วันเวลาปัจจุบัน 28 มี.ค. 2024, 17:58  



เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง




กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ]    Bookmark and Share
เจ้าของ ข้อความ
โพสที่ยังไม่ได้อ่าน เมื่อ: 17 มิ.ย. 2016, 04:57 
 
ภาพประจำตัวสมาชิก
ออฟไลน์
อาสาสมัคร
อาสาสมัคร
ลงทะเบียนเมื่อ: 06 มี.ค. 2009, 10:48
โพสต์: 5091


 ข้อมูลส่วนตัว


" การเตรียมอนาคต ที่สำคัญมากอย่างหนึ่ง
ก็คือการเตรียมอนาคต ในภพชาติเบื้องหน้า
ทุกคนจะมีชีวิตอยู่ ในชาตินี้อย่างมาก
ก็ประมาณร้อยขวบปีเท่านั้น จะทุกข์จะสุขใน
ภพชาตินี้ก็จะชั่วระยะ เวลาที่ไม่นานเท่าไร
โดยเฉพาะผู้ผ่านพ้น วัยเด็กมาศึกษาธรรม
อยู่แล้วในขณะนี้ ย่อมมีเวลาในภพชาตินี้
อีกไม่นานเลย ได้ความมั่งมีศรีสุข
ลาภ ยศ สรรเสริญ ในภพชาตินี้สักเพียงไร
ก็ไม่อาจรักษาไว้ได้นาน แต่ภพชาติในอนาคต
นั้นนานหนักหนา นับปีนับชาติไม่ได้
จึงควรเตรียมภพชาติ ในอนาคตมากกว่า
ที่ท่านเรียกว่าเตรียม เสบียงเดินทางไว้
สำหรับภพชาติข้างหน้า คือเตรียมบุญกุศลไว้
ให้พร้อม ให้เพียงพอ แก่ทางที่ไกลแสนไกล
จนประมาณไม่ได้ บุญกุศลที่จะเป็นเสบียง
เดินทางนั้นต้องประกอบ ด้วย ทาน ศีล ภาวนา
การทำจิตทำใจ ให้ผ่องแผ้ว บริสุทธิ์จาก
โลภ โกรธ หลง จำเป็นที่สุด สำคัญที่สุด
และก็มีโอกาสจะทำ ได้มากที่สุด
เพราะไม่ต้องประกอบ ด้วยอะไรอื่นเลย
ใจมีอยู่กับตัวเราเองแล้ว กิเลสก็อยู่กับใจนั่นเอง
ถอดถอนออกเสีย ให้เสมอทุกเวลานาที
ทุกอิริยาบถ ย่อมได้รับผลเป็น
เสบียงที่พึงปรารถนา ของนักเดินทางที่สุด "
(พระโอวาทธรรม สมเด็จพระญาณสังวร
สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก)







... คุณค่าของ " สติ "...

เมื่อมีสติแล้ว อะไรจะมาผูกมัดไม่ได้
ถ้ามีสติอยู่ทุกเมื่อ มันก็ไม่หลงใหล
นั่นแหละมารไม่สามารถจะมองเห็นได้

ตัวมาร คือ ไม่มีสติ, ตัวมาร คือ ความลุ่มหลง,
คือ ความประมาท เพลิดเพลินในกามคุณทั้งห้า
อันมี รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ( สัมผัสกาย )
เป็นดอกไม้ของมาร

เมื่อไปชมดอกไม้ มันก็ดักเอาตรงนั้นน่ะซี
ตาเห็นรูป มารก็ไปดักเอาตรงนั้น
มีความยินดีพอใจ หลงมัวเมาประมาท ตรงนั้นแหละ
ไปถูกบ่วงมารแล้ว หูได้ยินเสียง มันก็ดักเอาตรงนั้น
ที่ชอบใจ ไม่ชอบใจอะไรต่างๆ ถูกบ่วงหมด
กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ทั้งหมดทั้งดีและชั่ว
เรียกว่า ถูกบ่วงมารทั้งนั้น

เราทุกคนไม่มี “ สติ ” ได้ชื่อว่า ถูกบ่วงของมารแล้ว

หลวงปู่เทสก์ เทสรํสี






"นึกพุทโธๆ แล้วใจรู้สึกยังไงชอบกล เหมือนกับเอาพริกใส่เข้าไปในปากเด็ก เด็กร้องทันที ใจนี้เป็นอย่างนั้นนะ ใจแสลงใจไม่อยากรับ จึงเป็นวิธีที่ละเอียดมากเกี่ยวกับเรื่องปกครองจิตใจหรือรักษาใจให้มีคุณธรรม ให้มีความดีเป็นความชุ่มชื่นอบอุ่นภายในใจ

เพราะฉะนั้น ผู้หวังสารคุณแก่ตน แม้จะลำบากยากเย็นก็ควรฝึกอบรมใจเราให้คุ้นกับธรรม มี พุทฺโธ ธมฺโม สงฺโฆ เป็นต้น ให้ใจได้รับความสงบเย็น ถึงคราวจำเป็นจำใจมาคว้าปั๊บติดมือปั๊บทันที สุคโตเป็นที่หวังได้ ไม่เสียความหวังอันพึงใจ จิตเมื่อฝึกอบรมให้อยู่ในขอบเขตเหตุผลแล้วย่อมไม่ดื้อดึง ไม่ฝ่าฝืนเหตุผลที่ตนเห็นว่าถูกต้องชอบธรรมแล้ว จนใจยอมจำนนทุกอย่าง จะทำอะไร จะพูดอะไร ใจยอมเหตุผลที่ควรหรือไม่ควร ชื่อว่าเราปกครองตนได้เป็นขั้นๆ

ถ้ายิ่งปกครองได้อย่างพระพุทธเจ้าและสาวกท่านด้วยแล้วก็ยิ่งดีเยี่ยม ปกครองใจจนกลายเป็นใจที่บริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่แต่ก่อนเคยมีกิเลสตัณหาอาสวะฝังจมอยู่อย่างเต็มหัวใจ และก่อกวนวุ่นวายให้ได้รับความทุกข์ร้อนอยู่เรื่อยมา เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นตัวยุแหย่ก่อกวน แต่ชำระซักฟอกได้สะอาดหมดจด ด้วยอำนาจแห่งความเพียรพยายาม กลายเป็นใจที่บริสุทธิ์ขึ้นมา เรียกว่าวิมุตติพุทโธที่แท้จริง"

หลวงตาพระมหาบัว ญาณสัมปันโน
เมื่อวันที่ ๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๑๓


แสดงโพสต์จาก:  เรียงตาม  
กลับไปยังกระทู้  [ 1 โพสต์ ] 

เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง


 ผู้ใช้งานขณะนี้

กำลังดูบอร์ดนี้: Google [Bot] และ บุคคลทั่วไป 60 ท่าน


ท่าน ไม่สามารถ โพสต์กระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ตอบกระทู้ในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แก้ไขโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ ลบโพสต์ของท่านในบอร์ดนี้ได้
ท่าน ไม่สามารถ แนบไฟล์ในบอร์ดนี้ได้

ค้นหาสำหรับ:
ไปที่:  
Google
ทั่วไป เว็บธรรมจักร