ลานธรรมจักร http://dhammajak.net/forums/ |
|
ใครเป็นพระอริยบุคคล http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=49629 |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 06 มี.ค. 2015, 20:31 ] |
หัวข้อกระทู้: | ใครเป็นพระอริยบุคคล |
สำหรับผู้ที่จะรู้ว่าใครเป็นพระอริยบุคคลได้นั้น ต้องมีคุณธรรมที่เสมอกันหรือมากกว่า ถ้าเป็นปุถุชนจะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าท่านใดเป็นพระอริยะบุคคล พระโสดาบันก็จะรู้ได้เพียงผู้ทีได้เป็นพระโสดาบันเท่านั้น สูงกว่านั้นท่านก็รู้ไม่ได้ ส่วนพระสกทาคามีก็จะรู้ได้ว่าใครได้เป็นพระสกทาคามี กับพระโสดาบัน สูงไปกว่านั้นรู้ไม่ได้ ส่วนพระะอนาคามีก็จะรู้ได้ว่าใครได้เป็นพระอนาคามี ใครได้เป็นพระสกทาคามี และพระโสดาบัน สูงกว่านั้นก็จะรู้ไม่ได้ ส่วนพระอรหันต์ท่านจะรู้ทั้งหมดว่าใครสำเร็จพระอริยะบุคคลระดับใด |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 06 มี.ค. 2015, 21:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 07 มี.ค. 2015, 06:42 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
ถ้ามีใครมาบอกว่าผู้นั้นเป็นพระอริยะบุคคลขั้นนั้นขั้นนี้ ก็ขอให้แค่ฟังไว้เท่านั้นพอ ให้ถือหลักในกระทู้ข้างบนเป็นตัวตัดสินใจที่จะเชื่อ |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 07 มี.ค. 2015, 07:09 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
ลุงหมาน เขียน: ถ้ามีใครมาบอกว่าผู้นั้นเป็นพระอริยะบุคคลขั้นนั้นขั้นนี้ ก็ขอให้แค่ฟังไว้เท่านั้นพอ ให้ถือหลักในกระทู้ข้างบนเป็นตัวตัดสินใจที่จะเชื่อ เห็นด้วย..ครับ ผมคิดนะ....เราทำถึงเมื่อไร..เราก็รู้เองแหละ.. ![]() แต่ก็มีหลายราย..นะ...แม้เราไม่ถึง..แต่ก็รู้..เพราะท่านเหล่านั้นพากันแพ้ภัยตัวเอง..ไปซะก่อน ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 07 มี.ค. 2015, 07:17 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
กบนอกกะลา เขียน: ลุงหมาน เขียน: ถ้ามีใครมาบอกว่าผู้นั้นเป็นพระอริยะบุคคลขั้นนั้นขั้นนี้ ก็ขอให้แค่ฟังไว้เท่านั้นพอ ให้ถือหลักในกระทู้ข้างบนเป็นตัวตัดสินใจที่จะเชื่อ เห็นด้วย..ครับ ผมคิดนะ....เราทำถึงเมื่อไร..เราก็รู้เองแหละ.. ![]() แต่ก็มีหลายราย..นะ...แม้เราไม่ถึง..แต่ก็รู้..เพราะท่านเหล่านั้นพากันแพ้ภัยตัวเอง..ไปซะก่อน ![]() แต่ถึงอย่างไรแม้เราจะเป็นปุถุชนก็จริง บางครั้งก็สัมผัสกับตนเองได้โดยอยู่ใกล้ชิดกันนานๆ สังเกตุกิริยาอาการที่แสดงออก (แต่เราก็ต้องมีหลักการสังเกตุด้วย) อันนี้ไม่ได้หมายความว่าชัวร์เลยนะเพียงแค่สังเกตุอยู่ในขั้นนั้น |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 07 มี.ค. 2015, 07:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
ลุงหมาน เขียน: แต่ถึงอย่างไรแม้เราจะเป็นปุถุชนก็จริง บางครั้งก็สัมผัสกับตนเองได้โดยอยู่ใกล้ชิดกันนานๆ สังเกตุกิริยาอาการที่แสดงออก (แต่เราก็ต้องมีหลักการสังเกตุด้วย) อันนี้ไม่ได้หมายความว่าชัวร์เลยนะเพียงแค่สังเกตุอยู่ในขั้นนั้น พระอนาคา..ขึ้นไป...นี้..รู้ได้ง่าย..รู้แบบรวมๆ....แต่ไม่รู้ว่า..จริงๆ..ท่านอยู่ตรงไหน.. แต่..โสดา..สกทา...นี้รู้ได้ยากกว่า..ต้องอยู่ใกล้ชิดนานพอสมควร. ศีล...(สีลาจารวัตร์)..รู้ด้วยการคลุกคลี ปัญญา....รู้ด้วยการสนทนา แต่ก็อย่างที่ลุงว่า...ยังไม่ชัวร์...คือเรารู้คร่าวๆ..อย่าไปหมายเอาว่าเป็นจริงเป็นจังมากนัก ที่สำคัญ..ที่สุด...คือ..เราต้องรู้ใจเราให้มากๆ..ก่อน...มีสติรู้..ไหนกุศล..ไหนอกุศล..ฯลฯ..ในขณะจิตของเราก่อน...ดูใจเราเก่งเท่าไร..ก็จะรู้จิตใจของผู้อื่นได้มากเท่านั้น |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 07 มี.ค. 2015, 07:53 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
กบนอกกะลา เขียน: ลุงหมาน เขียน: แต่ถึงอย่างไรแม้เราจะเป็นปุถุชนก็จริง บางครั้งก็สัมผัสกับตนเองได้โดยอยู่ใกล้ชิดกันนานๆ สังเกตุกิริยาอาการที่แสดงออก (แต่เราก็ต้องมีหลักการสังเกตุด้วย) อันนี้ไม่ได้หมายความว่าชัวร์เลยนะเพียงแค่สังเกตุอยู่ในขั้นนั้น พระอนาคา..ขึ้นไป...นี้..รู้ได้ง่าย..รู้แบบรวมๆ....แต่ไม่รู้สาธุว่า..จริงๆ..ท่านอยู่ตรงไหน.. แต่..โสดา..สกทา...นี้รู้ได้ยากกว่า..ต้องอยู่ใกล้ชิดนานพอสมควร. ศีล...(สีลาจารวัตร์)..รู้ด้วยการคลุกคลี ปัญญา....รู้ด้วยการสนทนา แต่ก็อย่างที่ลุงว่า...ยังไม่ชัวร์...คือเรารู้คร่าวๆ..อย่าไปหมายเอาว่าเป็นจริงเป็นจังมากนัก ที่สำคัญ..ที่สุด...คือ..เราต้องรู้ใจเราให้มากๆ..ก่อน...มีสติรู้..ไหนกุศล..ไหนอกุศล..ฯลฯ..ในขณะจิตของเราก่อน...ดูใจเราเก่งเท่าไร..ก็จะรู้จิตใจของผู้อื่นได้มากเท่านั้น สาธุ....มีหลายท่านบอกว่าพระองค์นั้นท่านเป็นพระอริยะขั้นนั้นขั้นนี้....อิอิ....โชว์โง่ชัด..แถมเป็นคนอวดรู้อีก |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 07 มี.ค. 2015, 08:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
กบนอกกะลา เขียน: ลุงหมาน เขียน: แต่ถึงอย่างไรแม้เราจะเป็นปุถุชนก็จริง บางครั้งก็สัมผัสกับตนเองได้โดยอยู่ใกล้ชิดกันนานๆ สังเกตุกิริยาอาการที่แสดงออก (แต่เราก็ต้องมีหลักการสังเกตุด้วย) อันนี้ไม่ได้หมายความว่าชัวร์เลยนะเพียงแค่สังเกตุอยู่ในขั้นนั้น พระอนาคา..ขึ้นไป...นี้..รู้ได้ง่าย..รู้แบบรวมๆ....แต่ไม่รู้ว่า..จริงๆ..ท่านอยู่ตรงไหน.. แต่..โสดา..สกทา...นี้รู้ได้ยากกว่า..ต้องอยู่ใกล้ชิดนานพอสมควร. ศีล...(สีลาจารวัตร์)..รู้ด้วยการคลุกคลี ปัญญา....รู้ด้วยการสนทนา แต่ก็อย่างที่ลุงว่า...ยังไม่ชัวร์...คือเรารู้คร่าวๆ..อย่าไปหมายเอาว่าเป็นจริงเป็นจังมากนัก ที่สำคัญ..ที่สุด...คือ..เราต้องรู้ใจเราให้มากๆ..ก่อน...มีสติรู้..ไหนกุศล..ไหนอกุศล..ฯลฯ..ในขณะจิตของเราก่อน...ดูใจเราเก่งเท่าไร..ก็จะรู้จิตใจของผู้อื่นได้มากเท่านั้น พระอนาคา รู้ได้ง่าย ยังไงครับ ![]() |
เจ้าของ: | ลุงหมาน [ 07 มี.ค. 2015, 08:44 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: กบนอกกะลา เขียน: ลุงหมาน เขียน: แต่ถึงอย่างไรแม้เราจะเป็นปุถุชนก็จริง บางครั้งก็สัมผัสกับตนเองได้โดยอยู่ใกล้ชิดกันนานๆ สังเกตุกิริยาอาการที่แสดงออก (แต่เราก็ต้องมีหลักการสังเกตุด้วย) อันนี้ไม่ได้หมายความว่าชัวร์เลยนะเพียงแค่สังเกตุอยู่ในขั้นนั้น พระอนาคา..ขึ้นไป...นี้..รู้ได้ง่าย..รู้แบบรวมๆ....แต่ไม่รู้ว่า..จริงๆ..ท่านอยู่ตรงไหน.. แต่..โสดา..สกทา...นี้รู้ได้ยากกว่า..ต้องอยู่ใกล้ชิดนานพอสมควร. ศีล...(สีลาจารวัตร์)..รู้ด้วยการคลุกคลี ปัญญา....รู้ด้วยการสนทนา แต่ก็อย่างที่ลุงว่า...ยังไม่ชัวร์...คือเรารู้คร่าวๆ..อย่าไปหมายเอาว่าเป็นจริงเป็นจังมากนัก ที่สำคัญ..ที่สุด...คือ..เราต้องรู้ใจเราให้มากๆ..ก่อน...มีสติรู้..ไหนกุศล..ไหนอกุศล..ฯลฯ..ในขณะจิตของเราก่อน...ดูใจเราเก่งเท่าไร..ก็จะรู้จิตใจของผู้อื่นได้มากเท่านั้น พระอนาคา รู้ได้ง่าย ยังไงครับ ![]() ท่านจะไม่มีอาการโกรธ หรือเสียใจให้เห็นเลย |
เจ้าของ: | เปลี่ยนชื่อใหม่ [ 07 มี.ค. 2015, 10:11 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
ลุงหมาน เขียน: เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: กบนอกกะลา เขียน: ลุงหมาน เขียน: แต่ถึงอย่างไรแม้เราจะเป็นปุถุชนก็จริง บางครั้งก็สัมผัสกับตนเองได้โดยอยู่ใกล้ชิดกันนานๆ สังเกตุกิริยาอาการที่แสดงออก (แต่เราก็ต้องมีหลักการสังเกตุด้วย) อันนี้ไม่ได้หมายความว่าชัวร์เลยนะเพียงแค่สังเกตุอยู่ในขั้นนั้น พระอนาคา..ขึ้นไป...นี้..รู้ได้ง่าย..รู้แบบรวมๆ....แต่ไม่รู้ว่า..จริงๆ..ท่านอยู่ตรงไหน.. แต่..โสดา..สกทา...นี้รู้ได้ยากกว่า..ต้องอยู่ใกล้ชิดนานพอสมควร. ศีล...(สีลาจารวัตร์)..รู้ด้วยการคลุกคลี ปัญญา....รู้ด้วยการสนทนา แต่ก็อย่างที่ลุงว่า...ยังไม่ชัวร์...คือเรารู้คร่าวๆ..อย่าไปหมายเอาว่าเป็นจริงเป็นจังมากนัก ที่สำคัญ..ที่สุด...คือ..เราต้องรู้ใจเราให้มากๆ..ก่อน...มีสติรู้..ไหนกุศล..ไหนอกุศล..ฯลฯ..ในขณะจิตของเราก่อน...ดูใจเราเก่งเท่าไร..ก็จะรู้จิตใจของผู้อื่นได้มากเท่านั้น พระอนาคา รู้ได้ง่าย ยังไงครับ ![]() ท่านจะไม่มีอาการโกรธ หรือเสียใจให้เห็นเลย แค่ไม่โกรธ กับไม่เสียใจ ยังไม่พอนะครับผมว่า ![]() |
เจ้าของ: | สุชาวดี [ 07 มี.ค. 2015, 11:39 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
![]() ![]() ![]() |
เจ้าของ: | muisun [ 07 มี.ค. 2015, 12:36 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
ไม่จำเป็นจะต้องไปรู้ว่าใครจะได้หรือไม่ได้ แค่เรารู้ทันอย่างเดียวยังไม่ทันเลย เค้าเป็นก็ไม่ได้มีส่วนได้ส่วนเสียอะไรกับเค้านิ ธรรมะของพระพุทธเจ้าศักดิ์สิทธิ์อยู่เสมอ ผู้ใดปฏิบัติถึงก็รู้ผลแล้ว...ใครปฏิบัติถึงก็คุ้มค่าแล้ว...แล้วไม่จำเป็นต้องรู้ว่าใครถึงขั้นไหนด้วย เพราะไม่มีประโยชน์อะไร... และเราไม่ได้สนใจวา่ใครจะถึงถึงขั้นไหน..แต่ธรรมะของพระพุทธเจ้าถึงอยู่แล้ว.. พระพุทธเจ้าพระองค์ทรงตรัสว่า หากประสงค์ความสงบเป็นอันว่าสงบแล้ว ปราถนาจิตเป็นสมาธิ เป็นอันว่าเธอได้สมาธิแล้ว ปราถนาโสดาปฏิมรรค สกิทาคามิมรรค อนาคามีมรรค หรืออรหัตมรรค หรืออรหัตผลเป็นอันว่าเธอได้แล้ว เพราะเธอรู้ทันอยู่...สังเกตให้รู้ทันปัจจุบันตลอดเวลาก็ไม่จำเป็นต้องเสียเวลาไปตรวจดูใครเพราะถึงเเช็คไปก็ไม่มีสิทธิ์รู้หรอก |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 07 มี.ค. 2015, 12:55 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
ลุงหมาน เขียน: เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: กบนอกกะลา เขียน: ลุงหมาน เขียน: แต่ถึงอย่างไรแม้เราจะเป็นปุถุชนก็จริง บางครั้งก็สัมผัสกับตนเองได้โดยอยู่ใกล้ชิดกันนานๆ สังเกตุกิริยาอาการที่แสดงออก (แต่เราก็ต้องมีหลักการสังเกตุด้วย) อันนี้ไม่ได้หมายความว่าชัวร์เลยนะเพียงแค่สังเกตุอยู่ในขั้นนั้น พระอนาคา..ขึ้นไป...นี้..รู้ได้ง่าย..รู้แบบรวมๆ....แต่ไม่รู้ว่า..จริงๆ..ท่านอยู่ตรงไหน.. แต่..โสดา..สกทา...นี้รู้ได้ยากกว่า..ต้องอยู่ใกล้ชิดนานพอสมควร. ศีล...(สีลาจารวัตร์)..รู้ด้วยการคลุกคลี ปัญญา....รู้ด้วยการสนทนา แต่ก็อย่างที่ลุงว่า...ยังไม่ชัวร์...คือเรารู้คร่าวๆ..อย่าไปหมายเอาว่าเป็นจริงเป็นจังมากนัก ที่สำคัญ..ที่สุด...คือ..เราต้องรู้ใจเราให้มากๆ..ก่อน...มีสติรู้..ไหนกุศล..ไหนอกุศล..ฯลฯ..ในขณะจิตของเราก่อน...ดูใจเราเก่งเท่าไร..ก็จะรู้จิตใจของผู้อื่นได้มากเท่านั้น พระอนาคา รู้ได้ง่าย ยังไงครับ ![]() ท่านจะไม่มีอาการโกรธ หรือเสียใจให้เห็นเลย ใช่ครับ... ![]() |
เจ้าของ: | กบนอกกะลา [ 07 มี.ค. 2015, 13:05 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: ลุงหมาน เขียน: เปลี่ยนชื่อใหม่ เขียน: กบนอกกะลา เขียน: ลุงหมาน เขียน: แต่ถึงอย่างไรแม้เราจะเป็นปุถุชนก็จริง บางครั้งก็สัมผัสกับตนเองได้โดยอยู่ใกล้ชิดกันนานๆ สังเกตุกิริยาอาการที่แสดงออก (แต่เราก็ต้องมีหลักการสังเกตุด้วย) อันนี้ไม่ได้หมายความว่าชัวร์เลยนะเพียงแค่สังเกตุอยู่ในขั้นนั้น พระอนาคา..ขึ้นไป...นี้..รู้ได้ง่าย..รู้แบบรวมๆ....แต่ไม่รู้ว่า..จริงๆ..ท่านอยู่ตรงไหน.. แต่..โสดา..สกทา...นี้รู้ได้ยากกว่า..ต้องอยู่ใกล้ชิดนานพอสมควร. ศีล...(สีลาจารวัตร์)..รู้ด้วยการคลุกคลี ปัญญา....รู้ด้วยการสนทนา แต่ก็อย่างที่ลุงว่า...ยังไม่ชัวร์...คือเรารู้คร่าวๆ..อย่าไปหมายเอาว่าเป็นจริงเป็นจังมากนัก ที่สำคัญ..ที่สุด...คือ..เราต้องรู้ใจเราให้มากๆ..ก่อน...มีสติรู้..ไหนกุศล..ไหนอกุศล..ฯลฯ..ในขณะจิตของเราก่อน...ดูใจเราเก่งเท่าไร..ก็จะรู้จิตใจของผู้อื่นได้มากเท่านั้น พระอนาคา รู้ได้ง่าย ยังไงครับ ![]() ท่านจะไม่มีอาการโกรธ หรือเสียใจให้เห็นเลย แค่ไม่โกรธ กับไม่เสียใจ ยังไม่พอนะครับผมว่า ![]() ใช่ครับ..ว่ายังไม่พอ... เพียงแต่..ถ้ามีไม่พอใจ..มีชอบใจ(กามราคะ)....ก็ตัดไปเลยว่า..ไม่ใช่แน่ หากไม่มี....นี้ก็ต้องดูต่อไป..ครับ..ยังตัดสินอะไรไม่ได้ |
เจ้าของ: | eragon_joe [ 07 มี.ค. 2015, 19:52 ] |
หัวข้อกระทู้: | Re: ใครเป็นพระอริยะบุคคล |
![]() อยากรู้ ต้องลองไปยั่วอารมณ์ท่านดูรึเปล่า ![]() ![]() ![]() ไม่ใช่เรื่องง่ายนะ โดยเฉพาะ ผู้ที่เข้าสู่โลกุตระธรรมด้วยแล้ว สำหรับผู้ที่ยังต่อสู้อยู่ในแดน โลกียะธรรม ก็คงจะเจอบททดสอบเยอะ บางที ไม่โกรธ ไม่เสียใจ ไม่แสดงความโลภ แสดงสำรวมก็มี ด้วยกำลังแห่งมานะทิฐิ ไม่ใช่ด้วยกำลังปัญญา หรือ กำลังจิต พอปุถุชนเห็น มันก็น่าหมั่นเขี้ยวเป็นธรรมดา ก็พลอยมีเรื่องให้ได้แหย่นิดแหย่หน่อย พอให้ได้เกา ๆ คัน ๆ ขำขำ งอน ๆ กันไปตามประสา ![]() ส่วนผู้ที่สะสมอริยะทรัพย์อยู่ การกระทำใดที่ทำให้อริยะทรัพย์ต้องพร่อง ต้องเสื่อม ถือว่าเป็นเรื่องที่ผู้เพียรอยู่ ย่อมเฝ้าสำรวมระวังเป็นอย่างมาก สติประคองจิตยิ่งกว่าอุ้มเด็กอ่อนแรกเกิด ซึ่งท่านอาจจะไม่ได้เจอบททดสอบบ่อยนัก แต่ว่าบทที่ท่านจะต้องเจอ ก็มักจะหนักหน่วง ซึ่งโดยมาก ท่านก็จะไม่พ่ายหรอก เพราะ โดยโลกุตระธรรมแล้ว เป็นการสู้แบบหลังชนฝา ไม่มีการถอยกลับ จะเอาชนะได้ช้าหรือเร็ว ก็ขึ้นอยู่กับกำลังใจ อุบาย และเวลา ![]() ![]() ![]() ว่าแต่ อ๊บซ์อยากถูกทดสอบแล้วเหร๋อ... ![]() ![]() ![]() |
หน้า 1 จากทั้งหมด 3 | เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง |
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group http://www.phpbb.com/ |