วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 20:40  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 200 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 14  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2013, 14:50 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อเมสซิ้ง...ตกลงก็เข้าใจแล้วเน๊าะว่า..สวดมนต์ได้บุญแน่
ส่วนกินเจ....อเมสซิ้งหลงประเด็นอีกแระ....
ทีแรก...คนเขากินเจเพื่อลดการเบียดเบียนสัตว์...เขาเอาบุญ...คนกินเข้าก็ไม่ได้ทำใครยุ้งยากอย่างอเมสซิ้ง
ที่ไปงานเลี้ยงแล้วบอกเขาว่าผมกินเจ

ประเด็นมันมีแค่นี้....

อเมสซิ้งก็หันไปว่า..ถ้ากินเจดีจริง...ทำไม่พระพุทธองค์ไม่อนุญาติตามพระเทวทัตขอ

ผมก็ชี้ให้เห็นว่า...ที่พระองค์ไม่อนุญาติ....มันไม่ใช่ว่าขึ้นกับชนิดอาหาร...แต่ภิกษุเป็นผู้รับบิณฑบาต...ไม่ใช่ผู้ไปเรียกร้องจะเอานั้นนี้...

อเมสซิ้ง....ก็หันไปหา..ว่าอาหารเจไม่ได้เกี่ยวกับสมณธรรมอะไร...ทำให้ชาวบ้านยุ่งยาก...

คือ....อะไรเนีย...อเมสซิ้งไปทั่ว...ไม่อยู่ในร่องในรอย..

.ผมสรุปเป็นประเด็นสั้น ๆ...อเมสซิ้งเห็นยังว่าตัวเองเป็นงัย

ท่านก็เข้าใจในส่วนที่ท่านเข้าใจการกินเจไม่ได้บุญเลยนอกจากไม่ได้บุญแล้ววางจิตผิดติดลบอีก ท่านยกบุญกิริยาวัตถุขึ้นมามีมัยกินเจ. ศิลมีมั้ยกินเจไม่มี


แก้ไขล่าสุดโดย amazing เมื่อ 06 ต.ค. 2013, 15:11, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2013, 15:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

บุญหรือกุศลเป้นสภาพธรรมี่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ดี อันมีสภาพธรรมที่เป็นฝ่ายดี

เกิดร่วมด้วย และขณะนั้นก็ไม่มีอกุศลที่เป็นโลภะ โทสะและโมหะเกิดขึ้นเลยในขณะที่

เป็นบุญครับ

บุญ เป็นสภาพธรรมที่ชำระจิตให้สะอาด (เพราะโดยปกติแล้วจิตสกปรกด้วย

อำนาจของอกุศลธรรม) ขณะที่เป็นบุญ ขณะนั้นจิตสะอาดจากอกุศล คือ โลภะ โทสะ

และโมหะบุญ หรือ สภาพจิตที่ดี ทีเป้นกุศล มีหลายประการ ตามระดับและลักษณะของ

บุญครับ

บุญกิริยาวัตถุ 10 หมายถึง ที่ตั้งแห่งการกระทำความดี ๑๐ อย่าง หมายถึง กุศล

จิตที่มีกำลังจนทำให้มีการกระทำออกมาทางกาย วาจาหรือทางใจ ได้แก่ ...

๑. ทานมัย บุญสำเร็จจากการให้วัตถุเพื่อสงเคราะห์หรือบูชาแก่ผู้อื่น

๒. ศีลมัย บุญสำเร็จจากการงดเว้นจากทุจริต หรือประพฤติสุจริต

ทางกาย วาจา

๓. ภาวนามัย บุญสำเร็จจากการอบรมจิตให้สงบจากกิเลส (สมถภาวนา)

และการอบรมปัญญาเพื่อละกิเลสทั้งปวง(วิปัสสนาภาวนา)

