วันเวลาปัจจุบัน 29 ก.ค. 2025, 21:56  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 50 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 28 ต.ค. 2013, 22:48 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


อยากรู้..นะครับว่า...เพื่อนๆ มีเหตุผลอะไร...ถึงมีเมตตา?


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 00:38 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 เม.ย. 2010, 08:10
โพสต์: 2830

แนวปฏิบัติ: ขันธ์5ด้วยการสังเกตุ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ และอินทรีย์22
สิ่งที่ชื่นชอบ: พระสุตตันตปิฎก
อายุ: 0
ที่อยู่: ระยอง อุบลราชธานี

 ข้อมูลส่วนตัว


เมตตาเป็นปัญญา เป็นกุศลที่เป็นปัญญาด้วย เป็นมรรคข้อที่2ในมรรคมีองค์8 คือสัมมาสังกัปปะ เป็นธรรมที่เกิดขึ้นได้กับบุคคลทั่วไปจนถึงขั้นพระอริยะบุคคล แต่การพิจารณาลงไปด้วยปัญญาว่าบางครั้งความเมตตาก็สามารถที่จะกลายสภาพเป็นความวิบัติ หรือเป็นวิบัติของเมตตา นั่นคือ ความลำเอียง เช่นเมตตาหมา แต่ไม่ชอบแมว เป็นต้น

ความเมตตานั้นเป็นกุศล หากเป็นธรรมทางโลกก็คือ ธรรมที่ส่งเสริมให้อยู่ร่วมกันอย่างเอื้อเฟื้อ หากเป็นทางธรรมก็คือ ปัญญาอยู่แล้ว

.....................................................
อย่าท้อถอยต่อการปฏิบัติ อย่าปล่อยให้ความขุ่นเคืองเข้าแทรก สร้างพลังด้วยคำสอนของพระพุทธเจ้า รำลึกและตอบแทนพระคุณมารดา และบิดา มองโลกด้วยใจเป็นกลาง ระลึกเสมอว่าเรายังด้อยปัญญาหากยังไม่ได้ปัญญา


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 05:00 
 
ออฟไลน์
Moderators-2
Moderators-2
ลงทะเบียนเมื่อ: 30 ก.ย. 2013, 07:16
โพสต์: 2541

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


เมตตาผู้อื่น...มาจากเมตตาตนเองก่อนคะ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 05:49 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 พ.ค. 2011, 14:20
โพสต์: 8591


 ข้อมูลส่วนตัว


เมตตา เป็นสิ่งค้ำจุนโลก

.....................................................
พระธรรมคำสอน บัญญัติ ตรัส ไว้ดีแล้ว ไม่ต้องลด ไม่ต้องเพิ่ม ไม่ต้องแก้ไข ใดๆ ทั้งสิ้น


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 06:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5361


 ข้อมูลส่วนตัว


เมตตานั้นเป็นธรรมะข้อหนึ่ง ที่เป็นบารมีคือเมตตาบารมี

เมตตานั้นถ้าในชีวิตประจำวันเราก็สามารถมีความเมตตาได้
เช่นเมื่อเราเห็นคนที่ตกทุกข์ได้ยากเราก็ทำการช่วยเหลือ
เมื่อผู้ที่ตกทุกข์ได้รับการช่วยเหลือก็จะมีความสุขเกิดขึ้น
และหายจากความทุกข์ที่เป็นอยู่ และผู้ที่ทำการช่วยเหลือก็
มีความสุขใจเกิดขึ้นที่ได้ทำความดี


การแผ่เมตตานั้นเมื่อจิตเรามีเมตตาต่อผู้อื่น
ไม่ว่าจะเป็นศัตรู มิตร หรือผู้ที่เป็นกลาง
เมื่อเราแผ่เมตตาจิตให้เราก็จะมีความสุขใจเกิดขึ้นในจิตใจของเราเอง

ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 08:40 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 9
สมาชิก ระดับ 9
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ก.ย. 2010, 09:07
โพสต์: 761

แนวปฏิบัติ: อานาปาฯ
งานอดิเรก: ศึกษาพุทธธรรม
สิ่งที่ชื่นชอบ: ปฏิบัติธรรม
ชื่อเล่น: ปลีกวิเวก
อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
อยากรู้..นะครับว่า...เพื่อนๆ มีเหตุผลอะไร...ถึงมีเมตตา?


tongue สวัสดีค่ะคุณกบ

ปลีกวิเวกจะตอบแบบใช้ความรู้สึก....หรือสภาวะที่เกิดในขณะที่จิตมึเมตตา....คือความสุข
คุณภาพของจิตที่มีเมตตาทำให้เรามีความสุขสงบเย็น...ลองสังเกตุดูสิในยามที่เรามีความปรารถนาดี
อยากให้เขาอยู่ดีมีสุข มีความเป็นมิตรไมตรี ต่อบุคคลอันเป็นที่รักหรือบุคคลอื่นในขณะนั้นจิตใจเราจะมีความสุข...เมื่อมีเมตตาแล้วกรุณาก็จะตามมาพร้อมที่จะช่วยเหลือแบ่งปัน...มุทิตาก็จะทำใด้ง่ายขึ้น..และมีอุเบกขาเปรียบเหมือนปัญญาที่จะคอยควบคุมและรักษาธรรมนั้นไว้...

ดังนั้นหลักพรหมวิหารสี่จึงเป็นหลักธรรม ที่ทุกคนควรมีเพื่อความดีงามและเกื้อกูลต่อสังคม :b41:

.....................................................
วิชฺชาจรณสมฺปนฺโน โส เสฏฺโฐ เทวมานุสเส
ผู้ถึงพร้อมด้วยความรู้คู่ความดี คือผู้ที่ประเสริฐสุดในหมู่มนุษย์และเทวดา
วรรคทอง วรรคธรรม โดยท่าน ว.วชิรเมธี


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 09:37 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


สาธุ...ทุกคำตอบนะครับ... :b8: :b8:

สังเกตว่า..ทุกคำตอบ...จะมีปัญญาก่อน...เมตตาถึงจะเกิดได้...ในทางโลกอาจเห็นได้ไม่ชัดนัก....แต่ในทางธรรม..ดูจะชัดเจนขึ้น.ว่า...ต้องเห็นความจริงซะก่อน..คือ..มีปัญญา..นั้นเอง

สาธุ..


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 09:56 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


กบนอกกะลา เขียน:
สาธุ...ทุกคำตอบนะครับ... :b8: :b8:

สังเกตว่า..ทุกคำตอบ...จะมีปัญญาก่อน...เมตตาถึงจะเกิดได้...ในทางโลกอาจเห็นได้ไม่ชัดนัก....แต่ในทางธรรม..ดูจะชัดเจนขึ้น.ว่า...ต้องเห็นความจริงซะก่อน..คือ..มีปัญญา..นั้นเอง

สาธุ..


เมตตามันเกิดกับบุคคลที่มีจิตเป็นกุศลทุกคนนั้นแหล่ะ

ถึงแม้เมตตาจะเป็นกุศลธรรม แต่โดยความเป็นจริงมันเป็นกิเลส

หรือกล่าวได้ว่ามันเป็นสังโยชน์ที่เรียกว่า...... อุทธัมภาคิยสังโยชน์

มันจะเหนี่ยวรั้งบุคคลให้อยู่กับทุกข์...(เกิด แก่ เจ็บ ตาย)

ส่วนที่บอกว่า จะมีปัญญาก่อน เมตตาถึงจะเกิดได้ มันเป็นความเข้าใจผิด
เมตตามันเกิดเองไม่ต้องอาศัยปัญญา เพราะมันเป็นกิเลส

พระพุทธองค์ทรงให้ใช้ปัญญาทุกครั้งเมื่อจิตเกิดเมตตา กรุณาหรือมุทิตา
เอาปัญญามาพิจารณาธรรม เพื่อวางอุเบกขาในเมตตาไม่ให้ยึดติด

ผู้หวังนิพพานหรือพระอรหันต์ จะต้องวางอุเบกขาในเมตตาทุกครั้ง

ส่วนผู้หวังพุทธภูมิไม่จำเป็นต้องวางอุเบกขาในเมตตา เพราะเมตตาเป็นธรรมบารมี
ส่งเสริมให้บุคคลได้พุทธภูมิ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 10:18 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


โฮฮับ เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
สาธุ...ทุกคำตอบนะครับ... :b8: :b8:

สังเกตว่า..ทุกคำตอบ...จะมีปัญญาก่อน...เมตตาถึงจะเกิดได้...ในทางโลกอาจเห็นได้ไม่ชัดนัก....แต่ในทางธรรม..ดูจะชัดเจนขึ้น.ว่า...ต้องเห็นความจริงซะก่อน..คือ..มีปัญญา..นั้นเอง

สาธุ..


เมตตามันเกิดกับบุคคลที่มีจิตเป็นกุศลทุกคนนั้นแหล่ะ

ถึงแม้เมตตาจะเป็นกุศลธรรม แต่โดยความเป็นจริงมันเป็นกิเลส

หรือกล่าวได้ว่ามันเป็นสังโยชน์ที่เรียกว่า...... อุทธัมภาคิยสังโยชน์

มันจะเหนี่ยวรั้งบุคคลให้อยู่กับทุกข์...(เกิด แก่ เจ็บ ตาย)

ส่วนที่บอกว่า จะมีปัญญาก่อน เมตตาถึงจะเกิดได้ มันเป็นความเข้าใจผิด
เมตตามันเกิดเองไม่ต้องอาศัยปัญญา เพราะมันเป็นกิเลส

พระพุทธองค์ทรงให้ใช้ปัญญาทุกครั้งเมื่อจิตเกิดเมตตา กรุณาหรือมุทิตา
เอาปัญญามาพิจารณาธรรม เพื่อวางอุเบกขาในเมตตาไม่ให้ยึดติด

ผู้หวังนิพพานหรือพระอรหันต์ จะต้องวางอุเบกขาในเมตตาทุกครั้ง

ส่วนผู้หวังพุทธภูมิไม่จำเป็นต้องวางอุเบกขาในเมตตา เพราะเมตตาเป็นธรรมบารมี
ส่งเสริมให้บุคคลได้พุทธภูมิ


อ้างคำพูด:
ถึงแม้เมตตาจะเป็นกุศลธรรม แต่โดยความเป็นจริงมันเป็นกิเลส

หรือกล่าวได้ว่ามันเป็นสังโยชน์ที่เรียกว่า...... อุทธัมภาคิยสังโยชน์

มันจะเหนี่ยวรั้งบุคคลให้อยู่กับทุกข์...(เกิด แก่ เจ็บ ตาย)


พูดเหมือนกับว่า คนหมดกิเลส ไม่เเก่ ไม่เจ็บ ไม่ตายงั้นแหละ

เห็นตายกันหมดไม่เหลือ เกิดเท่าไหร่ก็ตายเท่านั้น เขาตายกันมาก่อนพุทธกาลอีกนะ

อ้างคำพูด:
ผู้หวังนิพพานหรือพระอรหันต์ จะต้องวางอุเบกขาในเมตตาทุกครั้ง



ก็คนเกิดมาก็เป็นพระอริยะ เป็นพระอรหันต์มาแล้ว คือ เป็นมาตั้งแต่เกิดแล้วนี่ จะต้องวางในเมตตาทำไมอีกเล่า :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 10:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 13 ก.พ. 2010, 17:53
โพสต์: 4999

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


ปลีกวิเวก เขียน:
กบนอกกะลา เขียน:
อยากรู้..นะครับว่า...เพื่อนๆ มีเหตุผลอะไร...ถึงมีเมตตา?


tongue สวัสดีค่ะคุณกบ

ปลีกวิเวกจะตอบแบบใช้ความรู้สึก....หรือสภาวะที่เกิดในขณะที่จิตมึเมตตา....คือความสุข


คุณครับไอ้สภาวะจิตที่เป็นเมตตามันมีด้วยหรือครับ

ปลีกวิเวก เขียน:
คุณภาพของจิตที่มีเมตตาทำให้เรามีความสุขสงบเย็น...ลองสังเกตุดูสิในยามที่เรามีความปรารถนาดี
อยากให้เขาอยู่ดีมีสุข มีความเป็นมิตรไมตรี ต่อบุคคลอันเป็นที่รักหรือบุคคลอื่นในขณะนั้นจิตใจเราจะมีความสุข...เมื่อมีเมตตาแล้วกรุณาก็จะตามมาพร้อมที่จะช่วยเหลือแบ่งปัน...มุทิตาก็จะทำใด้ง่ายขึ้น..และมีอุเบกขาเปรียบเหมือนปัญญาที่จะคอยควบคุมและรักษาธรรมนั้นไว้...


เมตตาเมื่อเกิดกับใคร มันไม่ได้ส่งผลให้เกิดสุขนะครับ ที่คุณบอกว่าคุณรู้สึกสุข
เป็นเพราะคุณกำลังหลงเข้าไปปรุงแต่งธรรมครับ แล้วไอ้การปรุงแต่งธรรมที่ผมว่า
ก็ไม่ใช้การปรุงเมตาโดยตรง แต่มันไปปรุงแต่ง..มุทิตาครับ

อุเบกขาคือการเอาปัญญามาใช้เพื่อไม่ให้ยึดธรรมนั้นไว้ครับ...ไม่ใช่รักษา

ปลีกวิเวก เขียน:
ดังนั้นหลักพรหมวิหารสี่จึงเป็นหลักธรรม ที่ทุกคนควรมีเพื่อความดีงามและเกื้อกูลต่อสังคม :b41:


เป็นเพราะพวกเรายังขาดความเข้าใจ ยังเป็นผู้มีอวิชาจึงแยกแยะธรรมไม่ได้ ...
พรหมวิหารสี่ ไม่ใช่ว่าทุกคนจะทำได้
ดังนั้นการที่เอา คำพูดที่ว่า "หลักพรหมวิหารสี่ เป็นหลักที่ทุกคนควรมี" ฟังแล้วมันก็เป็นกุศล
แต่มันทำให้พระธรรมของพระพุทธองค์ผิดเพี้ยน การใช้คำพูดเชิงสำนวนโวหารคำกลอน
ไม่สมควรนำมาใช้กับพระธรรมของพุทธองค์ครับ


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 11:04 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
Moderators-1
Moderators-1
ลงทะเบียนเมื่อ: 14 ก.ย. 2010, 20:29
โพสต์: 5112

แนวปฏิบัติ: พิจารณากาย
สิ่งที่ชื่นชอบ: มณีรัตน์,พระผู้เป็นดั่งผ้าขี้ร้วห่อทอง
อายุ: 39

 ข้อมูลส่วนตัว


รู้สึกว่า การฝึกเมตตาดีตรงที่ช่วยลดความยึดถือตัวเราได้เยอะเหมือนกันนะคะ
ถ้าเราจะเอาแต่ตัวเองเป็นใหญ่ ก็ต้องทะเลาะ
ต้องบั่นทอน ทำลายคนอื่นด้วยกายบ้าง วาจาบ้าง ใจบ้างตลอดเวลา

แต่ตอนแรกมันก็ไม่ค่อยเมตตาเลยนะคะ รู้สึกตัวเองจะเย็นชามากกว่า คือ เฉยๆอะค่ะ
ก็ไม่อยากเบียดเบียน ทำร้ายใครหรอก แต่ในใจมันเย็นชา อิอิ
พอเราเริ่มฝึกให้จิตมีเมตตา มันก็เลยต้องเสียสละไปเรื่อยๆ
สละความโกรธของตัวเองเวลาใครทำอะไรไม่ดีให้
สละความตระหนี่ถี่เหนียว เงินเรา เราหา เราอยากใช้เอง ไปให้คนอื่นทำไม
แต่ว่า ทำไปๆก็รู้สึก มันเริ่มอิ่มเอิบใจขึ้นนะ
ความรู้สึกที่ของการสละทิ้งความไม่ดีๆในใจเราเองที่มีต่อผู้อื่น
การให้ข้าวของวัตถุไปแก่ผู้อื่น
การได้เห็นผู้อื่นพ้นความลำบาก หรือการที่เขาไม่ต้องมาตกระกำลำบากเพราะเรา
ความรู้สึกดีๆแบบนี้มันทำให้ติดใจ ประทับใจดีเหมือนกัน :b16: :b16:

ก็เลยคิดว่า เมตตาเป็นธรรมที่ค้ำจุนเรามากๆ ได้ของแถมมากมาย
ช่วยลดความยึดถือสิ่งต่างๆข้าวของ ยึดถือตัวเราเอง
เราแบกอะไรไปด้วยไม่ได้ สู้แบ่งปันให้ผู้ที่เขาต้องการไม่ได้
จะอยู่ร่วมกับคนอื่น สัตว์อื่นก็ง่าย
เพราะเมตตา เราจึงผูกใจเขาด้วยการให้ , การพูดดี ,การช่วยเหลือเขา
และมีน้ำใจสม่ำเสมอกับเขาตลอด
คนอื่นหรือสัตว์อื่นก็วางใจเราได้ว่าเราไม่ทำร้ายเขาไม่ว่าทางใดๆอะ่ค่ะ
แบบนี้มันก็สบายดี :b15: :b1:




.....................................................
"เกิดดับ..เกิดแล้วไม่ดับไม่มี"


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 11:15 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 11 ก.พ. 2009, 22:21
โพสต์: 1975


 ข้อมูลส่วนตัว


อ้างคำพูด:
คุณกบฯเขียน


อยากรู้..นะครับว่า...เพื่อนๆ มีเหตุผลอะไร...ถึงมีเมตตา?


เรามองว่าคนที่มีจิตเมตตานั้น เราคิดว่า คงจะเกิดจากการเห็นทุกข์นั้นแล้วไงล่ะ
พอเห็นผู้อื่นทุกข์ เมตตาจะเกิดทันที โดยไม่ต้องคิด
บางคนเมตตาเกิด แต่ไม่สามารถที่จะช่วยผู้อื่นได้ เค้าก็จะช่วยโดยบอกให้กับผู้ที่ช่วยได้มาช่วย
แต่ถ้าบอกหลายๆคนแล้ว ช่วยไม่ได้
ถึงจะปล่อยวางอุเบกขา นั่นคือช่วยไม่ได้จริงๆ



อ้างคำพูด:
คุณโฮฮับเขียน

ส่วนที่บอกว่า จะมีปัญญาก่อน เมตตาถึงจะเกิดได้ มันเป็นความเข้าใจผิด
เมตตามันเกิดเองไม่ต้องอาศัยปัญญา
เพราะมันเป็นกิเลส



ตรงนี้เห็นด้วยกับคุณโฮฯค่ะ แต่.....เมตตาเป็นกิเลสอย่างไรค่ะ
ในเมื่อใจช่วยเค้าให้หลุดพ้นจากความทุกข์ โดยไม่หวังผลตอบแทน
เพราะฉนั้นแล้ว ตัวกิเลสมาแทรกตรงช่วงไหนค่ะ :b8: :b41: :b55: :b49:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 12:06 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
อ้างคำพูด:
คุณกบฯเขียน


อยากรู้..นะครับว่า...เพื่อนๆ มีเหตุผลอะไร...ถึงมีเมตตา?


เรามองว่าคนที่มีจิตเมตตานั้น เราคิดว่า คงจะเกิดจากการเห็นทุกข์นั้นแล้วไงล่ะ
พอเห็นผู้อื่นทุกข์ เมตตาจะเกิดทันที โดยไม่ต้องคิด
บางคนเมตตาเกิด แต่ไม่สามารถที่จะช่วยผู้อื่นได้ เค้าก็จะช่วยโดยบอกให้กับผู้ที่ช่วยได้มาช่วย
แต่ถ้าบอกหลายๆคนแล้ว ช่วยไม่ได้
ถึงจะปล่อยวางอุเบกขา นั่นคือช่วยไม่ได้จริงๆ



อ้างคำพูด:
คุณโฮฮับเขียน

ส่วนที่บอกว่า จะมีปัญญาก่อน เมตตาถึงจะเกิดได้ มันเป็นความเข้าใจผิด
เมตตามันเกิดเองไม่ต้องอาศัยปัญญา
เพราะมันเป็นกิเลส



ตรงนี้เห็นด้วยกับคุณโฮฯค่ะ แต่.....เมตตาเป็นกิเลสอย่างไรค่ะ
ในเมื่อใจช่วยเค้าให้หลุดพ้นจากความทุกข์ โดยไม่หวังผลตอบแทน
เพราะฉนั้นแล้ว ตัวกิเลสมาแทรกตรงช่วงไหนค่ะ :b8: :b41: :b55: :b49:

พี่เต้จำที่คุณน้องเคยบอกเกี่ยวกับเมตตาไม่ได้หรือค่ะ คุนน้องจำได้ว่าคุนน้องเคยแสดงความเห็นเกี่ยวกับเมตตาไปแล้วนี่หน่า ว่าทำไมการที่เรามีเมตตามากๆตัวกิเลศมันจะชอบมาแทรกทำให้จิตเศร้าหมอง
:b1:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 12:22 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับ 19
สมาชิกระดับ 19
ลงทะเบียนเมื่อ: 27 ก.พ. 2012, 12:27
โพสต์: 2372

แนวปฏิบัติ: ปฏิจจสมุปบาท และกรรมฐาน
งานอดิเรก: สวดมนต์รภาวนา
อายุ: 27

 ข้อมูลส่วนตัว


คุณน้องมีความรู้สึกเวลาเห็นคนอื่นทุกข์ ไม่ว่าไปเจอคนขอทานเอย เด็กข้างถนนเอย คนพิการเอย สัตว์ที่กำลังจะโดนฆ่า สุนัขโดนรถชนเอย จิตใจคุณน้องรู้สึกว่าเป็นทุกข์ ที่ทุกข์เพราะไม่อยากให้ผู้อื่นเป็นเช่นนั้น
อยากจะช่วยพวกเค้าให้หลุดพ้นจากความทุกข์ แต่ก็ไม่สามารถช่วยอะไรได้ ทำให้รู้สึกว่าเราทุกข์แทนผู้อื่น จิตใจเราแทนที่จะผ่องใส กลับกลายเป็นเศร้าหมอง เพราะอุปกิเลศเครื่องกั้นจิตขัดขวางจิต
คุนน้องไม่รู้หรอกว่าทำไมต้องรู้สึกแบบนั้น คนอื่นอาจจะไม่รู้สึกอาจจะเฉยๆเพราะไม่ได้เกี่ยวไรกับตัวเอง
แต่คุนน้องรู้สึกทุกครั้ง ตั้งแต่เด็กๆแล้ว การที่เราเมตตาและปราถนาอยากให้เค้ามีความสุขแต่ไม่สามารถทำได้อย่างที่ใจตนปราถนานั่นเอง เมื่อทำไม่ได้ก็ทุกข์ตามมา ในพรหมวิหาร 4 เมตตา กรุณา มุฑิตา อุเบกขา คุณน้องพอจะเข้าใจนะว่าทำไมเราถึงต้องมีอุเบกขา แต่พอเรามีเมตตาและเราสามารถช่วยเหลือเค้าได้ จิตใจเราก็ยินดีเบิกบานเป็นสุข เพราะเราสามารถช่วยเหลือเค้าได้นั่นเอง :b1: เพราะเหตุนี้เมตตาเป็นคุณธรรมของผู้มีจิตใจสูงส่งยิ่งนัก :b8:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 29 ต.ค. 2013, 12:35 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


bbby เขียน:
อ้างคำพูด:
คุณกบฯเขียน

อยากรู้..นะครับว่า...เพื่อนๆ มีเหตุผลอะไร...ถึงมีเมตตา?


เรามองว่าคนที่มีจิตเมตตานั้น เราคิดว่า คงจะเกิดจากการเห็นทุกข์นั้นแล้วไงล่ะ
.....


เห็นทุกข์นี้แหละ...ตัวปัญญา..ละคับ


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 50 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

่กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 1 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร