอม ไม่ผิดแน่นอน สมัยพุทธกาลยังมีหญิงงามเมือง เยอะแยะไป มีแม้กระทั่งฝ่ายภรรยา ของผู้ชายไปจ้างมาให้ ปรนเปอ สามีตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีเวลาให้

PaiKung26 เขียน:

เจ้าของ:	PaiKung26 [ 08 ก.ค. 2013, 19:35 ]
หัวข้อกระทู้:	คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ ?
คือบางทีก็สงสัยครับ บางคนก็บอกว่าเราไม่ได้ไปเป็นชู้ใครไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ หรือบอกกันว่าเป็นการแลกเปลี่ยนสบายใจ วินๆทั้งคู่ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ก็เลยกลายเป็นคำถามที่อยู่ในใจ เขาผิดศีลไหม แล้วบาปมากไหมครับ ถึงขั้นตกนรกหมกไหม้เลยหรอครับ ? ขอบคุณครับ :)

เจ้าของ:	พุทธคุณ [ 09 ก.ค. 2013, 10:07 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
ศีลข้อ 3 ขอให้เจ้าของกระทู้ลองไปศึกษาดูให้กระจ่างแจ้งครับ ศีลข้อ 3 กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ไม่ได้หมายถึงไปพรากลูกพรากเมียเขามาหรือเล่นชู้กับลูกกับเมีย เขาเพียงอย่างเดียว การนอกใจภรรยาตนเอง ไม่มีผัวเดียวเมีย เดียว การเที่ยวสำส่อนก็ผิดศีลข้อ 3 ครับ แล้วไม่ต้องถามนะครับว่าถ้าเลิกกับภรรยาเดิมแล้วไปมีภรรยาใหม่ จะผิดศีลหรือเปล่า เพราะเรื่องนี้มันเกี่ยวกับเรื่องม่านประเพณี มัน อยู่นอกวิสัยที่ผมจะตอบได้ ยังไงเจ้าของกระทู้ไปศึกษามาแล้วมา เล่าสู่กันฟังบ้างนะครับ

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 09 ก.ค. 2013, 11:29 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
PaiKung26 เขียน: คือบางทีก็สงสัยครับ บางคนก็บอกว่าเราไม่ได้ไปเป็นชู้ใครไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ หรือบอกกันว่าเป็นการแลกเปลี่ยนสบายใจ วินๆทั้งคู่ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ก็เลยกลายเป็นคำถามที่อยู่ในใจ เขาผิดศีลไหม แล้วบาปมากไหมครับ ถึงขั้นตกนรกหมกไหม้เลยหรอครับ ? ขอบคุณครับ :) จะคัดพุทธพจน์เฉพาะข้อที่ถามให้ดู - อีกประการหนึ่ง อริยสาวกย่อมพิจารณาเห็นว่า ก็ถ้าใครจะประพฤติผิดในภรรยาของเรา ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่เรา ก็ถ้าเราจะประพฤติผิดในภรรยาของอื่น ก็จะไม่เป็นข้อที่ชื่นชอบที่พอใจแก่คนอื่น เหมือนกัน สิ่งใด ตัวเราเองไม่ชื่นชอบ ไม่พอใจ ถึงคนอื่นเขาก็ไม่ชื่นชอบ ไม่พอใจ เหมือนกัน สิ่งใด ตัวเราเองไม่ชอบ ไม่พอใจ ไฉนจะพึงเอาไปผูกใส่ให้คนอื่นเล่า “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเข้าใจว่าอย่างไร เธอทั้งหลายเคยได้เห็น หรือได้ยินบ้างไหมว่า บุรุษนี้เว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร เป็นผู้เว้นขาดจากกาเมสุมิจฉาจาร พระราชาทั้งหลายจับเขามาประหาร จองจำ เนรเทศ หรือกระทำการตามปัจจัย เพราะการงดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารเป็นเหตุ อย่างนี้เธอทั้งหลายเคยเห็น หรือเคยได้ยินบ้างไหม ? “ไม่เคยเลย พระเจ้าข้า” “ถูกแล้ว ภิกษุทั้งหลาย แม้เราก็ไม่เคยเห็น ไม่เคยได้ยิน....มีแต่เขาประกาศการกระทำชั่วว่า คนผู้นี้ละเมิดกาเมสุมิจฉาจาร พระราชาทั้งหลายจึงจับเขามาประหาร จองจำ เนรเทศ หรือกระทำการตามปัจจัย เพราะกาเมสุมิจฉาจารเป็นเหตุ อย่างนี้เธอทั้งหลายเคยเห็น หรือเคยได้ยินบ้างไหม?” “เคยเห็น เคยได้ยิน และจักได้ยินต่อไปด้วย พระเจ้าข้า” “ภิกษุทั้งหลาย พวกเธอเข้าใจว่าอย่างไร เธอทั้งหลายเคยได้เห็น หรือได้ยินบ้างไหมว่า ผู้ละกาเมสุมิจฉาจาร เป็นผู้งดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารแล้ว พระราชาทั้งหลายจึงจับเขามาประหาร จองจำ เนรเทศ หรือกระทำการตามปัจจัย เพราะการงดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจารเป็นเหตุ “ “ไม่เคยเลย พระเจ้าข้า” ฯลฯ พระอรรถกถาจารย์ ได้ประมวลหลักเกณฑ์บางอย่างไว้ สำหรับกำหนดว่า การกระทำแค่ไหนเพียงใด จึงจะชื่อว่าเป็นการละเมิดศีลแต่ละข้อๆ เป็นการให้ความสะดวกแก่ผู้รักษาศีล โดยจัดวางเป็นองค์ประกอบของการละเมิด เรียกว่าสัมภาระ หรือเรียกง่ายๆว่า “องค์” บุคคลจะชื่อว่าละเมิดศีล (เรียกกันง่ายๆว่าศีลข้อนั้นจะขาด) ต่อเมื่อกระทำการครบองค์ทั้งหมดของการละเมิด ดังนี้ ข้อ 3 กาเมสุมิจฉาจาร มีองค์ 4 คือ 1. อคมนียวัตถุ ได้แก่ สตรีหรือบุรุษที่ไม่ควรละเมิด 2. จิตคิดจะเสพ 3. มีความพยายามในการเสพ 4. ยังมรรคคืออวัยวะสืบพันธ์ให้ถึงกัน

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 09 ก.ค. 2013, 11:48 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
PaiKung26 เขียน: คือบางทีก็สงสัยครับ บางคนก็บอกว่าเราไม่ได้ไปเป็นชู้ใครไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ หรือบอกกันว่าเป็นการแลกเปลี่ยนสบายใจ วินๆทั้งคู่ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ก็เลยกลายเป็นคำถามที่อยู่ในใจ เขาผิดศีลไหม แล้วบาปมากไหมครับ ถึงขั้นตกนรกหมกไหม้เลยหรอครับ ? ขอบคุณครับ :) ต่อไปความเห็นส่วนตัว การซื้อขายบริการทางเพศเนี่ย ครั้งพุทธกาลก็มี เรียกว่าโสเภณี (หญิงงามเมือง) ที่มีบันทึกไว้ในตำราชัดๆ ชื่อสิริมา สวยงามมากเขาว่างั้น ค่าตัวเธอแพงลิบลิ่ว ผู้ที่ใช้บริการมีแต่พวกเศรษฐีคนมีระดับทั้งนั้น งามถึงว่าภิกษุรูปหนึ่งเห็นหน้าครั้งเดียวถึงกับเพ้อละเมอหา ข้าวปลาไม่กินทิ้งให้ข้าวบูดคาบาตรเลยว่างั้น (หาอ่านดู) ถึงคำถาม ผู้ซื้อผิดศีลข้อ 3 ไม่น่าผิด แต่วัยกลัดมันจะเที่ยวพึงระวังป้องกันโรคติดต่อให้ดี และไม่พึงหมกมุ่นเที่ยวเพลินจนโยงเข้าอบายมุข 6

เจ้าของ:	nongkong [ 09 ก.ค. 2013, 15:11 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
กรัชกาย เขียน: PaiKung26 เขียน: คือบางทีก็สงสัยครับ บางคนก็บอกว่าเราไม่ได้ไปเป็นชู้ใครไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ หรือบอกกันว่าเป็นการแลกเปลี่ยนสบายใจ วินๆทั้งคู่ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ก็เลยกลายเป็นคำถามที่อยู่ในใจ เขาผิดศีลไหม แล้วบาปมากไหมครับ ถึงขั้นตกนรกหมกไหม้เลยหรอครับ ? ขอบคุณครับ :) ต่อไปความเห็นส่วนตัว การซื้อขายบริการทางเพศเนี่ย ครั้งพุทธกาลก็มี เรียกว่าโสเภณี (หญิงงามเมือง) ที่มีบันทึกไว้ในตำราชัดๆ ชื่อสิริมา สวยงามมากเขาว่างั้น ค่าตัวเธอแพงลิบลิ่ว ผู้ที่ใช้บริการมีแต่พวกเศรษฐีคนมีระดับทั้งนั้น งามถึงว่าภิกษุรูปหนึ่งเห็นหน้าครั้งเดียวถึงกับเพ้อละเมอหา ข้าวปลาไม่กินทิ้งให้ข้าวบูดคาบาตรเลยว่างั้น (หาอ่านดู) ถึงคำถาม ผู้ซื้อผิดศีลข้อ 3 ไม่น่าผิด แต่วัยกลัดมันจะเที่ยวพึงระวังป้องกันโรคติดต่อให้ดี และไม่พึงหมกมุ่นเที่ยวเพลินจนโยงเข้าอบายมุข 6 555คุณน้องอ่านประโยคสีแดงคุณน้องโครตขำพ่อใหญ่กรัชกาย (สงสัยอิตากรัชกายเคยเที่ยวผู้หญิง แล้วกิเลศมันบอกไม่น่าจะผิด ) การซื้อขายประเวณีเป็นทางเสื่อมไปอบายภูมิอยู่แล้วไม่เห็นต้องถามเลย แล้วผู้ซื้อไม่น่าจะผิดได้อย่างไร ถ้าผู้ซื้อมันมีภรรยาอยู่แล้วหละ การร่วมหลับนอนกับหญิงอื่นที่ไม่ใช่ภรรยาของตนมันก็ผิดศีลข้อ3เต็มๆยังจะมาแก้ต่างให้พวกผู้ชายเห็นแก่ตัวอีกนะ ถ้าผู้ซื้อต้องการเพียงแค่ความใคร่แต่ไม่ได้มีจิตปฏิพันธ์แค่สนองตัณหามันก็ไม่ต่างไรกับสัตว์เดรัจฉาน เมื่อถึงฤดูผสมพันธ์มันก็ผสมพันธ์กันตามธรรมชาติ พี่ว่าชายที่ซื้อประเวณี กับชายที่ร่วมหลับนอนกับคู่ของตน ใครมันจะลงอบายภูมิ ปฏิบัติธรรมมาจนเฒ่ายังไม่รู้เรื่องวิบากกรรมอีกพ่อใหญ่กรัชกาย

ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/

คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ ? http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=45806	หน้า 1 จากทั้งหมด 4

เจ้าของ:	nongkong [ 09 ก.ค. 2013, 15:27 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
พุทธคุณ เขียน: ศีลข้อ 3 ขอให้เจ้าของกระทู้ลองไปศึกษาดูให้กระจ่างแจ้งครับ ศีลข้อ 3 กาเมสุมิจฉาจารา เวระมะณี สิกขาปะทัง สะมาทิยามิ ไม่ได้หมายถึงไปพรากลูกพรากเมียเขามาหรือเล่นชู้กับลูกกับเมีย เขาเพียงอย่างเดียว การนอกใจภรรยาตนเอง ไม่มีผัวเดียวเมีย เดียว การเที่ยวสำส่อนก็ผิดศีลข้อ 3 ครับ ต้องอย่างนี้สิลูกผู้ชายตัวจริงกระทิงแดง

เจ้าของ:	govit2552 [ 09 ก.ค. 2013, 15:41 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
คนมีเมียแล้ว ไปเที่ยวนี่ อาจผิด (รอฟังข้อสรุปอยู่ จากท่านอื่นๆ) แต่คนโสด ไปเที่ยวนี่ ผิดมั๊ย

เจ้าของ:	nongkong [ 09 ก.ค. 2013, 15:49 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
govit2552 เขียน: คนมีเมียแล้ว ไปเที่ยวนี่ อาจผิด (รอฟังข้อสรุปอยู่ จากท่านอื่นๆ) แต่คนโสด ไปเที่ยวนี่ ผิดมั๊ย ถามท่านโกวิทย์หน่อยว่า ถ้ามีแฟนการที่หลับนอนกับแฟนของตนผิดศีลข้อ3มั้ย ทุกคนลงความเห็นว่าผิดถ้ายังไม่แต่งงานก็ถือว่าประพฤติผิดในกามไม่ใช่หรือ แต่นี่หลับนอนกับหญิงที่ไม่ใช่แฟนของตนเป็นคนแปลกหน้าด้วย..อ้าว ..แถมยังเป็นการแลกเปลี่ยนทางการค้า ท่านไม่สามารถใช้ปัญญาพิจารณาให้เห็นถูกได้เลยหรอค่ะ เมื่อไหร่สัมมาทิฐฐิจะเกิดกะท่านซะที ถึงต้องรอคนอื่นมาสรุปให้ 5555

เจ้าของ:	nongkong [ 09 ก.ค. 2013, 16:24 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
PaiKung26 เขียน: คือบางทีก็สงสัยครับ บางคนก็บอกว่าเราไม่ได้ไปเป็นชู้ใครไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ หรือบอกกันว่าเป็นการแลกเปลี่ยนสบายใจ วินๆทั้งคู่ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ก็เลยกลายเป็นคำถามที่อยู่ในใจ เขาผิดศีลไหม แล้วบาปมากไหมครับ ถึงขั้นตกนรกหมกไหม้เลยหรอครับ ? ขอบคุณครับ :) ประโยคสีแดง คุณน้องฝากไปถามมันผู้นั้นหน่อยนะว่า แน่ใจหรอว่าสบายใจจริง บางทีผู้หญิงเค้าอาจจะสะอิดสะเอียนแต่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนหลับนอนกับคนที่ตนไม่ได้รักเพียงเพื่อต้องการเงินก็ได้ ปล.ถ้าผู้หญิงเค้าบอกว่า เค้าไม่กล้านอนด้วยเพราะเค้ากลัวติดโรคถึงจะป้องกันก็เถอะนะ เค้าอาจจะรู้สึกรังเกียจประเภท อ้วนดำ แต่เค้าอยากได้ตัง ถามหน่อยมีใครหน้าไหนกล้าให้เค้าฟรีๆแบบไม่ต้อง เปลื่องเนื้อเปลืองตัวรึป่าว ปุ๊ดโธ่ ของขึ้นอีกแล้ว

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 09 ก.ค. 2013, 16:43 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
nongkong เขียน: PaiKung26 เขียน: คือบางทีก็สงสัยครับ บางคนก็บอกว่าเราไม่ได้ไปเป็นชู้ใครไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ หรือบอกกันว่าเป็นการแลกเปลี่ยนสบายใจ วินๆทั้งคู่ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ก็เลยกลายเป็นคำถามที่อยู่ในใจ เขาผิดศีลไหม แล้วบาปมากไหมครับ ถึงขั้นตกนรกหมกไหม้เลยหรอครับ ? ขอบคุณครับ :) ประโยคสีแดง คุณน้องฝากไปถามมันผู้นั้นหน่อยนะว่า แน่ใจหรอว่าสบายใจจริง บางทีผู้หญิงเค้าอาจจะสะอิดสะเอียนแต่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนหลับนอนกับคนที่ตนไม่ได้รักเพียงเพื่อต้องการเงินก็ได้ :b32: ปล.ถ้าผู้หญิงเค้าบอกว่า เค้าไม่กล้านอนด้วยเพราะเค้ากลัวติดโรคถึงจะป้องกันก็เถอะนะ เค้าอาจจะรู้สึกรังเกียจประเภท อ้วนดำ แต่เค้าอยากได้ตัง ถามหน่อยมีใครหน้าไหนกล้าให้เค้าฟรีๆแบบไม่ต้อง เปลื่องเนื้อเปลืองตัวรึป่าว ปุ๊ดโธ่ ของขึ้นอีกแล้ว ใจเย็นๆอย่าเอาแต่อารมณ์ เอ๊ะอะๆก็ของขึ้นของลงไม่ได้นะครับนะ คิกๆๆ คิดให้เลยหัวแม่เท้าไปดิ ไปอยู่ภูเก็ตแล้วไม่ใช่หรอ สังเกตดูบ้างดิ ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับชาติ ทางรัฐบาล ต้องมีนโยบายส่งเสริมให้คนมีการศึกษา ครอบครัวไหนไม่มีทุนเรียน ทางรัฐก็ต้องมีช่องทางช่ว่ยเขา จบแล้วมีงานรองรับให้เขามีงานมีเงินเลื้องตัวเลี้ยงครอบครัวได้ แล้วใครเขาจะไปทำงานเช่นนั้นเล่า เมื่อไม่มีผู้ขายก็ไม่มีผู้ซื้อ แต่ทางรัฐก็ต้องวางกรอบตรงอื่นอีก นี่แหละถึงว่าเป็นปัญหาระดับชาติ

