ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

"ศรัทธากับปัญญา"
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=47645
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  วิริยะ [ 22 เม.ย. 2014, 08:08 ]
หัวข้อกระทู้:  "ศรัทธากับปัญญา"

"ศรัทธา" ..

ความเชื่อ เป็นเรื่องของคนแต่ละบุคคล พ่อแม่ญาติพี่น้อง
สามีภรรยา ไม่ใช่ว่าจะต้องเชื่อเหมือนกัน หรือเชื่อตามกันเสมอไป

"ปัญญา" ..

เป็นอีกเรื่องที่แต่ละคนอบรมมาก็ไม่เหมือนกัน การโน้มน้าวให้เปลี่ยนความคิด
เปลี่ยนความเชื่อ ตามที่เราต้องการนั้น ก็ยิ่งยาก ยิ่งกดดันก็ยิ่งขัดแย้ง ..

ถึงเราจะคิดว่านั้นเพราะหวังดี ปรารถนาดี ก็ใช่ว่าคนอื่นเขาจะเห็นด้วยกับเรา
เราทำหน้าที่ของเราแล้ว เมื่อเราชี้แล้ว เขาไม่เห็นด้วย ก็ต้องปล่อย ก็ต้องวาง

:b1:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 22 เม.ย. 2014, 09:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "ศรัทธากับปัญญา"

ผมว่า...นั้นเป็นศรัทธา..ทั้งคู่เลยนะครับ
อิอิ

เจ้าของ:  asoka [ 22 เม.ย. 2014, 13:44 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "ศรัทธากับปัญญา"

:b8:
ศรัทธา ความยอมรับ นับถือ เชื่อถือ ปฏิบัติตาม เกิดขึ้นได้จากการที่มีความเห็นตรงกัน

ศรัทธาที่ประกอบด้วยปัญญา จะเอาธรรมเอาคุณงามความดี เอาเหตุ เอาผล เป็นหลักตัดสิน

ศรัทธาที่ไม่ประกอบด้วยปัญญา จะเอาอารมณ์ ความชอบใจไม่ชอบใจ ความใคร่ความอยาก เป็นหลักตัดสิน

ปัญญา มี 3 อย่าง คือ

ปัญญาศึกษา

ปัญญาคิดนึก

ปัญญาได้จากการทำจริงประสบการณ์จริง

การยอมรับและมีความเห็นตรงกันนั้นต้องประกอบด้วยปัญญาทั้ง 3 นี้ เหตุผลแลความชอบธรรมจึงจะสมบูรณ์ และลงตัวกันได้อย่างเป็นสากล

สรุปคือ "เข้าถึงสัจจธรรมอันเดียวกัน" ย่อมจะเป็นหนึ่งเดียวกัน
:b27:

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 22 เม.ย. 2014, 14:56 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "ศรัทธากับปัญญา"

วิริยะ เขียน:
"ศรัทธา" ..

ความเชื่อ เป็นเรื่องของคนแต่ละบุคคล พ่อแม่ญาติพี่น้อง
สามีภรรยา ไม่ใช่ว่าจะต้องเชื่อเหมือนกัน หรือเชื่อตามกันเสมอไป

"ปัญญา" ..

เป็นอีกเรื่องที่แต่ละคนอบรมมาก็ไม่เหมือนกัน การโน้มน้าวให้เปลี่ยนความคิด
เปลี่ยนความเชื่อ ตามที่เราต้องการนั้น ก็ยิ่งยาก ยิ่งกดดันก็ยิ่งขัดแย้ง ..

ถึงเราจะคิดว่านั้นเพราะหวังดี ปรารถนาดี ก็ใช่ว่าคนอื่นเขาจะเห็นด้วยกับเรา
เราทำหน้าที่ของเราแล้ว เมื่อเราชี้แล้ว เขาไม่เห็นด้วย ก็ต้องปล่อย ก็ต้องวาง

:b1:


ผมอ่านแล้ว ไม่เข้าใจ ว่า เจ้าของกระทู้ จะบอกอะไรครับ
รบกวนเจ้าของกระทู้ อธิบายนิดหนึ่งครับ

เจ้าของ:  คนธรรมดาๆ [ 22 เม.ย. 2014, 21:59 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "ศรัทธากับปัญญา"

อ่านที่คุณวิริยะเขียนแล้วเกิดแรงบันดาลใจ อยากจะขอเขียนอะไรสักหน่อย

คนเราแต่ละคนล้วนแตกต่างกัน ความคิดจิตใจก็แตกต่างกัน

ของบางคนเป็นเหล็ก สามารถนำไปตีขึ้นรูปเป็นดาบ เป็นมีด เป็นอะไรต่างๆได้

ของบางคนเป็นเพชร แข็งกล้า เปล่งประกายเป็นที่ดึงดูดใจคน แต่ถ้าโดนทุบแบบเหล็กล่ะก็ จะแตกเป็นผุยผง

ของบางคนเป็นถ่าน ไม่แข็งเหมือนเพชร ขึ้นรูปแบบเหล็กก็ไม่ได้ แต่ใช้ติดไฟหุงหาอาหารได้

เป็นต้น

หากใครอยากจะเป็นช่างเหล็ก ก็ควรเลือกเอาคนที่ใจเป็นเหล็กไปตี ไม่ใช่เอาคนที่เป็นเพชรเป็นถ่านไปทุบ มันก็แหลกเหลวไม่เป็นท่า

หากใครอยากจะเป็นช่างเพชร ก็ควรเลือกเอาคนที่ใจเป็นเพชรไปเจียระไน เอาเหล็กเอาถ่านไปใช้คงไม่ได้การ

หากใครอยากจะก่อไฟ ก็เฟ้นเลือกเอาถ่านไปใช้งาน จะเอาเหล็กเอาเพชรไปคงไม่ได้ไฟตามต้องการ

ปัญญารู้เราแค่เพียงอย่างเดียวยังอยู่ในสังคมอย่างปลอดภัยมีความสุขไม่ได้สมบูรณ์หรอก ยังมีเรื่องควรรู้อีกตั้ง 6 อย่าง

รู้เหตุ รู้ผล รู้ตน รู้ประมาณ รู้กาล รู้สังคม รู้คน

เจ้าของ:  student [ 23 เม.ย. 2014, 04:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "ศรัทธากับปัญญา"

ความเชื่อกับปัญญาต้องมาคู่กัน เชื่อโดยไม่ไตร่ตรองหาเหตุผลก็อาจจะกลายเป็นความเชื่อที่งมงาย

เจ้าของ:  วิริยะ [ 23 เม.ย. 2014, 06:42 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "ศรัทธากับปัญญา"

กบนอกกะลา เขียน:
ผมว่า...นั้นเป็นศรัทธา..ทั้งคู่เลยนะครับ
อิอิ

"ศรัทธา" กับ "ปัญญา" ต่างกัน

"ศรัทธา" ความเชื่อ ..

เชื่อในทางที่ผิด เช่นเชื่อว่าภูตผีปีศาจ เจ้าป่าเจ้าเขา ให้คุณให้โทษได้
เชื่อในสิ่งที่พิกลพิการว่า ให้โชคให้ลาภ พากันกราบไหว้บูชา
ขอหวยขอเบอร์ เป็นต้น

เชื่อในทางที่ถูก คือ เชื่อกรรมเชื่อผลของกรรม เชื่อในพระพุทธ พระธรรม
พระสงฆ์ เป็นสรณที่พึ่งได้จริง ฯลฯ

"ปัญญา" ความรู้ทั่วรู้ถึง ..

รู้ดีรู้ชอบ รู้ผิดรู้ถูก รู้จักแยกแยะ รู้ถึงสิ่งที่เป็นประโยชน์และไร้ประโยชน์

ศรัทธามาก ปัญญาน้อย ก็กลายเป็นหลง งมงาย
ศรัทธาน้อย ปัญญามาก ก็เกิด อัตตา เกิดทิฏฐิมานะ

"ศรัทธา" กับ "ปัญญา" จึงไม่ใช่อันเดียวกัน แต่อยู่คู่กัน ..


:b1:

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 23 เม.ย. 2014, 19:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "ศรัทธากับปัญญา"

วิริยะ เขียน:
"ศรัทธา" ..

ความเชื่อ เป็นเรื่องของคนแต่ละบุคคล พ่อแม่ญาติพี่น้อง
สามีภรรยา ไม่ใช่ว่าจะต้องเชื่อเหมือนกัน หรือเชื่อตามกันเสมอไป


ศรัทธา..

วิริยะ เขียน:

"ปัญญา" ..

เป็นอีกเรื่องที่แต่ละคนอบรมมาก็ไม่เหมือนกัน การโน้มน้าวให้เปลี่ยนความคิด
เปลี่ยนความเชื่อ ตามที่เราต้องการนั้น ก็ยิ่งยาก ยิ่งกดดันก็ยิ่งขัดแย้ง ..

ถึงเราจะคิดว่านั้นเพราะหวังดี ปรารถนาดี ก็ใช่ว่าคนอื่นเขาจะเห็นด้วยกับเรา
เราทำหน้าที่ของเราแล้ว เมื่อเราชี้แล้ว เขาไม่เห็นด้วย ก็ต้องปล่อย ก็ต้องวาง

:b1:

นี้ก็ศรัทธาในความรู้ของตน...จน...อดไม่ไหว.อยากให้คนอื่นเชื่อตาม...

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 30 เม.ย. 2014, 06:29 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "ศรัทธากับปัญญา"

ศรัทธา กับ ปัญญา

ศรัทธา แปลว่า ความเชื่อ หมายถึงความเชื่อที่ประกอบด้วยปัญญา
เชื่อในสิ่งที่มีเหตุผล เชื่อในสิ่งที่ควรเชื่อ

ถ้าเชื่อโดยปราศจากปัญญา คือ ความน้อมใจเชื่อตาม เชื่อตามเขา
เป็นความเชื่อที่ประกอบด้วย อธิโมกข์ เชื่อตามที่เขาพูดมา เชื่อตามต่อๆกันมา
คือเห็นเขาทำก็ทำตาม เขาให้ทำก็ทำตาม เชื่อในสิ่งที่เขาจะบันดานให้เป็นได้ เป็นต้น

ศรัทธามีหลักความเชื่อ ๔ ประการ คือ

๑. กัมมสัทธา เชื่อว่าเรื่องกรรมมีจริง
๒. วิปากสัทธา เชื่อว่าผลของกรรมมีจริง
๓. กัมมัสสกตาสัทธา เชื่อว่าสัตว์โลกมีกรรมเป็นของตนเอง
๔. ตถาคตโพธิสัทธา เชื่อในความตรัสรู้ของพระพุทธเจ้า

ปัญญา แปลว่า ความรู้ทั่ว คือรู้ทั่วถึงเหตุและผลได้ชัดเจน
รู้ในบาปบุญคุณโทษ รู้ในสิ่งที่ควรทำควรเว้น ซึ่งเป็นธรรมที่คอยกำกับศัทธา
ซึ่งจะทำให้ไม่หลงเชื่อในสิ่งที่งมงาย อย่างไร้เหตุผล

ปัญญา สามารถทำให้เกิดขึ้นได้ ๓ ทางคือ

๑. สุตมยปัญญา เกิดจากการสดับรับฟัง การศึกษาเล่าเรียน
๒. จินตามยปัญญา เกิดจากคิดค้น การตรึกตรองตาม
๓. ภาวนามยปัญญา เกิดจากการอบรมจิต การเจริญภาวนา

ถ้าถือเอาในหลักการนี้ตามที่พระพุทธองค์ทรงสั่งสอนไว้ก็พอจะแยกแยะได้ว่า
ศรัทธา กับ ปัญญา ย่อมแตกต่างกัน และมีหน้าที่แตกต่างกัน อย่างชัดเจน

เจ้าของ:  วิริยะ [ 05 พ.ค. 2014, 08:38 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "ศรัทธากับปัญญา"

ขอขอบคุณทุกความคิดเห็นครับ ขอบคุณลุงหมาน สาธุ :b8:

:b1:

เจ้าของ:  ปฤษฎี [ 05 พ.ค. 2014, 18:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: "ศรัทธากับปัญญา"

ศรัทธา ก็คือความเชื่อ มีความผ่องใสเป็นลักษณะ เป็นธรรมะฝ่ายดีเท่านั้น
บางครั้งศรัทธาก็เกิดโดยไม่ประกอบด้วยปัญญาได้เหมือนกัน เช่น เวลาเด็กน้อยๆ เห็นผู้ใหญ่ใส่บาตรพระ ก็เลยใส่ตาม โดยไม่ได้รู้เรื่องเหตุผลอะไร จิตก็ประกอบด้วยศรัทธาได้ มีความผ่องใส แต่ไม่ได้ประกอบด้วยปัญญา หรือ พ่อแม่บอกให้เด็กเล็กไหว้พระภิกษุเด็กก็ไหว้โดยไม่ได้รู้อะไร จิตขณะนั้นก็เป็นกุศลได้ มีศรัทธาแต่ไม่ได้ประกอบด้วยปัญญา เป็นต้น

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/