นั่นเอาคนไปเปรียบกับควาย ควายไม่ใช่คน คนไม่ใช่ควาย ตรรกะนี่้ใช้ไม่ได้ มันเป็นสิทธิส่วนบุคคล ใครจะกินก็กิน ไม่กินก็ไม่กิน อย่าเบียดเบียนกัน ควายกินหญ้าก็ไม่เคยถามคนว่าทำไมจึงไม่กินอย่างกรูว่ะ ฯลฯ

เหมือนตรรกะ นี้ เอาขี้กับเหล้า ไปวางเรียงกันแล้วให้หมาเลือกกิน หมาจะกินอะไร กินขี้หรือกินเหล้า

พูดงี้โฮฮับก็ว่า กินเจ เป็นมิจฉาทิฏฐิใช่มะ ถ้างั้นกินอะไรกินยังไง เป็นสัมมาทิฏฐิ


กินเจ กับ กินอิฐ หิน ปูน ทราย กินป่า กินเขา กินถนนหนทาง เป็นมิจฉาทิฐิ เหมือนกันหรืออย่างไร จงอธิบาย?

เล่าประสบการณ์แล้วกันสมัยหนึ่งผมเคยกินเจวันหนึ่งไปร่วมงานกับเขาจำไม่ได้ว่างานอะไรในงานเขาทำกับข้าวมากมายแต่เป็นแบบมีเนื้อสัตว์ปนผมบอกว่าผมกินเจ ในงานเขาบอกว่าไมัมีหรอกเจมีเท่านี้จะกินก็กินไม่กินก็อดเอา เท่านั้นเองผมเข้าใจเลย

อ่านความเห็นนี้แล้วกล้าพูดได้เต็มปากเลยว่า อเมชิ่งมุสา แต่งเรื่องขึ้นมาเอง

ไอ้ที่บอกว่าเข้าใจน่ะ เข้าใจอะไรหรือ พุทโธ่! มันเป็นตัวเองต้องรู้ดีกว่าใครเขา

ถามหน่อยอเมชิ่ง เป็นพวกคนป่าอเมซอนหรือไง ถึงไม่รู้ว่า งานเลี้ยงเขาไม่มีอาหารเจ

แต่งเรื่องไม่เนียน เรื่องบ้านผีปอบยังน่าเชื่อกว่าอีก

เล่าประสบการณ์แล้วกันสมัยหนึ่งผมเคยกินเจวันหนึ่งไปร่วมงานกับเขาจำไม่ได้ว่างานอะไรในงานเขาทำกับข้าวมากมายแต่เป็นแบบมีเนื้อสัตว์ปนผมบอกว่าผมกินเจ ในงานเขาบอกว่าไมัมีหรอกเจมีเท่านี้จะกินก็กินไม่กินก็อดเอา เท่านั้นเองผมเข้าใจเลย

เอาดีไม่ได้สักอย่าง เห็นชอบถามคำศัพท์นักหนา นี่มันอะไรแม้แต่คำไทยแท้ๆยังไม่รู้เรื่อง

ที่กรัชกายบอกว่า การกินเจเป็น..."กิจกรรม"

การกินเจในช่วงเวลาหนึ่งของทุกปี เขาไม่เรียกกิจกรรม มันเป็นประเพณี

ที่กรัชกายเห็นคำว่า....กินเจ ความสำคัญมันไม่ได้อยู่ที่เรื่องกิน
หลักใหญ่มันอยู่ที่.......การละเว้นชีวิตสัตว์
การกินเจมันก็เป็นการกินอาหาร๓มื้อตามปกตินั้นแหล่ะ เพียงแต่ในมื้ออาหารนั้นจะไม่มีเนื้อสัตว์


กรัชกายเขาไม่ได้จัดเทศกาลกินอาหารเจแข่งกันน่ะ
ถึงจะได้เรียกว่า....."กิจกรรมกินเจ"

กรัชกายจะเล่าเหมือนกัน ปกติไม่กินเนื้อสัตว์เกือยทุกชนิด (ไม่กินตั้งแต่เกิด) เช่น เนื้อช้าง ลิง เนื้อกระทิง วัว ควาย หมู เป็ด ไก่ ฯลฯ ไม่กิน จะกินแต่ผัก ผักนี่ได้ทุกชนิด วันหนึ่งไปงานเหมือนกัน อย่าง่ว่า ในงานแม่ครัว ทำอาหารหลากหลายจำพวกเนื้อนั่นแหละ เราก็เอ จะทำยังไงจะกินอะไร อาหารมีจำพวกที่เราไม่ิกินทั้งนั้น (แ่ต่ก็ไม่เคยนึกตำหนิเขานะ) หันไปเห็นน้ำปลา เอาว่ะ น้ำปลาคลุกข้าว เข้าใจเลยว่า เขากินอะไรก็เรื่องของเขา เราไม่กินก็ไม่กิน

โฮฮับอย่าทำตัวใหญ่ได้ไหม มองเห็น ตายังดีอยู่ มีเหตุผลยังไงที่เน้นตัวใหญ่สุด อ้างอิงมาก็ต้องมาแก้ให้ปกติเสียเวลา

ก็ในเมื่อมันเป็นประเพณี เขาก็ทำตามประเพณีของเขา แล้วมันมีปัญหาอะไรนักหนาล่ะ ก็เหมือนกับประเพณีทอดผ้าป่า ปิดทองฝังลูกนิมิต เป็นต้น

กิจกรรม แปลว่ากระทำกิจ กิจอะไรก็แล้วแต่เขาจะทำกัน อย่าไปเติมกิจกรรมกินเจ อย่างนี้่เขาเรียกแปลงสาสน์

กินเจเป็นกิจกรรมประจำปีของกลุ่มชน ไม่น่าจะเป็นมิจฉาิทิฏฐิ
ไม่น่าจะเป็นผู้เลี้ยงยาก เพราะเขาหากินทำกินกันเอง หลงความหมายกว้าง หลงอะไรแง่ไหนควรระบุชัดๆ

ตั้งแต่วันนั้นผมเลิกกินเจเลย หนึ่งเราดูกลายเป็นคนเลี้ยงยากในสายตาคนอื่น หิวเกือบตายเขากินกันเราอดกินพี่โฮว่าไง

ใครที่โดน โมหะบังตา พี่โฮก็ต้องเน้นให้รู้
นี่ขนาดใช้ตัวใหญ่แล้วน่ะ.....สำเหนียกที่ไหนล่ะ


ประเพณีกินเจหรือเทศกาลกินเจ ที่ใช้เรียกกัน มันหมายถึงสิ่งที่เขาปฏิบัติกันเป็นประจำ
มีจุดประสงค์อันเกี่ยวข้องกับศาสนา

แต่ไอ้กิจกรรมที่กรัชกายเอามาใช้ มันไม่ได้มีกำหนดแน่นอน จุดประสงค์ก็เพื่อ
ประโยชน์ที่เกี่ยวข้องกับทางโลก เช่นกิจกรรมหัวล้านชนกัน กิจกรรมล่าหนูนาฆ่าหอยโข่ง
กิจกรรมจับปลาไหลต้มเปรต



ว่าพี่โฮแปลงสาร์สหรือ ถ้าอย่างนั้นแสดงว่าตัวหนังสือยังใหญ่ไม่พอ
บอกมาได้ไงว่า "ตายังดี มองเห็น".....................

กินเจ เป็น กิจกรรม ของเขา - กิจกรรม แปลกว่า การกระทำกิจ หรือเขาจะเรียกเทศกาล ก็เรียกไป ทีนี้มาถึงคำแปล เทศกาล แปลว่าอะไร ถ้าสลับศัพท์กัน กาลเทศ เป็นไง

นั่นๆ กำลังแยกสังคมกับศาสนาออกจากกัน

คำว่าเทศกาลกินเจ ไม่ได้หมายถึงกิจกรรมกินเจ กิจกรรมของเทศการกินเจคือ
การสวดมนต์ไหว้พระ เน้นการไม่เบียดเบียนสัตว์.......

เรื่องกินข้าวมันไม่ใช่กิจกรรม เพราะจะมีเทศกาลหรือไม่
คนมันก็ต้องกินข้าวอยู่แล้ว แต่เป็นเพราะกิจกรรมหลักคือการไม่เบียดเบียนสัตว์
ดังนั้นอาหารที่เรากินอยู่ทุกวัน จึงปราศจากเนื้อสัตว์
เหตุกำลังอยู่ในกิจกรรมของความไม่เบียดเบียนสัตว์ เข้าใจมั้ย

นี่เขากินเป็นกรณีพิเศษ

เอาๆเข้าไป ลากยาวซ่ะ งานการไม่ต้องทำกันล่ะ