ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=45937
หน้า 1 จากทั้งหมด 2

เจ้าของ:  PaiKung26 [ 23 ก.ค. 2013, 18:25 ]
หัวข้อกระทู้:  ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

ผมก็อ่านทราบมาแล้วครับได้บุญมาก ในพระไตรปฺกฎก็บอกไว้ถือศีลได้บุญมากตามลำดับของศีล ภาวนาก็มากกว่า แต่ผมอยากได้เหตุผลอ่ะครับ

คือการถือศีลก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใครดีขึ้นมีแค่ตัวเราที่ดีขึ้น

การภาวนาก็ทำให้เราเป็นผู้รู้ จิตใจสงบ กำหนดกำหนัดได้

แต่ทำไมถึงได้บุญหรอครับ
ผมถามแปลกต้องขออภัยนะครับ คือมันค้างคาใจ

แต่ทุกวันนี้ผมก็ถือศีล 5 และเมื่อมีเวลาก็นั่งสมถกรรมฐานครับ

เจ้าของ:  govit2552 [ 23 ก.ค. 2013, 19:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

ให้ทาน แล้วมากินเหล้า มาโกหกหลอกลวง มาลักทรัพย์ มาฆ่าสัตว์ มาฉุดคร่าอนาจารหญิง

เขาถึง กำหนด ให้ว่า ถือศีล ประเสริฐกว่าให้ทาน

การถือศีล อย่างเดียว ..................................... ก็เป็น คนธรรมดา คนปกติ

แต่การภาวนา อาจพาให้บรรลุธรรมขั้นต่างๆ ได้ จึงประเสริฐกว่าถือศีล

เป็นอย่างนี้ ซะมากกว่าครับ

เจ้าของ:  govit2552 [ 23 ก.ค. 2013, 19:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

บุญ แปลว่า ความดีครับ

แน่นอนว่า ความดีของพระอริยะ ย่อมสูงกว่า ความดีของปุถุชนผู้ถือศีล

ความดีของผู้ถือศีล ย่อมมากกว่า ความดีของคนที่ให้ทานเพียงอย่างเดียว แต่ไม่ถือศีลครับ

หวังว่าคงเข้าใจ

เจ้าของ:  Rotala [ 23 ก.ค. 2013, 23:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?







:b8: :b12: ดูวีดีโออาจเกิดบรรยากาศชัดเจน :b20:

เจ้าของ:  คนธรรมดาๆ [ 23 ก.ค. 2013, 23:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

PaiKung26 เขียน:
ผมก็อ่านทราบมาแล้วครับได้บุญมาก ในพระไตรปฺกฎก็บอกไว้ถือศีลได้บุญมากตามลำดับของศีล ภาวนาก็มากกว่า แต่ผมอยากได้เหตุผลอ่ะครับ

คือการถือศีลก็ไม่ทำให้ใครเดือดร้อน แต่ก็ไม่ได้ทำให้ใครดีขึ้นมีแค่ตัวเราที่ดีขึ้น

การภาวนาก็ทำให้เราเป็นผู้รู้ จิตใจสงบ กำหนดกำหนัดได้

แต่ทำไมถึงได้บุญหรอครับ
ผมถามแปลกต้องขออภัยนะครับ คือมันค้างคาใจ

แต่ทุกวันนี้ผมก็ถือศีล 5 และเมื่อมีเวลาก็นั่งสมถกรรมฐานครับ


ตัวจริงของบุญ คือความสุขใจครับ

เมื่อถือศีล เราก็ไม่ไปทำเรื่องที่อาจจะเอาความวุ่นวายเข้ามาในชีวิต ในระยะยาวก็จะมีความสุขขึ้นใช่ไหมละครับ

ภาวนา เป็นการปรับแก้ความคิดที่ทำให้เราทุกข์ คนเราทุกข์เพราะความคิด เคยได้ยินไหมครับ ถ้าภาวนาสำเร็จ แก้ตรงนี้ได้ ชีวิตก็จะมีความสุขมากขึ้นครับ

บุญ คือความสุขครับ เป็นความพิเศษ แต่ไม่ใช่เรื่องพิศดารหรือปาฏิหาริย์ครับ

เจ้าของ:  govit2552 [ 24 ก.ค. 2013, 09:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

ความสุขใจ เป็นเวทนาครับ คุณคนธรรมดาๆ

[112] เวทนา 5 (การเสวยอารมณ์ — feeling)
1. สุข (ความสุข ความสบายทางกาย — bodily pleasure or happiness)
2. ทุกข์ (ความทุกข์ ความไม่สบาย เจ็บปวดทางกาย — bodily pain; discomfort)
3. โสมนัส (ความแช่มชื่นสบายใจ, สุขใจ — mental happiness; joy)
4. โทมนัส (ความเสียใจ, ทุกข์ใจ — mental pain; displeasure; grief)
5. อุเบกขา (ความรู้สึกเฉยๆ — indifference)

http://84000.org/tipitaka/dic/d_item.php?i=112

เวทนา เป็นเรื่องของ การเสวย มากกว่า
บุญ เป็นเรื่องของการกระทำ การส่งออก เป็นเอ๊าท์พุท
ผลบุญ เป็นเรื่องของการเสวย การได้รับ เป็นอินพุท

ถ้าดูจาก วัฏจักร ของ กิเลส กรรม วิบาก ก็จะสวมลงไปได้ว่า
บุญ เป็น กรรม
ผลบุญ เป็น วิบาก

นั่นเป็นการพูดแบบหยาบๆ แต่ถ้าพูดให้ละเอียดคือ

บุญ เป็น กรรมดี
บาป เป็น กรรมชั่ว

กุศลวิบาก ................ คือ ผลของกรรมดี
อกุศลวิบาก ................ คือ ผลของกรรมชั่ว

บุคคล รับวิบาก ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย .................. เป็นการรับข้อมูลอินพุท
ข้อมูลที่ได้รับมาจะถูกประมวล ด้วยจิตบางดวง ที่ทำหน้าที่ นี้ มีเจตสิกร่วมด้วย เช่น สติบ้าง ปัญญาบ้าง กิเลสต่างๆบ้าง
แล้ว ส่งผลลัพธ์ที่ได้ ออกทาง จิตอีกดวงที่ทำหน้าที่เป็นเอ๊าท์พุท ......... เรียกว่า มโนกรรม
ถ้ามีกำลังแรง ก็บังคับออกทาง วาจา ...........(เป็นการทำงานของรูป) .......... เรียกว่า วจีกรรม
ถ้ามีกำลังแรง ยิ่งกว่า ก็ออกทาง กาย (เป็นการทำงานของรูป)............ เรียกว่า กายกรรม

ครบถ้วน วัฏจักร ของ วิบาก กิเลส กรรม

แต่ถ้าจะ อธิบาย เรื่อง วิบาก กิเลส กรรม ให้ละเอียด ลงไปอีก ก็ต้อง พิจารณา ปฏิจจสมุปบาท

เช่น ผัสสะ เวทนา ตัณหา อุปาทาน ภพ .................... เป็นต้น

เจ้าของ:  SOAMUSA [ 24 ก.ค. 2013, 09:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

ทำอย่างไรได้บุญ ก็อยู่ในบุญกิริยาวัตถุ 10 ทั้งหมดค่ะ
กุศลจะได้สูงสุดนั้นต้องมีปัญญาเกิดร่วมด้วยค่ะ
ถ้าไม่มีปัญญาเกิดร่วมด้วยในขณะที่ทำทาน ศีล ภาวนา ก็ยังไม่ได้ชื่อว่ากุศลสูงสุดค่ะ
ศีล ได้บุญมากเมื่อคุณงดเว้นการกระทำ เช่น ศีลข้อ 1 เว้นการฆ่าสัตว์ คุณเดินมาเห็นมด ถ้าเดินไม่เลี่ยงหลีก
มัน คุณก็เหยียบมันตาย แต่คุณลงทุนเดินล้อมไปเลือกไปเดินตรงที่ไม่มีมด คุณได้กุศลแล้วค่ะ คุณจะได้กุศลก็ต่อเมื่อมีวัตถุที่พึงงดเว้น แล้วคุณงดเว้น เช่นมีเหล้าอยู่ตรงหน้า เพื่อนชวนกันทุกคน แต่คุณไม่ดื่ม
เข้าไป มีการงดเว้นตรงหน้าเกิดขึ้นขณะนั้นคุณก็ได้ทำกุศลแล้วค่ะ

ส่วนงานภาวนานั้น ได้กุศลสูงถ้าปัญญาเกิดร่วมด้วย แต่เป็นงานที่ยากมากค่ะ

ในบุญกิริยาวัตถุ 10 งานที่ปัญญาเกิดง่ายสุดใน 10 ข้อนี้คือ ข้อที่ 8, 9, 10 ค่ะ
คือ ฟังธรรม, สั่งสอนธรรม และทำความเห็นให้ตรงถูกต้อง
ทำความเห็นให้ตรงถูกต้องก็คือมาจากการฟังและการสั่งสอนธรรมที่ถูกต้องนั่นเองค่ะ

เจ้าของ:  MANA_BHUN [ 24 ก.ค. 2013, 10:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

การให้ทาน นั้นทำยาก แต่ทำได้ง่ายกว่าการรักษาศีล
การรักษาศีล นั้นทำยาก แต่ทำได้ง่ายกว่าการเจริญภาวนา
การเจริญภาวนา นั้นทำยากกว่าการให้ทานและการรักษาศีล
บางคนชอบให้ทาน รักษาศีลเป็นนิจ แต่จะมาให้นั่งสมาธิแึค่ ๕-๑๐ นาที หาโอกาสทำยากมาก
การทำบุญนั้นก็มีความยากง่ายตามลำดับขั้น เป็นกำลังใจให้กับนักสะสมบุญทุกท่าน
ขอให้ทุกท่านเจริญในธรรมยิ่งๆขึ้นไปด้วยครับ :b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  Rotala [ 24 ก.ค. 2013, 10:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

บุญกิริยาวัตถุ ๑๐
พระสาสนโสภณ (พิจิตร ฐิตวณฺโณ)


ในการศึกษาเรื่องกฎแห่งกรรมในพระพุทธศาสนานั้น ผู้ศึกษาจำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจในเรื่องการทำบุญประเภทต่าง ๆ ว่า มีอะไรบ้าง และการทำบุญประเภทนั้น ๆ ทำอย่างไรจึงจะถูกต้องและได้ผลมาก เพราะการทำบุญเป็นกรรมดีหรือกุศลกรรม ที่ทุกคนควรบำเพ็ญ

ฉะนั้น ในตอนนี้ จะพูดถึง บุญกิริยาวัตถุ คือ หลักแห่งการบำเพ็ญบุญ ในพระพุทธศาสนา เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้เข้าใจกฎแห่งกรรมชัดเจนยิ่งขึ้น

ลักษณะของบุญ

บุญ คือ อะไร? บุญคือสภาพที่ทำจิตใจให้สะอาดให้ผ่องใส ฉะนั้น ลักษณะของบุญในความหมายแรกนี้ จึงหมายถึงสภาพของจิตหรือคุณภาพของจิตที่ผ่องใส

อีกอย่างหนึ่ง บุญ หมายถึง ความสุข ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ท่านทั้งหลายอย่ากลัวต่อบุญเลย คำว่า บุญนี้ เป็นชื่อของความสุข" ฉะนั้น ลักษณะของบุญในความหมายที่สองนี้ จึงหมายถึงความสุขความเจริญ

อีกอย่างหนึ่ง บุญ หมายถึง การทำความดี ดังที่พระพุทธเจ้าตรัสไว้ว่า "พึงสั่งสมบุญ ทั้งหลาย อันจะนำความสุขมาให้" ฉะนั้น ลักษณะของบุญในความหมายที่ ๓ นี้ หมายถึงการทำดี เช่น การให้ทาน การรักษาศีล เป็นต้น

ดังนั้น บุญจึงมีลักษณะ ๓ ประการ คือ

๑. เมื่อว่าถึงเหตุของบุญ บุญ ได้แก่ การทำความดี
๒. เมื่อว่าถึงผลของบุญ บุญ ได้แก่ ความสุขความเจริญ
๓. เมื่อว่าถึงสภาพของจิต บุญ ได้แก่ จิตใจที่ผ่องใสสะอาด

............
............
http://www.larndham.net/cgi-bin/kratoo.pl/010076.htm
:b48: :b8: :b8: :b8: :b48: อนุโมทนาครับ

เจ้าของ:  เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 24 ก.ค. 2013, 11:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

การทำทาน ก็เหมือนเป็นเพียงการ ลดความเห็นแก่ตัว รู้จักเสียสละ

การมีศีล มีตั้ง 5 ข้อ นั้นหมายถึง เราไม่ทำชั่วได้ถึงห้าข้อใหญ่ๆ จึงมีบุญมากกว่า ทานเพียงอย่างเดียว

ส่วนการภาวนานั้น ทำให้เรามีสติ+ปัญญา เมื่อมีสติจึงไม่ทำชั่ว ไม่ทำตามกิเลส ไม่ผิดศีล จึงเป็นบุญอันสูงสุด ได้บุญมาก

สรุปคือ การภาวนา นั้นครอบครุมทั้ง ทาน และ ศีล จึงได้บุญมากมาย จนถึงขั้น นิพพานได้เลยดีเดียว

หากแต่ต้องเป็น วิปัสสนา จึงจะเกิด ปัญญาที่แท้จริง

เจ้าของ:  คนธรรมดาๆ [ 24 ก.ค. 2013, 11:35 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

ตอบคุณ govit2552

ผมตอบแบบนั้นเพราะเห็นว่าเจ้าของกระทู้พูดว่า "ได้บุญ" ดังนั้นคาดว่าเจ้าของกระทู้น่าจะหมายถึง ผลที่ได้รับจากการทำบุญ มากกว่าบุญในภาคการกระทำ

หากพูดถึงด้านจิตใจแล้ว การได้รับผลของการทำบุญ ก็เป็นความสุขความสบายใจในรูปแบบต่างๆ ดังนั้นที่คุณว่าเป็นเวทนารูปแบบหนึ่ง ก็น่าจะถูกต้องตามนั้นครับ

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 24 ก.ค. 2013, 14:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

บุญกิริยาวัตถุ 3 คือ ทาน 1 ศีล 1 ภาวนา 1

ลองมองในแง่นี้ดูนะครับ

มีชายอยุ่สองคน คนแรกเป็นผู้ให้ทานเป็นนิจ ไม่เคยเบื่อหน่ายกับการให้ทาน ขวนขวายในการให้อยู่เสมอ
แต่เป็นผู้ทุศีล

อีกคน เป็นผู้มีศีล ไม่เคยผิดศีลเลย แต่เป็นคนตระหนี่มักไม่ให้ทาน

พอสองคนนี้ตายไป ชายคนแรกด้วยอำนาจแห่งบาปที่ตนได้ทำ ที่เป็นผู้ทุศีล ยังผลให้เขาเกิดเป็นสัตว์ดิรัจฉานสมมุติเกิดเป็นสุนัข แต่ด้วยอำนาจแห่งทานที่ได้ให้ไว้มากก็ยังผลให้สุนัขตัวนั้นได้รับการเลี้ยงดูอย่างดี ได้รับการบำรุงบำเรออย่างดี

อีกคนเมื่อตายไปแล้วด้วยความที่มีศีลเป็นปรกติ ก็ยังให้เขาได้เกิดเป็นมนุษย์เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ แต่เพราะความตระหนี่จึงทำให้เขาเป็นผู้มีทรัพย์น้อย

จะเห็นนะครับว่าด้วยอำนาจของศีลที่รักษาก็ยังให้ชายคนที่สองไม่เกิดในอบายภูมิ

อันนี้ก็ยกตัวอย่างนะครับ

......................................

ทีนี้หากบุคคลประกอบด้วยศีลและทาน เมื่อเขาตายไป ด้วยอำนาจของทานและศีลที่ได้กระทำไว้ดีแล้ว ก็ยังเขาผู้นั้นให้บังเกิดในเทวโลก เสวยกามคุณอันประณีตยิงนัก แต่ได้สูงสุดก็เพียงถึงชั้นปรนิมมิตตวสวัตตี

แต่ถ้าเป็นบุญจากการภาวนา ถ้าเป็นสมถภาวนา บุคคลได้ฌานและฌานยังไม่เสื่อม เมื่อเขาตายไปก็ไปบังเกิดยังพรหมโลก ตามกำลังของฌาน

แต่ถ้าเป็นบุญจากการเจริญวิปัสสนาภาวนา ด้วยการเจริญวิปัสสนานั้นก็ยังประโยชน์สูงสุดให้สามารถละอวิชชาได้โดยไม่เหลือเชื้อ หลุดพ้นจากการเวียนว่ายตายเกิด ไม่ต้องประสบความทุกข์อีก หยั่งลงสู่อมตะ

เจ้าของ:  PaiKung26 [ 24 ก.ค. 2013, 16:05 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

เข้าใจอย่างถ่องแท้เลยครับ

ขอบคุณสำหรับธรรมทานนะครับทุกท่าน

เจ้าของ:  ฟ้าใสใส [ 15 ส.ค. 2013, 22:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

:b20: >>> ทาน ศีล ภาวนา... เป็นยาประสานชีวิต ช่วยชำระสิ่งมีพิษออกจากจิตใจ <<< :b20:

:b44: (♡✿◕‿◕✿♡) กราบอนุโมทนาบุญกับท่านผู้เจริญในธรรมและกัลยาณมิตรทุกท่าน ธรรมรักษา เทวดาคุ้มครอง ขอให้ท่านเจริญในธรรมยิ่ง ๆ ขึ้นไป สุขกายเจริญวัย สุขใจเจริญธรรมนะเจ้าค่ะ (♡✿◕‿◕✿♡) :b8: :b8: :b8: :b20:

ไฟล์แนป:
ทาน ศีล ภาวนา.jpg
ทาน ศีล ภาวนา.jpg [ 17.68 KiB | เปิดดู 8877 ครั้ง ]

เจ้าของ:  PaiKung26 [ 16 ส.ค. 2013, 00:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ทำไมการถือศีลและภาวนา ถึงได้บุญมาก ?

choochu เขียน:
การทำทาน ก็เหมือนเป็นเพียงการ ลดความเห็นแก่ตัว รู้จักเสียสละ

การมีศีล มีตั้ง 5 ข้อ นั้นหมายถึง เราไม่ทำชั่วได้ถึงห้าข้อใหญ่ๆ จึงมีบุญมากกว่า ทานเพียงอย่างเดียว

ส่วนการภาวนานั้น ทำให้เรามีสติ+ปัญญา เมื่อมีสติจึงไม่ทำชั่ว ไม่ทำตามกิเลส ไม่ผิดศีล จึงเป็นบุญอันสูงสุด ได้บุญมาก

สรุปคือ การภาวนา นั้นครอบครุมทั้ง ทาน และ ศีล จึงได้บุญมากมาย จนถึงขั้น นิพพานได้เลยดีเดียว

หากแต่ต้องเป็น วิปัสสนา จึงจะเกิด ปัญญาที่แท้จริง


ภาวนาได้บุญตามศาสนาเพราะอย่างนี้เอง ขอบคุณมากครับ onion

หน้า 1 จากทั้งหมด 2 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/