๔. อปจายนมัย บุญสำเร็จจากการประพฤติอ่อนน้อมถ่อมตน

๕. เวยยาวัจจมัย บุญสำเร็จจากการขวนขวายบำเพ็ญประโยชน์ต่อผู้อื่น

๖. ปัตติทานมัย บุญสำเร็จจากการให้ส่วนบุญที่ได้บำเพ็ญมาแล้ว

๗. ปัตตานุโมทนามัย บุญสำเร็จจากการยินดีในกุศลที่ผู้อื่นได้กระทำแล้ว

๘. ธัมมัสสวนมัย บุญสำเร็จจากการฟังพระสัทธรรม

๙. ธัมมเทสนามัย บุญสำเร็จจากการแสดงพระสัทธรรม

๑๐. ทิฏฐุชุกรรม การกระทำความเห็นให้ตรงถูกต้องตามความเป็นจริง

สำหรับเรื่องข้อปฏิบัติในการเจริญบุญกิริยาวัตถุ 10 ประการนั้น พื้นฐานต้องเริ่มจาก

ความเห็นถูกขั้นการฟังให้เข้าใจถูกต้อง ก็จะทำให้กุศลหรือบุญประการต่างๆใน 10

ประการ เพราะฉะนั้นทิฏฐุชุกรรม คือ การทำความเห็นให้ตรง คือ ทำปัญญาให้เกิดขึ้น

จากที่เคยเห็นผิดก็เห็นถูกและจากที่มีความเห็นถูกก็มีความเห็นถูกมากขึ้น หรือ มีปัญญา

เพิ่มขึ้น เมื่อปัญญาเจริญขึ้น ความเห็นตรงตามความเป็นจริงก็จะพิจารณาด้วยปัญญา

และทำให้บุญประการต่างๆจริญขึ้น เพราะฉะนั้นก็ต้องอาศัยการฟังพระธรรม ศึกษาพระ

ธรรมเพื่อให้ความเห็นตรงขึ้น ปัญญาเจริญขึ้นนั่นเอง ซึ่งจะขออธิบาย บุญแต่ละประเภท

เพื่อจะได้ให้ใจน้อมไปอันเกิดจากการอ่านและเข้าใจ และเพื่อความเจริญขึ้นของกุศล

แต่ละประเภทครับ ไม่เห็นกินเจเลย


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2013, 23:23 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


นอกจากไม่เห้นกินเจแล้ว....ทอดกฐิน..ทอดผ้าป่า...ถวายผ้าไตร...ผมก็ไม่เห็น...555....
:b32: :b32: :b32:

แต่..ทอดกฐิน..ทอดผ้าป่า....ใช้ปัญญาไม่ต้องมากก็จะรู้ว่าอยู่ในหมวดของทาน

แต่กืนเจ..ด้วยเจตนาลดการฆ่าเนี้ย....ต้องใช้ปัญญาเพิ่มขึ้นสักนิด..ก็จะรู้ได้ว่าอยู่ในบุญหมวดไหน
1. ตั้งใจไม่ให้ฆ่าสัตว์เพิ่ม....นี้ศีลข้อปานาฯเกิดแล้ว
2. ตั้งใจไม่ให้ฆ่าสัตว์เพิ่ม...นี้...แสดงว่าผู้นั้นไม่ปรารถณาให้ผู้อื่นเป็นทุกข์...อยากให้เขามีความสุข...นี้ก็ใกล้กับบุญประเภท..อุทิศส่วนกุศล..นะเนี้ย
3. ตั้งใจไม่ให้ฆ่าสัตว์เพิ่ม..ทุกครั้งที่กำลังกืนเจ..นี้..แสดงว่าผู้นั่นมีเมตตาตลอด....เป้นการเจริญกรรมฐาน40 ในหมวด อัปปมัญญา4...นี้..เข้ากันได้ทั้ง..ทำกิจที่ควรและทำความเห็นให้ตรง...2เด้งไปเลย

หากเพื่อน ๆ. ท่านใด...มีข้อคิดดี..ดี..ได้มากกว่านี้...ช่วยเขียนบอกในนี้ด้วยนะครับ...
:b17: :b17:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 06 ต.ค. 2013, 23:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

บุญหรือกุศลเป้นสภาพธรรมี่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ดี อันมีสภาพธรรมที่เป็นฝ่ายดี

