ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

การเพ่งโทษผู้อื่น
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=49356
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  รสมน [ 03 ก.พ. 2015, 19:11 ]
หัวข้อกระทู้:  การเพ่งโทษผู้อื่น

การเพ่งโทษผู้อื่น
มันก่อให้เกิดความไม่ชอบใจ ความทุกข์ใจเกิดขึ้น
เราต้องพยายามฝึกนิสัยใหม่ พยายามฝึกสติดูใจของเรา
ถ้าเราไปเพ่งโทษบุคคลอื่น ก็พยายามตัดอารมณ์นั้นออกไป
คนอื่นทำไม่ดีก็เรื่องของเขา ถ้าเขาทำไม่ดี ก็ได้รับผลที่ไม่ดี
ถ้าเขาทำดี ก็ได้รับผลที่ดี เพราะฉะนั้นดีไม่ดีก็เรื่องของเขา
พระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตฺโต



เบื้องแรกของการปฏิบัติ
จงหายใจเข้า หายใจออก อยู่อย่างนี้แหละ อย่าใส่ใจกับอะไรทั้งนั้น ใครจะยืนเอาก้นขึ้นฟ้าก็ช่าง อย่าไปเอาใจใส่ อยู่แต่กับลมหายใจเข้าออก ให้ความรู้สึกกำหนดอยู่กับลมหายใจ ทำอยู่อย่างนี้แหละ
ไม่ไปเอาอะไรอื่น ไม่ต้องคิดว่าจะเอานั่นเอานี่ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น..ให้รู้จักแต่ลมเข้า...ลมออก...ลมเข้า...ลมออก...พุท เข้า โธ ออกอยู่กับลมหายใจอย่างนี้แหละ เอาอันนี้เป็นอารมณ์ ให้ทำอยู่อย่างนี้จนกระทั่งลมเข้าก็รู้จัก ลมออกก็รู้จัก ลมเข้าก็รู้จัก ลมออกก็รู้จัก ให้รู้จักอยู่อย่างนั้น จนจิตสงบ หมดความรำคาญ ไม่ฟุ้งซ่านไปไหนทั้งนั้น ให้มีแต่ลมออกลมเข้า ลมออกลมเข้าอยู่อย่างนั้น ให้มันเป็นอยู่อย่างนี้ ยังไม่ต้องมีจุดหมายอะไรหรอก นี่แหละเบื้องแรกของการปฏิบัติ

หลวงปู่ชา สุภัทโท

เจ้าของ:  jekky [ 20 ก.พ. 2015, 00:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การเพ่งโทษผู้อื่น

สมควรอย่างยิ่งครับ เหมาะสมกับสถานะการสังคมบ้านเรา บ้านเมืองเราทุกวันวุ่นวายก็เพราะ เห็นความผิดคนอื่นเท่าภูเขา แต่ของเราเท่าเส้นผมครับ smiley

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 20 ก.พ. 2015, 06:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: การเพ่งโทษผู้อื่น

รสมน เขียน:
การเพ่งโทษผู้อื่น
มันก่อให้เกิดความไม่ชอบใจ ความทุกข์ใจเกิดขึ้น
เราต้องพยายามฝึกนิสัยใหม่ พยายามฝึกสติดูใจของเรา
ถ้าเราไปเพ่งโทษบุคคลอื่น ก็พยายามตัดอารมณ์นั้นออกไป
คนอื่นทำไม่ดีก็เรื่องของเขา ถ้าเขาทำไม่ดี ก็ได้รับผลที่ไม่ดี
ถ้าเขาทำดี ก็ได้รับผลที่ดี เพราะฉะนั้นดีไม่ดีก็เรื่องของเขา
พระอาจารย์อัครเดช (ตั๋น) ถิรจิตฺโต



เบื้องแรกของการปฏิบัติ
จงหายใจเข้า หายใจออก อยู่อย่างนี้แหละ อย่าใส่ใจกับอะไรทั้งนั้น ใครจะยืนเอาก้นขึ้นฟ้าก็ช่าง อย่าไปเอาใจใส่ อยู่แต่กับลมหายใจเข้าออก ให้ความรู้สึกกำหนดอยู่กับลมหายใจ ทำอยู่อย่างนี้แหละ
ไม่ไปเอาอะไรอื่น ไม่ต้องคิดว่าจะเอานั่นเอานี่ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น..ให้รู้จักแต่ลมเข้า...ลมออก...ลมเข้า...ลมออก...พุท เข้า โธ ออกอยู่กับลมหายใจอย่างนี้แหละ เอาอันนี้เป็นอารมณ์ ให้ทำอยู่อย่างนี้จนกระทั่งลมเข้าก็รู้จัก ลมออกก็รู้จัก ลมเข้าก็รู้จัก ลมออกก็รู้จัก ให้รู้จักอยู่อย่างนั้น จนจิตสงบ หมดความรำคาญ ไม่ฟุ้งซ่านไปไหนทั้งนั้น ให้มีแต่ลมออกลมเข้า ลมออกลมเข้าอยู่อย่างนั้น ให้มันเป็นอยู่อย่างนี้ ยังไม่ต้องมีจุดหมายอะไรหรอก นี่แหละเบื้องแรกของการปฏิบัติ

หลวงปู่ชา สุภัทโท

:b8: :b8: :b8:

เป็นเรื่องที่ต้องมีปัญญา....ถึงจะเห็นจริงตามนี้ได้
ถ้าทำเพราะ...เป็นคำของครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ....เราต้องทำ...อันนี้..จะทำได้ไม่นาน...ทำได้ไม่ทน
แต่..ก็ยังดีอยู่..ไม่ใช่ไม่ดี

เพียงแต่ในระหว่างที่ทำแบบศรัทธาไปนั้น...ก็ให้ใช้ปัญญาศึกษาพิจารณาให้เห็นจริงด้วยว่า..เพราะอะไร...ให้เห็นทุกข์..เห็นเหตุให้เกิดทุกข์...ของอาการที่เกิดขึ้นนั้นด้วย
เมื่อเห็นจริง..เข้าใจตามคำครูบาอาจารย์แล้วด้วยปัญญา...สติจะมาเองเตือนเราทันในขณะที่เกิดอกุศล..นั้นๆทันที

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/