| ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
| ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=48978 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 2 |
| เจ้าของ: | yoottapong [ 11 ธ.ค. 2014, 15:10 ] |
| หัวข้อกระทู้: | ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ มีพลังงานสีดำพุ่งมาชนที่หัวของผม แต่เป็นพลังงานชนที่จิตตรงหัว จนหัวผงะ ไม่รู้เป็นพลังงานอะไร |
|
| เจ้าของ: | nongkong [ 11 ธ.ค. 2014, 15:35 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ง่วงแล้วสับพะหงกรึเปล่าค่ะ.. |
|
| เจ้าของ: | รสมน [ 11 ธ.ค. 2014, 18:10 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
อย่าไปสนใจกับนิมิตที่ปรากฏข้างต้นให้ รีบเอาจิตไปกำหนดฐานสมาธิของตนเอง เช่นถ้ากำหนดพุทโธก็เอาสติไปกำหนดที่พุทโธ ถ้า พอง-ยุบ ก็เอาสติไปกำหนดที่พองยุบ แล้ว รูปนิมิตต่างๆ ทั้งที่จิตเราปรุงแต่งเองหรือไม่ได้ปรุงแต่ง ก็จะหายไปเอง ให้ดูความเกิดดับของรูปนาม ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ |
|
| เจ้าของ: | yoottapong [ 11 ธ.ค. 2014, 19:24 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ทุกทีที่ผมทำสมาธิจะไม่มีง่วงเหงาหาวนอนจะมีสติตอนทำสมาธิ เรื่องปรุงแต่งก็ไม่ได้ปรุงแต่ง ทุกทีที่ทำสมาธิไม่ค่อยมีอารมณ์ง่วงครับ |
|
| เจ้าของ: | toy1 [ 11 ธ.ค. 2014, 21:04 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
เรื่องของการปฏิบัติธรรม คนที่ปฏิบัติธรรมได้ โดยไม่มีสิ่งรบกวน ทำจิตให้เป็นสมาธิได้ง่ายและเร็ว บุคคลนั้นก็โชคดีสามารถปฏิบัติธรรมได้สะดวก ไม่ค่อยมีอุปสรรคอะไรเข้ามาขัดขวางในการปฏิบัติ ส่วนบุคคลที่มีกรรมมามาก บางคนก็ไม่สามารถปฏิบัติธรรม ให้จิตสงบเป็นสมาธิได้ พอเริ่มปฏิบัติไปก็เริ่มมีสิ่งรบกวน ขัดขวาง ไม่ให้จิตสงบเป็นสมาธิ บางคนก่อนปฏิบัติธรรมก็ไม่เคยสำรวจตัวเอง ในเรื่องของอารมณ์ที่ใช้ไปในแต่ละวัน ที่เผลอสติไม่ได้สำรวมอินทรีย์ เช่นเผลอไปติ ไปด่าว่า วิพากษ์วิจารณ์ด้วยอารมณ์ไม่ชอบใจ อารมณ์ที่เป้นลักษณะหักล้างเหล่านี้ มันเป็นของร้อน เมือ่เราปฏิบัติธรรมจนเป็นนิสัยได้ รักษาความสงบของจิตได้ ในขณะที่ใช้กายเคลื่อนไหววิญญาณเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวันได้ หากมีการเผลอไปใช้อารมณ์ไปติ ไปด่าว่า วิพากษ์วิจารณ์ด้วยอารมณ์ไม่ชอบใจ เราก็จะรู้สึกได้ถึงความเปลี่ยนแปลงของจิต อาจจะทำจิตร้อนกายร้อนเหมือนอยู่ไม่เป็นสุข มึนหัวเวียนหัว พอจะมาปฏิบัติธรรมทำสมาธิประจำวัน อารมณ์เหล่านี้ก็ยังค้างคาใจอยู่่ เมื่อเรารีบร้อนทำสมาธิอารมณ์เหล่านี้ก็ออกมารบกวน ขัดขวาง เหมือนเป็นของหนัก ซึ่งเรื่องเหล่านี้ก็มีผลให้การปฏิบัติธรรมทำสมาธิของฆราวาสประสบอุุปสรรค ส่วนบุคคลที่ชีวิตประจำวันเรียบง่ายไม่กระทบกับใครมาก สะสมการปฏิบัติธรรมมามาก เมื่อถึงเวลาปฏิบัติจิตก็เป็นสมาธิได้เร็ว ส่วนในเรื่องของกรรม บางคนพอจะเริ่มปฏิบัติธรรมก็เหมือนมีกรรมคอยรบกวน คอยขัดขวางเหมือนพยายามดีงไว้ กดไว้ ให้ต้องทุกข์ต่อไป ไม่อาจไปเดินอยู่ในเส้นทางการปฏิบัติธรรมให้อยู่ในเส้นทางนำไปสู่การพ้นทุกข์ได้ เหมือนทางนี้เป็นทางแก้ว พอขึ้นมาเดินก็ลื่นหกล้ม ตีลังกา บาดเจ็บ หรือไม่ก็ลื่นไหลเดินออกนอกเส้นทางไหลออกไปทางอื่น ไม่อาจมาเดินอยู่ในทางแก้วนี้ได้ เมือ่เป็นผู้ปฏิบัติธรรมก็ลองเทียบเคียงดู จะได้คอยเตือนตัวเองไม่ให้ประมาทหลงเดินออกนอกแนวทาง หากเผลอเดินออกนอกแนวทางนี้ก็กลับมาเดินในเส้นทางนี้ เพราะพระอริยะทุกพระองค์ก็ปฏิบัติอยู่ในทางเส้นนี้ |
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 11 ธ.ค. 2014, 21:36 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
nongkong เขียน: ง่วงแล้วสับพะหงกรึเปล่าค่ะ..
|
|
| เจ้าของ: | student [ 11 ธ.ค. 2014, 23:15 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
yoottapong เขียน: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ มีพลังงานสีดำพุ่งมาชนที่หัวของผม แต่เป็นพลังงานชนที่จิตตรงหัว จนหัวผงะ ไม่รู้เป็นพลังงานอะไร เรียกว่าจิตตั้งอยู่ที่หัว (ถึงได้รู้ว่ามีพลังงาน) ถ้าลองจิตตั้งอยู่ที่ลมหายใจ คุณก็มีเรื่องมาเล่าอีกว่ามีพลังงานบางอย่าง จิตอยู่ที่ขา คุณก็มาเล่าอีกว่ามีพลังงานบางอย่าง คุณจึงศึกษาเรื่องพลังงานมากกว่าจะศึกษาเรื่องจิตหรืออารมษ์ ความหมายคือ อารมณ์จะเป็นอย่างไรก็ช่าง ขอให้ได้พบเห็นพลังงานเป็นใช้ได้ ผมพูดถูกไหมครับ? |
|
| เจ้าของ: | toy1 [ 12 ธ.ค. 2014, 05:41 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
yoottapong เขียน: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ มีพลังงานสีดำพุ่งมาชนที่หัวของผม แต่เป็นพลังงานชนที่จิตตรงหัว จนหัวผงะ ไม่รู้เป็นพลังงานอะไร เวลาจิตเรานิ่งเป็นสมาธิแล้วมีสีดำเข้ามารบกวนนั้น สีดำเป็นเรื่องของกรรม บางครั้งสีงเหล่านี้ก็มารบกวน เราก็ควรทำจิตแผ่เมตตา เรืองของโลกวิญญาณ มันก็มีทั้งวิญญาณร้ายวิญญาณดีเหมือนคนเรา เรื่องของคำว่าวิญญาณนี้เป็นเรื่องที่หลงง่าย (เรื่องทวารทั้งหก เรื่องของอารมณ์ที่เปรียบเหมือนโจรเข้ามาในบ้าน) เหมือนจิตเรามีกรรมอยู่มาก เวลาปฏิบัติธรรมเราก็จะเห็นเป็นสีดำ ช่วงที่เป็นสีดำก็ลองสังเกตดูเวทนาที่เกิดพร้อมกับสีดำ หากจิตเรายังไม่ตั้งมั่น หรือไม่ละเอีอดพอ มีสิ่งเหล่านี้รบกวน เราก็คงสังเกตไม่ทัน เรียกว่าจิตเราไหวไปแล้ว เสียสมาธิแล้ว หลังออกจากการปฏิบัติธรรมตัองทบทวนหาข้อบกพร่องของตัวเอง พิจารณาหาเหตุผล เพื่อแก้ไขการปฏิบัติธรรมของตัวเอง หากมีสิ่งพวกนี้รบกวนมากๆ ก็ควรเปลียนกิริยาใหม่ เพราะการปฏิบัติธรรมมีกิริยาให้เราเลือกได้ ทั้งยืน เดิน นั่ง นอน ด้วยจิตมีสติตั้งมั่นไม่ไหวไปมา ปฏิเสธอารมณ์นึกคิด อารมณ์ที่เกาะความอยากรู้อยากเห็น ลังเลสงสัยออกไปก่อน ทำไปให้ครอบกำหนดเวลาที่ตั้งใจ อะไรจะเกิดก็ไม่ต้องไปใส่ในเมื่อเราเข้าใจว่าสิ่งเหล่านี้ไม่เที่ยงไม่ใช่ของเรา จะปวดจะเมื่อยแค่ไหนก็ทน หากมันจะตายก็ให้มันตายไปถ้ายังไม่ถึงกำหนดเวลาออกจากการปฏิบัติธรรมตามที่ตั้งใจ ให้รักษาไว้เพียงแค่จิตของเราดวงเดียวพอแล้ว ไม่ไปเกาะเกียวกับสิ่งใด ไม่มีอยากได้อยากเป็นอะไรทั้งหมด เหมือนตัดภพตัดชาติไปชั่วขณะ ในภาวะของฌานนั้น มีแรงกดแรงดันแรงดีงแรงดูด บางครั้งก็เข้าไปนิ่งเฉยไม่รับอะไรเลย บางครั้งหนักจนทนไม่ไหว คนที่ผ่านฌานมาย่อมเข้าใจ ว่ามันเป็นเหมือนพลังงานอย่างหนึ่ง เมื่อเราผ่านเรื่องฌานไปได้ระดับหนึ่ง เราจะค่อยๆ เข้าใจในสิ่งที่ละเอียดมากขึ้น ได้เรียนรู้ในสิ่งที่ละเอียดตามไปด้วย เหมือนสิ่งที่มีตัวมีตน แต่ไม่ได้สัมผัสด้วยตา เป็นญานทัสนะในการศึกษาเรื่องบุญเรื่องกรรมที่ละเอียดขึ้นไปอีก เหมือนที่พระท่านสวด กุสลาธัมมา อกุสลาธัมมา อัพยากะตาธัมมา ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น |
|
| เจ้าของ: | yoottapong [ 12 ธ.ค. 2014, 15:29 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง |
|
| เจ้าของ: | toy1 [ 12 ธ.ค. 2014, 15:42 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
yoottapong เขียน: ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง ขออย่าได้เข้าใจผิด เรื่องนี้เหมือนกับเราได้ศึกษาปฏิบัติธรรมของไปตามคำสอนของท่าน เป็นเหมือนพระท่านเปิดให้ศึกษา ถ้าท่านไม่เปิดให้ศึกษา ก็คงไม่เห็นไม่รู้และคงไม่เข้าใจในเรื่องกรรม เพราะปกติเราก็มีความเชื่อแบบนักเรียนวิทยาศาสตร์ หากยังไม่ได้พิสูจน์ได้ด้วยตัวเองก็อย่าเพิ่งเชื่อ ฟังได้แต่อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เรายังศึกษาไม่ถึง |
|
| เจ้าของ: | nongkong [ 12 ธ.ค. 2014, 17:11 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
toy1 เขียน: yoottapong เขียน: ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง ขออย่าได้เข้าใจผิด เรื่องนี้เหมือนกับเราได้ศึกษาปฏิบัติธรรมของไปตามคำสอนของท่าน เป็นเหมือนพระท่านเปิดให้ศึกษา ถ้าท่านไม่เปิดให้ศึกษา ก็คงไม่เห็นไม่รู้และคงไม่เข้าใจในเรื่องกรรม เพราะปกติเราก็มีความเชื่อแบบนักเรียนวิทยาศาสตร์ หากยังไม่ได้พิสูจน์ได้ด้วยตัวเองก็อย่าเพิ่งเชื่อ ฟังได้แต่อย่าเพิ่งเชื่อในสิ่งที่เรายังศึกษาไม่ถึง เรื่องแบบนี้เขาเอามาเล่าเฉพาะวงในค่ะ เหมือนเต่าเล่าเรื่อง นก กับ เต่าด้วยกัน เต่าสองตัวจะเข้าใจตรงกัน แต่ลองให้เต่าไปเล่าให้ปลาฟังดิ อิอิมีเถียงกันบ้านแตก เกิดเป็นปลาน่าสงสารนะค่ะ คนจับปลาไปกิน ในขณะที่คนจับเต่าเอาไปปล่อย เพราะส่วนใหญ่ คนไม่กินเต่า แสดงว่าเกิดเป็นเต่าก็น่าจะมีบุญอยู่ ไม่โดนจับไปกิน อุปมา เหมือนคนมีสัมผัสพิเศษ สามารถรู้เห็นวิญญานในภพภูมิอื่นได้ เขาคนนั้นจะเกรงกลัวบาปและไม่ประมาท ตั้งตนอยู่ในทาน ศีล ภาวนา แต่คนที่ไม่เคยรู้ไม่เห็นและไม่เชื่อ เขาก็ใช้ชีวิตหลงระเริงในโลกมนุษย์ด้วยความประมาท เพราะฉะนั่นจงภูมิใจ เราได้เห็นเขาเพราะเรามีบุญ ปล.มีใครเคยกินเนื้อเต่าไหมค่ะ แต่ปลาน่าจะเคยกินกันทุกคน
|
|
| เจ้าของ: | student [ 13 ธ.ค. 2014, 01:24 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
yoottapong เขียน: ขอเล่าสักเรื่อง อย่าเห็นว่าเป็นการอวดนะครับ ขอเล่าเพื่อการศึกษาในเรื่องวิญญาณ ครั้งหนึ่งไปงานศพเพื่อนประมาณ 1900 น พระกำลังสวด เราก็พนมมือไหว้พระ ก็ปรากฏเป็นภาพข้างหน้า (เหมือนภาพหลอน) เป็นภาพผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าเข้ามายืนตรงหน้า ยกมือไหว้แล้ว บอกว่าศพที่กำลังเผาอยู่ที่เมรุ ด้านหลังคือศพของเขา แล้วภาพนั้นก็หายไป เราก็ต้องพิสูจน์ว่าจริงหรือไม่ ก็ต้องตามไปดูจนเห็นรูปหน้าศพนั้นเป็นรูปผู้หญิงใส่เสื้อสีฟ้าจริง ๆ(เราเองก็ไม่เคยรู้จักเขา รู้แตว่ากำลังมีการเผาศพ) เรื่องอย่างนีมันเป็นเรื่องการศึกษาเฉพาะตน ในเรื่องผลบุญผลบาป ซึ่งจะทำให้เรามีความมั่นคงในหลักพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์มากขึ้น ถ้าพลังงานสื่อถึงกันก็สื่อกันได้ คล้ายถูกคลื่นพอดี ก็น่าจะจริงเพราะเป็นเรื่องปัจจัตตัง อย่าว่าแต่คุณเลยนะครับ รีล จิตสำผัส และคนอื่นๆ เรายังไม่เชื่อเลยครับ |
|
| เจ้าของ: | student [ 13 ธ.ค. 2014, 01:45 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ถ้าคุณคิดจะใช้คำว่าปัจจัตตัง เพื่อบ่งบอกว่าตนเองมีความพิเศษกว่าคนอื่นนั้น ผมยอมรับครับว่า คุณเก่ง และผมกำลังพูดว่า นี่แหละคือความแตกต่างระหว่างคุณกับเรา |
|
| เจ้าของ: | yoottapong [ 14 ธ.ค. 2014, 20:11 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ตอนนั่งสมาธิเห็นอดีตชาติตนเองเห็นภาพค่อนข้างชัดเป็นภาพสีด้วยเคยเป็น เศรษฐี รูปร่างอ้วนขาวหัวไม่ล้านผมปรกหน่อยๆมีหนวดหน่อยๆนั่งอยู่ที่ริมทะเล ด้วยท่านั่งยืนชันเข่า มองไปที่ทะเล และนิมิตเห็นอดีตกำเนิดเป็นลูกสุนัข กำลังพัฒนาร่างกายในครรภ์แม่สุนัข ในนิมิตบอกด้วยว่าเป็นตัวผู้ |
|
| เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 15 ธ.ค. 2014, 07:03 ] |
| หัวข้อกระทู้: | Re: ตอนนั่งสมาธิเมื่อสักครู่ |
ถ้าไม่ขมวด..วกเข้ามาเป็นพระธรรม..นะ...สิ่งที่รู้ที่เห็นก็ไม่มีคุณค่าอะไร เพราะอะไรนะรี? ก็เพราะสิ่งที่เห็น...มันไม่มีอยู่จริง...ก็ถ้ามันมีอยู่จริง..มันก็ต้องไม่เปลี่ยนแปลง...ไหนละ..ความเป็นคนรวย..ความเป็นคนมีอำนาจ...แล้วตอนนี้เป็นอะไร...ความรวยความมีอำนาจหลงเหลือมาช่วยอะไรในปัจจุบันนี้..ได้มั้ย? แต่พระธรรมมีอยู่จริง....เป็นสิ่งเดียวที่มีอยู่จริง ถ้าเราสามารถเปลี่ยนสิ่งรู้ที่ไม่มีอยู่จริง....มาเป็นพระธรรมที่มีอยู่จริง...จึงจะได้ชื่อว่ามีกำไร...การไปรู้นั้นจึงจะมีคุณค่า |
|
| หน้า 1 จากทั้งหมด 2 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
| Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |
|