วันเวลาปัจจุบัน 25 เม.ย. 2024, 20:46  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 69 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป  Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2014, 18:39 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


การประพฤติปฏิบัติธรรมนั้นไม่ใช่สิ่งที่ยากเกินไปสามารถปฏิบัติได้ทุกเวลาและการปฏิบัติธรรมแต่ละครั้งไม่จำกัดสถานที่แต่เราสามารถที่จะปฏิบัติได้ง่ายๆ. เช่น. ในขณะที่เราเดินเรามีสติรู้ตัวว่าเรากำลังเดินเมื่อลมมากระทบเราก็รู้ว่ามีลมมากระทบเมื่อมีแสงแดดส่องเราก็รู้ว่าร้อน. เมื่อรับประทานอาหารเราก็รู้รสชาตของอาการเมื่อโกรดเราก็รู้ว่าโกรธนี่แหละคือมีสติรู้เท่าทันปัจจุบันอารมณ์ กรรมฐานนี้ไม่ใช่อะไรที่ยากเกินไปและไม่ง่ายเกินไปแต่จะเน้นไปที่การเดินทางสายกลาง. ไม่ใช่การเพ่งและไม่ใช่การปล่อยผระละเลยเกินไปแต่เพิงสักแต่ว่ารู้ รู้แบบไม่ยึดติดนี่แหละคือสิ่งที่เรียกว่าปัจจุบันอารมณ์


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 09 ก.ค. 2014, 21:10 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b8:
สาธุ อนุโมทนากับผลบุญที่พึงได้จากการแสดง ปัจจุบันอารมณ์
:b27:
ขอกุศลจงเผยแผ่ไปถึง ผู้ที่ยังหลงทางธรรมทั้งหลาย ให้ได้เห็นคุณค่าของปัจจุบันอารมณ์เถิด
:b38:
:b37:
:b36:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 09:48 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
:b8:
สาธุ อนุโมทนากับผลบุญที่พึงได้จากการแสดง ปัจจุบันอารมณ์
:b27:
ขอกุศลจงเผยแผ่ไปถึง ผู้ที่ยังหลงทางธรรมทั้งหลาย ให้ได้เห็นคุณค่าของปัจจุบันอารมณ์เถิด



อโศก พูดเหมือนกับว่า พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้คิดถึงเรื่ออดีต กับ อนาคต คิดแต่ปัจจุบันยังงั้นแหละ :b10:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 10:32 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
สาธุ อนุโมทนากับผลบุญที่พึงได้จากการแสดง ปัจจุบันอารมณ์
:b27:
ขอกุศลจงเผยแผ่ไปถึง ผู้ที่ยังหลงทางธรรมทั้งหลาย ให้ได้เห็นคุณค่าของปัจจุบันอารมณ์เถิด



อโศก พูดเหมือนกับว่า พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้คิดถึงเรื่ออดีต กับ อนาคต คิดแต่ปัจจุบันยังงั้นแหละ :b10:

:b3: :b3:
:b7: :b7:
กรัชกายมัวไปอยู่ไหนมาจึงไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนว่าอดีตก็ละไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่มา ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าอย่างแจ่มแจ้ง(ปัจจุบันอารมณ์) เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้
onion onion onion


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 10:42 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
สาธุ อนุโมทนากับผลบุญที่พึงได้จากการแสดง ปัจจุบันอารมณ์
:b27:
ขอกุศลจงเผยแผ่ไปถึง ผู้ที่ยังหลงทางธรรมทั้งหลาย ให้ได้เห็นคุณค่าของปัจจุบันอารมณ์เถิด



อโศก พูดเหมือนกับว่า พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้คิดถึงเรื่ออดีต กับ อนาคต คิดแต่ปัจจุบันยังงั้นแหละ :b10:

:b3: :b3:
:b7: :b7:
กรัชกายมัวไปอยู่ไหนมาจึงไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนว่าอดีตก็ละไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่มา ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าอย่างแจ่มแจ้ง (ปัจจุบันอารมณ์) เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้


นึกแล้ว :b1:


คือ การที่มีผู้เข้าใจผิดเกี่ยวกับความหมายของ การเป็นอยู่ในปัจจุบัน หรือ มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ โดยเห็นไปว่า พระพุทธศาสนาสอนให้คิดถึงสิ่งที่อยู่เฉพาะหน้า กำลังเป็นไปในปัจจุบันเท่านั้น ไม่ให้คิดพิจารณาเกี่ยวกับ อดีต หรือ อนาคต ตลอดจนไม่ให้คิดเตรียมการ หรือ วางแผนงานเพื่อกาลภายหน้า

เมื่อเข้าใจผิดแล้ว ถ้าเป็นผู้ปฏิบัติธรรม ก็เลยปฏิบัติผิดจากหลักพระพุทธศาสนา ถ้าเป็นบุคคลภายนอกมองเข้ามา ก็เลยเพ่งว่า ถึงผลร้ายต่างๆ ที่พระพุทธศาสนาจะนำมาให้แก่หมู่ชนผู้ปฏิบัติ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 14:00 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
สาธุ อนุโมทนากับผลบุญที่พึงได้จากการแสดง ปัจจุบันอารมณ์
:b27:
ขอกุศลจงเผยแผ่ไปถึง ผู้ที่ยังหลงทางธรรมทั้งหลาย ให้ได้เห็นคุณค่าของปัจจุบันอารมณ์เถิด



อโศก พูดเหมือนกับว่า พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้คิดถึงเรื่ออดีต กับ อนาคต คิดแต่ปัจจุบันยังงั้นแหละ :b10:

:b3: :b3:
:b7: :b7:
กรัชกายมัวไปอยู่ไหนมาจึงไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนว่าอดีตก็ละไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่มา ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าอย่างแจ่มแจ้ง (ปัจจุบันอารมณ์) เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้


นึกแล้ว :b1:


คือ การที่มีผู้เข้าใจผิดเกี่ยวกับความหมายของ การเป็นอยู่ในปัจจุบัน หรือ มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ โดยเห็นไปว่า พระพุทธศาสนาสอนให้คิดถึงสิ่งที่อยู่เฉพาะหน้า กำลังเป็นไปในปัจจุบันเท่านั้น ไม่ให้คิดพิจารณาเกี่ยวกับ อดีต หรือ อนาคต ตลอดจนไม่ให้คิดเตรียมการ หรือ วางแผนงานเพื่อกาลภายหน้า

เมื่อเข้าใจผิดแล้ว ถ้าเป็นผู้ปฏิบัติธรรม ก็เลยปฏิบัติผิดจากหลักพระพุทธศาสนา ถ้าเป็นบุคคลภายนอกมองเข้ามา ก็เลยเพ่งว่า ถึงผลร้ายต่างๆ ที่พระพุทธศาสนาจะนำมาให้แก่หมู่ชนผู้ปฏิบัติ

:b3: :b3: :b3:
คิดแบบโลกย์ๆ สุดๆ อีกแล้วกรัชกาย อย่างนี้คือลักษณะของนักวิชาการหรือนักทฤษฎี สุดโต่ง ตัวจริง

ในคำสอนพระบรมศาสดาก็มิได้ทรงบังคับตายตัว ว่าต้องปัจจุบันอย่างเดียวนะ แล้วธรรมชาติของปุถุชนก็ไม่สามารถจะอยู่กับปัจจุบันได้เต็มร้อยย่อมต้องไปเกี่ยวข้องกับอดีตอนาคตบ้างเป็นธรรมดา บัณฑิตย่อมเข้าใจเรื่องธรรมดาอย่างนี้อยู่แล้ว มีแต่พาลชนเท่านั้นที่ไม่เข้าใจและดึงดันว่าต้องอย่างนั้นถึงใช่อย่างนี้ไม่ใช่ อย่างที่กรัชกายกำลังเป็นคือคิดทำอะไรก็สุดโต่งไปหมด ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เร่งปรับปรุงแก้ไขตนเองเสียนะ ไม่อย่างนั้นชีวิตจะมีแต่ความเครียด ทุกข์ร้อน ขัดเคืองใจ

:b18:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 10 ก.ค. 2014, 15:25 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
:b8:
สาธุ อนุโมทนากับผลบุญที่พึงได้จากการแสดง ปัจจุบันอารมณ์
:b27:
ขอกุศลจงเผยแผ่ไปถึง ผู้ที่ยังหลงทางธรรมทั้งหลาย ให้ได้เห็นคุณค่าของปัจจุบันอารมณ์เถิด



อโศก พูดเหมือนกับว่า พระพุทธเจ้าสอนไม่ให้คิดถึงเรื่ออดีต กับ อนาคต คิดแต่ปัจจุบันยังงั้นแหละ :b10:

:b3: :b3:
:b7: :b7:
กรัชกายมัวไปอยู่ไหนมาจึงไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนว่าอดีตก็ละไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่มา ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าอย่างแจ่มแจ้ง (ปัจจุบันอารมณ์) เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้


นึกแล้ว :b1:


คือ การที่มีผู้เข้าใจผิดเกี่ยวกับความหมายของ การเป็นอยู่ในปัจจุบัน หรือ มีปัจจุบันธรรมเป็นอารมณ์ โดยเห็นไปว่า พระพุทธศาสนาสอนให้คิดถึงสิ่งที่อยู่เฉพาะหน้า กำลังเป็นไปในปัจจุบันเท่านั้น ไม่ให้คิดพิจารณาเกี่ยวกับ อดีต หรือ อนาคต ตลอดจนไม่ให้คิดเตรียมการ หรือ วางแผนงานเพื่อกาลภายหน้า

เมื่อเข้าใจผิดแล้ว ถ้าเป็นผู้ปฏิบัติธรรม ก็เลยปฏิบัติผิดจากหลักพระพุทธศาสนา ถ้าเป็นบุคคลภายนอกมองเข้ามา ก็เลยเพ่งว่า ถึงผลร้ายต่างๆ ที่พระพุทธศาสนาจะนำมาให้แก่หมู่ชนผู้ปฏิบัติ


คิดแบบโลกย์ๆ สุดๆ อีกแล้วกรัชกาย อย่างนี้คือลักษณะของนักวิชาการหรือนักทฤษฎี สุดโต่ง ตัวจริง

ในคำสอนพระบรมศาสดาก็มิได้ทรงบังคับตายตัว ว่าต้องปัจจุบันอย่างเดียวนะ แล้วธรรมชาติของปุถุชนก็ไม่สามารถจะอยู่กับปัจจุบันได้เต็มร้อยย่อมต้องไปเกี่ยวข้องกับอดีตอนาคตบ้างเป็นธรรมดา บัณฑิตย่อมเข้าใจเรื่องธรรมดาอย่างนี้อยู่แล้ว มีแต่พาลชนเท่านั้นที่ไม่เข้าใจและดึงดันว่าต้องอย่างนั้นถึงใช่อย่างนี้ไม่ใช่ อย่างที่กรัชกายกำลังเป็นคือคิดทำอะไรก็สุดโต่งไปหมด ไม่เป็นไปตามธรรมชาติ เร่งปรับปรุงแก้ไขตนเองเสียนะ ไม่อย่างนั้นชีวิตจะมีแต่ความเครียด ทุกข์ร้อน ขัดเคืองใจ
:b18:



คิกๆๆ คห.ก่อนหน้า V ว่า พอเราค้านเข้าหน่อย คห.นี้ ^ ว่า ไปน้ำขุ่นคลักเชีย :b32:

กรัชกายมัวไปอยู่ไหนมา จึงไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนว่าอดีตก็ละไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่มา ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าอย่างแจ่มแจ้ง (ปัจจุบันอารมณ์) เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้


อโศกไม่ละอายใจมั่งหรอ ปาดโธ่ ดิ้นไปได้ :b32:

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2014, 08:27 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


:b12: :b12:
ก็กรัชกายเป็นอย่างนั้นจริงๆ

"คุ้ยอดีต คิดปรุงแต่เรื่องอนาคต"

:b34:
ปัจจุบันอารมณ์เป็นอย่างไร ไม่ใส่ใจศึกษาและกำหนด
ปล่อยชีวิตให้เต้นโลดไปตามวิบากแห่งอดีตกรรม

:b7:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2014, 09:26 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 25 เม.ย. 2009, 02:43
โพสต์: 12232


 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

:b3: :b3:
:b7: :b7:
กรัชกายมัวไปอยู่ไหนมาจึงไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงสอนว่าอดีตก็ละไปแล้ว อนาคตก็ยังไม่มา ผู้ใดเห็นธรรมอันเกิดขึ้นเฉพาะหน้าอย่างแจ่มแจ้ง(ปัจจุบันอารมณ์) เขาควรพอกพูนอาการเช่นนั้นไว้
onion onion onion


อโศกะพอที่จะยกตัวอย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสสอนเรื่องนี้มาเป็นวิทยาทานหน่อยได้มั่ยครับ....พอดีกำลังคิดเรื่องนี้อยู่เลย...


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2014, 19:27 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:

ก็กรัชกายเป็นอย่างนั้นจริงๆ

"คุ้ยอดีต คิดปรุงแต่เรื่องอนาคต"

ปัจจุบันอารมณ์เป็นอย่างไร ไม่ใส่ใจศึกษาและกำหนด
ปล่อยชีวิตให้เต้นโลดไปตามวิบากแห่งอดีตกรรม


อโศกเคยได้ยินคำว่า อตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ ไหม :b1:

มั่นใจมากขึ้นๆแล้วว่า พุทธธรรมไม่ใช่ง่ายจริงๆ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2014, 21:46 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

ก็กรัชกายเป็นอย่างนั้นจริงๆ

"คุ้ยอดีต คิดปรุงแต่เรื่องอนาคต"

ปัจจุบันอารมณ์เป็นอย่างไร ไม่ใส่ใจศึกษาและกำหนด
ปล่อยชีวิตให้เต้นโลดไปตามวิบากแห่งอดีตกรรม


อโศกเคยได้ยินคำว่า อตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ ไหม :b1:

มั่นใจมากขึ้นๆแล้วว่า พุทธธรรมไม่ใช่ง่ายจริงๆ

:b6:
อติตังสญาณ อนาคตังสญาณ มันคนละเรื่องกับการเจริญสติ ปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์
มันเป็นเรื่องของโพธิญาณของพระพุทธเจ้า ไกลเกินกว่าที่เราปุถุชนทั้งหลายจะเอามาคุยกันเล่นๆ มันเป็นเรื่องของผลพลอยได้จากการเจริญวิปัสสนาภาวนา ......กรัชกายกำลังพยายามจะจับแพะมาชนแกะ เพื่อสนับสนุนความคิดความเห็นของตนเอง

พุทธธรรมไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินล้นพ้นวิสัย
หากได้พบกัลยาณมิตร ผู้เลิศไกล
ก็จักเป็นเรื่องง่ายไปทุกอัน

เพราะไปคบคนพาล สันดานหยาบ
จึงถูกบาปบดบังตาเอาไว้มั่น
เห็นธรรมง่าย กลายเป็นยากเป็นมากครัน
เป็นนิวรณ์ขวางกั้นทางสู่ธรรม

:b43: :b44: :b45: :b53:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 16 ก.ค. 2014, 22:03 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

ก็กรัชกายเป็นอย่างนั้นจริงๆ

"คุ้ยอดีต คิดปรุงแต่เรื่องอนาคต"

ปัจจุบันอารมณ์เป็นอย่างไร ไม่ใส่ใจศึกษาและกำหนด
ปล่อยชีวิตให้เต้นโลดไปตามวิบากแห่งอดีตกรรม


อโศกเคยได้ยินคำว่า อตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ ไหม :b1:

มั่นใจมากขึ้นๆแล้วว่า พุทธธรรมไม่ใช่ง่ายจริงๆ

:b6:
อติตังสญาณ อนาคตังสญาณ มันคนละเรื่องกับการเจริญสติ ปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์
มันเป็นเรื่องของโพธิญาณของพระพุทธเจ้า ไกลเกินกว่าที่เราปุถุชนทั้งหลายจะเอามาคุยกันเล่นๆ มันเป็นเรื่องของผลพลอยได้จากการเจริญวิปัสสนาภาวนา ......กรัชกายกำลังพยายามจะจับแพะมาชนแกะ เพื่อสนับสนุนความคิดความเห็นของตนเอง

พุทธธรรมไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินล้นพ้นวิสัย
หากได้พบกัลยาณมิตร ผู้เลิศไกล
ก็จักเป็นเรื่องง่ายไปทุกอัน

เพราะไปคบคนพาล สันดานหยาบ
จึงถูกบาปบดบังตาเอาไว้มั่น
เห็นธรรมง่าย กลายเป็นยากเป็นมากครัน
เป็นนิวรณ์ขวางกั้นทางสู่ธรรม



อ้างคำพูด:
หากได้พบกัลยาณมิตร ผู้เลิศไกล
ก็จักเป็นเรื่องง่ายไปทุกอัน


อโศกนี่โลกสวยจริงๆนะขอรับ :b32:

หัวใจเศรษฐี คือ อุ อา ก ส อโศกว่าง่ายใช่ไหม

อ้างคำพูด:
การเจริญสติ ปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์


อโศกรู้จักสติปัญญาดีแล้วใช่ไหมครับ ไหนลองเจริญสติปัญญาให้เข้ากับปัจจุบันในการพัฒนาจิตสิครับ เอาชัดๆเอาให้คนฟังเขานำไปใช้ได้นะ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 ก.ค. 2014, 17:12 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิก ระดับ 1
สมาชิก ระดับ 1
ลงทะเบียนเมื่อ: 09 ก.ค. 2009, 15:30
โพสต์: 36

งานอดิเรก: เล่นแมว
สิ่งที่ชื่นชอบ: นอน
ชื่อเล่น: มู่
อายุ: 24

 ข้อมูลส่วนตัว


Kiss สาทุค่ะ s002 s006 cry s007 s005

.....................................................
ใช้ดาบฟาดน้ำน้ำยิ่งไหลโชก ยกแก้วกับโศกโศกยิ่งทุกข์หนัก


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 06:05 
 
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 18 ก.ย. 2011, 21:51
โพสต์: 4941


 ข้อมูลส่วนตัว


กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

ก็กรัชกายเป็นอย่างนั้นจริงๆ

"คุ้ยอดีต คิดปรุงแต่เรื่องอนาคต"

ปัจจุบันอารมณ์เป็นอย่างไร ไม่ใส่ใจศึกษาและกำหนด
ปล่อยชีวิตให้เต้นโลดไปตามวิบากแห่งอดีตกรรม


อโศกเคยได้ยินคำว่า อตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ ไหม :b1:

มั่นใจมากขึ้นๆแล้วว่า พุทธธรรมไม่ใช่ง่ายจริงๆ

:b6:
อติตังสญาณ อนาคตังสญาณ มันคนละเรื่องกับการเจริญสติ ปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์
มันเป็นเรื่องของโพธิญาณของพระพุทธเจ้า ไกลเกินกว่าที่เราปุถุชนทั้งหลายจะเอามาคุยกันเล่นๆ มันเป็นเรื่องของผลพลอยได้จากการเจริญวิปัสสนาภาวนา ......กรัชกายกำลังพยายามจะจับแพะมาชนแกะ เพื่อสนับสนุนความคิดความเห็นของตนเอง

พุทธธรรมไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินล้นพ้นวิสัย
หากได้พบกัลยาณมิตร ผู้เลิศไกล
ก็จักเป็นเรื่องง่ายไปทุกอัน

เพราะไปคบคนพาล สันดานหยาบ
จึงถูกบาปบดบังตาเอาไว้มั่น
เห็นธรรมง่าย กลายเป็นยากเป็นมากครัน
เป็นนิวรณ์ขวางกั้นทางสู่ธรรม



อ้างคำพูด:
หากได้พบกัลยาณมิตร ผู้เลิศไกล
ก็จักเป็นเรื่องง่ายไปทุกอัน


อโศกนี่โลกสวยจริงๆนะขอรับ :b32:

หัวใจเศรษฐี คือ อุ อา ก ส อโศกว่าง่ายใช่ไหม

อ้างคำพูด:
การเจริญสติ ปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์


อโศกรู้จักสติปัญญาดีแล้วใช่ไหมครับ ไหนลองเจริญสติปัญญาให้เข้ากับปัจจุบันในการพัฒนาจิตสิครับ เอาชัดๆเอาให้คนฟังเขานำไปใช้ได้นะ

:b12:
ก็บอกย้ำอยู่บ่อยๆแล้วยังไงทำไมกรัชกายไม่ใส่ใจจำ นำไปใช้

"สำรวมกาย ใจ มานิ่งรู้ นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์ จนมันดับไปต่อหน้าต่อตา ทุกอารมณ์"
onion
นี่เป็นสูตรสำเร็จ ที่คิดค้นทดสอบให้ผู้คนปฏิบัติจริงและได้รับความสำเร็จมามากมาย ในภาษา ที่คนรุ่นใหม่ฟังรู้เรื่องและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้
:b38:
กรัชกายไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามไปจะขาย ชี้แจง แสดงให้ฟัง
:b4:


โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 18 ก.ค. 2014, 07:44 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
สมาชิกระดับสูงสุด
สมาชิกระดับสูงสุด
ลงทะเบียนเมื่อ: 24 ต.ค. 2006, 12:36
โพสต์: 33766

อายุ: 0

 ข้อมูลส่วนตัว


asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:
กรัชกาย เขียน:
asoka เขียน:

ก็กรัชกายเป็นอย่างนั้นจริงๆ

"คุ้ยอดีต คิดปรุงแต่เรื่องอนาคต"

ปัจจุบันอารมณ์เป็นอย่างไร ไม่ใส่ใจศึกษาและกำหนด
ปล่อยชีวิตให้เต้นโลดไปตามวิบากแห่งอดีตกรรม


อโศกเคยได้ยินคำว่า อตีตังสญาณ อนาคตังสญาณ ไหม :b1:

มั่นใจมากขึ้นๆแล้วว่า พุทธธรรมไม่ใช่ง่ายจริงๆ

:b6:
อติตังสญาณ อนาคตังสญาณ มันคนละเรื่องกับการเจริญสติ ปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์
มันเป็นเรื่องของโพธิญาณของพระพุทธเจ้า ไกลเกินกว่าที่เราปุถุชนทั้งหลายจะเอามาคุยกันเล่นๆ มันเป็นเรื่องของผลพลอยได้จากการเจริญวิปัสสนาภาวนา ......กรัชกายกำลังพยายามจะจับแพะมาชนแกะ เพื่อสนับสนุนความคิดความเห็นของตนเอง

พุทธธรรมไม่ง่าย แต่ก็ไม่ยากจนเกินล้นพ้นวิสัย
หากได้พบกัลยาณมิตร ผู้เลิศไกล
ก็จักเป็นเรื่องง่ายไปทุกอัน

เพราะไปคบคนพาล สันดานหยาบ
จึงถูกบาปบดบังตาเอาไว้มั่น
เห็นธรรมง่าย กลายเป็นยากเป็นมากครัน
เป็นนิวรณ์ขวางกั้นทางสู่ธรรม



อ้างคำพูด:
หากได้พบกัลยาณมิตร ผู้เลิศไกล
ก็จักเป็นเรื่องง่ายไปทุกอัน


อโศกนี่โลกสวยจริงๆนะขอรับ :b32:

หัวใจเศรษฐี คือ อุ อา ก ส อโศกว่าง่ายใช่ไหม

อ้างคำพูด:
การเจริญสติ ปัญญาอยู่กับปัจจุบันอารมณ์


อโศกรู้จักสติปัญญาดีแล้วใช่ไหมครับ ไหนลองเจริญสติปัญญาให้เข้ากับปัจจุบันในการพัฒนาจิตสิครับ เอาชัดๆเอาให้คนฟังเขานำไปใช้ได้นะ

:b12:
ก็บอกย้ำอยู่บ่อยๆแล้วยังไงทำไมกรัชกายไม่ใส่ใจจำ นำไปใช้

"สำรวมกาย ใจ มานิ่งรู้ นิ่งสังเกตปัจจุบันอารมณ์ จนมันดับไปต่อหน้าต่อตา ทุกอารมณ์"
onion
นี่เป็นสูตรสำเร็จ ที่คิดค้นทดสอบให้ผู้คนปฏิบัติจริงและได้รับความสำเร็จมามากมาย ในภาษา ที่คนรุ่นใหม่ฟังรู้เรื่องและสามารถนำไปสู่การปฏิบัติจริงได้
:b38:
กรัชกายไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามไปจะขาย ชี้แจง แสดงให้ฟัง
:b4:



ถามนี้
อ้างคำพูด:
หัวใจเศรษฐี คือ อุ อา ก ส อโศกว่าง่ายใช่ไหม


ไม่ตอบ เอาแต่ยกประโยคที่ตนเองท่องจนคล่องมาพูด :b1:อย่างไม่ดูตาม้าตาเรือ

.....................................................
https://dhammachati.blogspot.com/


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 69 โพสต์ ]  ไปที่หน้า 1, 2, 3, 4, 5  ต่อไป

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: ไม่มีสมาชิก และ บุคคลทั่วไป 127 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร