วันเวลาปัจจุบัน 20 เม.ย. 2024, 11:23  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 134 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 23 ต.ค. 2013, 18:36 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว




a67f096809415ca1c9f112d96d27689b.gif
a67f096809415ca1c9f112d96d27689b.gif [ 17.57 KiB | เปิดดู 3041 ครั้ง ]
ฉันวันนี้ :b1:

http://www.youtube.com/watch?v=-0WIqkPrbjY

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 02:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
โฮฮับ ซึ่งคิดภาพพระอรหันต์ผิดเพี้ยนไป คห.ข้างบน หวังว่า คงเข้าใจพระอรหันต์ถูกสะทีนะ


กรัชกายนี่่มันมั่วขึ้นตาจริงๆ เอาพระไตรปิฎกมาโพสเป็นท่อนๆ แล้วตัวเองก็จินตนาการ
คนอื่นจะรู้เรื่องไม่รู้เรื่องไม่สนใจ ทำไมไม่อธิบายความให้ชาวบ้านเขารู้หน่อยว่าจะสื่ออะไร

ที่รู้ๆเอาพระไตรปิฎกมาอ้าง ทั้งๆที่ตัวเองไม่มีปัญญาที่จะเข้าใจเนื้อหาในนั้น
เท่าที่ดูความเห็นมา ตอบได้คำเดียวว่า มั่วตั้งแต่อ้าปากแล้ว

ไปเอาคำที่เป็นบุคคลาธิษฐานเทศนา มาผสมปนเปกับธรรมาธิษฐานเทศนาให้มั่วไปหมด

กรัชกายขอร้องล่ะ อย่าพยายามตะเกียกตะกายท้องฟ้า พูดคำง่ายๆที่กรัชกายเข้าใจก็พอ
อย่าพยายามอวดรู้ เพราะมันมันผิดตั้งแต่เริ่มแล้ว

กำลังมีปัญหากับบัญญัติ การตีความบัญญัติที่เป็นพุทธพจน์
จะยกแต่พระไตรปิฎกฉบับภาษาไทยมาอ้างอิงอย่างเดียวไม่ได้
มันต้องเอาฉบับบาลีสยามรัฐมาเทียบเคียงด้วย


กรัชกายเลิกพูดจาสนิมสร้อย แล้วพูดไปเลยว่า ไอ้คำที่ตัวเองเอามาตั้งกระทู้ตาม
เจ้าตัวคิดอย่างไร ไม่ใช่ไปเอาพระไตรปิฎกมาโพส แล้วก็อธิบายไม่รู้เรื่อง :b32:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 03:08 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
รูปที่ตาเห็นได้ ทุกรูป คือ วัณณรูป (กรุณาไปดูรูป28ประกอบ)


คุณเข้าใจผิดแล้วครับ มันไม่ใช่รูปที่ตามองเห็นได้ทุกรูป คือวัณณรูป
พูดแบบนี้มันผิดหลักเหตุปัจจัยครับ

วัณณรูปจะเกิดได้ก็ต่อเมื่อมีการกระทบที่ปสาทตาครับ
มันไม่ใช่มีวัณรรูปอยู่แล้วตาจึงไปเห็น มันต้องเห็นสิ่งใดสิ่งหนึ่งเข้า
จึงเรียกสิ่งนั้นว่า...วัณณรูป

วัณณรูปเป็นปัจจัยร่วมกันของ จักขุ..วิญญาน...และสี(วัณณรูป) เรียกว่าผัสสะ
ซึ่งบัญญัติที่ถูกต้องจริงต้องเรียกว่า...จักขายตนะ(จักขุ)...รูปายตนะ(วัณณรูป)...
จักขุวิญญาน(วิญญานหก)

......จำไว้ครับ จะกล่าวถึงวัณณรูปก็ต่อเมื่อมีการกระทบขึ้นจักขุทวารแล้ว
ถ้าไม่มีการกระทบก็ไม่มีวัณณรูป

วัณณรูปหรือสีเป็นเรื่องของกรรมฐาน ดังนั้นจึงต้องกล่าวในลักษณะความเป็นผัสสะครับ



govit2552 เขียน:
แต่...........
วัณณรูปนี้จะเกิดเดี่ยวๆ ไม่ได้
สิ่งที่เห็นใดๆ ก็ตามที่มี วัณณรูปนั้น ต้องมีรูปอื่นประกอบร่วมด้วย อย่างน้อยๆ ก็ 8 รูป คือ

ดิน น้ำ ไฟ ลม สี กลิ่น รส โอชา

สรุป อีกทีว่า

ทุกสิ่งที่เราเห็น สิ่งเหล่านั้น ย่อมประกอบด้วยกลุ่มรูป อย่างน้อย 8 รูป เป็นอย่างต่ำ

ดิน น้ำ ไฟ ลม สี(คือวัณณรูป) กลิ่น รส โอชา

ตามองเห็นได้ แค่สี(วัณณรูป) เท่านั้น รูปอื่นๆ ตามองไม่เห็น แต่มีอยู่ในสิ่งที่มองเห็นนั้น ไม่ใช่ไม่มี


นี่ก็ไม่ใช่ครับ วัณณรูปท่านเอาไว้อธิบายว่า สิ่งที่เราเห็น เราจะเห็นได้แต่วัณณรูป(สี)ครับ
ตาไม่สามารถเห็นอากาศหรือความว่างได้ การมองเห็นจึงเห็นแต่เพียงสิ่งที่เป็นวัตถุ
และการที่เรามองเห็นวัตถุได้เพราะว่า......มันมีความแตกต่างของสี ระหว่างวัตถุกับอากาศ
เขาจึงเรียกความแตกต่างนี้ว่า.....วัณณรูปครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 05:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 20 มี.ค. 2010, 19:57
โพสต์: 1014

โฮมเพจ: http://www.vitwong.blogspot.com
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว www


ตาเห็นอะไร

เห็น ก้อนหิน

ใน ก้อนหิน นั้นย่อมมี ดิน น้ำ ไฟ ลม สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา ............ เป็นส่วนประกอบ


ตา เห็น อะไรอีก

เห็น เก้าอี้
ใน เก้าอี้ นั้นย่อมมี ดิน น้ำ ลม ไฟ สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา................ เป็นส่วนประกอบ


ตา เห็นอะไรอีก

เห็น ช้าง
ใน ช้าง ย่อมมี ดิน น้ำ ไฟ ลม สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา และรูปอื่นๆอีก..... เป็นส่วนประกอบ


เจริญในธรรม ครับ

.....................................................
ยังงมงาย...
เมื่อเห็นว่าพระไตรปิฏก มีส่วนถูก มีส่วนจริงแค่ 20 ถึง 30 เปอร์เซนต์ เท่านั้น

เลิกงมงาย..
เมื่อเห็นว่า พระไตรปิฏก มีส่วนถูก ส่วนจริง เกินกว่า 80 ถึง กว่า 90 เปอร์เซนต์

http://www.youtube.com/user/govit2554#g/u


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 06:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 04 ธ.ค. 2012, 15:49
โพสต์: 932


 ข้อมูลส่วนตัว


ตาเห็นได้แค่สีสันวัณณะ ไม่มีเรื่องราวใดๆ


แก้ไขล่าสุดโดย amazing เมื่อ 24 ต.ค. 2013, 11:23, แก้ไขแล้ว 1 ครั้ง

โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 09:09 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่เห็น....ล้วนเห็นแต่ผลผลิตของความคิด..ทั้งนั้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 09:16 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ตราบใดยังหาจุดลงตัวไม่พบ ก็คงต้องแสวงหากันต่อไป นั่นนี่โน่นกันต่อไป :b1:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 09:28 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สิ่งที่เห็น....แม้จะจริง....แต่ก็ไม่ได้มีอยู่จริง

ความจำ...จำก็แต่สิ่งไม่มีอยู่จริง...ความจำเลยพลอยไม่มีอยู่จริง


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 09:33 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


เพราะ...ความจริง....ย่อมไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา....ใครรู้ได้ก็รู้เป็นอย่างเดียวกัน...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 10:00 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
เพราะ...ความจริง....ย่อมไม่เปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา....ใครรู้ได้ก็รู้เป็นอย่างเดียวกัน...


แล้วอะไรล่ะคือความจริง ทีว่ารู้ไ้ด้เป็นอย่างเดียวกัน :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 10:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
สิ่งที่เห็น....แม้จะจริง....แต่ก็ไม่ได้มีอยู่จริง

ความจำ...จำก็แต่สิ่งไม่มีอยู่จริง...ความจำเลยพลอยไม่มีอยู่จริง



เป็นความฟุ้งซ่านอย่างละเอียด :b1: สรุปก้คือหาจุดลงตัวไม่ไ้ด้นั่นเองแหละ :b13:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 10:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


govit2552 เขียน:
ตาเห็นอะไร

เห็น ก้อนหิน

ใน ก้อนหิน นั้นย่อมมี ดิน น้ำ ไฟ ลม สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา ............ เป็นส่วนประกอบ


