| ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
| อำนาจของความตาย http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=48695 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 1 |
| เจ้าของ: | รสมน [ 09 พ.ย. 2014, 08:50 ] |
| หัวข้อกระทู้: | อำนาจของความตาย |
#อำนาจของความตาย "ความตายย่อมทำนรชน,ผู้มัวเก็บดอกไม้(คือกามารมณ์),มีใจข้องในอารมณ์ต่างๆ,ไม่อิ่มในกาม,ให้ไปสู่อำนาจ." ธรรมบท ๒๕/๒๑ #เวียนว่ายตายเกิด "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย!เปรียบเสมือนท่อนไม้ที่โยนขึ้นไปในอากาศ,บางครั้งก็ตกลงทางโคน,บางครั้งก็ตกลงทางกลาง,บางครั้งก็ตกลงทางปลาย.สัตว์ทั้งหลายผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น,มีตัณหาเป็นเครื่องผูกมัด,วิ่งไป,ท่องเที่ยวไปอยู่,บางครั้งก็ไปสู่โลกอื่นจากโลกนี้,บางครั้งก็มาสู่โลกนี้จากโลกอื่น,ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย!สงสาร(การเวียนว่ายตายเกิด)นี้,มีที่สุดอันตามไปไม่พบ,ไม่ปรากฏเงื่อนเบื้องต้น,เบื้องปลาย,ของสัตว์ผู้มีอวิชชาเป็นเครื่องกั้น,มีตัณหาเป็นเครื่องผูกมัด,วิ่งไป,ท่องเที่ยวไปอยู่.ควรเพื่อจะเบื่อหน่ายคลายกำหนัดในสังขารทั้งปวง,ควรที่จะพ้นไปเสีย." สังยุตตนิกาย นิทานวรรค ๑๖/๒๑๙ #ผู้ชื่นชมทุกข์ "ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย!ผู้ใดชื่นชมตา,หู,จมูก,ลิ้น,กาย,ใจ,ชื่นชมรูป,เสียง,กลิ่น,รส,โผฏฐัพพะ(สิ่งที่ถูกต้องได้)ธรรมะ(สิ่งที่รู้ได้ด้วยใจ),ผู้นั้นชื่อว่าชื่นชมทุกข์.ผู้ใดชื่นชมทุกข์,ผูนั้น,เรากล่าวว่า,ย่อมไม่พ้นไปจากทุกข์ได้"(๑๘/๑๖,๑๗) #เมตตาคือความมีจิตเย็นสนิทด้วยความปรารถนาสุขแก่ผู้อื่นสัตว์อื่น,เป็นความรักที่เย็นสนิท,ไม่ใช่ร้อนรน,เหมือนอย่างบิดามารดารักบุตรธิดา,ถ้าได้อบรมเมตตาให้มีประจำจิตใจ,ก็จะเป็นอาหารใจที่วิเศษ,เพราะเมื่อใจได้บริโภคเมตตาอยู่เสมอ,จะเป็นจิตใจที่ระงับโทสะพยาบาท,มีความสุขเย็น,ทำให้ร่างกายมีความสุขเย็นไปด้วย,ดังในคำว่า,ทำใจให้สบาย,ร่างกายก็สบาย,แม้จะขาดวัตถุไปมากหรือน้อยก็ไม่เป็นทุกข์◆ (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่๑๙) #เมื่อทำดีก็ได้ผลดีทันที,#เมื่อทำชั่วก็ได้ผลชั่วขึ้นทันที,อันผลดีผลชั่วที่ได้ทันทีนั้น,ก็คือความเป็นคนดีความเป็นคนชั่ว,เมื่อทำดีก็เป็นคนดีทันที,เมื่อทำชั่วก็เป็นคนชั่วทันที,ตนเองจะรู้หรือไม่รู้,คนอื่นจะรู้หรือไม่รู้,ก็ไม่เป็นเหตุให้เปลี่ยนแปลงสัจจะคือความจริงดังกล่าวนี้ได้◆(สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่๑๙) #เวร,เกิดจากความผูกใจเจ็บแค้นของบุคคลที่สอง,คือผู้รับความเสียหาย,ถ้าบุคคลที่สองไม่ผูกใจเจ็บ,ก็ไม่เกิดเป็นเวร,#การเกิดเวรเพราะบุคคลที่สองเป็นสำคัญ,#ถ้าใครมาทำความล่วงเกินเล็กๆน้อยๆต่อเรา,#เราไม่ผูกอาฆาต,#เขาและเราก็ไม่เกิดเป็นศัตรูกันคือไม่เกิดเป็นคู่เวรกันนั่นเอง,เหมือนอย่างตบมือข้างเดียวก็ไม่เกิดเสียง◆ (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๙) ..#คนที่เมา,#ประมาทขาดสติ,ขาดสัมปชัญญะ,#อาจผิดศีลได้ทุกข้อ,#อาจทำชั่วได้ทุกอย่าง,และเมื่อประมาทเสียแล้วก็เป็นคนหลงอย่างเต็มที่,ไม่รู้จักเหตุผล,ความควรไม่ควร,ไม่รู้จักดีชั่วผิดถูก,จะพูดชี้แจงอะไรกับคนเมาหาได้ไม่,คนเมาประมาทจึงเป็นเสมือนคนตกน้ำที่ทิ้งตัวเองลงไป,ช่วยตัวเองไม่ได้,หรือเหมือนคนดื่มยาพิษฆ่าตนเอง◆ (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่๑๙) #การภาวนาเป็นการสร้างบุญบารมีที่สูงที่สุดและยิ่งใหญ่ที่สุดในพระพุทธศาสนา,จัดว่าเป็นแก่นแท้และสูงกว่าศีลมากมายนัก.การเจริญภาวนานั้นมี ๒ อย่างคือ #๑สมถภาวนา(#การทำสมาธิ) •ได้แก่การทำจิตให้เป็นสมาธิหรือเป็นฌาน,ซึ่งก็คือการทำจิตให้มั่นคงอยู่ในอารมณ์เดียว.ไม่ฟุ้งซ่านแส่ส่ายไปยังอารมณ์อื่นๆ,วิธีภาวนานั้นมีมากมายหลายร้อยชนิด,ซึ่งพระพุทธองค์ทรงบัญญัติแบบอย่างเอาไว้๔๐ประการ,เรียกกันว่า"#กรรมฐาน๔๐",ซึ่งผู้ใดจะเลือกใช้วิธีใดก็ได้,ตามแต่สมัครใจ,ทั้งนี้ย่อมสุดแล้วแต่อุปนิสัยแล...ะวาสนาบารมี,ที่ได้เคยสร้างสมอบรมมาแต่ในอดีตชาติ,เมื่อสร้างสมอบรมมาในกรรมฐานกองใด,จิตก็มักจะน้อมชอบกรรมฐานกองนั้นมากกว่าและการเจริญภาวนาก็ก้าวหน้าเร็วและง่าย •อย่างไรก็ดี,การเจริญสมถภาวนาหรือสมาธินั้น,แม้จะได้บุญอานิสงส์มากมายมหาศาลเพียงใด,ก็ยังมิใช่บุญกุศลที่สูงสุดยอดในพระพุทธศาสนา,หากจะเปรียบกับต้นไม้,ก็เป็นเพียงเนื้อไม้เท่านั้น (#การเจริญวิปัสสนาหรือการเจริญปัญญาจึงเป็นการสร้างบุญกุศลที่สูงสุดยอดในพระพุทธศาสนา,#หากจะเปรียบก็เป็นแก่นไม้โดยแท้) และ #๒วิปัสสนาปัญญา(#การเจริญปัญญา) •เมื่อจิตของผู้บำเพ็ญตั้งมั่นในสมาธิ,จนมีกำลังดีแล้วเช่นอยู่ในฌานต่างๆซึ่งจะเป็นฌานระดับใดก็ได้,จิตของผู้บำเพ็ญเพียรก็ย่อมมีกำลังและอยู่ในสภาพที่นิ่มนวล,ควรแก่การเจริญวิปัสสนาต่อไปได้ •อารมณ์ของวิปัสสนานั้น,แตกต่างไปจากอารมณ์ของสมาธิ,เพราะสมาธินั้นมุ่งให้จิตอยู่ในอารมณ์ใดอารมณ์หนึ่งแต่เพียงอารมณ์เดียว,โดยแน่นิ่งอยู่เช่นนั้น,ไม่นึกไม่คิดอะไรๆ •#แต่วิปัสสนาไม่ใช่การให้จิตตั้งมั่นอยู่ในอารมณ์เดียวนิ่งอยู่เช่นนั้น,#แต่เป็นจิตที่ใคร่ครวญหาเหตุหาผลในสภาวธรรมทั้งหลาย,#และสิ่งที่เป็นอารมณ์ของวิปัสสนานั้นมีแต่เพียงอย่างเดียวคือขันธ์๕"#ซึ่งนิยมเรียกกันว่า"#รูปนาม",โดยรูปมี ๑ ส่วน,ส่วนนามนั้นมี ๔ คือเวทนา,สัญญา,สังขารและวิญญาณ◆ ★★★★★★★★ (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช องค์ที่ ๑๙) =#การชนะนั้นมิได้ประสงค์ให้ชนะในทางก่อเวร,แต่มุ่งให้เอาชนะตนเอง,#คือชนะจิตใจที่ใฝ่ชั่วของตนเองและเอาชนะเหตุการณ์แวดล้อมที่มาเป็นอุปสรรคแห่งความดี,เพื่อที่จะรักษาและเพิ่มพูนความดีของตนให้ดียิ่งๆขึ้นไป.= (สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช) เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ |
|
| เจ้าของ: | JANDHRA [ 09 พ.ย. 2014, 14:12 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: อำนาจของความตาย |
..อนุโมทนาแล้วๆๆ.. |
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 1 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|