วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 06:39  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 200 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 19:04 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:





มันต้องแยกให้ออกที่มาบอกอยู่ตรงนี้นั้นผมกล่าวว่าพวกที่กินแล้วเข้าใจว่ากินแล้วได้บุญนั้นเอาจริงเอาจังกันซะเหลือเกิน ผมก็บอกว่ามันไม่ได้บุญหรอกพระพุทธองค์กล่าวแล้วบุญกิริยา3หรือจะบุญกิริยา10ก็ไม่มี พวกเขาก็บอกว่าได้บุญ มันจะได้อย่างไรในเมื่อไม่มีในคำสอนเลย ผมบอกว่าเป็นความคิดของตนเองและกลุ่มบุคคลเท่านั้นไมใช่คำสอนทีถูกต้อง เพราะพรศาสดาไม่เคยบอกเลย


ส่วนคนที่กินเพื่อสุขภาพนี่สิถูกต้องกินตลอดชีวิตยิ่งดีมันถึงถูกหลัก
เรื่องของเรื่องมันก็มีเท่านี้




ตราบเท่าที่ amazing ไม่เข้าใจความหมายคำว่าบุญแล้ว ก็ยากจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิด บุญนั้น เป็นชื่อของความสุข ความสบายใจ เขาทำเขากินยังงั้นแล้วเขามีความสุขใจที่ได้ทำ และการกระทำนั้นไม่เบียดเบียนใครนี่ก็บุญแล้ว :b1:

คิดเองหรือป่าวครับว่าเป็นอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นผมทำอะไรสบายใจแล้วผมได้บุญใช่มั้ย เช่นเดินห้างเที่ยวชายทะเลผมคงได้บุญเยอะนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 19:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:





มันต้องแยกให้ออกที่มาบอกอยู่ตรงนี้นั้นผมกล่าวว่าพวกที่กินแล้วเข้าใจว่ากินแล้วได้บุญนั้นเอาจริงเอาจังกันซะเหลือเกิน ผมก็บอกว่ามันไม่ได้บุญหรอกพระพุทธองค์กล่าวแล้วบุญกิริยา3หรือจะบุญกิริยา10ก็ไม่มี พวกเขาก็บอกว่าได้บุญ มันจะได้อย่างไรในเมื่อไม่มีในคำสอนเลย ผมบอกว่าเป็นความคิดของตนเองและกลุ่มบุคคลเท่านั้นไมใช่คำสอนทีถูกต้อง เพราะพรศาสดาไม่เคยบอกเลย


ส่วนคนที่กินเพื่อสุขภาพนี่สิถูกต้องกินตลอดชีวิตยิ่งดีมันถึงถูกหลัก
เรื่องของเรื่องมันก็มีเท่านี้




ตราบเท่าที่ amazing ไม่เข้าใจความหมายคำว่าบุญแล้ว ก็ยากจะเข้าใจความรู้สึกนึกคิด บุญนั้น เป็นชื่อของความสุข ความสบายใจ เขาทำเขากินยังงั้นแล้วเขามีความสุขใจที่ได้ทำ และการกระทำนั้นไม่เบียดเบียนใครนี่ก็บุญแล้ว :b1:

คิดเองหรือป่าวครับว่าเป็นอย่างนั้น ถ้าอย่างนั้นผมทำอะไรสบายใจแล้วผมได้บุญใช่มั้ย เช่นเดินห้างเที่ยวชายทะเลผมคงได้บุญเยอะนะ


เบียดเบียนใครไหมล่ะ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 19:07 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing นิยามคำว่า บุญ ยังไง ไหนบอกชัดๆสิครับ :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 19:14 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing นิยามคำว่า บุญ ยังไง ไหนบอกชัดๆสิครับ :b1:

บุญกิริยาก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่ครับ มีใจไปในทาน ในศิล ในภาวนาหรือกรัชกายจะเพิ่มมีใจในการกินเจ ที่พระอค์บุญเป็นไปเพื่อความสุขต้องเกิดจากการทำสิ่งนี้เท่านั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 19:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing นิยามคำว่า บุญ ยังไง ไหนบอกชัดๆสิครับ :b1:

บุญกิริยาก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่ครับ มีใจไปในทาน ในศิล ในภาวนาหรือกรัชกายจะเพิ่มมีใจในการกินเจ ที่พระอค์บุญเป็นไปเพื่อความสุขต้องเกิดจากการทำสิ่งนี้เท่านั้น