ตากับภาพก้อนหินกระทบกับ จะเกิดวัณณรูปอย่างเดียวที่จักขุวิญญานจะรับรู้ได
ส่วนสภาพดิน น้ำ ลมไฟที่คุณบอก ตาไม่สามารถรับรู้ทางตา ต้องรับรู้ทาง...กายสัมผัส
ส่วนกลิ่นก็เป็นฆาตสัมผัส (จมูก) รสเป็นชิวหาสัมผัส(ลิ้น)
โอชาไม่ใช่เกิดจากการกระทบ แต่เป็นอาหารรูป

govit2552 เขียน:
ตาเห็นอะไร
ตา เห็น อะไรอีก

เห็น เก้าอี้
ใน เก้าอี้ นั้นย่อมมี ดิน น้ำ ลม ไฟ สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา................ เป็นส่วนประกอบ


ตา เห็นอะไรอีก

เห็น ช้าง
ใน ช้าง ย่อมมี ดิน น้ำ ไฟ ลม สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา และรูปอื่นๆอีก..... เป็นส่วนประกอบ
เจริญในธรรม ครับ


ตาเห็นแค่ความแตกต่างกันของสีกับความว่างของอากาศ แต่ที่เป็นเป็นช้างหรือโต๊ะ
เป็นการเห็นด้วยใจ ไม่ใช่เห็นด้วยตา หมายความว่า เมื่อเกิดการเห็นสีทางตาแล้ว
จะมีการส่งต่อมาทางมโนทวาร ภาพโต๊ะหรือภาพช้างจึงเกิดขึ้น เขาเรียกเกิดที่ใจไม่ใช่ที่ตา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 10:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
govit2552 เขียน:
ตาเห็นอะไร

เห็น ก้อนหิน

ใน ก้อนหิน นั้นย่อมมี ดิน น้ำ ไฟ ลม สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา ............ เป็นส่วนประกอบ


ตากับภาพก้อนหินกระทบกับ จะเกิดวัณณรูปอย่างเดียวที่จักขุวิญญานจะรับรู้ได
ส่วนสภาพดิน น้ำ ลมไฟที่คุณบอก ตาไม่สามารถรับรู้ทางตา ต้องรับรู้ทาง...กายสัมผัส
ส่วนกลิ่นก็เป็นฆาตสัมผัส (จมูก) รสเป็นชิวหาสัมผัส(ลิ้น)
โอชาไม่ใช่เกิดจากการกระทบ แต่เป็นอาหารรูป

govit2552 เขียน:
ตาเห็นอะไร
ตา เห็น อะไรอีก

เห็น เก้าอี้
ใน เก้าอี้ นั้นย่อมมี ดิน น้ำ ลม ไฟ สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา................ เป็นส่วนประกอบ


ตา เห็นอะไรอีก

เห็น ช้าง
ใน ช้าง ย่อมมี ดิน น้ำ ไฟ ลม สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา และรูปอื่นๆอีก..... เป็นส่วนประกอบ
เจริญในธรรม ครับ


ตาเห็นแค่ความแตกต่างกันของสีกับความว่างของอากาศ แต่ที่เป็นเป็นช้างหรือโต๊ะ
เป็นการเห็นด้วยใจ ไม่ใช่เห็นด้วยตา หมายความว่า เมื่อเกิดการเห็นสีทางตาแล้ว
จะมีการส่งต่อมาทางมโนทวาร ภาพโต๊ะหรือภาพช้างจึงเกิดขึ้น เขาเรียกเกิดที่ใจไม่ใช่ที่ตา



นำสิ่งที่ท่านจัดลงตัวแล้วมาคิดเตลิดออกไปกันใหญ่ :b32:

เิดิมทีชีวิตหมดทั้งตัวนี่แหละคือธรรมะ แต่พอมีความเห็น (ทิฏฐิ) ตนซ้อนชีวิตขึ้นมา ก็คิดขี่ธรรมะไปหาธรรมะ แต่ยิ่งมองหาไปๆหาจนสุดขอบจักรวาล ก็ยังหาไม่พบ อ้าว...มันจะพบไ้ด้อย่างไรล่ะ ก็ธรรมมันอยู่เหนือคิ้วตนเอง คิกๆๆ

ขี่ธรรมหาธรรม

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
govit2552 เขียน:
ตาเห็นอะไร

เห็น ก้อนหิน

ใน ก้อนหิน นั้นย่อมมี ดิน น้ำ ไฟ ลม สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา ............ เป็นส่วนประกอบ


ตากับภาพก้อนหินกระทบกับ จะเกิดวัณณรูปอย่างเดียวที่จักขุวิญญานจะรับรู้ได
ส่วนสภาพดิน น้ำ ลมไฟที่คุณบอก ตาไม่สามารถรับรู้ทางตา ต้องรับรู้ทาง...กายสัมผัส
ส่วนกลิ่นก็เป็นฆาตสัมผัส (จมูก) รสเป็นชิวหาสัมผัส(ลิ้น)
โอชาไม่ใช่เกิดจากการกระทบ แต่เป็นอาหารรูป

govit2552 เขียน:
ตาเห็นอะไร
ตา เห็น อะไรอีก

เห็น เก้าอี้
ใน เก้าอี้ นั้นย่อมมี ดิน น้ำ ลม ไฟ สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา................ เป็นส่วนประกอบ


ตา เห็นอะไรอีก

เห็น ช้าง
ใน ช้าง ย่อมมี ดิน น้ำ ไฟ ลม สี(วัณณรูป) กลิ่น รส โอชา และรูปอื่นๆอีก..... เป็นส่วนประกอบ
เจริญในธรรม ครับ


ตาเห็นแค่ความแตกต่างกันของสีกับความว่างของอากาศ แต่ที่เป็นเป็นช้างหรือโต๊ะ
เป็นการเห็นด้วยใจ ไม่ใช่เห็นด้วยตา หมายความว่า เมื่อเกิดการเห็นสีทางตาแล้ว
จะมีการส่งต่อมาทางมโนทวาร ภาพโต๊ะหรือภาพช้างจึงเกิดขึ้น เขาเรียกเกิดที่ใจไม่ใช่ที่ตา



ถ้าไม่มีตา เกิดไ้ด้ไหม ตา + รูป + จักขุวิญญาณ +ผัสสะ อาศัยกันและกัน สัมพันธ์กัน ไม่ใช่ไปพูดตัดตอนเอายังงั้น ไม่เชื่อเอาไม้เสียบลูกชิ้นปิ้งแทงตาให้บอดเสีย แล้วมโนวารทะแวนที่ว่าเกิดไหม แทงตาแล้ว ก็แทงหู แทงจมูก ตัดลิ้น ตัดเส้นเอ็นทางกายให้หมด ดูสิมโนทวารจะอาศัยอะไรเกิด ลองดูพิสูจน์หลักธรรมสัมพันธ์ :b9:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 24 ต.ค. 2013, 11:21 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
สิ่งที่เห็น....แม้จะจริง....แต่ก็ไม่ได้มีอยู่จริง

ความจำ...จำก็แต่สิ่งไม่มีอยู่จริง...ความจำเลยพลอยไม่มีอยู่จริง



เป็นความฟุ้งซ่านอย่างละเอียด :b1: สรุปก้คือหาจุดลงตัวไม่ไ้ด้นั่นเองแหละ :b13:

5555+คุนน้องก็ฟุ้งซ่านอย่างละเอียด เพราะสามารถจำเรื่องราวของคนอื่นผ่านความจำของตนได้(เรื่องราวของคนที่มีเหตุปัจจัยเกี่ยวกับตน) ระลึกได้เมื่อมีเหตุปัจจัย (ระลึกได้แค่ชาตินี้นะไม่เกี่ยวกับอดีตชาติ55) ทั้งที่เจ้าตัวมันลืมไปแล้วด้วยซ้ำ เพราะคนอื่นๆลืมไปหมด ยกเว้นคุ้นน้อง มาเจอเคสของพี่กรัชกายดันลืมอีกเอ้า :b5: จนพี่กรัชกายต้องไปรื้อหาหลักฐานในสิ่งนั้นมันมีอยู่จริงหรือไม่มีจริง(ขนาดสิ่งที่ตนเองทำยังลืมความจำสั้น 55+ :b32: ) จนในที่สุดมันก็มีอยู่จริงเพราะมีหลักฐานในสิ่งนั้น คนนึงจำและระลึกได้ อีกคนระลึกไม่ได้และคิดว่าตนเองเคยทำสิ่งนั้นหรือ จริงหรือไม่จริง อิอิ :b32: :b32:
สรุปความจำของคุณน้องก็ดีอย่างนะ เพราะมันมีอยู่จริงและระลึกได้ และสามารถบอกคนอื่นได้ แต่จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่ :b13:


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 134 โพสต์ ]  ไปที่หน้า ย้อนกลับ  1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 102 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร