ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

ควรฝึกฝนจิตอยู่ตลอด
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=49499
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  รสมน [ 20 ก.พ. 2015, 15:30 ]
หัวข้อกระทู้:  ควรฝึกฝนจิตอยู่ตลอด

ในเบื้องต้นร่างกายนี้ปล่อยไม่ได้ ต้องถือร่างกายนี้เป็นหินลับปัญญา หรือเป็นเครื่องเกาะ เครื่องยึดของกรรมฐานของการพิจารณา ยึดร่างกายนี้เป็นสำคัญ เกสา โลมา นขา ทันตา ตโจ ต้องยึดไว้เสมอให้เป็นอารมณ์ เมื่ออันนี้พอเข้าไปๆ แล้ว มันจะค่อยปล่อยวางเรื่องสังขารร่างกาย พอปรุงขึ้นพับมันจะดับพร้อม พิจารณาอสุภะก็ไม่ทัน สุภะก็ไม่ทัน อนิจฺจํ ทุกฺขํ อนตฺตา ก็ไม่ทัน เกิดแล้วดับๆ นี่เรียกว่าจิตผ่านในขั้นนี้แล้วเข้าสู่นามธรรม ความปรุงของจิต พอปรุงขึ้นดีก็ดี ชั่วก็ดี ปรุงขึ้นแล้วดับ ปรุ...งขึ้นจากใจ ดับลงที่ใจ อวิชฺชาปจฺจยา สงฺขารา อวิชชาหนุนให้เกิดสังขารคือความคิดปรุง ความคิดปรุงนี้เป็นสมุทัย
เมื่อเราฝึกซ้อมอันนี้อยู่ตลอดๆ แล้วสังขารเกิดจากอวิชชานี้มันจะวิ่งเข้าไปสู่อวิชชา เกิดดับที่อวิชชาๆ ฝึกซ้อม ซ้อมจนชำนิชำนาญแล้วก็เข้าถึงตัวอวิชชา อวิชชานั่นละเป็นรวงรังแห่งสังขาร เพราะอวิชชาเป็นสมุทัย สังขารก็เป็นสมุทัยออกมาจากความผลักดันของอวิชชา เวลาพิจารณาหนักเข้าๆ มันก็เข้าถึงตัวอวิชชา พอถึงตัวอวิชชาแล้วมันหากชำนาญไปเองนะ เกิดปั๊บดับพร้อม เกิดขึ้นมาจากใจ ดับลงไปที่ใจ นั่นละอวิชชาอยู่ที่ใจ เมื่อเวลามันถึงพร้อมของมันแล้ว มันจะดับลงที่ใจนั่นละ พออวิชชาดับเท่านั้น สังขารที่เป็นสมุทัยก็ดับหมด ก็มีแต่สังขารเป็นขันธ์ห้าล้วนๆ เท่านั้น
(ธรรมมะโอวาท หลวงตามหาบัว)


●คำสอนหลวงพ่อ เนื่องในวันเกิด●
ท่านโปรดจำไว้ วันเกิดของลูก คือ วันตาย
ของแม่ เพราะวันที่ลูกเกิดนั้น แม่อาจต้องเสีย
ชีวิต การออกศึกสงครามเป็...นการเสี่ยงชีวิต สำ
หรับคนเป็นพ่อฉันใด การคลอดลูก ก็เป็นการ
เสี่ยงตายสำหรับคนเป็นแม่ฉันนั้น
ถ้าวันเกิดเลี้ยงเหล้า จดจำไว้เลย จะอายุสั้น
จะปั่นทอนอายุให้สั้นลง ควรจะสวดมนต์ไหว้พระ
ปฏิบัติธรรมให้พ่อ แม่ วันเกิดเราคือวันตายของ
แม่เรา ไปกราบพ่อ กราบแม่ ขอพรพ่อแม่ รับรอง
พ่อแม่ให้พรลูกรวยทุกคน ไปเลี้ยงพ่อ เลี้ยงแม่
ให้อิ่มก่อนค่อยไปเลี้ยงเพื่อน....เจริญพร....
♢หลวงพ่อจรัญ ฐิตธมฺโม♢


ประสบการณ์ทางจิต..
มรรควิธีและยอดธรรมของพระอริยเจ้า ตอน ๑๔..

ตรงนี้สำคัญน่ะ
ถ้าหากพุทธสติเกิดขึ้นจริง ๆ ก็เป็นนิโรธจิต...
จิตถึงธรรม สงบระงับ
สงบการปรุงแต่งด้วยอำนาจความโง่
อวิชชาดับ สังขารนิโรธ ดับเป็นสาย

สายอภิธรรม คือ ชาติหลง ตนหลง ชาติ ชรา มรณะหลง ก็ดับหมด

พระพุทธเจ้าทรงตรัสว่า " สติหยั่งสู่อมตธรรม "

ถ้าเกิดขึ้นจริง ๆ แล้ว วิราคะธรรม วิราคะจิต
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ เป็นวิราคะทั้งหมด

คือสติสว่างไม่มีมืด สว่างมีแต่มืดไม่มี
เปิดตาปุ๊บ ไม่มีปรุงอะไร ไม่มีเวลาคิด มันเห็นแล้ว

ไม่มีสงสัยอะไรอีก จะสงสัยว่าเห็นหรือเปล่า ? เป็นไปไม่ได้

พุทธปัญญาไม่มีวิจิกิจฉา สงสัยในธรรมไม่มี
พุทธสติเกิด ทุกข์ดับพร้อมทันที !

ความสงสัยเป็นไปไม่ได้ตามธรรมดา สงสัยเห็นหรือเปล่า ?
ไม่ได้ ก็มันเห็นแล้ว เป็นสัจจธรรม

วิราคะธรรม จิตนิโรธ วิสังขารจิต วิสังขารธรรม

คือชื่อ พระนิพพาน

ถ้าเปรียบกับความคิดแบบโลก คือ absolute
มันไม่ใช relativity nature แบบของ Robert Einstein และนักวิทยาศาสตร์ทั้งหลาย

Relativity ของไอสไตน์ เขามีจิตใจแบบโลก
ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ภายใต้อวิชชา สมมุติ
เชื่อใน space , Time , Motion , คำจำกัดความทางฟิสิกส์
อาศัยทิฏฐิ หลงตน

พอเทียบได้ไกล้ ๆ กับธรรม ธรรมชาติของเล่าจื้อในลัทธิเต๋า

พื้นฐานลึกซึ้งที่สุดของเล่าจื้อ คือ ทีแรกไม่มีอะไรเลย
ต่อมาก็เกิดเลข ๑ จากเลข ๑ ก็มี ไปเป็นทุกอย่าง

ธรรม เป็นธรรมชาติแบบ absolute เป็น ปรมัตถ์สัจจะ

ปรมัตถ์สัจจะ ไม่ใช่ สมมุติสัจจะ

สมมุติสัจจะ เป็น relativity แบบสังขาร แบบสมมุติ
อาศัย ตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ อำนาจอวิชชา สมมุติขึ้นมา

จิตวิสังขาร คือจิตไม่ไปปรุงอารมณ์โลก ไม่มีอารมณ์ภพ
ไม่วากามภพ รูปภพ อรูปภพ

เป็นจิตบริสุทธิ์
......................................

หลวงปู่บุญฤทธิ์ บัณฑิโต...สวนทิพย์ ปากเกร็ด

เอาบุญมาฝากจะถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ สักการะพระธาตุ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาทสร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย
รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ ให้อาหารสัตว์เป็นทานเป็นประจำ กรวดน้ำอุทิศบุญ อนุโมทนากับพ่อแม่ญาติพี่น้องที่รักษาศีล ฟังธรรม ให้ทาน อนุโมทนากับเพื่อนๆที่รักษาศีล ศึกษาการรักษาโรค ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ถวายสังฆทานมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ปิดทองพระ รักษาอาการป่วยของผู้อื่นกับผู้ร่วมงาน และที่ผ่านมาได้รักษาอาการป่วยของบิดามารดา ปล่อยชีวิตสัตว์มาโดยตลอด ถวายยาแก่ภิกษุ ขัดองค์พระ ที่ผ่านมาได้จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย ให้ความรู้สมุนไพรเพื่อสุขภาพเป็นวิทยาทาน ที่ผ่านมาคุณแม่ได้ทำบุญหลายอย่างมาโดยตลอด ที่ผ่านมาได้ถวายสังฆทานและทำบุญสร้างอาคารผู้ป่วยและกฐินกับเพื่อนๆและให้อาหารเป็นทานแก่สรรพสัตว์กับเพื่อนๆและเพื่อนคนหนึ่งและบริวารของเพื่อนและครอบครัวของเพื่อนได้มีจิตเมตตาให้ทานและเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ช่วยเหลือผู้อื่นอยู่ตลอดและเพื่อนได้เคยสวดมนต์เย็นกับคุณแม่และที่ผ่านมาได้ทำบุญสักการะพระธาตุทำบุญปิดทองชำระหนี้สงฆ์และไหว้พระและทำบุญตามกล่องรับบริจาคตามวัดต่างๆกับเพื่อนและตั้งใจว่าจะสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอให้อนุโมทนาบุญด้วย

ขอเชิญถวายสังฆทาน เจริญวิปัสสนา ให้ธรรมะเป็นทาน ให้อภัยทาน บอกบุญ ให้อาหารสัตว์เป็นทาน สักการะพระธาตุ ฟังธรรม สวดมนต์ ช่วยพ่อแม่ทำงานบ้าน รักษาศีล เจริญภาวนา สวดมนต์ สร้างพระสร้างเจดีย์สร้างธรรมจักรสร้างรอยพระพุทธบาท
สร้างระฆังและอัครสาวกซ้ายขวาสร้างพระสีวลีสร้างพระกัสสะปะสร้างพระอุปคุตสร้างพระองคุลีมารผสมทองคำเปลวพร้อมนำดอกไม้มาบูชาถวายพระรัตนตรัย กรวดน้ำอุทิศบุญ ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น สนทนาธรรม
ถวายข้าวพระพุทธ อนุโมทนาบุญกับผู้อื่น รักษาอาการป่วยของผู้อื่น รักษาอาการป่วยของบิดามารดา จุดเทียนถวายพระรัตนตรัย
ปิดทอง สักการะพระธาตุ กราบอดีตสังขารเจ้าอาวาสที่ไม่เน่าเปื่อย ที่วัดแจ้ง อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ปิดทองพระ ปล่อยชีวิตสัตว์ถวายยาแก่ภิกษุ ไหว้พระตามวัดต่างๆ ขัดองค์พระ ให้ความรู้สมุนไพรในการดูแลสุขภาพเป็นทาน
และสร้างบารมีให้ครบทั้ง 10 อย่างขอเชิญร่วมบุญกุศลร่วมกันนะ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 20 ก.พ. 2015, 22:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ควรฝึกฝนจิตอยู่ตลอด

:b8: :b8: :b8:

เจ้าของ:  student [ 21 ก.พ. 2015, 01:04 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ควรฝึกฝนจิตอยู่ตลอด

อนุโมทนาครับ

ผมมีความเห็นเหมือนกับหลวงปู่ ที่บอกว่าไอสไตน์ และนักวิทยาศาสตร์ มีทิฎฐิความเห็นแบบทางโลก
คือยังยึดถือว่ามีอยู่(อัตตา) มีอะตอม มีอิเลคตรอน มีนั่นมีนี่ มีเวลา มีขนาด มีความกว้าง ยาว สั้น โมชั่นต่างๆไม่ว่าจะค้นหาหน่วยที่เล็กที่สุด ก็คือค้นหาเพราะทิฎฐิความเห็นอยู่แล้วว่ามีตัวตน(อัตตา)

พระพุทธเจ้าสอนเรื่องพระไตรลักษณ์ ธรรมทั้งปวงเป็นอนัตตา ดังนั้น ผู้ที่ศึกษาพุทธศาสนาต้องทความเข้าใจตรงนี้ว่าทิฎฐิความเห็นจริง ต้องเห็นธรรมเป็นอนัตตาครับ

เจ้าของ:  student [ 21 ก.พ. 2015, 01:14 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ควรฝึกฝนจิตอยู่ตลอด

ขอยกตัวอย่างแยกชิ้นส่วนรถ รถทั้งคันย่อมประกอบด้วยชิ้นส่วนรถ

ความเห็นผมคือ จะแยกชิ้นส่วนออกมาอย่างไรก็ตาม ถ้าทิฎฐิความเห็นเรายังเป็นอัตตาอยู่ เราก็ไม่มีทางที่จะเข้าใจปรมัตถ์ธรรมได้ แยกมาก็เป็น ลูกสูบ แหวน เพลาราวลิ้น ท่อต่างๆ seal ต่างๆอยู่ดี ก็คืออัตตาอยู่ดี

ส่วนคำสอนของพระศาสดา แยกชิ้นส่วนร่างกาย ให้เห็นว่า ร่างกายประกอบด้วยอวัยวะน้อยใหญ่ มีความสกปรก ไม่พึงประสงค์ ชี้ให้เปลี่ยนทิฎฐิความเห็นใหม่ ให้เกิดความสังเวธใจ เบื่อหน่ายในรูป จากเห็นว่าสวย มองเห็นปรมัตถ์ธรรมว่าจริงๆนั้นเป็นอย่างไร นี่คือธรรมแท้ๆ

เจ้าของ:  กบนอกกะลา [ 21 ก.พ. 2015, 07:21 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ควรฝึกฝนจิตอยู่ตลอด

http://www.84000.org/tipitaka/pitaka2/v ... A=0&Z=1071

ลองอ่านดูทิฏฐิ 62 ...จะเห็นอะไรอะไรมากขึ้น...

แม้กระทั้ง...ที่เราคิดว่านิพพานเป็นอย่างนั้นอย่างนี้...ตามตำรา..ตามคำครูบาอาจารย์...ก็ไม่แคล้วมาอยู่ในทิฏฐิ 62 นี้เข้าจนได้

อาจจะเป็นอย่างที่หลวงปู่มั่นพูดใว้ทำนองว่า...พระสัทธรรมจริงเมื่อมาตั้งอยู่ในใจของปุถุชนก็เป็นพระสัทธรรมปลอมไป..

คิดนะ....เพราะ...ปุถุชนยังรู้ในระดับ...ขันธ์อยู่...

เจ้าของ:  ลูกหว้า [ 24 ก.พ. 2015, 17:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: ควรฝึกฝนจิตอยู่ตลอด

:b8: :b8: :b8:

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/