"มีใจไปในทาน..." พูดยังไม่ถูกเลย ทานคือการให้สิ่งของแก่ผู้อื่น การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส เป็นต้น มิใช่ไปนั่งเม่อลอยมีใจไปในทาน ฯลฯ :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 19:24 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing นิยามคำว่า บุญ ยังไง ไหนบอกชัดๆสิครับ :b1:

บุญกิริยาก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่ครับ มีใจไปในทาน ในศิล ในภาวนาหรือกรัชกายจะเพิ่มมีใจในการกินเจ ที่พระอค์บุญเป็นไปเพื่อความสุขต้องเกิดจากการทำสิ่งนี้เท่านั้น



"มีใจไปในทาน..." พูดยังไม่ถูกเลย ทานคือการให้สิ่งของแก่ผู้อื่น การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส เป็นต้น มิใช่ไปนั่งเม่อลอยมีใจไปในทาน ฯลฯ :b9:

มันน่านักแค่นี้ก็ไม่เข้าใจไม่มีใจขามันจะก้าวออกหรอ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 19:32 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




b6d5f10e8777aa0ae60f2c3b03bfa69c.gif
b6d5f10e8777aa0ae60f2c3b03bfa69c.gif [ 4.35 KiB | เปิดดู 2348 ครั้ง ]
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing นิยามคำว่า บุญ ยังไง ไหนบอกชัดๆสิครับ :b1:

บุญกิริยาก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่ครับ มีใจไปในทาน ในศิล ในภาวนาหรือกรัชกายจะเพิ่มมีใจในการกินเจ ที่พระอค์บุญเป็นไปเพื่อความสุขต้องเกิดจากการทำสิ่งนี้เท่านั้น



"มีใจไปในทาน..." พูดยังไม่ถูกเลย ทานคือการให้สิ่งของแก่ผู้อื่น การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส เป็นต้น มิใช่ไปนั่งเม่อลอยมีใจไปในทาน ฯลฯ :b9:

มันน่านักแค่นี้ก็ไม่เข้าใจไม่มีใจขามันจะก้าวออกหรอ

.

ความเข้าใจข้อธรรมของ amazing คือเข้าใจแบบสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์ดลบันดาล ตัวอย่างชัดๆก็คือ เมื่อนำชื่อ ศรัทธา ศีล สุตะเป็นต้นมาแล้ว ก็จุดธูปจุดเทียนยกมือไหว้กราบๆๆ รำพึงว่า ขอความเป็นอริยะเจ้าจงบังเกิดมีแก่ข้าพเจ้า ณ บัดเดี๋ยวนี้เถิด ศรัทธาเป็นต้น จงบันดาลความสิ้นไปแห่งอาสวะกิเลสจงเกิดมีแก่ข้าพเจ้าเถิด สาธุๆๆ อยู่ในุมุ้งหรือในห้อง

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 19:40 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing นิยามคำว่า บุญ ยังไง ไหนบอกชัดๆสิครับ :b1:

บุญกิริยาก็ชัดเจนอยู่แล้วนี่ครับ มีใจไปในทาน ในศิล ในภาวนาหรือกรัชกายจะเพิ่มมีใจในการกินเจ ที่พระอค์บุญเป็นไปเพื่อความสุขต้องเกิดจากการทำสิ่งนี้เท่านั้น



"มีใจไปในทาน..." พูดยังไม่ถูกเลย ทานคือการให้สิ่งของแก่ผู้อื่น การช่วยเหลือเกื้อกูลผู้ยากไร้ ด้อยโอกาส เป็นต้น มิใช่ไปนั่งเม่อลอยมีใจไปในทาน ฯลฯ :b9:

มันน่านักแค่นี้ก็ไม่เข้าใจไม่มีใจขามันจะก้าวออกหรอ

.

ความเข้าใจข้อธรรมของ amazing คือเข้าใจแบบสิ่งศักดิ์สิทธิ์มีฤทธิ์ดลบันดาล ตัวอย่างชัดๆก็คือ เมื่อนำชื่อ ศรัทธา ศีล สุตะเป็นต้นมาแล้ว ก็จุดธูปจุดเทียนยกมือไหว้กราบๆๆ รำพึงว่า ขอความเป็นอริยะเจ้าจงบังเกิดมีแก่ข้าพเจ้า ณ บัดเดี๋ยวนี้เถิด ศรัทธาเป็นต้น จงบันดาลความสิ้นไปแห่งอาสวะกิเลสจงเกิดมีแก่ข้าพเจ้าเถิด สาธุๆๆ อยู่ในุมุ้งหรือในห้อง
กรัชกายคิดว่าamazingจุดธูปเที่ยนขอเหรอ ผมนั่งสมาธิทุกวัน ผมทำทานทุกวัน ผมรักษาศิลตลอด ฟังธรรมะตลอดถ้าผมไม่มีความรู้ผมจะมาเทียบชั้นกรัชกายผู้มากความรู้ชั้นพยัญชนะได้อย่างไร


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 19:43 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
...มันจะได้อย่างไรในเมื่อไม่มีในคำสอนเลย ผมบอกว่าเป็นความคิดของตนเองและกลุ่มบุคคลเท่านั้นไมใช่คำสอนทีถูกต้อง...


s004 s004 s004 อืม... การกินเจมันเป็น วิถีของฆราวาส นะ เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งของฝ่ายมหายาน. ถ้าจะว่าไป ก็พอจะเปรียบได้กับ การทอดผ้าป่า ขนทรายเข้าวัด อะไรๆ ของเถรวาทน่ะ.
เอ้อ เดี๋ยวนี้เขาไม่ขนทรายเข้าวัดแล้วมั้ง ไม่รู้นะ.

:b6: สมัยนี้เป็นยุคของสัทธรรมปฏิรูป (คำสอนถูกบิดเบือน) ถ้าจะเอาให้ถูกต้องตามพระไตรปิฏกจริง, ภิกษุที่เห็น ก็ไม่ใช่ภิกษุ ตั้งแต่มหาเถระสมาคมลงมาเลย. ที่ติดยศ เรียกเก๋ๆ ว่าสมณะศักดิ์น่ะ, ผิด เลยนะ

วิถีของภิกษุยังผิด แล้วนับประสาอะไรกับวิถีของฆราวาส

นอกเรื่องไปหน่อย :b32: :b32: :b32: กลับมาเรื่องกินเจ
ถ้าเขากินเจด้วยสำนึกว่า สัตว์ถูกฆ่าน้อยลงไปหนึ่งตัว ก็คงเป็นกุศลจิตอยู่, แต่ก็ไม่มาก น่าจะจัดอยู่ในระดับ พอใจ ว่าได้ปฏิบัติดีเท่านั้น.

ถ้าเขากินเจเพราะเห็นเขากิน เลยอยากกินมั่ง มันก็ไม่มีอะไร, วันนี้ได้ลองกินมัสมั่นเจ โอ้ เหมือนพะแนงหมูจริงๆ :b32: กินแล้วรู้สึกสัปปายะ แปลว่าอะไรนี่ ฮิฮิ
แต่ถ้าตั้งใจจะกินเจ แล้วไปกินไอ้มัสมั่นนี่ มันเป็นบาปชนิด หลอกตัวเอง :b32: :b32: :b32:

ว่าแต่ มัสมั่นทำไมรสชาติเหมือนพะแนงหมูเลย น่าสงสัยยิ่งนัก.

amazing เขียน:
...พวกที่กินแล้วเข้าใจว่ากินแล้วได้บุญ...

ถ้าจะให้ฟันธงจะๆ เลยนะ คนที่คิดว่ากินแล้วได้บุญน่ะ เขาไม่รู้จริงๆ หรอกว่า บุญคืออะไร.
แล้วก็อย่าลืมว่า นี่เป็น พิธีกรรมของมหายาน, ฝ่ายเถรวาทเอง มีอะไรๆ พิศดารกว่าเยอะ :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 20:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
amazing เขียน:
...มันจะได้อย่างไรในเมื่อไม่มีในคำสอนเลย ผมบอกว่าเป็นความคิดของตนเองและกลุ่มบุคคลเท่านั้นไมใช่คำสอนทีถูกต้อง...


s004 s004 s004 อืม... การกินเจมันเป็น วิถีของฆราวาส นะ เป็นพิธีกรรมอย่างหนึ่งของฝ่ายมหายาน. ถ้าจะว่าไป ก็พอจะเปรียบได้กับ การทอดผ้าป่า ขนทรายเข้าวัด อะไรๆ ของเถรวาทน่ะ.
เอ้อ เดี๋ยวนี้เขาไม่ขนทรายเข้าวัดแล้วมั้ง ไม่รู้นะ.

:b6: สมัยนี้เป็นยุคของสัทธรรมปฏิรูป (คำสอนถูกบิดเบือน) ถ้าจะเอาให้ถูกต้องตามพระไตรปิฏกจริง, ภิกษุที่เห็น ก็ไม่ใช่ภิกษุ ตั้งแต่มหาเถระสมาคมลงมาเลย. ที่ติดยศ เรียกเก๋ๆ ว่าสมณะศักดิ์น่ะ, ผิด เลยนะ

วิถีของภิกษุยังผิด แล้วนับประสาอะไรกับวิถีของฆราวาส

นอกเรื่องไปหน่อย :b32: :b32: :b32: กลับมาเรื่องกินเจ
ถ้าเขากินเจด้วยสำนึกว่า สัตว์ถูกฆ่าน้อยลงไปหนึ่งตัว ก็คงเป็นกุศลจิตอยู่, แต่ก็ไม่มาก น่าจะจัดอยู่ในระดับ พอใจ ว่าได้ปฏิบัติดีเท่านั้น.

ถ้าเขากินเจเพราะเห็นเขากิน เลยอยากกินมั่ง มันก็ไม่มีอะไร, วันนี้ได้ลองกินมัสมั่นเจ โอ้ เหมือนพะแนงหมูจริงๆ :b32: กินแล้วรู้สึกสัปปายะ แปลว่าอะไรนี่ ฮิฮิ
แต่ถ้าตั้งใจจะกินเจ แล้วไปกินไอ้มัสมั่นนี่ มันเป็นบาปชนิด หลอกตัวเอง :b32: :b32: :b32:

ว่าแต่ มัสมั่นทำไมรสชาติเหมือนพะแนงหมูเลย น่าสงสัยยิ่งนัก.

amazing เขียน:
...พวกที่กินแล้วเข้าใจว่ากินแล้วได้บุญ...

ถ้าจะให้ฟันธงจะๆ เลยนะ คนที่คิดว่ากินแล้วได้บุญน่ะ เขาไม่รู้จริงๆ หรอกว่า บุญคืออะไร.
แล้วก็อย่าลืมว่า นี่เป็น พิธีกรรมของมหายาน, ฝ่ายเถรวาทเอง มีอะไรๆ พิศดารกว่าเยอะ :b32: :b32: :b32:
ท่านกล่าวได้ดี แม้กระทั้งคิดว่าสัตว์ตายน้อยลงมันเป็นไปตามนั้นจริงหรอสัตว์มันเกิดมามีวิบากต้องตายในสถานะใดใครจะเปลี่ยนแปลงความตายได้ ละเว้นการฆ่าด้วยการไม่ฆ่าที่ตัวเราไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราเป็นตนเหตุหรอกมันเป็นไปไม่ได้


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 20:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:

ท่านกล่าวได้ดี แม้กระทั้งคิดว่าสัตว์ตายน้อยลงมันเป็นไปตามนั้นจริงหรอสัตว์มันเกิดมามีวิบากต้องตายในสถานะใดใครจะเปลี่ยนแปลงความตายได้ ละเว้นการฆ่าด้วยการไม่ฆ่าที่ตัวเราไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราเป็นตนเหตุหรอกมันเป็นไปไม่ได้



พูดอะไร ไม่ค่อยเข้าใจ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 20:22 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:

ท่านกล่าวได้ดี แม้กระทั้งคิดว่าสัตว์ตายน้อยลงมันเป็นไปตามนั้นจริงหรอสัตว์มันเกิดมามีวิบากต้องตายในสถานะใดใครจะเปลี่ยนแปลงความตายได้ ละเว้นการฆ่าด้วยการไม่ฆ่าที่ตัวเราไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราเป็นตนเหตุหรอกมันเป็นไปไม่ได้



พูดอะไร ไม่ค่อยเข้าใจ :b10:
คนกินเจมักคิดว่าได้บุญจากการคิดว่าเรากินเจแล้วสัตว์ตายน้อยลงเพราะเหตุนี้จริงแล้วไม่ใช่โดยประการทั้งปวงสัตว์จะเป็นจะตายนั้นมีเหตุปัจจัยเพราะวิบาก การกินเจกินได้ถ้าเพื่อสุขภาพ รังเกียจในเนื้อนั้น แต่ถ้าหวังบุญเพื่อกุศลคิดได้ครับแต่คิดผิดไม่เกิดุศลจริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 20:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


amazing เขียน:
...มันเป็นไปตามนั้นจริงหรอสัตว์มันเกิดมามีวิบากต้องตายในสถานะใดใครจะเปลี่ยนแปลงความตายได้...


กรรมเก่าเป็น ปัจจัย, ไม่ใช่ วิถี... วิถีที่ให้ทุกสิ่งเป็นไปตามกรรมเก่า เขาเรียกว่า ลัทธิกรรมเก่า

ถ้าจะมองในเชิงวิถีของกรรม... ซึ่งเราไม่สนับสนุนให้มอง เพราะมันจะง่ายมาก ที่เราจะตกลงไปในลัทธิกรรมเก่า และง่ายมากที่จะถูกครอบงำทางความคิด ว่าการเบียดเบียนใดๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา เป็นเพราะกรรมเก่าของเราเอง, เป็นการครอบงำทางความคิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด.

แต่โอเค เราจะมาว่าในวิถีของกรรม...

:b6: กรรมเก่าเป็น ปัจจัย.
ถ้าสัตว์นั้นมีวิบากที่จะต้องถูกฆ่า มันก็จะต้องถูกฆ่า. แต่เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร, ถ้าสัตว์นั้นมี เวร กับเรา และเราสามารถหยุดการฆ่าสัตว์นั้นได้, เวรก็ย่อมระงับไป.
วิบากที่จะต้องถูกฆ่า จะนำพาสัตว์นั้น ให้ไปถูกฆ่าด้วยจิตอื่น (กรรมใหม่ เวรใหม่ หรือกรรมเก่า เวรเก่าจากจิตอื่น). หรือไม่อย่างนั้น หากไม่มีเวรที่จะเป็นปัจจัยในช่วงอายุขัยนั้นๆ สัตว์จะนำพาตนเอง ให้ไปถูกฆ่าด้วยวิถีแห่งธรรมชาติแทน (ไม่มีกรรมใหม่ เวรใหม่).

สุคติภูมิ เป็นภูมิที่สามารถก่อกรรมใหม่ได้. มนุษย์ภูมิ ก็จัดเป็นสุคติภูมิ.

amazing เขียน:
...ละเว้นการฆ่าด้วยการไม่ฆ่าที่ตัวเราไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราเป็นตนเหตุหรอกมันเป็นไปไม่ได้

ตรงนี้อ่านไม่เข้าใจ :b6: เว้นวรรคเป็นตอนๆ ไปสิ

:b6: คนกินเจ ถ้าเขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ว่า ลดการฆ่าสัตว์ไปหนึ่ง, มันก็เป็นบุญบ้าง (นิดหน่อย) เข้าข่ายเมตตาบารมี แต่ ไม่ใช่ กุศลกรรม

อย่าสับสนระหว่าง บุญ ที่เป็นเรื่องของจิตใจ และ บุญกิริยา ที่เป็นเรื่องของการกระทำ
แน่นอน บุญกิริยาย่อมส่งผลมากกว่า.
การกินเจสมัยก่อน จัดเป็นบุญกิริยาข้อศีล. การกินเจสมัยนี้ เป็นบุญเฉยๆ แต่โดยทั่วไปแล้ว ไม่ได้อะไรเลย... ก็เปรียบได้กับ การปล่อยนกปล่อยปลาในเถรวาทแหล่ะ, ก็สักแต่ปล่อยๆ ไป ไม่ได้อยากจะช่วยให้พ้นจากการกักขังจริงๆ หรอก. แค่รู้สึกว่า ได้บุญ ดูเหมือนบุญ จะเป็นก้อนๆ อะไรสักอย่าง :b32: :b32: :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 21:06 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


murano เขียน:
amazing เขียน:
...มันเป็นไปตามนั้นจริงหรอสัตว์มันเกิดมามีวิบากต้องตายในสถานะใดใครจะเปลี่ยนแปลงความตายได้...


กรรมเก่าเป็น ปัจจัย, ไม่ใช่ วิถี... วิถีที่ให้ทุกสิ่งเป็นไปตามกรรมเก่า เขาเรียกว่า ลัทธิกรรมเก่า

ถ้าจะมองในเชิงวิถีของกรรม... ซึ่งเราไม่สนับสนุนให้มอง เพราะมันจะง่ายมาก ที่เราจะตกลงไปในลัทธิกรรมเก่า และง่ายมากที่จะถูกครอบงำทางความคิด ว่าการเบียดเบียนใดๆ ที่เกิดขึ้นกับเรา เป็นเพราะกรรมเก่าของเราเอง, เป็นการครอบงำทางความคิดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด.

แต่โอเค เราจะมาว่าในวิถีของกรรม...

:b6: กรรมเก่าเป็น ปัจจัย.
ถ้าสัตว์นั้นมีวิบากที่จะต้องถูกฆ่า มันก็จะต้องถูกฆ่า. แต่เวรย่อมระงับด้วยการไม่จองเวร, ถ้าสัตว์นั้นมี เวร กับเรา และเราสามารถหยุดการฆ่าสัตว์นั้นได้, เวรก็ย่อมระงับไป.
วิบากที่จะต้องถูกฆ่า จะนำพาสัตว์นั้น ให้ไปถูกฆ่าด้วยจิตอื่น (กรรมใหม่ เวรใหม่ หรือกรรมเก่า เวรเก่าจากจิตอื่น). หรือไม่อย่างนั้น หากไม่มีเวรที่จะเป็นปัจจัยในช่วงอายุขัยนั้นๆ สัตว์จะนำพาตนเอง ให้ไปถูกฆ่าด้วยวิถีแห่งธรรมชาติแทน (ไม่มีกรรมใหม่ เวรใหม่).

สุคติภูมิ เป็นภูมิที่สามารถก่อกรรมใหม่ได้. มนุษย์ภูมิ ก็จัดเป็นสุคติภูมิ.

amazing เขียน:
...ละเว้นการฆ่าด้วยการไม่ฆ่าที่ตัวเราไม่ต้องเป็นห่วงว่าเราเป็นตนเหตุหรอกมันเป็นไปไม่ได้

ตรงนี้อ่านไม่เข้าใจ :b6: เว้นวรรคเป็นตอนๆ ไปสิ

:b6: คนกินเจ ถ้าเขารู้สึกอย่างนั้นจริงๆ ว่า ลดการฆ่าสัตว์ไปหนึ่ง, มันก็เป็นบุญบ้าง (นิดหน่อย) เข้าข่ายเมตตาบารมี แต่ ไม่ใช่ กุศลกรรม

อย่าสับสนระหว่าง บุญ ที่เป็นเรื่องของจิตใจ และ บุญกิริยา ที่เป็นเรื่องของการกระทำ
แน่นอน บุญกิริยาย่อมส่งผลมากกว่า.
การกินเจสมัยก่อน จัดเป็นบุญกิริยาข้อศีล. การกินเจสมัยนี้ เป็นบุญเฉยๆ แต่โดยทั่วไปแล้ว ไม่ได้อะไรเลย... ก็เปรียบได้กับ การปล่อยนกปล่อยปลาในเถรวาทแหล่ะ, ก็สักแต่ปล่อยๆ ไป ไม่ได้อยากจะช่วยให้พ้นจากการกักขังจริงๆ หรอก. แค่รู้สึกว่า ได้บุญ ดูเหมือนบุญ จะเป็นก้อนๆ อะไรสักอย่าง :b32: :b32: :b32:

ผมบอกว่าถ้าจะมีเจตนาเพื่อลดการฆ่าชีวิตสัตว์ ให้กลับมาที่ตัวเราโดยงดการฆ่าสัตว์โดยถือศิลตลอดชีวิตเป็นสัมมาทิฎฐิถูกต้องชัดเจนกว่านะครับ และความคินั้นที่ว่าดีมันก็แค่ความเชื่อว่าถูก ผมไปดูก็ไม่มีในคำสอนเลยจริงๆ มันเป็นความคิดว่าใช่เท่านั้นเองผมก็ยังเชื่ออว่ามันเป็นข้อวัตรที่ไม่ถูกนะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 07 ต.ค. 2013, 21:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 8
สมาชิก ระดับ 8
ลงทะเบียนเมื่อ: 16 ก.พ. 2009, 20:42
โพสต์: 699


 ข้อมูลส่วนตัว


เอ่อ เราว่าจะแวบไปดูหนังล่ะ อิอิ cool cool


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 200 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1 ... 7, 8, 9, 10, 11, 12, 13, 14  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 89 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร