ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=46499
หน้า 1 จากทั้งหมด 4

เจ้าของ:  amazing [ 03 ต.ค. 2013, 19:46 ]
หัวข้อกระทู้:  ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

ศรัธทา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ห้าอย่างนี้จบทุกเรื่อง




ปฏิปทาเพื่อให้บรรลุเจโตวิมุตติและปัญญาวิมุตติ

[๓๓๒] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ประการอื่นยังมีอีกคือ ภิกษุเป็นผู้
ประกอบด้วยศรัทธา ศีล สุตะ จาคะ ปัญญา. เธอมีความปรารถนา
อย่างนี้ว่า ไฉนหนอ ! เราพึงเข้าถึงเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหา
อาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ทำให้แจ้งเพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ใน
ปัจจุบันอยู่. เธอจึงเข้าถึงเจโตวิมุตติ ปัญญาวิมุตติ อันหาอาสวะมิได้
เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ทำให้แจ้งเพราะรู้ยิ่งด้วยตนเอง ในปัจจุบันอยู่.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุนี้ย่อมไม่เกิดในที่ไหนๆ.
พระผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสพระภาษิตนี้แล้ว ภิกษุเหล่านั้นต่างชื่น
ชมยินดีพระภาษิตของพระผู้มีพระภาคเจ้าแล.
จบ สังขารูปปัตติสูตรที่ ๑๐
จบ อนุปทวรรคที่ ๒

เจ้าของ:  amazing [ 03 ต.ค. 2013, 19:53 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

คุณกรัชกายครับความเชื่อที่คุณว่ามันเชื่ออย่างไรครับที่เป็นข้อปฎบัติ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 03 ต.ค. 2013, 20:01 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

amazing เขียน:
คุณกรัชกายครับความเชื่อที่คุณว่ามันเชื่ออย่างไรครับที่เป็นข้อปฎบัติ


ปฏิปทา คือ ข้อปฏิบัติ มิใช่ศรัทธาเป็นข้อปฏิบัติ อ่านดีๆ ไม่ต้องรน จนมือไม้สั่น ทำใจให้สบายๆนะครับ

amazing นั่นแหละจะนั่งทำศรัทธา คิกๆๆ


ศรัทธาในที่นี้ คือ

"....เชื่อโพธิ (ปัญญาตรัสรู้) ของพระตถาคต ด้วยเหตุดังนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นพระผู้ทรงเจริญ"

เจ้าของ:  amazing [ 03 ต.ค. 2013, 20:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
คุณกรัชกายครับความเชื่อที่คุณว่ามันเชื่ออย่างไรครับที่เป็นข้อปฎบัติ


ปฏิปทา คือ ข้อปฏิบัติ มิใช่ศรัทธาเป็นข้อปฏิบัติ อ่านดีๆ ไม่ต้องรน ทำใจให้สบายๆนะครับ

amazing นั่นแหละจะนั่งทำศรัทธา คิกๆๆ


ศรัทธาในที่นี้ คือ

"....เชื่อโพธิ (ปัญญาตรัสรู้) ของพระตถาคต ด้วยเหตุดังนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นพระผู้ทรงเจริญ"

ก็เห็นทุกคนก็เชื่อนี่ครับแล้วทำไมยังออกนอกลู่นอกทางกันศรัทธากันยังไงครับผมว่าที่ท่านกล่าวมาไม่ใช่ศรัทธานะครับ

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 03 ต.ค. 2013, 20:08 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
คุณกรัชกายครับความเชื่อที่คุณว่ามันเชื่ออย่างไรครับที่เป็นข้อปฎบัติ


ปฏิปทา คือ ข้อปฏิบัติ มิใช่ศรัทธาเป็นข้อปฏิบัติ อ่านดีๆ ไม่ต้องรน ทำใจให้สบายๆนะครับ

amazing นั่นแหละจะนั่งทำศรัทธา คิกๆๆ


ศรัทธาในที่นี้ คือ

"....เชื่อโพธิ (ปัญญาตรัสรู้) ของพระตถาคต ด้วยเหตุดังนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นพระผู้ทรงเจริญ"

ก็เห็นทุกคนก็เชื่อนี่ครับแล้วทำไมยังออกนอกลู่นอกทางกันศรัทธากันยังไงครับผมว่าที่ท่านกล่าวมาไม่ใช่ศรัทธานะครับ



ไม่ใช่ศรัทธาแล้วเป็นอาราย :b13:

ใจเย็นๆ amazing ค่อยๆ :b1:

เจ้าของ:  amazing [ 03 ต.ค. 2013, 20:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
คุณกรัชกายครับความเชื่อที่คุณว่ามันเชื่ออย่างไรครับที่เป็นข้อปฎบัติ


ปฏิปทา คือ ข้อปฏิบัติ มิใช่ศรัทธาเป็นข้อปฏิบัติ อ่านดีๆ ไม่ต้องรน ทำใจให้สบายๆนะครับ

amazing นั่นแหละจะนั่งทำศรัทธา คิกๆๆ


ศรัทธาในที่นี้ คือ

"....เชื่อโพธิ (ปัญญาตรัสรู้) ของพระตถาคต ด้วยเหตุดังนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นพระผู้ทรงเจริญ"

ก็เห็นทุกคนก็เชื่อนี่ครับแล้วทำไมยังออกนอกลู่นอกทางกันศรัทธากันยังไงครับผมว่าที่ท่านกล่าวมาไม่ใช่ศรัทธานะครับ



ไม่ใช่ศรัทธาแล้วเป็นอาราย :b13:

ใจเย็นๆ amazing ค่อยๆ :b1:

ผู้ที่มีศรัทธาเพียงเชื่อในสิ่งที่ท่านบอกเหรอครับว่าพระองค์เป็นพระอรหันต์ฯลฯตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นผู้ทรงเจริญ ทำแค่นี้เองเหรอถ้างั้นก็คงบรรลุไม่ยากแน่ๆเลยข้อแรกผมผ่านแล้ว

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 03 ต.ค. 2013, 20:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
คุณกรัชกายครับความเชื่อที่คุณว่ามันเชื่ออย่างไรครับที่เป็นข้อปฎบัติ


ปฏิปทา คือ ข้อปฏิบัติ มิใช่ศรัทธาเป็นข้อปฏิบัติ อ่านดีๆ ไม่ต้องรน ทำใจให้สบายๆนะครับ

amazing นั่นแหละจะนั่งทำศรัทธา คิกๆๆ


ศรัทธาในที่นี้ คือ

"....เชื่อโพธิ (ปัญญาตรัสรู้) ของพระตถาคต ด้วยเหตุดังนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นพระผู้ทรงเจริญ"

ก็เห็นทุกคนก็เชื่อนี่ครับแล้วทำไมยังออกนอกลู่นอกทางกันศรัทธากันยังไงครับผมว่าที่ท่านกล่าวมาไม่ใช่ศรัทธานะครับ



ไม่ใช่ศรัทธาแล้วเป็นอาราย :b13:

ใจเย็นๆ amazing ค่อยๆ :b1:

ผู้ที่มีศรัทธาเพียงเชื่อในสิ่งที่ท่านบอกเหรอครับว่าพระองค์เป็นพระอรหันต์ฯลฯตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นผู้ทรงเจริญ ทำแค่นี้เองเหรอถ้างั้นก็คงบรรลุไม่ยากแน่ๆเลยข้อแรกผมผ่านแล้ว



บอกไม่จำ ก่อนหน้าบอกว่าศรัทธาตัวเดียวไม่พอหรอก จำได้ไหม ใจเย็นๆ กรัชกายไม่หนีหายไปไหนหรอก จะปล่อยให้ไล่ดูมั่ง คิกๆๆ ผลัดกัน

เจ้าของ:  amazing [ 03 ต.ค. 2013, 20:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
คุณกรัชกายครับความเชื่อที่คุณว่ามันเชื่ออย่างไรครับที่เป็นข้อปฎบัติ


ปฏิปทา คือ ข้อปฏิบัติ มิใช่ศรัทธาเป็นข้อปฏิบัติ อ่านดีๆ ไม่ต้องรน ทำใจให้สบายๆนะครับ

amazing นั่นแหละจะนั่งทำศรัทธา คิกๆๆ


ศรัทธาในที่นี้ คือ

"....เชื่อโพธิ (ปัญญาตรัสรู้) ของพระตถาคต ด้วยเหตุดังนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นพระผู้ทรงเจริญ"

ก็เห็นทุกคนก็เชื่อนี่ครับแล้วทำไมยังออกนอกลู่นอกทางกันศรัทธากันยังไงครับผมว่าที่ท่านกล่าวมาไม่ใช่ศรัทธานะครับ



ไม่ใช่ศรัทธาแล้วเป็นอาราย :b13:

ใจเย็นๆ amazing ค่อยๆ :b1:

ผู้ที่มีศรัทธาเพียงเชื่อในสิ่งที่ท่านบอกเหรอครับว่าพระองค์เป็นพระอรหันต์ฯลฯตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นผู้ทรงเจริญ ทำแค่นี้เองเหรอถ้างั้นก็คงบรรลุไม่ยากแน่ๆเลยข้อแรกผมผ่านแล้ว



บอกไม่จำ ก่อนหน้าบอกว่าศรัทธาตัวเดียวไม่พอหรอก จำได้ไหม ใจเย็นๆ กรัชกายไม่หนีหายไปไหนหรอก จะปล่อยให้ไล่ดูมั่ง คิกๆๆ ผลัดกัน

ผมว่าท่านกรัชกายให้นิยามของผู้มีศรัทธาน้อยจัง

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 03 ต.ค. 2013, 20:26 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
คุณกรัชกายครับความเชื่อที่คุณว่ามันเชื่ออย่างไรครับที่เป็นข้อปฎบัติ


ปฏิปทา คือ ข้อปฏิบัติ มิใช่ศรัทธาเป็นข้อปฏิบัติ อ่านดีๆ ไม่ต้องรน ทำใจให้สบายๆนะครับ

amazing นั่นแหละจะนั่งทำศรัทธา คิกๆๆ


ศรัทธาในที่นี้ คือ

"....เชื่อโพธิ (ปัญญาตรัสรู้) ของพระตถาคต ด้วยเหตุดังนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นพระผู้ทรงเจริญ"

ก็เห็นทุกคนก็เชื่อนี่ครับแล้วทำไมยังออกนอกลู่นอกทางกันศรัทธากันยังไงครับผมว่าที่ท่านกล่าวมาไม่ใช่ศรัทธานะครับ



ไม่ใช่ศรัทธาแล้วเป็นอาราย :b13:

ใจเย็นๆ amazing ค่อยๆ :b1:

ผู้ที่มีศรัทธาเพียงเชื่อในสิ่งที่ท่านบอกเหรอครับว่าพระองค์เป็นพระอรหันต์ฯลฯตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นผู้ทรงเจริญ ทำแค่นี้เองเหรอถ้างั้นก็คงบรรลุไม่ยากแน่ๆเลยข้อแรกผมผ่านแล้ว



บอกไม่จำ ก่อนหน้าบอกว่าศรัทธาตัวเดียวไม่พอหรอก จำได้ไหม ใจเย็นๆ กรัชกายไม่หนีหายไปไหนหรอก จะปล่อยให้ไล่ดูมั่ง คิกๆๆ ผลัดกัน

ผมว่าท่านกรัชกายให้นิยามของผู้มีศรัทธาน้อยจัง



เมื่อเห็นว่าน้อย มีอะไรก็นิยามเสริมอีกสิครับ อ้าว เสริมเข้ามา

เจ้าของ:  amazing [ 03 ต.ค. 2013, 20:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing เขียน:
คุณกรัชกายครับความเชื่อที่คุณว่ามันเชื่ออย่างไรครับที่เป็นข้อปฎบัติ


ปฏิปทา คือ ข้อปฏิบัติ มิใช่ศรัทธาเป็นข้อปฏิบัติ อ่านดีๆ ไม่ต้องรน ทำใจให้สบายๆนะครับ

amazing นั่นแหละจะนั่งทำศรัทธา คิกๆๆ


ศรัทธาในที่นี้ คือ

"....เชื่อโพธิ (ปัญญาตรัสรู้) ของพระตถาคต ด้วยเหตุดังนี้ๆ พระผู้มีพระภาคเจ้านั้น เป็นพระอรหันต์ ฯลฯ ตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นพระผู้ทรงเจริญ"