เกิดร่วมด้วย และขณะนั้นก็ไม่มีอกุศลที่เป็นโลภะ โทสะและโมหะเกิดขึ้นเลยในขณะที่

เป็นบุญครับ

บุญ เป็นสภาพธรรมที่ชำระจิตให้สะอาด (เพราะโดยปกติแล้วจิตสกปรกด้วย

อำนาจของอกุศลธรรม) ขณะที่เป็นบุญ ขณะนั้นจิตสะอาดจากอกุศล คือ โลภะ โทสะ

และโมหะบุญ หรือ สภาพจิตที่ดี ทีเป้นกุศล มีหลายประการ ตามระดับและลักษณะของ

บุญครับ


อ่อ....เข้าใจบุญ..กับ.กุศล...ปนเปกันนี้เอง...ถึงพูดอะไรไปเข้าใจยากจัง

บุญ...คือ...ความสุขใจ....เกิดได้ทั้งจากกุศลมูลจิต และ อกุศลมูลจิต
กุศล...คือ..ความฉลาด...เกิดจากกุศลมูลจิต

กุศลมูล...มี3 คือ..อโลภะ..อโทสะ...อโมหะ
อกุศลมูล...มี3 คือ..โลภะ..โทสะ....โมหะ

เวลาพระท่านสอนญาติโยม...ท่านจึงบอกให้ทำบุญทำกุศล...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 05:41 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
amazing เขียน:
ขอนอบน้อมแด่พระรัตนตรัย

บุญหรือกุศลเป้นสภาพธรรมี่มีจริง เป็นสภาพธรรมที่ดี อันมีสภาพธรรมที่เป็นฝ่ายดี

เกิดร่วมด้วย และขณะนั้นก็ไม่มีอกุศลที่เป็นโลภะ โทสะและโมหะเกิดขึ้นเลยในขณะที่

เป็นบุญครับ

บุญ เป็นสภาพธรรมที่ชำระจิตให้สะอาด (เพราะโดยปกติแล้วจิตสกปรกด้วย

อำนาจของอกุศลธรรม) ขณะที่เป็นบุญ ขณะนั้นจิตสะอาดจากอกุศล คือ โลภะ โทสะ

และโมหะบุญ หรือ สภาพจิตที่ดี ทีเป้นกุศล มีหลายประการ ตามระดับและลักษณะของ

บุญครับ


อ่อ....เข้าใจบุญ..กับ.กุศล...ปนเปกันนี้เอง...ถึงพูดอะไรไปเข้าใจยากจัง

บุญ...คือ...ความสุขใจ....เกิดได้ทั้งจากกุศลมูลจิต และ อกุศลมูลจิต
กุศล...คือ..ความฉลาด...เกิดจากกุศลมูลจิต

กุศลมูล...มี3 คือ..อโลภะ..อโทสะ...อโมหะ
อกุศลมูล...มี3 คือ..โลภะ..โทสะ....โมหะ

เวลาพระท่านสอนญาติโยม...ท่านจึงบอกให้ทำบุญทำกุศล...
ท่าน็ก็เข้าใจดีนี่ครับและที่เขาทำอยู่กันมันเป็นบุญกุศลกันจริงหรือเปล่าก็เห็นเป็นเรื่องอยากได้ไม่อยากได้กันทั้งนั้น ผมว่าไม่ต่างจากการกระทำธุระทั่วไปนั้นแหละ คุณเชื่อผมสิถ้าการกินผักกินหญ้ามันดีจริงท่านต้องสอนเราบ้างแล้ว มันเป็นเพียงคติความคิดของบุคคลธรรมดาที่คิดว่าเกิดบุญ แต่ในทางกลับกันไม่ใช่ทางบุญยุ่งยากวุ่นวายกับชีวิตจริง บุญที่ดีและง่ายศิลห้าไงครับชัดเจนสุดวิรัสทุจริต


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 07:53 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ทีแรก กินเจ คิดว่าจะถกเถียงกันเฉพาะที่นี่ ที่ไหนได้ 1000 ทิพ ก็ฝุ่นตลบเหมียนกัลล์ :b32:


น่าจะมีใครตั้งคำถามเรือง บุญ มั่งนะ ดูสิจะออกมาในรูปไหน :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 12:51 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อิอิ....ท่าจะดี...
:b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 13:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
บุญกุศลกันจริงหรือเปล่าก็เห็นเป็นเรื่องอยากได้ไม่อยากได้กันทั้งนั้น ผมว่าไม่ต่างจากการกระทำธุระทั่วไปนั้นแหละ
คุณเชื่อผมสิ

จะเชื่อดีมั้ย...หน่อ...บุญ..กับ.กุศล..ยังเอาปนคนมั่วอยู่เลย...

อ้างคำพูด:
ถ้าการกินผักกินหญ้ามันดีจริงท่านต้องสอนเราบ้างแล้ว]

อเมสซิ้งถ้าไม่แกล้งลืม....ก็ขาดสติ....
คนเขากินเจตนาลดการฆ่า....
บางคนกินเพื่อสุขภาพตัวเอง...ไม่ได้เจตนาช่วยสัตว์ก็มี...อันนี้ก็ไม่เข้าข่าย

อ้างคำพูด:
มันเป็นเพียงคติความคิดของบุคคลธรรมดาที่คิดว่าเกิดบุญ แต่ในทางกลับกันไม่ใช่ทางบุญยุ่งยากวุ่นวายกับชีวิตจริง บุญที่ดีและง่ายศิลห้าไงครับชัดเจนสุดวิรัสทุจริต

ดู..ดู.ไปแล้ว..อเมสซิ้ง....เอาแต่บ่นๆ..ไม่มีหลักเกณท์อะไรเลย....สนทนาไปก็ไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มเลย...

แปร๊.ร..แอ....


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 13:19 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
amazing เขียน:
บุญกุศลกันจริงหรือเปล่าก็เห็นเป็นเรื่องอยากได้ไม่อยากได้กันทั้งนั้น ผมว่าไม่ต่างจากการกระทำธุระทั่วไปนั้นแหละ
คุณเชื่อผมสิ

จะเชื่อดีมั้ย...หน่อ...บุญ..กับ.กุศล..ยังเอาปนคนมั่วอยู่เลย...

อ้างคำพูด:
ถ้าการกินผักกินหญ้ามันดีจริงท่านต้องสอนเราบ้างแล้ว]

อเมสซิ้งถ้าไม่แกล้งลืม....ก็ขาดสติ....
คนเขากินเจตนาลดการฆ่า....
บางคนกินเพื่อสุขภาพตัวเอง...ไม่ได้เจตนาช่วยสัตว์ก็มี...อันนี้ก็ไม่เข้าข่าย

อ้างคำพูด:
มันเป็นเพียงคติความคิดของบุคคลธรรมดาที่คิดว่าเกิดบุญ แต่ในทางกลับกันไม่ใช่ทางบุญยุ่งยากวุ่นวายกับชีวิตจริง บุญที่ดีและง่ายศิลห้าไงครับชัดเจนสุดวิรัสทุจริต

ดู..ดู.ไปแล้ว..อเมสซิ้ง....เอาแต่บ่นๆ..ไม่มีหลักเกณท์อะไรเลย....สนทนาไปก็ไม่ได้ความรู้อะไรเพิ่มเลย...

แปร๊.ร..แอ....

ถ้ากินเจมีเจตนาลดการฆ่าสัตว์ก็โงบรมโง่เลย สัตว์ที่มันถูกฆ่านั้นเป็นเพราะเหตุปัจจัยที่เขาได้ทำมา การกินจไม่มีอนิสงส์ทางพุทธศาสตร์เลย ถ้าวางใจผิดยิ่งเข้าป่าเลย พวกฉลาดกว่าพระพุทธเจ้าปรุงแต่งเกิน ขนาดทำไก่ปลอมเป็ดปลอมกุ้มใจจริงๆ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 16:12 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
ถ้ากินเจมีเจตนาลดการฆ่าสัตว์ก็โงบรมโง่เลย

การดูถูกผู้มีศีล....ผู้ปฏิบัติธรรม....กรรมหนักนะ..ขอบอก....ได้โง่500 ชาติแน่
ไม่เป็นไรหรอกเน๊าะ.....ไปหาประสบการณ์ซะให้ช่ำปอด...ตั้ง500 ที...แล้วก็ช่วยจำให้ได้ด้วยนะ...จะได้ไม่เสียที
:b13: :b13:

อ้างคำพูด:
สัตว์ที่มันถูกฆ่านั้นเป็นเพราะเหตุปัจจัยที่เขาได้ทำมา

นี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง....ที่เชื่อเรื่องกรรมแบบผิดๆ...บางศาสนาถึงสอนว่า.สัตว์เกิดมาเพื่อเป็นอาหารคน...นี้งั้ยกรรมที่เขาทำมา..อิอิ...

อ้างคำพูด:
การกินจไม่มีอนิสงส์ทางพุทธศาสตร์เลย ถ้าวางใจผิดยิ่งเข้าป่าเลย พวกฉลาดกว่าพระพุทธเจ้าปรุงแต่งเกิน ขนาดทำไก่ปลอมเป็ดปลอมกุ้มใจจริงๆ

ใช่ครับ...การกินไม่มีอานิสงค์ทางพุทธศาสนา...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 16:16 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
amazing เขียน:
ถ้ากินเจมีเจตนาลดการฆ่าสัตว์ก็โงบรมโง่เลย

การดูถูกผู้มีศีล....ผู้ปฏิบัติธรรม....กรรมหนักนะ..ขอบอก....ได้โง่500 ชาติแน่
ไม่เป็นไรหรอกเน๊าะ.....ไปหาประสบการณ์ซะให้ช่ำปอด...ตั้ง500 ที...แล้วก็ช่วยจำให้ได้ด้วยนะ...จะได้ไม่เสียที
:b13: :b13:

อ้างคำพูด:
สัตว์ที่มันถูกฆ่านั้นเป็นเพราะเหตุปัจจัยที่เขาได้ทำมา

นี้เป็นอีกตัวอย่างหนึ่ง....ที่เชื่อเรื่องกรรมแบบผิดๆ...บางศาสนาถึงสอนว่า.สัตว์เกิดมาเพื่อเป็นอาหารคน...นี้งั้ยกรรมที่เขาทำมา..อิอิ...

อ้างคำพูด:
การกินจไม่มีอนิสงส์ทางพุทธศาสตร์เลย ถ้าวางใจผิดยิ่งเข้าป่าเลย พวกฉลาดกว่าพระพุทธเจ้าปรุงแต่งเกิน ขนาดทำไก่ปลอมเป็ดปลอมกุ้มใจจริงๆ

ใช่ครับ...การกินไม่มีอานิสงค์ทางพุทธศาสนา...

กบถ้าคุณเชื่อในพระปัญญาของพระพุทธองค์จริงๆคุณจะไม่ถือข้อวัตรที่พระองค์ไม่แสดงไว้เลย คิคว่าพระองค์ทรงลืมเหรอครับ ท่านเป็นสัพพัญญูท่านรู้ทุกอย่าง ท่านทั้งหลายไม่ต้องตั้งโจทน์ใหม่แล้วให้ควาดีของการกินเจหรอกคครับมันเกินหน้าไป


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 18:17 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


cool cool cool ชกกันนัวเนีย ฝุ่นตลบ น่าดูเป็นอันมาก คิคิ

สมัยก่อน ไม่นานเท่าไรเลย... คนจะกินเนื้อก็ต้องฆ่าเอง.
ในวัยที่ข้าพเจ้ายังไม่ถึงพรึกถึงขิง ครูบาอาจารย์ให้เลี้ยงไก่ ออกไข่ไปส่งครูบาอาจารย์. พอจบปีแล้ว ครูบาอาจารย์ก็ไม่เห็นจะรับซื้อไก่. เมื่อการณ์เป็นเช่นนั้น เสด็จแม่จึงเอาไก่กุ๊กๆ มาเชือดคอ, กินไม่ลงเลยทีเดียว.

พอโตได้ระยะ ครูบาอาจารย์ก็พาไปออกแคมป์ ไม่แน่ใจว่าลูกเสือหรือเปล่า แต่ไม่ใช่เนตรนารีแน่นอน :b32: :b32: :b32:
ชาวบ้านเห็นเด็กมาฝูงใหญ่ ก็ปรารถนาดี จัดอาหารเลี้ยง. เด็กๆ กระซิบกันให้แซ่ด พากันไปมุงดูเขาฆ่าหมู ตั้งแต่อู๊ดๆ จนจากไป. ดูไม่จืดเลยทีเดียว

:b6: การกินเจ จึงเห็นผลชัด ว่าเป็นการหยุดการฆ่าสัตว์.
แต่มาในสมัยนี้ เราไม่ได้ฆ่าสัตว์กินเองแล้ว. คนที่ทำงานนั่งโต๊ะ จึงสงสัยว่าจะกินเจไปทำไม มันไม่ได้เป็นกุศลกรรมอะไรหรอก, ซึ่งก็จริง. การหั่นเนื้อหมูที่ซื้อมา มันไม่เหมือนกับการแปลงสภาพ กล้ามเนื้อของหมูให้เป็นเนื้อหมู.

แต่กับคนที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ หรือกองเนื้อสัตว์, คนที่ทำงานกู้ภัย หรือแพทย์พยาบาล ที่เห็นอวัยวะภายในจนแทบจะเป็นซีอุย. การกินเจก็จะ เป็นบุญ อยู่ คือเกิดกุศลจิตขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นกุศลกรรมอะไร

:b6: ศีล 5 ไม่ใช่สุดยอดคุณธรรม, แต่เป็นคุณธรรม ขั้นต่ำ ของความเป็นมนุษย์. ศีล 5 เป็นการ ละความชั่ว นะ. อย่าคิดว่า คนที่รักษาศีล 5 ข้อได้ จะเป็นคนดีเลิศสุดประเสริฐ. มีบาปอีกมากมายนัก ที่ไม่ผิดศีล 5
ยกตัวอย่างเช่น คนที่จะเข้าถึงสุคติภูมิชั้นสวรรค์ได้ มีศีล 5 อย่างเดียวไม่พอ, จะต้องมี ความละอายและเกรงต่อบาป อันเป็นคุณธรรมชั้นสูงประกอบด้วย.

:b6: ในสังคม ประกอบด้วยคนหลายประเภท หลายหน้าที่ หลายความรับผิดชอบ. อย่าเอาความคิดแบบเดียวไปเป็นบรรทัดฐาน ตัดสินคนทั้งหมด.
การกินเจ อาจเป็นสิ่งไร้สาระสำหรับคนบางกลุ่ม, แต่มันก็อาจเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับคนบางกลุ่มด้วย... อาเมน

onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 18:24 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 5
สมาชิก ระดับ 5
ลงทะเบียนเมื่อ: 23 ก.พ. 2012, 12:01
โพสต์: 376


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
cool cool cool ชกกันนัวเนีย ฝุ่นตลบ น่าดูเป็นอันมาก คิคิ

สมัยก่อน ไม่นานเท่าไรเลย... คนจะกินเนื้อก็ต้องฆ่าเอง.
ในวัยที่ข้าพเจ้ายังไม่ถึงพรึกถึงขิง ครูบาอาจารย์ให้เลี้ยงไก่ ออกไข่ไปส่งครูบาอาจารย์. พอจบปีแล้ว ครูบาอาจารย์ก็ไม่เห็นจะรับซื้อไก่. เมื่อการณ์เป็นเช่นนั้น เสด็จแม่จึงเอาไก่กุ๊กๆ มาเชือดคอ, กินไม่ลงเลยทีเดียว.

พอโตได้ระยะ ครูบาอาจารย์ก็พาไปออกแคมป์ ไม่แน่ใจว่าลูกเสือหรือเปล่า แต่ไม่ใช่เนตรนารีแน่นอน :b32: :b32: :b32:
ชาวบ้านเห็นเด็กมาฝูงใหญ่ ก็ปรารถนาดี จัดอาหารเลี้ยง. เด็กๆ กระซิบกันให้แซ่ด พากันไปมุงดูเขาฆ่าหมู ตั้งแต่อู๊ดๆ จนจากไป. ดูไม่จืดเลยทีเดียว

:b6: การกินเจ จึงเห็นผลชัด ว่าเป็นการหยุดการฆ่าสัตว์.
แต่มาในสมัยนี้ เราไม่ได้ฆ่าสัตว์กินเองแล้ว. คนที่ทำงานนั่งโต๊ะ จึงสงสัยว่าจะกินเจไปทำไม มันไม่ได้เป็นกุศลกรรมอะไรหรอก, ซึ่งก็จริง. การหั่นเนื้อหมูที่ซื้อมา มันไม่เหมือนกับการแปลงสภาพ กล้ามเนื้อของหมูให้เป็นเนื้อหมู.

แต่กับคนที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ หรือกองเนื้อสัตว์, คนที่ทำงานกู้ภัย หรือแพทย์พยาบาล ที่เห็นอวัยวะภายในจนแทบจะเป็นซีอุย. การกินเจก็จะ เป็นบุญ อยู่ คือเกิดกุศลจิตขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นกุศลกรรมอะไร

:b6: ศีล 5 ไม่ใช่สุดยอดคุณธรรม, แต่เป็นคุณธรรม ขั้นต่ำ ของความเป็นมนุษย์. ศีล 5 เป็นการ ละความชั่ว นะ. อย่าคิดว่า คนที่รักษาศีล 5 ข้อได้ จะเป็นคนดีเลิศสุดประเสริฐ. มีบาปอีกมากมายนัก ที่ไม่ผิดศีล 5
ยกตัวอย่างเช่น คนที่จะเข้าถึงสุคติภูมิชั้นสวรรค์ได้ มีศีล 5 อย่างเดียวไม่พอ, จะต้องมี ความละอายและเกรงต่อบาป อันเป็นคุณธรรมชั้นสูงประกอบด้วย.

:b6: ในสังคม ประกอบด้วยคนหลายประเภท หลายหน้าที่ หลายความรับผิดชอบ. อย่าเอาความคิดแบบเดียวไปเป็นบรรทัดฐาน ตัดสินคนทั้งหมด.
การกินเจ อาจเป็นสิ่งไร้สาระสำหรับคนบางกลุ่ม, แต่มันก็อาจเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับคนบางกลุ่มด้วย... อาเมน

onion onion onion

ว่าแต คุณอาของคุณเป็นอะไรถึงไปส่งท่านเข้าเมนซะอย่างนั้นล่ะ :b29:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 18:53 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
cool cool cool ชกกันนัวเนีย ฝุ่นตลบ น่าดูเป็นอันมาก คิคิ

สมัยก่อน ไม่นานเท่าไรเลย... คนจะกินเนื้อก็ต้องฆ่าเอง.
ในวัยที่ข้าพเจ้ายังไม่ถึงพรึกถึงขิง ครูบาอาจารย์ให้เลี้ยงไก่ ออกไข่ไปส่งครูบาอาจารย์. พอจบปีแล้ว ครูบาอาจารย์ก็ไม่เห็นจะรับซื้อไก่. เมื่อการณ์เป็นเช่นนั้น เสด็จแม่จึงเอาไก่กุ๊กๆ มาเชือดคอ, กินไม่ลงเลยทีเดียว.

พอโตได้ระยะ ครูบาอาจารย์ก็พาไปออกแคมป์ ไม่แน่ใจว่าลูกเสือหรือเปล่า แต่ไม่ใช่เนตรนารีแน่นอน :b32: :b32: :b32:
ชาวบ้านเห็นเด็กมาฝูงใหญ่ ก็ปรารถนาดี จัดอาหารเลี้ยง. เด็กๆ กระซิบกันให้แซ่ด พากันไปมุงดูเขาฆ่าหมู ตั้งแต่อู๊ดๆ จนจากไป. ดูไม่จืดเลยทีเดียว

:b6: การกินเจ จึงเห็นผลชัด ว่าเป็นการหยุดการฆ่าสัตว์.
แต่มาในสมัยนี้ เราไม่ได้ฆ่าสัตว์กินเองแล้ว. คนที่ทำงานนั่งโต๊ะ จึงสงสัยว่าจะกินเจไปทำไม มันไม่ได้เป็นกุศลกรรมอะไรหรอก, ซึ่งก็จริง. การหั่นเนื้อหมูที่ซื้อมา มันไม่เหมือนกับการแปลงสภาพ กล้ามเนื้อของหมูให้เป็นเนื้อหมู.

แต่กับคนที่ทำงานในโรงฆ่าสัตว์ หรือกองเนื้อสัตว์, คนที่ทำงานกู้ภัย หรือแพทย์พยาบาล ที่เห็นอวัยวะภายในจนแทบจะเป็นซีอุย. การกินเจก็จะ เป็นบุญ อยู่ คือเกิดกุศลจิตขึ้นได้ แต่ก็ไม่ได้เป็นกุศลกรรมอะไร

:b6: ศีล 5 ไม่ใช่สุดยอดคุณธรรม, แต่เป็นคุณธรรม ขั้นต่ำ ของความเป็นมนุษย์. ศีล 5 เป็นการ ละความชั่ว นะ. อย่าคิดว่า คนที่รักษาศีล 5 ข้อได้ จะเป็นคนดีเลิศสุดประเสริฐ. มีบาปอีกมากมายนัก ที่ไม่ผิดศีล 5
ยกตัวอย่างเช่น คนที่จะเข้าถึงสุคติภูมิชั้นสวรรค์ได้ มีศีล 5 อย่างเดียวไม่พอ, จะต้องมี ความละอายและเกรงต่อบาป อันเป็นคุณธรรมชั้นสูงประกอบด้วย.

:b6: ในสังคม ประกอบด้วยคนหลายประเภท หลายหน้าที่ หลายความรับผิดชอบ. อย่าเอาความคิดแบบเดียวไปเป็นบรรทัดฐาน ตัดสินคนทั้งหมด.
การกินเจ อาจเป็นสิ่งไร้สาระสำหรับคนบางกลุ่ม, แต่มันก็อาจเป็นสิ่งที่มีประโยชน์กับคนบางกลุ่มด้วย... อาเมน

onion onion onion
มันต้องแยกให้ออกที่มาบอกอยู่ตรงนี้นั้นผมกล่าวว่าพวกที่กินแล้วเข้าใจว่ากินแล้วได้บุญนั้นเอาจริงเอาจังกันซะเหลือเกิน ผมก็บอกว่ามันไม่ได้บุญหรอกพระพุทธองค์กล่าวแล้วบุญกิริยา3หรือจะบุญกิริยา10ก็ไม่มี พวกเขาก็บอกว่าได้บุญ มันจะได้อย่างไรในเมื่อไม่มีในคำสอนเลย ผมบอกว่าเป็นความคิดของตนเองและกลุ่มบุคคลเท่านั้นไมใช่คำสอนทีถูกต้อง เพราะพรศาสดาไม่เคยบอกเลย


ส่วนคนที่กินเพื่อสุขภาพนี่สิถูกต้องกินตลอดชีวิตยิ่งดีมันถึงถูกหลัก
เรื่องของเรื่องมันก็มีเท่านี้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 19:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:





มันต้องแยกให้ออกที่มาบอกอยู่ตรงนี้นั้นผมกล่าวว่าพวกที่กินแล้วเข้าใจว่ากินแล้วได้บุญนั้นเอาจริงเอาจังกันซะเหลือเกิน ผมก็บอกว่ามันไม่ได้บุญหรอกพระพุทธองค์กล่าวแล้วบุญกิริยา3หรือจะบุญกิริยา10ก็ไม่มี พวกเขาก็บอกว่าได้บุญ มันจะได้อย่างไรในเมื่อไม่มีในคำสอนเลย ผมบอกว่าเป็นความคิดของตนเองและกลุ่มบุคคลเท่านั้นไมใช่คำสอนทีถูกต้อง เพราะพรศาสดาไม่เคยบอกเลย


ส่วนคนที่กินเพื่อสุขภาพนี่สิถูกต้องกินตลอดชีวิตยิ่งดีมันถึงถูกหลัก
เรื่องของเรื่องมันก็มีเท่านี้




ตราบเท่าที่ amazing ไม่เข้าใจความหมายคำว่าบุญแล้ว ก็ยากจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิด บุญนั้น เป็นชื่อของความสุข ความสบายใจ เขาทำเขากินยังงั้นแล้วเขามีความสุขใจที่ได้ทำ และการกระทำนั้นไม่เบียดเบียนใครนี่ก็บุญแล้ว :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 200 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 6, 7, 8, 9, 10, 11, 12 ... 14  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 132 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร