ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

การจำได้
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=48300
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  denchai [ 28 ก.ค. 2014, 22:01 ]
หัวข้อกระทู้:  การจำได้

ถามครับ ในเมื่อจิตเราเกิดดับอยู่ตลอดเหตุใดเราจึงจดจำเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาได้ครับ

เจ้าของ:  student [ 28 ก.ค. 2014, 23:09 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การจำได้

จิตคือสภาวะที่แล่นไปทั่ว ไปที่แขนบ้าง ตาบ้าง กลิ่นบ้าง เสียงบ้าง ลมหายใจเข้าออกบ้าง ที่เราจดจำเรื่องราวนั้นคือ สัญญาขันธ์ครับ ( ขันธ์5 _รูป_เวทนา_สัญญา_สังขาร_วิญญาณ)
จิตไม่ได้ทำหน้าที่จำ
สัญญาทำหน้าที่จำครับผม

เจ้าของ:  student [ 28 ก.ค. 2014, 23:20 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การจำได้

ส่วนที่จำเรื่องราวนั้นต้องอาศัยสมอง ข้อมูลต่างๆถูกบันทึกลงที่รูป (สมอง)
พอจะเอาเรื่องราวต่างๆออกมาก็ต้องอาศัยจิตไปครบองค์ประชุมกับอายตนะใน_นอก เกิดผัสสะ แล้วเกิดสังขารคือความคิดครับ

เจ้าของ:  เช่นนั้น [ 29 ก.ค. 2014, 00:48 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การจำได้

denchai เขียน:
ถามครับ ในเมื่อจิตเราเกิดดับอยู่ตลอดเหตุใดเราจึงจดจำเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมาได้ครับ

วิญญาณเกิด เพราะนามรูปเป็นปัจจัย
นามรูปเกิด เพราะ วิญญาณเป็นปัจจัย
จิตดับ เพราะนามรูปดับ
นามรูปดับเพราะจิตดับ

เกิด เพราะ เข้าถึงด้วยความเพลิน ความพร่ำถึง ความดื่มด่ำ นามรูป
นามรูป ประกอบด้วย รูปธาตุ เวทนาธาตุ สัญญาธาตุ สังขารธาตุ วิญญาณธาตุ

เมื่อธาตุรู้มีความเศร้าหมองเพราะเข้าไปตั้งอยู่ ด้วยความเพลิน ความพร่ำถึง ความดื่มด่ำใน รูปธาตุ เวทนาธาตุ สัญญาธาตุ วิญญาณธาตุ ความเกิดความดับ คือความทุกข์จึงเกิดขึ้น

ดังนั้น สัญญา ที่กล่าวว่าเกิดดับ ตามจิตนั้น กล่าวโดยลักษณะของการเข้าไปตั้งอยู่ หรือไม่เข้าไปตั้งอยู่ของธาตุรู้ด้วยความเพลิน ความพร่ำถึง ความดื่มด่ำในสัญญาธาตุนั้น

สัญญาธาตุก็เป็นคุณสมบัติหนึ่งของธาตุรู้ เพียงแต่ธาตุรู้นั้นจะเข้าไปตั้งอยู่หรือไม่ตั้งอยู่ ด้วยความเพลิน ความพร่ำถึง ความดื่มด่ำ.

ถ้าธาตุรู้นั้นบริสุทธิ์ ก็ด้วยไม่มีเหตุปัจจัยให้เศร้าหมอง ธาตุรู้นั้นก็เป็นเพียงสิ่งๆ หนึ่ง
ซึ่งเป็นสิ่งไม่สลายเพราะ ความดับ ความเข้าไประงับ ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งรูปธาตุ เวทนาธาตุ สัญญาธาตุ สังขารธาตุ วิญญาณธาตุ.

ดังนั้นเราจึงจดจำเรื่องราวต่างๆ ได้ โดยความเป็นสัญญาธาตุ.

Quote Tipitaka:
[๗๐] พระนครสาวัตถี. ณ ที่นั้นแล ฯลฯ ดูกรภิกษุทั้งหลาย เราจักแสดงภาวะสลาย
และภาวะไม่สลาย เธอทั้งหลายจงฟัง. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ก็อะไรเป็นภาวะสลาย อะไรเป็น
ภาวะไม่สลาย? รูปเป็นภาวะสลาย ความดับ ความเข้าไประงับ ความตั้งอยู่ไม่ได้แห่งรูปนั้น
นี้เป็นภาวะไม่สลาย. เวทนาเป็นภาวะสลาย ฯลฯ สัญญาเป็นภาวะสลาย ฯลฯ สังขารเป็นภาวะ
สลาย ฯลฯ วิญญาณเป็นภาวะสลาย ความดับ ความเข้าไประงับ ความตั้งอยู่ไม่ได้ แห่งวิญญาณ
นั้น นี้เป็นภาวะไม่สลาย.


http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=17&A=723&Z=738&pagebreak=0

http://84000.org/tipitaka/pitaka2/v.php?B=17&A=1536&Z=1576&pagebreak=0
http://84000.org/tipitaka/pitaka_item/v.php?B=17&A=1247&Z=1301&pagebreak=0
Quote Tipitaka:
พ. ดูกรภิกษุ ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้วในโลกนี้ ฯลฯ ย่อมถึงความสะดุ้ง ในฐานะอันไม่ควร
สะดุ้ง. ดูกรภิกษุ ก็ปุถุชนผู้มิได้สดับแล้ว ย่อมมีความสะดุ้ง ดังนี้ว่า ถ้าเราไม่พึงมี แม้ขันธ-
*ปัญจกของเราก็ไม่พึงมี กรรมสังขารจักไม่มี ปฏิสนธิของเราก็จักไม่มี ดังนี้. ดูกรภิกษุ ส่วนอริย-
*สาวกผู้ได้สดับแล้วแล ฯลฯ ย่อมไม่ถึงความสะดุ้งในฐานะอันไม่ควรสะดุ้ง. ดูกรภิกษุ อริยสาวกผู้
ได้สดับแล้ว ไม่มีความสะดุ้งดังนี้ว่า ถ้าเราไม่พึงมี ขันธปัญจกของเราก็ไม่พึงมี กรรมสังขารจักไม่มี
ปฏิสนธิของเราก็จักไม่มี ดังนี้. ดูกรภิกษุ วิญญาณที่เข้าถึงรูปก็ดี เมื่อตั้งอยู่ พึงตั้งอยู่ วิญญาณที่มีรูป
เป็นอารมณ์ มีรูปเป็นที่ตั้ง มีความยินดีเป็นที่เข้าไปซ่องเสพ พึงถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์.
วิญญาณที่เข้าถึงเวทนาก็ดี ฯลฯ วิญญาณที่เข้าถึงสัญญาก็ดี ฯลฯ วิญญาณที่เข้าถึงสังขารก็ดี เมื่อ
ตั้งอยู่ พึงตั้งอยู่ วิญญาณที่มีสังขารเป็นอารมณ์ มีสังขารเป็นที่ตั้ง มีความยินดีเป็นที่เข้าไปซ่อง
เสพ พึงถึงความเจริญงอกงามไพบูลย์. ภิกษุนั้นพึงกล่าวอย่างนี้ว่า เราจักบัญญัติการมา การไป
จุติ อุปบัติ หรือความเจริญงอกงามไพบูลย์แห่งวิญญาณ เว้นจากรูป เวทนา สัญญา สังขาร
ดังนี้ ข้อนี้ไม่เป็นฐานะที่จะมีได้. ดูกรภิกษุทั้งหลาย ถ้าความกำหนัดในรูปธาตุ ในเวทนาธาตุ
ในสัญญาธาตุ ในสังขารธาตุ ในวิญญาณธาตุ เป็นอันภิกษุละได้แล้วไซร้ เพราะละความกำหนัด
เสียได้ อารมณ์ย่อมขาดสูญ ที่ตั้งแห่งวิญญาณย่อมไม่มี วิญญาณอันไม่มีที่ตั้งนั้น ไม่งอกงาม
ไม่แต่งปฏิสนธิ หลุดพ้นไป เพราะหลุดพ้นไป จึงดำรงอยู่
เพราะดำรงอยู่ จึงยินดีพร้อม
เพราะยินดีพร้อม จึงไม่สะดุ้ง เมื่อไม่สะดุ้ง ย่อมดับรอบเฉพาะตนเท่านั้น.
เธอย่อมรู้ชัดว่า
ชาติสิ้นแล้ว พรหมจรรย์อยู่จบแล้ว กิจที่ควรทำ ทำเสร็จแล้ว กิจอื่นเพื่อความเป็นอย่างนี้
มิได้มี. ดูกรภิกษุ เมื่อบุคคลรู้เห็นอย่างนี้แล อาสวะทั้งหลายย่อมสิ้นไป ในกาลเป็นลำดับ.

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 29 ก.ค. 2014, 07:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การจำได้

เมื่อจิตเกิดดับ จิตก็ยังทำหน้าที่อีกหนึ่งด้วย
คือทำหน้าที่ส่งต่อให้กับจิตดวงใหม่อีกด้วย อุปมาเหมือนนักกีฬาวิ่งผลัด

เจ้าของ:  denchai [ 31 ก.ค. 2014, 19:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การจำได้

ขออนุโมทนาในธรรมทานของท่านทั้งหลาย :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/