ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
แล้วช่วยดูหน่อยว่าผมคิดถูกไหมครับ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=46267 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
เจ้าของ: | หมอกดอย [ 06 ก.ย. 2013, 21:15 ] |
หัวข้อกระทู้: | แล้วช่วยดูหน่อยว่าผมคิดถูกไหมครับ |
ก่อนอื่น ในช่วงนี้ กระผมได้มีโอกาสได้ไปพูดคุยกับเพื่อนที่ปฏิบัติธรรมหลายคน รวมถึงเรื่องการทำบุญ ทานต่างๆ นานา ประเด็นที่กระผมขัดข้องใจ อยู่คือเรื่องวัดป่ากับวัดบ้าน ซึ่งหลายท่านได้บอกให้ไปปฏิบัติธรรม หรือทำบุญกับวัดป่า ไม่ขออธิบายต่อนะครับว่าเพราะอะไร เพราะพูดถึงเรื่องนี้แล้วท่านทั้งหลายคงทราบกันดี แต่ในความคิดของ ![]() ![]() ![]() ![]() ท่านทั้งหลาย กระผมคิดอย่างนี้ถูกไหมครับ ......ขอบคุณครับ |
เจ้าของ: | คนธรรมดาๆ [ 06 ก.ย. 2013, 23:20 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แล้วช่วยดูหน่อยว่าผมคิดถูกไหมครับ |
ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ลงถ้าขัดข้อง หงุดหงิดใจแล้ว คิดผิดทั้งนั้นล่ะครับ |
เจ้าของ: | Hanako [ 06 ก.ย. 2013, 23:32 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แล้วช่วยดูหน่อยว่าผมคิดถูกไหมครับ |
![]() มันไม่ถูกใจเราเท่านั้นเอง |
เจ้าของ: | asoka [ 07 ก.ย. 2013, 21:40 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แล้วช่วยดูหน่อยว่าผมคิดถูกไหมครับ |
![]() ![]() ผมจะเรียนวิชาว่ายน้ำผมจะเลือกครูคนไหน? ครูคนที่ 1 เก่งมากในทฤษฎีการว่ายน้ำ รู้ทุกท่าและทุกเทคนิคของการว่ายน้ำ....แต่ไม่เคยลงว่ายน้ำจริงๆเลย ครูคนที่ 2 ว่ายน้ำอยู่เป็นประจำทุกวัน ![]() พระป่า กับพระบ้าน ต่างกันตรงปฏิบัติการนี่แหละครับ..... พระป่า ทำ มากกว่าพูด พระบ้าน พูด มากกว่า ทำ ![]() |
เจ้าของ: | student [ 08 ก.ย. 2013, 02:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แล้วช่วยดูหน่อยว่าผมคิดถูกไหมครับ |
การปฎิบัติธรรมนั้น ต่อให้เราเข้าวัดป่า หาอาจารย์ดีแค่ไหนก็ตาม หากตัวเราไม่มีปัญญา มันก็ไม่เกิดประโยชน์มาก เพราะจุดมุ่งหมายของทุกคนคือการปฏิบัติเพื่อปัญญาเป็นหลัก การปฎิบัตินั้น มันต้องเริ่มต้นที่ตัวเรา ไม่ใช่เริ่มต้นที่วัด เมื่อเรามีความเห็นที่ถูก จะเข้าวัดบ้าน หรือวัดป่า ก็ไม่มีใครมาทำลายความเห็นเราลงไปได้ |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 08 ก.ย. 2013, 09:12 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แล้วช่วยดูหน่อยว่าผมคิดถูกไหมครับ |
"ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้อยู่ป่า มี ๕ ประเภท ดังนี้ ๕ ประเภท คืออะไร ได้แก่ ผู้ที่อยู่ป่า เพราะเป็นผู้โง่เขลา เพราะงมงาย ๑ ผู้มีความปรารถนาลามก ถูกความปรารถนาครอบงำ จึงอยู่ป่า ๑ ผู้อยู่ป่าเพราะความเสียจริต เพราะจิตฟุ้งซ่าน ๑ ผู้อยู่ป่าเพราะเห็นว่า การอยู่ป่านี้ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธสาวกทั้งหลายสรรเสริญ ๑ ผู้อยู่ป่า เพราะอาศัยความเป็นผู้มักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความใฝ่สงัด ความพอใจเท่าที่มี ๑ ....บรรดาผู้อยู่ป่า ๕ ประเภทเหล่านี้ ผู้ที่อยู่ป่าเพราะความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความใฝ่สงัด ความพอใจเท่าที่มี นี้เป็นอย่างเลิศ ประเสริฐ นำหน้า สูงสุด ดีเยี่ยม ในบรรดาผู้อยู่ป่าทั้ง ๕ ประเภทเหล่านี้. |
เจ้าของ: | กรัชกาย [ 08 ก.ย. 2013, 09:13 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แล้วช่วยดูหน่อยว่าผมคิดถูกไหมครับ |
ต่อ พระพุทธเจ้า: ดูกรคหบดี ทานในตระกูล ท่านยังให้อยู่หรือ ? ทารุกัมมิกะ: ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทานในตระกูล ข้าพระองค์ยังให้อยู่ ก็แล ทานนั้น ข้าพระองค์ถวายในประดาท่านพระภิกษุทั้งหลาย ชนิดที่เป็นผู้่อยู่ป่า ถือบิณฑบาต ครองผ้าบังสุกุล ซึ่งเป็นพระอรหันต์ หรือเข้าถึงอรหัตมรรค พระพุทธเจ้า: ดูกรคหบดี ท่านซึ่งเป็นคฤหัสถ์ ...ยากจะรู้ได้ถึงความข้อนั้นว่า ท่านเหล่านี้เป็นพระอรหันต์ หรือท่านเหล่านี้เป็นผู้เข้าถึงอรหัตมรรค ถึงจะเป็นภิกษุอยู่ป่า หากเป็นผู้ฟุ้งซ่าน ลำพอง กวัดแกว่ง ปากมาก พูดพล่อย สติเลอะลอย ไร้สัมปชัญญะ จิตไม่ตั้งมั่น จิตใจวุ่นวาย ปล่อยอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรติเตียน โดยลักษณะข้อนั้น ถึงจะเป็นภิกษุอยู่ป่า หากเป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ลำพอง ไม่กวัดแกว่ง ไม่ปากมาก ไม่พูดพล่อย มีสติกำกับตัว มีสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น จิตใจเป็นหนึ่งเดียว สำรวมอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรสรรเสริญ โดยลักษณะข้อนั้น ถึงจะเป็นภิกษุอยู่ชายเขตบ้าน หากเป็นผู้ฟุ้งซ่าน ลำพอง กวัดแกว่ง ปากมาก พูดพล่อย สติเลอะลอย ไร้สัมปชัญญะ จิตไม่ตั้งมั่น จิตใจวุ่นวาย ปล่อยอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรติเตียน โดยลักษณะข้อนั้น ถึงเป็นภิกษุอยู่ชายเขตบ้าน หากเป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ลำพอง ไม่กวัดแกว่ง ไม่ปากมาก ไม่พูดพล่อย มีสติกำกับตัว มีสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น จิตใจเป็นหนึ่งเดียว สำรวมอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรสรรเสริญ โดยลักษณะข้อนั้น ถึงจะเป็นภิกษุถือบิณฑบาต...ถึงจะเป็นภิกษูรับนิมนต์...ถึงจะเป็นภิกษูครองผ้าบังสุกุล....ถึงจะเป็นภิกษูครองจีวรที่คหบดีถวาย...(ก็เช่นเดียวกัน) ดูกรคหบดี เชิญท่านให้ทานในสงฆ์เถิด...." |
เจ้าของ: | ปฤษฎี [ 08 ก.ย. 2013, 14:25 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แล้วช่วยดูหน่อยว่าผมคิดถูกไหมครับ |
กรัชกาย เขียน: "ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้อยู่ป่า มี ๕ ประเภท ดังนี้ ๕ ประเภท คืออะไร ได้แก่ ผู้ที่อยู่ป่า เพราะเป็นผู้โง่เขลา เพราะงมงาย ๑ ผู้มีความปรารถนาลามก ถูกความปรารถนาครอบงำ จึงอยู่ป่า ๑ ผู้อยู่ป่าเพราะความเสียจริต เพราะจิตฟุ้งซ่าน ๑ ผู้อยู่ป่าเพราะเห็นว่า การอยู่ป่านี้ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธสาวกทั้งหลายสรรเสริญ ๑ ผู้อยู่ป่า เพราะอาศัยความเป็นผู้มักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความใฝ่สงัด ความพอใจเท่าที่มี ๑ ....บรรดาผู้อยู่ป่า ๕ ประเภทเหล่านี้ ผู้ที่อยู่ป่าเพราะความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความใฝ่สงัด ความพอใจเท่าที่มี นี้เป็นอย่างเลิศ ประเสริฐ นำหน้า สูงสุด ดีเยี่ยม ในบรรดาผู้อยู่ป่าทั้ง ๕ ประเภทเหล่านี้. ต่อ พระพุทธเจ้า: ดูกรคหบดี ทานในตระกูล ท่านยังให้อยู่หรือ ? ทารุกัมมิกะ: ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทานในตระกูล ข้าพระองค์ยังให้อยู่ ก็แล ทานนั้น ข้าพระองค์ถวายในประดาท่านพระภิกษุทั้งหลาย ชนิดที่เป็นผู้่อยู่ป่า ถือบิณฑบาต ครองผ้าบังสุกุล ซึ่งเป็นพระอรหันต์ หรือเข้าถึงอรหัตมรรค พระพุทธเจ้า: ดูกรคหบดี ท่านซึ่งเป็นคฤหัสถ์ ...ยากจะรู้ได้ถึงความข้อนั้นว่า ท่านเหล่านี้เป็นพระอรหันต์ หรือท่านเหล่านี้เป็นผู้เข้าถึงอรหัตมรรค ถึงจะเป็นภิกษุอยู่ป่า หากเป็นผู้ฟุ้งซ่าน ลำพอง กวัดแกว่ง ปากมาก พูดพล่อย สติเลอะลอย ไร้สัมปชัญญะ จิตไม่ตั้งมั่น จิตใจวุ่นวาย ปล่อยอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรติเตียน โดยลักษณะข้อนั้น ถึงจะเป็นภิกษุอยู่ป่า หากเป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ลำพอง ไม่กวัดแกว่ง ไม่ปากมาก ไม่พูดพล่อย มีสติกำกับตัว มีสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น จิตใจเป็นหนึ่งเดียว สำรวมอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรสรรเสริญ โดยลักษณะข้อนั้น ถึงจะเป็นภิกษุอยู่ชายเขตบ้าน หากเป็นผู้ฟุ้งซ่าน ลำพอง กวัดแกว่ง ปากมาก พูดพล่อย สติเลอะลอย ไร้สัมปชัญญะ จิตไม่ตั้งมั่น จิตใจวุ่นวาย ปล่อยอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรติเตียน โดยลักษณะข้อนั้น ถึงเป็นภิกษุอยู่ชายเขตบ้าน หากเป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ลำพอง ไม่กวัดแกว่ง ไม่ปากมาก ไม่พูดพล่อย มีสติกำกับตัว มีสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น จิตใจเป็นหนึ่งเดียว สำรวมอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรสรรเสริญ โดยลักษณะข้อนั้น ถึงจะเป็นภิกษุถือบิณฑบาต...ถึงจะเป็นภิกษูรับนิมนต์...ถึงจะเป็นภิกษูครองผ้าบังสุกุล....ถึงจะเป็นภิกษูครองจีวรที่คหบดีถวาย...(ก็เช่นเดียวกัน) ดูกรคหบดี เชิญท่านให้ทานในสงฆ์เถิด...." สาธุ สาธุ สาธุ ![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ปลีกวิเวก [ 09 ก.ย. 2013, 13:16 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: แล้วช่วยดูหน่อยว่าผมคิดถูกไหมครับ |
กรัชกาย เขียน: "ภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้อยู่ป่า มี ๕ ประเภท ดังนี้ ๕ ประเภท คืออะไร ได้แก่ ผู้ที่อยู่ป่า เพราะเป็นผู้โง่เขลา เพราะงมงาย ๑ ผู้มีความปรารถนาลามก ถูกความปรารถนาครอบงำ จึงอยู่ป่า ๑ ผู้อยู่ป่าเพราะความเสียจริต เพราะจิตฟุ้งซ่าน ๑ ผู้อยู่ป่าเพราะเห็นว่า การอยู่ป่านี้ พระพุทธเจ้าทั้งหลาย พระพุทธสาวกทั้งหลายสรรเสริญ ๑ ผู้อยู่ป่า เพราะอาศัยความเป็นผู้มักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความใฝ่สงัด ความพอใจเท่าที่มี ๑ ....บรรดาผู้อยู่ป่า ๕ ประเภทเหล่านี้ ผู้ที่อยู่ป่าเพราะความมักน้อย ความสันโดษ ความขัดเกลา ความใฝ่สงัด ความพอใจเท่าที่มี นี้เป็นอย่างเลิศ ประเสริฐ นำหน้า สูงสุด ดีเยี่ยม ในบรรดาผู้อยู่ป่าทั้ง ๕ ประเภทเหล่านี้. กรัชกาย เขียน: ต่อ พระพุทธเจ้า: ดูกรคหบดี ทานในตระกูล ท่านยังให้อยู่หรือ ? ทารุกัมมิกะ: ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ทานในตระกูล ข้าพระองค์ยังให้อยู่ ก็แล ทานนั้น ข้าพระองค์ถวายในประดาท่านพระภิกษุทั้งหลาย ชนิดที่เป็นผู้่อยู่ป่า ถือบิณฑบาต ครองผ้าบังสุกุล ซึ่งเป็นพระอรหันต์ หรือเข้าถึงอรหัตมรรค พระพุทธเจ้า: ดูกรคหบดี ท่านซึ่งเป็นคฤหัสถ์ ...ยากจะรู้ได้ถึงความข้อนั้นว่า ท่านเหล่านี้เป็นพระอรหันต์ หรือท่านเหล่านี้เป็นผู้เข้าถึงอรหัตมรรค ถึงจะเป็นภิกษุอยู่ป่า หากเป็นผู้ฟุ้งซ่าน ลำพอง กวัดแกว่ง ปากมาก พูดพล่อย สติเลอะลอย ไร้สัมปชัญญะ จิตไม่ตั้งมั่น จิตใจวุ่นวาย ปล่อยอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรติเตียน โดยลักษณะข้อนั้น ถึงจะเป็นภิกษุอยู่ป่า หากเป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ลำพอง ไม่กวัดแกว่ง ไม่ปากมาก ไม่พูดพล่อย มีสติกำกับตัว มีสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น จิตใจเป็นหนึ่งเดียว สำรวมอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรสรรเสริญ โดยลักษณะข้อนั้น ถึงจะเป็นภิกษุอยู่ชายเขตบ้าน หากเป็นผู้ฟุ้งซ่าน ลำพอง กวัดแกว่ง ปากมาก พูดพล่อย สติเลอะลอย ไร้สัมปชัญญะ จิตไม่ตั้งมั่น จิตใจวุ่นวาย ปล่อยอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรติเตียน โดยลักษณะข้อนั้น ถึงเป็นภิกษุอยู่ชายเขตบ้าน หากเป็นผู้ไม่ฟุ้งซ่าน ไม่ลำพอง ไม่กวัดแกว่ง ไม่ปากมาก ไม่พูดพล่อย มีสติกำกับตัว มีสัมปชัญญะ มีจิตตั้งมั่น จิตใจเป็นหนึ่งเดียว สำรวมอินทรีย์ เธอก็เป็นผู้อันควรสรรเสริญ โดยลักษณะข้อนั้น ถึงจะเป็นภิกษุถือบิณฑบาต...ถึงจะเป็นภิกษูรับนิมนต์...ถึงจะเป็นภิกษูครองผ้าบังสุกุล....ถึงจะเป็นภิกษูครองจีวรที่คหบดีถวาย...(ก็เช่นเดียวกัน) ดูกรคหบดี เชิญท่านให้ทานในสงฆ์เถิด...." ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |