วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 15:48  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2013, 21:23 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


ทำอย่างไรจึงจะคิดเป็นกุศลตลอดเวลา

การคิด จะเกิดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อได้รับการสัมผัสทางอายตนะทั้งหลาย อีกทั้งยังต้องมีการปฏิสัมพันธ์ กับสิ่งแวดล้อมต่างๆ อันล้วนเป็นเหตุปัจจัยที่สำคัญ ซึ่งจะก่อให้บุคคลนั้นๆ คิดไปในทางกุศล หรือคิดไปในทาง อกุศล
ความคิดที่ทำให้เกิดความเศร้าหมองในจิตใจนั้น เกิดจากไม่มีความรู้ ไม่มีความเข้าใจในการดำรงชีวิตของตนเอง ไม่รู้ไม่เข้าใจในการดำรงชีวิตของมนุษย์ ไม่เห็นว่าการดำรงชีวิตของมนุษย์นั้น เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อไม่รู้ ไม่เห็นว่า การดำรงชีวิตของมนุษย์นั้นเป็นสิ่งธรรมดา เป็นเรื่องธรรมดา จึงเกิดความเศร้าหมอง ยกตัวอย่างเช่น มนุษย์ (ในที่นี้หมายเอาเฉพาะมนุษย์) ย่อมมีการเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็น ธรรมดา แต่ถ้าไม่รู้ ไม่เห็น ไม่คิดว่า การเกิด แก่ เจ็บ ตาย เป็นธรรมดา แต่กลับคิดไปเป็นอย่างอื่น ก็จะทำให้เกิดความเศร้าหมองในจิตใจ เป็นธรรมดา เช่นกัน
หรือ มนุษย์ ย่อมมีการพลัดพรากจากสิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบ เป็นธรรมดา แต่ถ้าไม่รู้ ไม่เห็น ไม่คิดว่า การพลัดพรากจากสิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบ เป็นธรรมดา แต่กลับคิดเป็นอย่างอื่น หรือหลงติดกับสิ่งที่รัก สิ่งที่ชอบ ก็จักเกิดความเศร้าหมองในจิตใจ เป็นธรรมดา เช่นกัน
การดำรงชีวิตของมนุษย์ ย่อมต้องมีการปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมต่างๆ ความคิดของบุคคลย่อมเกิดขึ้นได้ทั้งในทาง กุศล และ อกุศล ขึ้นอยู่กับ การได้รับการสัมผัสในขณะนั้น เป็นธรรมดา
หากคิดเป็นในทาง กุศล ก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้า คิดในทาง อกุศล ต้องรู้จักใช้ความคิดขจัดซึ่งความคิด อกุศลเหล่านั้น เพราะ ความคิดย่อมต้องลบล้างด้วยความคิด หากคิด อกุศล ก็ต้องใช้ความคิด กุศลเข้าลบล้าง จึงจะทำให้เกิดความเป็นกลางทางความคิด ก็คือ ไม่คิดอะไร เพราะ อกุศล ถูกขจัดโดย กุศล เรื่องนี้ แต่ละบุคคลทำได้อยู่แล้วขอรับ เพียงแต่ อาจมีปัจจัยสิ่งแวดล้อม หรือการได้รับการขัดเกลาทางสังคมของแต่ละบุคคล ที่จะทำให้บุคคลนั้นๆเมื่อเกิดความคิดอกุศลแล้ว ไม่ย่อมใช้ความคิดกุศลลบล้าง แต่กลับไหลตามความคิด อกุศล เป็นธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 26 ส.ค. 2013, 23:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 08 เม.ย. 2011, 01:57
โพสต์: 324

แนวปฏิบัติ: อริยสัจ4
อายุ: 27
ที่อยู่: USA

 ข้อมูลส่วนตัว


เรื่องความคิด อาจจะเลือกไม่ได้ กำหนดไม่ได้ว่าจะคิดเป็นกุศล หรือคิดเป็นอกุศล หรือคิดเป็นกลางๆ

แค่ระวังความคิดไว้ ให้รู้ตัวว่าความคิดแบบไหนกำลังเกิดขึ้น เท่านี้ก็ปลอดภัยในระดับหนึ่งแล้ว

เมื่อรู้ตัวว่าคิดอะไรอยู่ ก็มีโอกาสจะเป็นอิสระจากความคิด

ก็มีโอกาสจะเลือกทางเดินของตัวเองได้

.....................................................
ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นคือความจริง การฝืนความจริงทำให้เกิดทุกข์ การเห็นและยอมตามความจริงทำให้หายทุกข์

คนที่รู้ธรรมะ มักจะชอบเอาชนะผู้อื่น แต่คนเข้าใจธรรมะ มักจะเอาชนะใจตนเอง

สัพเพ ธัมมา อะนัตตาติ ยะทา ปัญญายะ ปัสสะติ
เมื่อใดบุคคลเห็นด้วยปัญญาว่า, ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา

อะถะ นิพพินทะติ ทุกเข เอสะ มัคโค วิสุทธิยา
เมื่อนั้น ย่อมเหนื่อยหน่ายในสิ่งที่เป็นทุกข์ ที่ตนหลง,
นั่นแหละเป็นทางแห่งพระนิพพานอันเป็นธรรมหมดจด

.....ติลักขณาทิคาถา.....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2013, 01:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 12 พ.ค. 2012, 00:24
โพสต์: 34


 ข้อมูลส่วนตัว


จาก หัวข้อกระทู้. ทำอย่างไรให้คิดเป็นกุศลตลอดเวลา
ผมเห็นว่าเป็นไปไม่ได้. อย่าได้พยายามเลย.
เพราะการที่จิตมุ่งแต่เพียงความคิดที่เป็นกุศล. นั่นหมายถึงว่า เราขาดความเข้าใจใน กฎไตรลักษณ์
ที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง. ดังนั้นความเป็นตลอดเวลา มันเป็นไปได้หรือ

แต่ที่พูดไม่ได้ต้องการให้เลิกคิด
แต่ควรข้ามมันให้พ้น ทั้งกุศล และ อกุศล
การข้ามพ้น หมายถึงการเข้าใจอย่างถ่องแท้ที่ประจักษ์แก่จิตเองว่า
การที่ให้ราคามันว่าเป็น กุศล หรือ อกุศล ก็เป็นเพียงอาการปรุงแต่งอย่างหนึ่งของจิต
หาสาระอะไรไม่ได้เลย. เพราะสุดท้ายถ้าจิตไม่เข้าไปยึดมัน มันก็หามีไม่
จิตก็วางมันลงไปเอง. เท่านั้นเอง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2013, 08:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 01 มี.ค. 2010, 16:12
โพสต์: 2298

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


sriariya เขียน:
ทำอย่างไรจะคิดเป็นกุศลตลอดเวลา

"มีสติ" ทุกเมื่อ "กิเลส" ไม่เกิด

:b1:

.....................................................
"พุทโธ .. พุทโธ .. พุทโธ"
ภาวนาวันละนิด จิตแจ่มใส


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ส.ค. 2013, 14:31 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5111

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


:b39:

นึกถึงหัวข้อ สัมมัปปธาน ๔ ค่ะ

ฮานาโกะจังเองว่า ปกติจิตของเรานี่มันคุ้นเคยกับความชั่วมานาน
ขี้โกรธบ้าง ขี้รักขี้หลงบ้าง ขี้โลภบ้าง
มันคุ้นเคยมานาน ของคุ้นมานานมันก็ต้องวกวนไปหากันอยู่บ่อยๆ
อาศัยสติเป็นสำคัญ

มีสติ ก็เป็นการประกอบความเพียรอยู่ทุกเมื่อ
เพียรอะไรบ้าง...? เพียรชอบนะเอง

สัมมัปปธาน หรือ สัมมัปปธาน ๔ คือ การมุ่งมั่นทำความชอบ มี ๔ ประการ

๑.) สังวรปทาน คือ เพียรระงับการกระทำอกุศล ไม่ให้เกิดขึ้น ( เพียรระวัง )
๒.) ปหานปทาน คือ เพียรละเลิกอกุศลที่กำลังกระทำอยู่ ( เพียรละ )
๓.) อนุรักขปทาน คือ เพียรรักษา กุศลธรรม ที่เกิดขึ้นแล้ว ( เพียรรักษา )
๔.) ภาวนาปทาน คือ เพียรฝึกฝนบำรุงกุศลธรรม ให้เจริญยิ่งขึ้น ( เพียรเจริญ )



จิตมันคุ้นเรื่องชั่ว มันชอบวกไปจะทำชั่วก็มี (บ่อย :b6: )
แต่เมื่อรู้ให้เพียรละ และกำหนดใจไว้ว่าจะไม่ทำอีก
และรีบเอาฝ่ายกุศลเข้ามาชะล้าง
และตั้งมั่นในใจว่า จะทำให้ยิ่งๆ ขึ้นไปอีก
ละชั่วมากขึ้น ทำดีมากขึ้น จิตนี้คงสะอาดรอบเข้าสักวัน :b8:


.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 01 ก.ย. 2013, 20:28 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


kitti1234 เขียน:
จาก หัวข้อกระทู้. ทำอย่างไรให้คิดเป็นกุศลตลอดเวลา
ผมเห็นว่าเป็นไปไม่ได้. อย่าได้พยายามเลย.
เพราะการที่จิตมุ่งแต่เพียงความคิดที่เป็นกุศล. นั่นหมายถึงว่า เราขาดความเข้าใจใน กฎไตรลักษณ์
ที่ว่าทุกสิ่งทุกอย่างล้วนไม่เที่ยง. ดังนั้นความเป็นตลอดเวลา มันเป็นไปได้หรือ

แต่ที่พูดไม่ได้ต้องการให้เลิกคิด
แต่ควรข้ามมันให้พ้น ทั้งกุศล และ อกุศล
การข้ามพ้น หมายถึงการเข้าใจอย่างถ่องแท้ที่ประจักษ์แก่จิตเองว่า
การที่ให้ราคามันว่าเป็น กุศล หรือ อกุศล ก็เป็นเพียงอาการปรุงแต่งอย่างหนึ่งของจิต
หาสาระอะไรไม่ได้เลย. เพราะสุดท้ายถ้าจิตไม่เข้าไปยึดมัน มันก็หามีไม่
จิตก็วางมันลงไปเอง. เท่านั้นเอง


คุณขอรับ คุณกลับไปอ่านกระทู้ทั้งหมดช้าๆ แล้วคิดพิจารณาให้ดีซิขอรับ
แล้ว กฎไตรลักษณ์ ที่คุณกล่าวมานั้น คุณรู้และมีความเข้าใจหรือไม่ว่า มันเป็นเรื่อง "ธรรมดา" เป็นเพียงข้อความที่เป็นสิ่งประกอบในหลักธรรม และบอกกล่าวว่า สรรพสิ่งล้วนเป็น "ไตรลักษณ์" แต่มีคนที่ไม่รู้ดันเอามาเป็นหลักธรรมโดดๆ

ผู้สอน เขากล่าวถึงไตรลักษณ์ ประกอบหลักธรรม ก็เพื่อให้ผู้ฟังหรือผู้ศรัทธา ได้มองเห็นว่า เป็นเรื่อง ธรรมดา
แต่การคิด หรือ ความคิด เมื่อเกิดขึ้น มันไม่ได้เกิดขึ้น เพราะหลัก ไตรลักษณ์ แต่มันเกิดขึ้นจากการได้รับการสัมผัสทางอายตนะ และดำเนินไปตามระบบการทำงานของร่างกาย คือ รูป เวทนา สัญญา สังขาร จิตวิญญาณ


เอ้าลองอ่านตอนนี้อีกครั้ง แล้วทำความเข้าใจให้ดี แล้วถ้าคุณมีข้อคัดค้าน คุณก็ลองตอบมาซิว่า ถ้าคุณเกิดคิดอกุศลขึ้นมา คุณจะใช้หลักไตรลักษณ์ อย่างไร หรือว่า คุณจะใช้วิธีการด้านล่างที่ข้าพเจ้าได้กล่าวไว้ ลองพิจารณาขอรับ

หากคิดเป็นในทาง กุศล ก็ไม่มีปัญหา
แต่ถ้า คิดในทาง อกุศล ต้องรู้จักใช้ความคิดขจัดซึ่งความคิด อกุศลเหล่านั้น เพราะ ความคิดย่อมต้องลบล้างด้วยความคิด หากคิด อกุศล ก็ต้องใช้ความคิด กุศลเข้าลบล้าง จึงจะทำให้เกิดความเป็นกลางทางความคิด ก็คือ ไม่คิดอะไร เพราะ อกุศล ถูกขจัดโดย กุศล เรื่องนี้ แต่ละบุคคลทำได้อยู่แล้วขอรับ เพียงแต่ อาจมีปัจจัยสิ่งแวดล้อม หรือการได้รับการขัดเกลาทางสังคมของแต่ละบุคคล ที่จะทำให้บุคคลนั้นๆเมื่อเกิดความคิดอกุศลแล้ว ไม่ย่อมใช้ความคิดกุศลลบล้าง แต่กลับไหลตามความคิด อกุศล เป็นธรรมดา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 14:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 ต.ค. 2009, 15:06
โพสต์: 7503

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


rolleyes rolleyes rolleyes
...รักษาศีล 5 ให้บริสุทธิ์ คิดดี พูดดี ทำดี ถ้าเป็นไปได้ก็ปิดวาจาค่ะ...
...กำหนดสติระลึกพุทโธ...ได้ทั้งวันไม่ลืมพุทโธคือกุศลตลอดเวลา...
Kiss
:b12: :b13:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ก.ย. 2013, 18:42 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b38:
อ้างคำพูด:
ทำอย่างไรจึงจะคิดเป็นกุศลตลอดเวลา

s006
เจริญสติ ปัฏฐาน 4 ในชีวิตประจำวันให้ได้ ยังไงล่ะครับ
:b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 08 ก.ย. 2013, 17:14 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 29 พ.ค. 2007, 09:55
โพสต์: 1632


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b38:
อ้างคำพูด:
ทำอย่างไรจึงจะคิดเป็นกุศลตลอดเวลา

s006
เจริญสติ ปัฏฐาน 4 ในชีวิตประจำวันให้ได้ ยังไงล่ะครับ
:b8:

การที่บุคคลจะทำสิ่งใด หากไม่รู้ไม่เข้าใจในการกระทำสิ่งนั้น ก็ย่อมยาก อาจมีข้อผิดพลาด เสียเวลา และอะไรอีกหลายๆอย่าง ซึ่ง อาจจะทำให้เกิดอาการที่ผิดปกติภายในจิตใจได้ นี้เรื่องจริงนะขอรับ

ข้าพเจ้าเอง ถูกอบรมขัดเกลามาเพียงด้านเดียว อันเป็นด้านพื้นฐานของการมีสติ ก็คือ การปฏิบัติสมาธิ อย่างอื่นที่เกี่ยวกับ สติปัฏฐานสี่ ข้าพเจ้าไม่ได้รู้เรื่องอะไรเลย มารู้เรื่องเอาก็เมื่อตัวเอง ไปไกลเกินกว่าที่จะกลับหลังมาอีก
แต่ด้วยความที่มีจิตใจรักในพุทธศาสนา ข้าพเจ้าจึงหันกลับมาศึกษาทางด้านพุทธศาสนาในบางอย่างบางตอนที่ลึกซึ้งลงไป เพื่อเอาไว้เปรียบเทียบ และเอาไว้อธิบายให้ผู้ศรัทธาในพุทธศาสนา ได้รู้ได้เข้าใจอย่างถ่องแท้

สติปัฏฐาน สี่ เป็นหลักวิธีการในการปฏิบัติ ตั้งแต่ระดับพื้นฐาน เรื่อยไปจนเพื่อให้บุคคลถึง ระดับอริยบุคคล ดังนั้น ใครผู้ใด จะตอบอย่างไรอันเกี่ยวข้องกับการมีสติ ก็ย่อมถูกทั้งนั้น ขึ้นอยู่กับความรู้ความเข้าใจของแต่ละบุคคล
เนื่องจาก สติปัฏฐานสี่ เป็นหลักวิธีหรือวิธีการในการที่จะปฏิบัติ เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในหลักธรรมทั้งหลาย อันอาจนำไปสู่ความเป็นอริยบุคคล หลุดพ้นจากอาสวะ จนบรรลุธรรมตั้งแต่ชั้นโสดาบันเป็นต้นไป ในหลักวิธีหรือวิธีการเหล่านั้น จึงเป็นการบอกกล่าวแบบกว้างๆ แต่ถ้าท่านทั้งหลายได้อ่าน และคิดพิจารณาไปอย่างช้าๆ ก็จะพบความลับในหลักวิธีหรือวิธีการ สติปัฏฐานสี่

การจะปฏิบัติตามหลัก สติปัฏฐานสี่ ต้องประกอบไปด้วยความรู้หลายด้าน คือ ความรู้ด้าน กาย,ความรู้ด้าน เวทนา,ความรู้ทางด้าน จิต,ความรู้ทางด้าน ธรรมะ

ขอย้ำว่าต้องมีความรู้ตามที่ข้าพเจ้าแนะแนวทางไป จะขาดความรู้อย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ ถ้าหากบุคคลมีความรู้มีความเข้าใจในทั้งสี่ด้านแล้ว ก็จะเกิดความเข้าใจในหลักวิธีหรือวิธีการแห่ง สติปัฏฐานสี่ อย่างแน่นอน


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 9 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 58 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร