ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

มาร่วมนับเม็ดฝนที่ตกกันเถอะ
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=49696
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  yoottapong [ 16 มี.ค. 2015, 22:05 ]
หัวข้อกระทู้:  มาร่วมนับเม็ดฝนที่ตกกันเถอะ

มาร่วมนับเม็ดฝนที่ตกกันเถอะ โดยมีอาจารย์เป็นพระสารีบุตรโดยพวกเราเป็นศิษย์

ศิษย์คนที่1ตั้งสมมุติฐานการนับเม็ดฝนโดยนับฝุ่นเหล็กจากการเจียรท่อเหล็ก พระสารีบุตรถามทำไม่ถึงใช้ฝุ่นจากการเจียรท่อเหล็กในการนับเม็ดฝน ศิษย์คนที่1ตอบว่าเหล็กกลมเหมือนจักรหรือมหาจักรน่าจะช่วยวิเคราะห์การนับเม็ดฝนได้

ศิษย์คนที่2 ตั้งสมมุติฐานโดยเอาเม็ดแต้ ที่อยู่ใกล้มือมาขุดนับฝุ่นจากเม็ดแต้คูณด้วยจำนวนเท่านั้นเท่านี้ พระสารีบุตรถาม ทำไมถึงใช้เม็ดแต้นับจำนวนฝนที่ตก ศิษย์คนที่2ตอบว่าธรรมะเป็นของใกล้ตัวเห็นอะไรลองจับมาเป็นธรรมดูครับ

ศิษย์คนที่3 ตั้งสมมุติฐานโดยใช้แรงคนดันฝาปิดแท้งน้ำจนกว่าแรงผู้ชายกำยำคนหนึ่งจะต้านไม่ไหว มาบวกลบคูณหารให้ได้ใกล้เคียงกับฝนที่ตก

ศิษย์คนที่4 ตั้งสมมุติฐานโดย ช่วงที่ฝนตกจับหนูมากินขนมปังโดยขนมปังวัดค่าจำนวนเรียบร้อยว่าเท่าไหร่โดยคูณกับขนหนูและจำนวนหนูอะไรก็แล้วแต่เพื่อให้ค่าได้ใกล้เคียงกับฝนที่ตก

ศิษย์คนที่5 คุณกบนอกกะลา_?

ศิษย์คนที่6 คุณน้องก้อง ?

ศิษย์คนที่7 คุณลุงหมาน ?

ศิษย์คนที่8 คุณidea ?

ศิษย์คนที่9 คุณ student ?

ศิษย์คนที่ 10 11 12 13 14 15................ ? มาร่วมแชร์กันนะครับ ปัญญาที่ได้คืออริยะทรัพย์ของคุณเอง

เจ้าของ:  student [ 17 มี.ค. 2015, 01:51 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาร่วมนับเม็ดฝนที่ตกกันเถอะ

เรานับเม็ดฝนด้วยธาตุดินครับ เราไม่นับเม็ดฝนด้วยตา
เมื่อใดที่เม็ดฝนกระทบตัว เรารู้สึกได้ทีละเม็ดทีละเม็ด

เมื่อต้องการนับเม็ดฝนทั่วทุกเม็ด เราจะนับเม็ดฝนด้วยธาตุไฟ เพราะทั่วพื้นที่ที่ฝนตก ย่อมเกิดความเย็นแผ่กระจาย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 17 มี.ค. 2015, 04:06 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: มาร่วมนับเม็ดฝนที่ตกกันเถอะ

ขอใช้สิทธิในคนที่ 7

เป็นการอุปมาผู้มีปัญญาไวแบบพระสารีบุตร
ว่าเป็นผู้นับเม็ดฝนที่ตกในท้องมหาสมุทรได้ทั่วทุกเม็ด ฉะนั้น

ผู้ฉลาดเป็นผู้รอบรู้ตอบปัญหาแก้ปัญหาได้ทุกเรื่อง
เราย่อมยอมรับว่าเขาเป็นผู้ฉลาด แท้จริงแล้วบนโลกใบนี้ยังมีอะไรๆ ที่ยังไม่รู้
ยังมีอะไรๆ ที่ถูกปิดบังไว้ยังมีอีกมากมาย ถึงแม้จะใช้เวลาค้นคว้าไปตลอดชีวิต
หรือจะใช้ชีวิตหลายๆชีวิตมาค้นคว้าหาความรู้เท่าไหร่ก็ไม่หมด

ดังนั้นพอจะกล่าวได้ว่าจะเป็นผู้เชี่ยวชาญในการตอบปัญหานั้น
ก็ใช่ว่าจะเป็นผู้ตอบได้ชาญฉลาดอย่างเดียวเท่านั้น จะต้องเก่งและฉลาดในการตั้งคำถามด้วย
เพราะในแต่ละคนนั้นเขาก็มีความรู้ความสามารถในคนละด้าน บางคนเขาก็เก่งฉลาดอีกด้านหนึ่ง
และบางคนก็ฉลาดและก็เก่งในหลายๆด้านอยู่ในคนๆเดียวกันได้อย่างเหมาะเจาะ

ผู้ฉลาดจะต้องคลายความสงสัยให้ได้เพื่อสลัดความไม่รู้ หรือที่เรียกว่าสลัดความโง่
เพื่อแลกเปลี่ยนกับความรู้ความฉลาดให้เกิดขึ้นในตน เมื่อพยายามปลดเปลื้องความสงสัย
ได้มากเท่าใด ความโง่ก็ย่อมอันตรธานหายได้ไปสิ้น ดังที่พระโสดาบันได้กระทำมาแล้ว
อันเป็นที่ประจักอยู่แล้ว สิ้นมิจฉาทิฎฐิ สิ้นความสงสัย ฉะนี้แล

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/