ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ปรารถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=48857
หน้า 1 จากทั้งหมด 3

เจ้าของ:  nongkong [ 26 พ.ย. 2014, 19:38 ]
หัวข้อกระทู้:  ปรารถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

คุนน้องมีความปราถนาอย่างแรงกล้าที่จะได้เกิดในยุคของพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล หลายคนอาจจะสงสัยว่าสาวน้อยรัศมีธรรมมะเจิดจรัสผู้นี้ทำไมไม่ปฏิบัติเพื่อให้ถึงฝั่งพระนิพพานในชาติปัจจุบันนี่เลย เหตุใดต้องรอยุคพระศรีอาริ คุนน้องมีความเห็นว่า ถ้าลูกๆแต่ละคนเกรงกลัวภัยในสังสารวัฏกันหมดแล้วก็นิพพานกันหมด แล้วจะเหลือลูกคนไหนติดตามพ่อคนสุดท้ายในภัทรกัปนี้ คุนน้องรู้สึกมาตลอดว่า ตนเองเคยเกิดตั้งแต่สมัยพระพุทธเจ้าองค์แรก เวียนว่ายตายเกิดมาครบ31ภพภูมิแล้วละ จนชาติปัจจุบัณถึงมีบารมีทางธรรมติดตัวมา(คุนน้องมั่นใจว่ามีสุคติภูมิ เหมือนที่พระบางท่านยังมั่นใจว่าตนเป็นพระโพธิสัตว์นั่นแหละค่ะ อุปมา เหมือนเราทำข้อสอบเรารู้ตัวอยู่ละข้อไหนเราทำได้ข้อไหนเรามั่ว :b32: )
เพราะฉะนั้นจะเกิดในยุคพระศรีอาริยะเมตรไตยอีกชาติจะเป็นไร อยากช่วยพระองค์เผยแพร่พระธรรมคำสอน และมีบางอย่างที่คุนน้องแตกต่างจากชาวพุทธทั่วไปคือ ไม่แบ่งแยกศาสนา ไม่รู้นะแต่ความรู้สึกคุนน้องมองเห็นศาสนาทุกศาสนาเท่าเทียมกันในแง่ ทัศนคติและคุนน้องก็ไม่เคยยกย่องว่าศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญาอยู่เพียงศาสนาเดียว คุนน้องมองแบบกลางๆค่ะ เพราะศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ที่จะไม่ดีก็เพราะเข้าไม่ถึงศาสนาดันเอง และศาสนาพุทธก็มีทั้งสอนผิดสอนถูกมันก็ไม่ได้แตกต่างจากศาสนาอื่น คุนน้องศรัทราในพุทธศาสนานะค่ะ และศรัทราเลื่อมใสพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เพราะถ้าคุนน้องไม่ศรัทราในพุทธศาสนา คุนน้องคงไม่ได้ปัญญาบารมีติดตัวมาจนถึงปัจจุบันนี้ คุนน้องก็ต้องเคยอยู่ในพุทธศาสนามาหลายภพชาติแล้วล่ะ แปลกมั้ยค่ะที่ยุคพระศรีอาริยเมตรไตย ไม่มีลัทธิไม่แบ่งแยกศาสนา อืมคุนน้องเริ่มจะมองเห็นลางๆว่า จริตของสาวกของพระองค์ต้องเป็นแบบเดียวกับคุนน้องนี่แหละ พระพุทธองค์ไม่ได้ยกย่องเราชาวพุทธหรอก ถึงแม้เราจะยกย่องศาสนาพุทธเป็นศาสนาสูงสุดเหนือกว่าศาสนาอื่นด้วยมานะตน พระพุทธองค์ก็ไม่ได้สรรเสริญ พระพุทธองค์จะสรรเสริญบัณทิตที่ประพฤติตนให้ห่างไกลจากกิเลศ บางครั้งเราอาจจะภูมิใจที่ประเทศของเราคือ no.1แต่ในยุคศาสนาของพระศรีอาริยเมตรไตย มนุษย์ทุกคนในโลกล้วนแต่เป็น หนึ่งเดียวกัน คุนน้องถึงรู้สึกศรัทราจนอยากจะเห็นว่า พระองค์ทำได้อย่างไร ถึงได้มีเพียงศาสนาเดียวที่รวมตัวกัน ไม่แบ่งแยกศาสนา แล้วทำไมยุคของพระองค์มนุษย์ทำไมถึงรักสามัคคีกัน ไม่มีคนชั่วเลย Kiss
แสดงว่ายุคของพระองค์จะต้องเป็นคนมีบุญมากถึงจะได้เกิด แบบนี้ต้องเร่งความเพียร พอถึงยุคพระองค์เราจะได้เป็นพระขีณาสพและช่วยเผยแพร่พระธรรม..
ปล.มีใครสนใจจะร่วมขบวนกับคุนน้องไหมเจ้าค่ะ :b9:
แปลกมากพิมพ์ตั้งยาวทำไมไม่ time out! ปกติมันโพสไม่ขึ้นนะเพราะใช้เวลานาน เหลือเชื่อ :b43:

เจ้าของ:  eragon_joe [ 26 พ.ย. 2014, 21:19 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปราถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

เป็นการตั้งปรารถนาจิตที่ดีนะนี่... :b1:

อ้างคำพูด:
คุนน้องมีความเห็นว่า ถ้าลูกๆแต่ละคนเกรงกลัวภัยในสังสารวัฏกันหมดแล้วก็นิพพานกันหมด แล้วจะเหลือลูกคนไหนติดตามพ่อคนสุดท้ายในภัทรกัปนี้
....
อยากช่วยพระองค์เผยแพร่พระธรรมคำสอน
....
แบบนี้ต้องเร่งความเพียร พอถึงยุคพระองค์เราจะได้เป็นพระขีณาสพและช่วยเผยแพร่พระธรรม..


เหมือนคุณน้องจะมีพันธสัญญาร่วมกับหมู่คณะ


:b1: :b1: :b1:

เจ้าของ:  nongkong [ 26 พ.ย. 2014, 21:46 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปราถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

eragon_joe เขียน:
เป็นการตั้งปรารถนาจิตที่ดีนะนี่... :b1:

อ้างคำพูด:
คุนน้องมีความเห็นว่า ถ้าลูกๆแต่ละคนเกรงกลัวภัยในสังสารวัฏกันหมดแล้วก็นิพพานกันหมด แล้วจะเหลือลูกคนไหนติดตามพ่อคนสุดท้ายในภัทรกัปนี้
....
อยากช่วยพระองค์เผยแพร่พระธรรมคำสอน
....
แบบนี้ต้องเร่งความเพียร พอถึงยุคพระองค์เราจะได้เป็นพระขีณาสพและช่วยเผยแพร่พระธรรม..


เหมือนคุณน้องจะมีพันธสัญญาร่วมกับหมู่คณะ


:b1: :b1: :b1:

ค่ะพี่เอกอน อุปมา เหมือนเราอยากเป็นหมอเพราะเราพ่อเราก็เป็นหมอและเราก็อยากเจริญรอยตามพ่อเราค่ะ เราก็ต้องฝันอยากเป็นแบบพ่อ การจะเป็นแบบพ่อได้ ไม่ใช่อยากเป็นแล้วโตละจะได้เป็นหมอ เราก็ต้องตั้งใจเรียนส่ายวิท คณิต ต้องขยันอ่านหนังสือและสอบให้ติด555 การปฏิบัติธรรมก็เหมือนกันค่ะ อยากเป็นก็ลงมือทำ ต้องมีความเพียร ไม่ใช่ปราถนาแต่ขี้เกียจก็คงเป็นแค่ฝันลมๆแล้งๆ :b4:
ปล.คุนน้องเป็นเด็กมีอนาคตนะเจ้าค่ะ :b9:

เจ้าของ:  nongkong [ 26 พ.ย. 2014, 23:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปราถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

ทำไมชาวพุทธถึงคิดว่า พระศรีอาริยเมตรไตรเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ชั้นดุสิตรอตรัสรู้เพื่อเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล คือไปอ่านความเห็นของคนอื่นๆ รู้สึกสะกิดใจตนเองเลย จะเป็นไปได้อย่างไรที่พระองค์จะเสวยสุขและรอตรัสรู้ในยุคของพระองค์ คุนน้องไม่ได้มีอภิญาหรอกนะค่ะ แต่คุนน้องมีปัญญาค่ะ และรู้ว่าจริตของพระโพธิสัตว์ปราถนาพุทธภูมิ มักจะต้องอยากสร้างประโยชน์จะต้องบำเพ็ญบารมี ต้องลงมาโปรดสัตว์ยิ่งพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลยิ่งจะต้องลงมาโปรดสัตว์ ยิ่งบารมีเยอะบารมีเต็ม ยิ่งสามารถสงเคราห์สรรพสัตว์ได้มาก ถ้าจะเป็นการขึ้นไปพักบนสวรรต์ก็เป็นแค่เพียงพักหายเหนื่อย ไม่ได้เสวยสุขบนสวรค์ ได้ยินคำนี้ทีไรไม่ค่อยปลื้ม คิดดูนะเจ้าค่ะลูกๆบำเพ็ญบารมีตามพ่อ มีหรือพ่อจะนั่งเสวยสุขอยู่บนสวรรค์ การปราถนาพุทธภูมิ เขาทำเป็นหมู่คณะ ไม่ใช่ตัวใครตัวมัน พระสมณโคดมพุทธเจ้าของเรา ยังต้องบำเพ็ญบารมี อย่างในชาดกพระพุทธเจ้า10ชาติก่อนตรัสรู้(ยังไม่รวม500ชาติ) แล้วพระอชิตะเถระบวชในศาสนาพุทธของพระสมณโคดมแล้วบารมีเต็มเลยหรอเจ้าค่ะ ไม่มีการบำเพ็ญบารมีอย่างอื่นเลยหรอไง มันก็น่าคิดจริงไหมเจ้าค่ะ เพราะเหตุนี้อย่ากล่าวว่าพระองค์เสวยสุขอยู่สวรรค์ชั้นดุสิตเพื่อรอถึงยุคพระองค์เลย เข้าไม่ถึงภูมิจิตพระองค์แล้วก็คาดเดากัน คุนน้องเชื่อว่า พระองค์บำเพ็ญบารมี เหมือนที่พระพุทธเจ้าเราบำเพ็ญบารมีนั่นแหละ และคุณน้องมีความเชื่อว่าพระองค์ไม่จำเป็นต้องเกิดในประเทศไทยและเป็นศาสนาพุทธ ยุคพระองค์มีศาสนาเดียว เพราะถ้าพระองค์จะรวมศาสาเป็นหนึ่งเดียวในยุคพระองค์นั้น พระองค์ต้องเกิดทุกชนชาติทุกศาสนา และเรียนรู้บำเพ็ญโพธิญานเพื่อตรัสรู้ในอนาคตกาลยุคของพระองค์
เข้าใจตรงกันนะ :b17:
ปล.แล้วยุคของพระศรีอริยเมตรไตย ไม่ใช่มีแต่คนที่นับถือศาสนาพุทธหรอกนะค่ะที่จะได้เกิด แต่ทุกคนในโลกที่ทำความดีประพฤติตนอยู่ในศีลธรรม เพราะถึงแม้เราจะได้เกิดในศาสนาพุทธ ถ้าเราไม่ปฏิบัติ ไม่ตั้งมั่นใน ทาน ศีล ภาวนา ก็ หมดโอกาส แล้วอีกสองพันปีเป็นยุคมิคสัญญี รีบๆขวนขวายกันนะเจ้าค่ะ อีกสองพันปีนับจากนี้ พระไตรปิฎอาจถูกแก้ไข ปรับปรุงเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา ถึงชาตินี้ไม่นิพพานเราก็ต้องมีสุคติภูมิ จะได้ไม่ตกสวรรค์เข้าสู่ยุคมิคสัญญี ทีนี้ต่อให้มีภพมนุษย์เป็นแดนเกิด มันก็เหมือนทุคติภูมินรกดีๆนั่นแหละ

เจ้าของ:  nongkong [ 26 พ.ย. 2014, 23:58 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปราถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

โปรดใช้วิจารณญานในการอ่านนะเจ้าค่ะเพราะนี่เป็นความเชื่อส่วนบุคคล
มีอยู่คนนึงที่คุนน้องเชื่อว่าเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาลที่ลงมาบำเพ็ญบารมีนั่นคือ พระเยซู
และก็มีอีกผู้นึงนั่นคือนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังที่ได้เรียนรู้ศึกษาพุทธศาสนา นั่นคือ อัลเบิร์ต ไอสไต บุคคลที่เป็นอัจฉริยะของโลก คุณน้องรู้แค่นี้แหละเจ้าค่ะ นอกนั้นเกินปัญญาคุนน้องละ :b1:
ปล.ก่อนไอสไตน์จะเสียชีวิต เขาได้กล่าวทิ้งท้ายว่าศาสนาในอนาคตต้องเป็นศาสนาสากล ศาสนานั้นควรอยู่เหนือพระเจ้าที่มีตัวตน..บลาๆ (ไปอ่านเอาเองนะค่ะ)และคุนน้องเชื่อว่า(ไอสไตน์) เขาจะต้องมาต่อยอดศาสนาในอนาคตแน่นอนค่ะ
เพราะถ้าไอสไตน์เป็นจิตของพระเยซู เค้าจะไม่มีวันทิ้งมนุษย์โลกแน่นอนค่ะ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 27 พ.ย. 2014, 05:24 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปราถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

nongkong เขียน:
คุนน้องมองแบบกลางๆค่ะ เพราะศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ที่จะไม่ดีก็เพราะเข้าไม่ถึงศาสนาดันเอง และศาสนาพุทธก็มีทั้งสอนผิดสอนถูกมันก็ไม่ได้แตกต่างจากศาสนาอื่น คุนน้องศรัทราในพุทธศาสนานะค่ะ และศรัทราเลื่อมใสพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เพราะถ้าคุนน้องไม่ศรัทราในพุทธศาสนา คุนน้องคงไม่ได้ปัญญาบารมีติดตัวมาจนถึงปัจจุบันนี้

สุดมีอันเดียว....คือความบริสุทธิ์

ที่มีหลายอันก็เพราะ...ยังมีอันที่ยังไม่ถึงที่สุด...อยู่...มันเป็นวาระของผู้สอนนั้นๆเอง...
เมื่อผู้สอนนั้นๆเข้าถึงความบริสุทธ์ได้....ผู้นั้นก็จะเป็นพุทธะ...ศาสนาของท่านผู้นั้นก็จะเป็นพระพุทธศาสนา...ไปเอง

วาระ...การเข้าถึงพุทธะนั้น...มีได้แค่ 1 ในเวลา หนึ่งๆ เท่านั้น....ไม่มี 2 มันเป็นธรรมชาติ

ศาสนาพุทธจึงมีแต่สอนถูกเพียงอย่างเดียว...ไม่มีสอนผิด...ที่ผิดนั้นมันเป็นความเห็นของปัจเจกชน...

รึ...คุณน้องเห็นว่าตรงไหนสอนผิด...ก็ลองยกตัวอย่างมา

nongkong เขียน:
พระพุทธองค์ไม่ได้ยกย่องเราชาวพุทธหรอก ถึงแม้เราจะยกย่องศาสนาพุทธเป็นศาสนาสูงสุดเหนือกว่าศาสนาอื่นด้วยมานะตน พระพุทธองค์ก็ไม่ได้สรรเสริญ พระพุทธองค์จะสรรเสริญบัณทิตที่ประพฤติตนให้ห่างไกลจากกิเลศ บางครั้งเราอาจจะภูมิใจที่ประเทศของเราคือ no.1แต่ในยุคศาสนาของพระศรีอาริยเมตรไตย มนุษย์ทุกคนในโลกล้วนแต่เป็น หนึ่งเดียวกัน คุนน้องถึงรู้สึกศรัทราจนอยากจะเห็นว่า พระองค์ทำได้อย่างไร ถึงได้มีเพียงศาสนาเดียวที่รวมตัวกัน ไม่แบ่งแยกศาสนา แล้วทำไมยุคของพระองค์มนุษย์ทำไมถึงรักสามัคคีกัน ไม่มีคนชั่วเลย Kiss

เพราะคนชั่ว...ยังไม่ขึ้นจากนรก.. :b32: :b32: :b32:
คนหลงในบุญ...ก็ยังเพลินอยู่บนสวรรค์ :b9:

แต่....มีใครจะบอกได้ว่า..มนุษย์ในโลกยุคพระศรีอาริยะนั้น...ทุกๆคน...สามารถเข้านิพพานกันได้ทุกคนเลย...รึเปล่า? :b10: :b10: s006 s006

กระผมขอเดาเอานะว่า...ยุคนั้นอย่างน้อยก็มีคน 3 จำพวก แหละ
คือ..
1 คนยังหลงในบุญ...หลงสุขสบายแบบโลกๆ...หลงเสพสุขเวทนา...เห็นสุขเวทนาก็ดีอยู่แล้ว...ก็เลยไม่คิดประพฤติปฏิบัติเพื่อให้พ้นทุกข์

2 คนที่คิดว่า...จะบำเพ็ญเพียรเพื่อไปนิพพานกับพระพุทธเจ้าองค์ต่อ ๆ ไป...ก็เลยไม่คิดประพฤติปฏิบัติเพื่อให้พ้นทุกข์เสียในปัจจุบัน

3 สุดท้ายก็คือคนที่ทำนิพพานให้แจ้งตามพระพุทธเจ้าคือพระศรีอาริยะ..นั้นแหละ

ถามว่า..คน 1... 2...นี้ผิดมั้ย?...ผมก็ว่าไม่ผิดนะ...แต่ที่ผิดก็มีอยู่...คือผิดที่อวิชชา
:b12: :b12: :b12:

เจ้าของ:  sirinpho [ 27 พ.ย. 2014, 11:03 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปราถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

:b16: :b8:

เจ้าของ:  yoottapong [ 27 พ.ย. 2014, 14:37 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปรารถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

ไม่ใช่ปู่ชีวกนะ
แต่เป็นนางหลวงชีวิกาประจำตำแหน่งให้ผมแล้วกัน
อยากให้ช่วยรักษาผมด้วย

เจ้าของ:  yoottapong [ 27 พ.ย. 2014, 16:00 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปรารถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

คุณnongkongช่วยส่งสัญญานภาษาคูโบ๊ตส่งถึงผมด้วยครับ
หรือถ้าไม่มีส่งเป็นตัวเลข10ตัวให้ผมด้วยครับ

เจ้าของ:  nongkong [ 27 พ.ย. 2014, 16:07 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปรารถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

yoottapong เขียน:
คุณnongkongช่วยส่งสัญญานภาษาคูโบ๊ตส่งถึงผมด้วยครับ
หรือถ้าไม่มีส่งเป็นตัวเลข10ตัวให้ผมด้วยครับ

เอาเลขบัญชีรึเอาเบอร์โทรศัพท์ค่ะ
ว่าแต่กินยายังวันนี้ เด่วอาการกำเริบ :b13:
ปล.ช่วยสอนวิชา เรอออกมาเป็นปลากริมไข่เต่าให้คุนน้องได้ไหมเจ้าค่ะ555 :b9:

เจ้าของ:  nongkong [ 27 พ.ย. 2014, 16:17 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปราถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

กบนอกกะลา เขียน:
nongkong เขียน:
คุนน้องมองแบบกลางๆค่ะ เพราะศาสนาทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ที่จะไม่ดีก็เพราะเข้าไม่ถึงศาสนาดันเอง และศาสนาพุทธก็มีทั้งสอนผิดสอนถูกมันก็ไม่ได้แตกต่างจากศาสนาอื่น คุนน้องศรัทราในพุทธศาสนานะค่ะ และศรัทราเลื่อมใสพระพุทธเจ้าทุกพระองค์ เพราะถ้าคุนน้องไม่ศรัทราในพุทธศาสนา คุนน้องคงไม่ได้ปัญญาบารมีติดตัวมาจนถึงปัจจุบันนี้

สุดมีอันเดียว....คือความบริสุทธิ์

ที่มีหลายอันก็เพราะ...ยังมีอันที่ยังไม่ถึงที่สุด...อยู่...มันเป็นวาระของผู้สอนนั้นๆเอง...
เมื่อผู้สอนนั้นๆเข้าถึงความบริสุทธ์ได้....ผู้นั้นก็จะเป็นพุทธะ...ศาสนาของท่านผู้นั้นก็จะเป็นพระพุทธศาสนา...ไปเอง

วาระ...การเข้าถึงพุทธะนั้น...มีได้แค่ 1 ในเวลา หนึ่งๆ เท่านั้น....ไม่มี 2 มันเป็นธรรมชาติ

ศาสนาพุทธจึงมีแต่สอนถูกเพียงอย่างเดียว...ไม่มีสอนผิด...ที่ผิดนั้นมันเป็นความเห็นของปัจเจกชน...

รึ...คุณน้องเห็นว่าตรงไหนสอนผิด...ก็ลองยกตัวอย่างมา

nongkong เขียน:
พระพุทธองค์ไม่ได้ยกย่องเราชาวพุทธหรอก ถึงแม้เราจะยกย่องศาสนาพุทธเป็นศาสนาสูงสุดเหนือกว่าศาสนาอื่นด้วยมานะตน พระพุทธองค์ก็ไม่ได้สรรเสริญ พระพุทธองค์จะสรรเสริญบัณทิตที่ประพฤติตนให้ห่างไกลจากกิเลศ บางครั้งเราอาจจะภูมิใจที่ประเทศของเราคือ no.1แต่ในยุคศาสนาของพระศรีอาริยเมตรไตย มนุษย์ทุกคนในโลกล้วนแต่เป็น หนึ่งเดียวกัน คุนน้องถึงรู้สึกศรัทราจนอยากจะเห็นว่า พระองค์ทำได้อย่างไร ถึงได้มีเพียงศาสนาเดียวที่รวมตัวกัน ไม่แบ่งแยกศาสนา แล้วทำไมยุคของพระองค์มนุษย์ทำไมถึงรักสามัคคีกัน ไม่มีคนชั่วเลย Kiss

เพราะคนชั่ว...ยังไม่ขึ้นจากนรก.. :b32: :b32: :b32:
คนหลงในบุญ...ก็ยังเพลินอยู่บนสวรรค์ :b9:

แต่....มีใครจะบอกได้ว่า..มนุษย์ในโลกยุคพระศรีอาริยะนั้น...ทุกๆคน...สามารถเข้านิพพานกันได้ทุกคนเลย...รึเปล่า? :b10: :b10: s006 s006

กระผมขอเดาเอานะว่า...ยุคนั้นอย่างน้อยก็มีคน 3 จำพวก แหละ
คือ..
1 คนยังหลงในบุญ...หลงสุขสบายแบบโลกๆ...หลงเสพสุขเวทนา...เห็นสุขเวทนาก็ดีอยู่แล้ว...ก็เลยไม่คิดประพฤติปฏิบัติเพื่อให้พ้นทุกข์

2 คนที่คิดว่า...จะบำเพ็ญเพียรเพื่อไปนิพพานกับพระพุทธเจ้าองค์ต่อ ๆ ไป...ก็เลยไม่คิดประพฤติปฏิบัติเพื่อให้พ้นทุกข์เสียในปัจจุบัน

3 สุดท้ายก็คือคนที่ทำนิพพานให้แจ้งตามพระพุทธเจ้าคือพระศรีอาริยะ..นั้นแหละ

ถามว่า..คน 1... 2...นี้ผิดมั้ย?...ผมก็ว่าไม่ผิดนะ...แต่ที่ผิดก็มีอยู่...คือผิดที่อวิชชา
:b12: :b12: :b12:

อนุโมทนากับความเห็นท่านกบค่ะกล่าวได้ถูกต้องแล้ว :b8:
แล้วท่านกบจะเป็นคน กลุ่มไหนค่ะ 1..2..3 :b12:

เจ้าของ:  yoottapong [ 27 พ.ย. 2014, 16:36 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปรารถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

อยากได้เป็นเบอร์โทรถ้าเบอร์บัญชีกลัวหมดตัว
ยาที่หมอให้กินพูดถึงยาหลักรักษาประสาทผมกินแล้วแพ้ยาอย่างแรงความรู้สึกเหมือนกายจะแตกดับหลังแอ่น
แต่ตอนนี้จัดตารางเวลากินยาเองกินยาเฉพาะตอนนอนครับ
ยังคุยกันรู้เรื่องอยู่ครับ
ถ้าจะเรอเป็นปากิมต้องบอกผมก่อนคุณน่ารักหรือไม่น่ารัก

เจ้าของ:  nongkong [ 27 พ.ย. 2014, 17:18 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปรารถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

yoottapong เขียน:
อยากได้เป็นเบอร์โทรถ้าเบอร์บัญชีกลัวหมดตัว
ยาที่หมอให้กินพูดถึงยาหลักรักษาประสาทผมกินแล้วแพ้ยาอย่างแรงความรู้สึกเหมือนกายจะแตกดับหลังแอ่น
แต่ตอนนี้จัดตารางเวลากินยาเองกินยาเฉพาะตอนนอนครับ
ยังคุยกันรู้เรื่องอยู่ครับ
ถ้าจะเรอเป็นปากิมต้องบอกผมก่อนคุณน่ารักหรือไม่น่ารัก

เด่วคุนน้องจะบรรยายคุณสมบัติของตนเองนะค่ะ
ไม่ชอบอาบน้ำ เวลาทำกับข้าว ชอบเผลอเอามือแคะขี้มูก บางทีก็เกาก้น (สงสัยเป็นเพราะไม่ชอบอาบน้ำ)กินเก่งมาก และด่าเก่งด้วยค่ะ ชอบหัวเราะเสียงดัง(ปากกว้างๆ)
คุนยุทว่าผู้หญิงแบบนี้น่ารักไหมค่ะ :b32:

เจ้าของ:  yoottapong [ 27 พ.ย. 2014, 19:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปรารถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

คุณก็เป็นคนมีพ่อมีแม่ เรามาสัญญาต่อกันจะไม่มีมารยาต่อกัน ผมก็กลัวคุกเหมือนกัน ยิ่งคุณอายุยังน้อยด้วย เออแต่ งงๆ คุณมารู้ความลับการใช้ชีวิตของผมได้ยังไง

เจ้าของ:  nongkong [ 27 พ.ย. 2014, 19:12 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ปรารถนาเป็นสาวกภูมิในยุคพระศรีอริยเมตรไตย

คุนน้องแปลกใจที่เมื่อคืนทำไมจิตผุดขึ้นเกี่ยวกับพระเยซูและไอสไตน์ คือสมองคุนน้องไม่ได้คิดอะไรแบบนี้นะเจ้าค่ะ แต่จิตมันผุดขึ้นในเวลาไม่ถึงเสี้ยววินาที คุนน้องก็คิดว่าคุนน้องอาจจะเดาส่งเดชไปเองเหมือนพวกหมอดูแม่นๆ :b6:
คุนน้องยังข้องใจเรื่องพระเยซูกับไอสไตน์เลยค้นประวัติของไอสไตน์ เพราะคุนน้องต้องการวิเคราห์คุนสมบัติของไอสไตน์มีความเป็นไปได้จริงหรือที่เขาคือพระโพธิสัตว์แถมเกี่ยวไรกับพระเยซู(คุนน้องไม่ได้จะบอกให้ใครเชื่อตามนะค่ะ แค่คุนน้องเล่าถึงสิ่งที่มันผุดขึ้นมา คุนน้องเป็นแค่คนธรรมดาที่ได้มาพบพุทธศาสนา ไม่มีความสามารถหยั่งรู้อดีตรึอนาคตได้)
คุนน้องเลยค้นข้อมูลจนรู้ว่า ไอสไตน์เป็นชาวยิวเหมือนพระเยซู
และคุนน้องเลยพิจารณาคุณสมบัติของพระโพธิสัตว์ คุนน้องไม่ข้องใจคุนสมบัติของพระเยซูแต่ไอสไตน์มีคุณสมบัตินั้นหรือ แค่ความฉลาดเป็นอัจฉริยะไม่พอที่จะกล่าวว่าเขาคือพระโพธิสัตว์
เลยศึกษาประวัติตอนเด็กๆ จนได้ข้อมูล ไอสไตน์เป็นเด็กเงียบขรึม เขาพูดได้ตอน3ขวบ (นี่ไงคุณสมบัติที่เหนือกว่าเด็กทั่วไป)เขาไม่ค่อยชอบเล่นกับเพื่อนๆ เป็นเด็กโลกส่วนตัวสูง จนพ่อเขานึกว่าไอสไตน์โง่ ต้องจากครูมาสอนพิเศษ ไอสไตน์ เบื่อการเรียนที่สอนให้ท่องจำ(เพราะส่วนใหญ่พระโพธิสัตว์ไม่ชอบท่องจำพระโพธิสัตว์เป็นนักคิดใช้ปัญญา)
ไอสไตน์ชอบเรียนคณิตศาสตร์และทำคะแนนได้ดีมาก แต่เรียนชีววิทยาและภาษาแย่มาก
และที่น่าทึ่งกว่านั้น เขาคิดสูตรสมการ e=mc2
ซึ่งคนธรรมดาคงไม่มีใครเข้าใจว่า สิ่งที่เขาคิดนั้นมันเป็นไปได้หรือ? แต่มันก็เป็นไปแล้ว ความรู้สึกของเค้าที่คิดสูตรนี้ขึ้นมา เพราะหวังอยากให้มนุษย์มีพลังงานใช้ไม่มีวันหมด แต่หารู้ไหมสิ่งที่เขาคิดขึ้นนั้นโดยมารเอาไปต่อยอดกลายเป็นอาวุธสงครามอันน่าสยองขวัญ
เหตุฉไนชายผู้นี้ถึงมีปัญญาเหมือนมหาสัตว์ คือไม่มีใครสอนเขาไม่มีคนถ่ายทอดความรู้ตรงจุดนั้นให้เขา เขาเป็นผู้รู้เองคิดขึ้นมาเองด้วยปัญญาที่เหนือกว่าคนธรรมดา และเหตุฉไนอะไรเป็นเหตุปัจจัยให้เขาได้เรียนรู้พุทธศาสนาทั้งที่เขาเป็นชาวคริสคาทอลิค ..

หน้า 1 จากทั้งหมด 3 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/