เจ้าของ:	กรัชกาย [ 09 ก.ค. 2013, 17:27 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
แสดงการเกิดขึ้นแห่งอาชญากรรม และความชั่วร้ายเดือดร้อนต่างๆในสังคม ตามแนวปัจจยาการ ซึ่งเป็นแนวคิดของพระพุทธศาสนา ที่ผู้ปกครอง (รัฐบาล ต้องขจัดความยากจนแก่เหล่าชนผู้ยากไร้ ถ้าทำไม่ได้ วงจรก็เป็นดังนี้) ผู้ปกครอง - ไม่จัดสรรปันทรัพย์ให้แก่เหล่าชนผู้ยากไร้ => ความยากจนแพร่ระบาด => อทินนาทานแพร่ระบาด => การใช้ศัสตราอาวุธแพร่ระบาด => ปาณาติบาต (การฆ่าฟันกันในในหมู่มนุษย์) แพร่ระบาด => มุสาวาท + การส่อเสียด + กาเมสุมิจฉาจาร + ผรุสวาทและสัมผัปปลาป+อภิชฌาและพยาบาท มิจฉาทิฏฐิ + อธรรมราคะ ความละโมบ มิจฉาธรรม + ความไม่นับถือพ่อแม่ สมณพราหมณ์ และการไม่เคารพนับถือกันตามฐานะ แพร่ระบาด => อายุวรรณะเสื่อม

เจ้าของ:	nongkong [ 10 ก.ค. 2013, 15:53 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
กรัชกาย เขียน: nongkong เขียน: PaiKung26 เขียน: คือบางทีก็สงสัยครับ บางคนก็บอกว่าเราไม่ได้ไปเป็นชู้ใครไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ หรือบอกกันว่าเป็นการแลกเปลี่ยนสบายใจ วินๆทั้งคู่ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ก็เลยกลายเป็นคำถามที่อยู่ในใจ เขาผิดศีลไหม แล้วบาปมากไหมครับ ถึงขั้นตกนรกหมกไหม้เลยหรอครับ ? ขอบคุณครับ :) ประโยคสีแดง คุณน้องฝากไปถามมันผู้นั้นหน่อยนะว่า แน่ใจหรอว่าสบายใจจริง บางทีผู้หญิงเค้าอาจจะสะอิดสะเอียนแต่ต้องกล้ำกลืนฝืนทนหลับนอนกับคนที่ตนไม่ได้รักเพียงเพื่อต้องการเงินก็ได้ :b32: ปล.ถ้าผู้หญิงเค้าบอกว่า เค้าไม่กล้านอนด้วยเพราะเค้ากลัวติดโรคถึงจะป้องกันก็เถอะนะ เค้าอาจจะรู้สึกรังเกียจประเภท อ้วนดำ แต่เค้าอยากได้ตัง ถามหน่อยมีใครหน้าไหนกล้าให้เค้าฟรีๆแบบไม่ต้อง เปลื่องเนื้อเปลืองตัวรึป่าว ปุ๊ดโธ่ ของขึ้นอีกแล้ว กรัชกาย เขียน: ใจเย็นๆอย่าเอาแต่อารมณ์ เอ๊ะอะๆก็ของขึ้นของลงไม่ได้นะครับนะ คิกๆๆ คิดให้เลยหัวแม่เท้าไปดิ ไปอยู่ภูเก็ตแล้วไม่ใช่หรอ สังเกตดูบ้างดิ น่ารำคาญจังเรยอิตานี่ คุณน้องอ่านความเห็นพี่ยังไงๆความคิดพี่ก็ยังไม่พ้นตาตุ่มอยู่ดี อ้างคำพูด: ปัญหานี้เป็นปัญหาระดับชาติ ทางรัฐบาล ต้องมีนโยบายส่งเสริมให้คนมีการศึกษา ครอบครัวไหนไม่มีทุนเรียน ทางรัฐก็ต้องมีช่องทางช่ว่ยเขา จบแล้วมีงานรองรับให้เขามีงานมีเงินเลื้องตัวเลี้ยงครอบครัวได้ แล้วใครเขาจะไปทำงานเช่นนั้นเล่า โอ้ยน่าเบื่อกรัชกาย เอะอะๆอะไรก็โทษแต่รัฐบาล เหมือนสำนวนสุภาษิตที่ว่ารำไม่ดีโทษปี่โทษกลอง คนเราถ้าเค้ามีสามัญสำนึกเค้าไม่ซื้อไม่ขายกันหรอก มันอยู่ที่ศีลธรรมการปลูกฟังมาตั้งแต่ต้น เรียกง่ายๆว่าพื้นฐานทางครอบครัว กรัชกายอย่าไปโทษรัฐบาลเลย รัฐบาลยุคไหนๆมันก็ไม่สามารถแก้ปัญหาแบบนี้ได้หรอก กินอยู่กับปากอยากอยู่กับท้องพอมีปัญหาก็โบ้ยให้คนอื่น แบบนี้สามีนอกใจไปมีชู้ก็ไปโทษรัฐบาลเลยไป เด็กขี้เกียจไปโรงเรียนเพราะไม่อยากเรียนก็ไปโทษรัฐบาลเลยสิ พอไม่เรียนก็ไม่มีงานทำแล้วมาโทษๆๆแต่รัฐบาล น่ารำคาญจังพวกนี้ แบบนี้ไงเค้าเรียกว่าเอาดีเข้าตัวปัดความชั่วให้ผู้อื่น กรัชกาย เขียน: เมื่อไม่มีผู้ขายก็ไม่มีผู้ซื้อ แต่ทางรัฐก็ต้องวางกรอบตรงอื่นอีก นี่แหละถึงว่าเป็นปัญหาระดับชาติ น่านเอาอีกแล้ว ไม่มีผู้ขายก็ไม่มีผู้ซื้อ พูดไม่รู้จักฟังว่า มันอยู่ที่สามัญสำนึกของคน คนมันมีกิเลศจะไปห้ามได้ไงกรัชกาย ก็งานแบบนั้นมันเป็นงานของพวกรักสบาย พื้นฐานก็คือความขี้เกียจไม่มีความอดทนย่อท้อต่อความยากลำบาก พอขี้เกียจก็ไม่เรียนพอไม่เรียนก็หางานทำไม่ได้ ไม่อยากทำงานหนักๆเพราะมันเหนื่อย ทำอาชีพที่ไม่เหนื่อยและหาเงินได้ง่าย พี่กรัชกายอย่าไปโทษรัฐบาลเลย ต่อให้รัฐบาลมีกรอบป้องกันเรื่องพวกนี้ ยังไงๆเรื่องพวกนี้ก็ยังต้องเกิดอยู่ดี เพราะว่าสัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม ปล.จขกท เค้าถามว่าซื้อบริการผิดศีลข้อ3และบาปถึงขั้นตกนรกไหม อิกรัชกายหาเหตุผลมาแย้งไม่ได้โยนความผิดไปให้รัฐบาลเฉย เวรกรรมแท้

เจ้าของ:	deecup [ 10 ก.ค. 2013, 17:29 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
ถ้าเมียยินยอม ไม่ผิดแน่นอน สมัยพุทธกาลยังมีหญิงงามเมือง เยอะแยะไป มีแม้กระทั่งฝ่ายภรรยา ของผู้ชายไปจ้างมาให้ ปรนเปอ สามีตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีเวลาให้

เจ้าของ:	พุทธคุณ [ 10 ก.ค. 2013, 17:48 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
deecup เขียน: ถ้าเมียยินยอม ไม่ผิดแน่นอน สมัยพุทธกาลยังมีหญิงงามเมือง เยอะแยะไป มีแม้กระทั่งฝ่ายภรรยา ของผู้ชายไปจ้างมาให้ ปรนเปอ สามีตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีเวลาให้ กรัชกาย เขียน: PaiKung26 เขียน: คือบางทีก็สงสัยครับ บางคนก็บอกว่าเราไม่ได้ไปเป็นชู้ใครไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ หรือบอกกันว่าเป็นการแลกเปลี่ยนสบายใจ วินๆทั้งคู่ อะไรประมาณนี้อ่ะครับ ก็เลยกลายเป็นคำถามที่อยู่ในใจ เขาผิดศีลไหม แล้วบาปมากไหมครับ ถึงขั้นตกนรกหมกไหม้เลยหรอครับ ? ขอบคุณครับ :) ต่อไปความเห็นส่วนตัว การซื้อขายบริการทางเพศเนี่ย ครั้งพุทธกาลก็มี เรียกว่าโสเภณี (หญิงงามเมือง) ที่มีบันทึกไว้ในตำราชัดๆ ชื่อสิริมา สวยงามมากเขาว่างั้น ค่าตัวเธอแพงลิบลิ่ว ผู้ที่ใช้บริการมีแต่พวกเศรษฐีคนมีระดับทั้งนั้น งามถึงว่าภิกษุรูปหนึ่งเห็นหน้าครั้งเดียวถึงกับเพ้อละเมอหา ข้าวปลาไม่กินทิ้งให้ข้าวบูดคาบาตรเลยว่างั้น (หาอ่านดู) ถึงคำถาม ผู้ซื้อผิดศีลข้อ 3 ไม่น่าผิด แต่วัยกลัดมันจะเที่ยวพึงระวังป้องกันโรคติดต่อให้ดี และไม่พึงหมกมุ่นเที่ยวเพลินจนโยงเข้าอบายมุข 6 ถ้าท่านคิดแบบนี้ ผมก็มีคำถามครับ เด็กช่าง(อะไรก็ช่าง) หรือแม้แต่อันธพาลยกพวกตีกันตาย บาปมั้ยครับ

หน้า 1 จากทั้งหมด 4	เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/

เจ้าของ:	nongkong [ 10 ก.ค. 2013, 18:07 ]
หัวข้อกระทู้:	Re: คนที่ซื้อบริการทางเพศนี่เขาผิดศีลข้อ 3 และบาปมากไหมครับ
deecup เขียน: ถ้าเมียยินยอม ไม่ผิดแน่นอน สมัยพุทธกาลยังมีหญิงงามเมือง เยอะแยะไป มีแม้กระทั่งฝ่ายภรรยา ของผู้ชายไปจ้างมาให้ ปรนเปอ สามีตัวเอง เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีเวลาให้ นิสัยเห็นแก่ตัวเพราะสันดานแบบนี้นี่เอง มกมุ่นอยู่แต่กับเรื่องกามเม จนถอนตัวไม่ขึ้น อ่อถ้าเมียท่านยินยอมให้ท่านมีผู้หญิงอื่นแบบว่า ทำหน้าที่แทนตนเองในเรื่องนั้น เวลาตายท่านมาเข้าฝันคุณน้องหน่อยนะว่า บาปแล้วตกนรกรึป่าว55 นรกมีจริงหรือไม่มีเพราะถ้านรกมีจริงคุณน้องจะได้แผ่บุญกุศลไปให้ 5555 ปล.แล้วที่เมียเค้ายินยอมให้สามีปรนเปรอกับผู้หญิงคนอื่น เคยถามความรู้สึกที่แท้จริงของเมียตนเองป่าวว่าอยากทำแบบนั้นมั้ย มีความสุขอยู่บนความทุกข์ของผู้อื่นมันบาปนะเจ้าค่ะ