ก็เห็นทุกคนก็เชื่อนี่ครับแล้วทำไมยังออกนอกลู่นอกทางกันศรัทธากันยังไงครับผมว่าที่ท่านกล่าวมาไม่ใช่ศรัทธานะครับ



ไม่ใช่ศรัทธาแล้วเป็นอาราย :b13:

ใจเย็นๆ amazing ค่อยๆ :b1:

ผู้ที่มีศรัทธาเพียงเชื่อในสิ่งที่ท่านบอกเหรอครับว่าพระองค์เป็นพระอรหันต์ฯลฯตื่นแล้ว เบิกบานแล้ว เป็นผู้ทรงเจริญ ทำแค่นี้เองเหรอถ้างั้นก็คงบรรลุไม่ยากแน่ๆเลยข้อแรกผมผ่านแล้ว



บอกไม่จำ ก่อนหน้าบอกว่าศรัทธาตัวเดียวไม่พอหรอก จำได้ไหม ใจเย็นๆ กรัชกายไม่หนีหายไปไหนหรอก จะปล่อยให้ไล่ดูมั่ง คิกๆๆ ผลัดกัน

ผมว่าท่านกรัชกายให้นิยามของผู้มีศรัทธาน้อยจัง



เมื่อเห็นว่าน้อย มีอะไรก็นิยามเสริมอีกสิครับ อ้าว เสริมเข้ามา


ลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา

สุภูติสูตร

ครั้ง นั้นแล ท่านพระสุภูติกับสัทธภิกษุ เข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาคถึงที่ประทับ ถวายบังคมพระผู้มีพระภาคแล้วนั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่งครั้นแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสถามท่านพระสุภูติว่า ดูกรสุภูติ ภิกษุนี้ชื่อไร ท่านพระ สุภูติกราบทูลว่า ข้าแต่พระองค์ผู้เจริญ ภิกษุนี้ชื่อว่าสัทธะ เป็นบุตรอุบาสกผู้มีศรัทธา ออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา พระเจ้าข้า ฯ

พ. ดูกร สุภูติ ก็สัทธภิกษุนี้เป็นบุตรของอุบาสกผู้มีศรัทธาออกบวชเป็นบรรพชิตด้วยศรัทธา ย่อมเห็นพร้อมในลักษณะของผู้มีศรัทธาทั้งหลายแลหรือ ฯ

สุ. ข้า แต่พระผู้มีพระภาค บัดนี้เป็นกาลสมควร ทรงแสดงลักษณะของผู้มีศรัทธานั้น ข้าแต่พระสุคต บัดนี้เป็นกาลสมควรทรงแสดงลักษณะของผู้มีศรัทธานั้น ขอพระผู้มีพระภาคพึงตรัสลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธาเถิด ข้าพระองค์จักทราบบัดนี้ว่า ภิกษุนี้จะเห็นพร้อมในลักษณะของผู้มีศรัทธาทั้งหลายหรือไม่ ฯ

พ. ดูกรสุภูติ ถ้าอย่างนั้น เธอจงฟัง จงใส่ใจให้ดี เราจักกล่าว

ท่านพระสุภูติทูลรับพระผู้มีพระภาคแล้ว พระผู้มีพระภาคได้ตรัสว่า

ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผู้มีศีล สำรวมแล้วในปาติโมกขสังวร ถึงพร้อมด้วยอาจาระและโคจร

ภิกษุเป็นผู้มีสุตะมาก ทรงสุตะ สั่งสมสุตะ เป็นผู้ได้สดับมามาก ทรงไว้ คล่องปาก ขึ้นใจ แทงตลอดด้วยดีด้วยทิฐิ ซึ่งธรรมทั้งหลายอันงามในเบื้องต้น งามในท่ามกลาง งามในที่สุด ประกาศพรหมจรรย์พร้อมทั้งอรรถ พร้อมทั้งพยัญชนะ บริสุทธิ์บริบูรณ์สิ้นเชิง

ภิกษุเป็นผู้มีมิตรดี มีสหายดี มีเพื่อนดี

ภิกษุเป็นผู้ว่าง่าย ประกอบด้วยธรรมเครื่องกระทำให้เป็นผู้ว่าง่าย เป็นผู้อดทน เป็นผู้รับอนุศาสนีย์โดยเคารพ



ภิกษุเป็นผู้ขยัน ไม่เกียจคร้าน ในกรณียกิจทั้งสูงและต่ำของเพื่อนสพรหมจารีทั้งหลาย ประกอบด้วยปัญญาเป็นเครื่องพิจารณาอันเป็นอุบายในกรณียกิจนั้น

ภิกษุเป็นผู้ใคร่ธรรม กล่าวคำเป็นที่รัก เป็นผู้มีความปราโมทย์อย่างยิ่งในธรรมอันยิ่ง ในวินัยอันยิ่ง

ภิกษุเป็นผู้ปรารภความเพียร เพื่อละอกุศลธรรม เพื่อยังกุศลธรรม ให้ถึงพร้อม เป็นผู้มีกำลัง มีความบากบั่นมั่นคง ไม่ทอดธุระในกุศลธรรม

ภิกษุเป็นผู้ได้ตามปรารถนา ได้โดยไม่ยาก ได้โดยไม่ลำบาก ซึ่งฌาน(ทั้ง) ๔ อันมีในจิตอันยิ่ง เป็นเครื่องอยู่เป็นสุขในปัจจุบัน

ภิกษุระลึกถึงชาติก่อนได้เป็นอันมาก

ภิกษุเห็นหมู่สัตว์กำลังจุติ กำลังอุปบัติ เลว ประณีต มีผิวพรรณดี มีผิวพรรณทราม ได้ดี ตกยาก ด้วยทิพยจักษุอันบริสุทธิ์ล่วงจักษุของมนุษย์

ภิกษุทำให้แจ้งซึ่งเจโตวิมุติ ปัญญาวิมุติ อันหาอาสวะมิได้ เพราะอาสวะทั้งหลายสิ้นไป ด้วยปัญญาอันยิ่งเองในปัจจุบันเข้าถึงอยู่

(ภาษาไทย) เอกาทสก. อํ. ๒๔/๓๑๒ – ๓๑๖/๒๒๑.



นี่คือ ลักษณะแห่งศรัทธาของผู้มีศรัทธา

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 03 ต.ค. 2013, 20:34 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

แล้วไง :b1: ว่ามาก็ว่ามาไม่ได้ว่าอะไร

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 03 ต.ค. 2013, 20:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

amazing อย่าลืมนะ อย่าลืม อย่างที่บอกแล้ว มิใช่นั่งอ่านพระสูตรนั่นนนี่แล้วบรรลุนะจำไว้ :b1:

เจ้าของ:  amazing [ 03 ต.ค. 2013, 20:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

กรัชกาย เขียน:
amazing อย่าลืมนะ อย่าลืม อย่างที่บอกแล้ว มิใช่นั่งอ่านพระสูตรนั่นนนี่แล้วบรรลุนะจำไว้ :b1:

แค่ศรัทธาตัวเดียวก็อวกแล้วท่าน

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 03 ต.ค. 2013, 20:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

อ้างคำพูด:
ศรัธทา ศิล สุตตะ จาคะ ปัญญา ห้าอย่างนี้จบทุกเรื่อง


ถามกลับมั่ง ที่ว่าจบทุกเรื่อง มีเรื่องอะไรบ้างที่จบแล้ว :b10: :b14:

เจ้าของ:  กรัชกาย [ 03 ต.ค. 2013, 20:41 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ห้าอย่างนี้ใครมี สำเร็จนิพพานแน่

amazing เขียน:
กรัชกาย เขียน:
amazing อย่าลืมนะ อย่าลืม อย่างที่บอกแล้ว มิใช่นั่งอ่านพระสูตรนั่นนนี่แล้วบรรลุนะจำไว้ :b1:

แค่ศรัทธาตัวเดียวก็อวกแล้วท่าน



เปงงี้อ่ะน่ะ ถ้าคิดทำอย่าง amazing ต่อให้ทำจนวันตาย ทำจนเส้นเลือดในสมองแตก ให้เมียหยอดน้ำข้าวต้ม ก็ไม่ได้สักเรื่อง อ่ะๆ นี่พูดจริงๆนะทำเป็นเล่นไป :b32:

หน้า 1 จากทั้งหมด 4 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/