ลานธรรมจักร
http://dhammajak.net/forums/

คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน
http://dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=49801
หน้า 1 จากทั้งหมด 1

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 01 เม.ย. 2015, 10:18 ]
หัวข้อกระทู้:  คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

วันเวลาผ่านมาแล้วก็ผ่านไป ต้นไม้ใบหญ้าที่เขียวชะอุ่มไม่ช้าก็ร่วงหล่นแห้งเหี่ยวตาย นกก็ดี
ผีเสื้อก็ดี ล้วนแต่มีชีวิตอยู่ไม่นานแล้วก็ตาย แม้แต่ตัวเราเองก็ต้องตาย ทุกอย่างในโลกนี้ตกอยู่ในลักษณะ
นี้ คือต้องเปลี่ยนแปลงแตกสลายไปในที่สุด ถ้าเราไม่รู้จักดำเนินชีวิตของเราให้ถูกต้องแล้ว เราจะไม่พ้น
ไปจากการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ได้เลย

พระพุทธเจ้าและพระอริยสาวกทั้งปวง ล้วนแต่มองเห็นความจริงข้อนี้ ท่านจึงได้ดำเนินชีวิตของ
ท่าน ไปตามทางสายกลางอันประกอบด้วยองค์ ๘ ที่เรียกว่าอริยมรรคมีองค์ ๘ จนได้บรรลุคุณธรรมขั้นสูง
เป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าและพระอรหันตขีณาสพตามลำดับ ดับกิเลสและขันธ์ได้หมดสิ้นไม่ต้องเกิดไม่ต้อง
ตายอีกต่อไป

มีสักกี่คนที่ต้องการดำเนินรอยตามพระพุทธองค์ ส่วนมากยังรักที่จะเกิดอยู่ทั้งสิ้น แม้จะทุกข์บ้าง
สุขบ้าง แต่ชีวิตก็ยังน่ารื่นรมย์ น่าอยู่ น่าทดลอง พระพุทธองค์มิได้ทรงสอนให้ทุกคนดำเนินรอยตามพระองค์
แต่เพียงอย่างเดียว หากแต่ผู้ใดยังรักที่จะอยู่ในโลกนี้ พระองค์ก็ทรงสอนให้อยู่ในโลกนี้ด้วยความสุข แม้จะ
ต้องตายและเกิดใหม่อีก ก็ให้เกิดในที่ดี มีความสุขสบาย มีรูปสวยรวยทรัพย์ เป็นต้น

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 01 เม.ย. 2015, 11:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

นั่นคือทรงสอนให้ละชั่วประพฤติดี
เพราะถ้าประมาทพลาดพลั้ง ต้องตกไปเกิดในที่ชั่วเป็นสัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เดรัจฉานแล้ว
โอกาสที่จะกลับมาเกิดในที่ดี เป็นมนุษย์เป็นต้นนั้นแสนยาก เพราะอะไร ?

เพราะเมื่อไปเกิดในที่ชั่วเหล่านั้นแล้ว ต้องทนทุกข์ทรมาน อดอยากยากแค้น
ด้วยอำนาจของความชั่วที่ทำไว้โอกาสที่จะทำความดีแทบจะไม่มี เมื่อโอกาสที่จะทำความดีหายาก
เราจะได้ผลความดีที่ไหนมานำเราไปเกิดในที่ดี ผู้ที่เกิดในที่ชั่วอาศัยกรรมชั่วนำไปเกิด
ฉันใด ผู้ที่เกิดในที่ดีก็ต้องอาศัยกรรมดีนำไปเกิด ฉันนั้น

สัตว์เดรัจฉานที่เราเห็นว่าน่ารัก เช่น นก เป็นต้นนั้นความจริงเกิดในที่ชั่ว
โอกาสที่จะทำความดีมีน้อยหรือเกือบไม่มีเลย มักจะทำความชั่วเสียมากกว่า
วันหนึ่งๆ ท่านเห็นนกทำความดีอะไรได้บ้าง มีแต่ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ด้วยการหาหนอน
หาแมลงกินเป็นอาหาร ชีวิตของนกส่วนมากจึงมีแต่จมลงไปในที่ชั่วมากขึ้นทุกวัน

ฉะนั้น โอกาสที่จะกลับมาเกิดเป็นคนนั้นแสนยาก ยังมีสัตว์อีกมากมายรอบๆ ตัวเรา
ในฤดูที่ฝนฉ่ำฟ้า เราจะพบลูกกบ ลูกเขียด ลูกคางคกมากมายในแอ่งน้ำตื้นๆ
ส่งเสียงร้องกันเซ็งแซ่ ฝนตกที่ไหนมีน้ำขังเพียงเล็กน้อย เราจะเห็นสัตว์จำพวกนี้เต็มไปหมด
ยังไม่ทันโตก็ถูกคนเหยียบตายบ้าง รถทับตายบ้าง

ที่รอดมาได้ก็ต้องตายเพราะน้ำในแอ่งแห้งเสียก่อนบ้าง แดดเผาตายบ้าง สิ้นชีวิตไปชาติหนึ่ง
โดยที่ไม่มีโอกาสทำความดีอะไรเลย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 01 เม.ย. 2015, 15:40 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

ลองมองให้ใกล้ตัวอีกนิด สุนัขก็ดี แมวก็ดี แม้จะได้รับการเลี้ยงดูอย่างมีความสุข มีอาหารอุดม
สมบูรณ์ด้วยผลของบุญเก่าที่เคยทำไว้ แต่บุญใหม่ ท่านเคยเห็นสุนัขหรือแมวทำคุณงามความดีอะไรบ้าง
มีแต่คอยประจบประแจงเจ้านายให้รักใคร่เพื่อปากเพื่อท้องของตนเอง ริษยาพยาบาทกันเองบ้าง คอยทำลาย
ชีวิตนกและหนูบ้าง โอกาสที่จะทำความดีเกือบไม่มี เมื่อบุญเก่าก็ใช้หมด บุญใหม่ก็ไม่ได้ทำแล้วจะได้บุญ
ที่ไหนมาช่วยให้ไปเกิดในที่ ๆ ดี ในเมื่อสิ้นชีวิตลง มีแต่จะตกต่ำลงไปทุกที

ลองมองให้ซึ้ง จะเห็นว่าลำพังแต่เกิดมาเป็นสัตว์ก็น่าสงสารอยู่แล้ว ซ้ำยังมีคนใจร้ายคอยเบียด
เบียนซ้ำเติมให้ทุกข์ยากลำบากขึ้นไปอีก นี่เป็นเพียงชีวิตของสัตว์ที่เรามองเห็นได้ ส่วนที่เรามองไม่เห็นมี
อีกมากมาย โดยเฉพาะพวกสัตว์นรก เปรต อสุรกาย สัตว์เหล่านี้ยิ่งลำบากทุกข์ยากยิ่งกว่าสัตว์ที่เราเห็นๆ
กันอยู่นี้หลายแสนเท่า ช่างน่าสงสารนัก

เราเคยคิดกันบ้างหรือไม่ว่า อะไรทำให้ไปเกิดเป็นสัตว์ อะไรทำให้ไปเกิดเป็นมนุษย์ อะไรทำให้
ไปเกิดเป็นเทวดา เพราะอะไรสัตว์จึงมีมากมายหลายชนิดจนนับไม่ถ้วน แม้เทวดาและมนุษย์เองก็มีมาก
มายหลายจำพวก สัตว์ในโลกนี้จะมีอย่างเดียวไม่ได้หรือ มนุษย์และเทวดาก็น่าจะมีแต่คนดีอย่างเดียวไม่
มีคนชั่ว หรือมีแต่คนชั่วอย่างเดียวไม่มีคนดีเลยไม่ได้หรือ ?

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 02 เม.ย. 2015, 05:57 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

ตอบได้ทันทีว่า ไม่ได้
เพราะอะไร ? เพราะสัตว์ทุกชนิดมีกรรมคือการกระทำแตกต่างกัน เกิดเป็นสัตว์ก็เพราะกรรม
เกิดเป็นมนุษย์ก็เพราะกรรม สัตว์และมนุษย์ตลอดจนเทวดามีมากมายหลายชนิด ก็เพราะกรรม คือการ
กระทำของตนเอง มิใช่การกระทำของผู้อื่น สัตว์ทั้งหลายในโลกนี้ จึงเป็นไปตามกรรม มีกรรมเป็นผู้จำแนก
ให้ดี เลว ประณีต แตกต่างกัน

ทุกท่านไม่มีใครอยากถูกฆ่า ถูกขโมย ถูกผู้อื่นล่วงเกินบุตรภรรยาสามีของตน ไม่มีใครอยากได้
ยินคนอื่นโป้ปดมดเท็จเรา หรือพูดคำหยาบ เสียดสีเรา ไม่อยากขาดสติเป็นคนบ้าเลอะเลือน แต่ว่าทำอย่าง
ไรเล่า จึงจะไม่ประสบกับสิ่งที่ไม่น่าพึงพอใจเหล่านี้

ไม่ยากเลย
พระพุทธองค์ตรัสสอนไว้ว่า เมื่อเราไม่อยากถูกฆ่าก็อย่าฆ่าคนอื่นสัตว์อื่น และไม่ใช้ให้ผู้อื่นฆ่า
แทนเราด้วย เราไม่อยากถูกลักขโมย ก็อย่าลักขโมยหรือหยิบฉวยของที่เจ้าของหวงแหน
ที่เจ้าของเขามิได้อนุญาต ทั้งไม่ใช้ผู้อื่นลักขโมยหยิบฉวยแทนตนด้วย

เราไม่อยากให้ผู้อื่นล่วงเกินบุตรภรรยาสามีของเรา ก็อย่าได้ล่วงเกินบุตรภรรยาสามีของคนอื่น
เราไม่อยากได้ยินคำเท็จ คำหยาบ เราก็อย่าพูดคำเท็จ อย่าพูดคำหยาบ พูดแต่คำสัตย์ คำจริง
คำอ่อนหวาน เราไม่อยากเลื่อนลอย ขาดสติ เป็นบ้า ก็อย่าดื่มสุราเมรัยของเสพติดมึนเมาทั้งหลาย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 02 เม.ย. 2015, 14:55 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

ในทางตรงข้าม ทุกคนอยากร่ำรวย อยากรูปสวยผิวพรรณงดงามมีคนเคารพนอบน้อมเชื่อฟัง
มีคนคอยปรนนิบัติรับใช้ช่วยเหลือกิจการงานต่างๆ ให้สำเร็จ ทุกคนอยากมีสติปัญญาดี
เฉลียวฉลาดด้วยกันทั้งนั้น ปัญหาอยู่ที่ว่าเราจะได้สิ่งที่เราต้องการ ที่น่าพึงพอใจเหล่านี้มาจากไหน
ไม่ยากอีกเช่นเดียวกัน

เราอยากร่ำรวย ก็ต้องละความตระหนี่ ยินดีในการจำแนกแจกทาน เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่
แบ่งปันข้าวของเงินทองเครื่องใช้แก่ผู้อื่น ใครขาดแคลนสิ่งใด เรามีเราก็หยิบยื่นให้ด้วยความเต็มใจ
ไม่หวงแหน ไม่หวังผลตอบแทน ความดีที่เราเคยแบ่งปันให้ทานแก่ผู้อื่นอยู่เป็นนิตย์นั้น
มิได้สูญหายไปไหน แต่จะกลับมาตอบสนองให้เราได้ข้าวของเงินทองเหล่านั้น เป็นคนร่ำรวย
ไม่ยากจนในอนาคต

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 02 เม.ย. 2015, 16:02 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

เราอยากมีรูปงาม พระพุทธเจ้าก็ตรัสสอนให้รักษาศีล มีศีล ๕ คือการงดเว้นจากการฆ่า
สัตว์เป็นต้น ศีล ๘ ศีล ๑๐ ศีล ๒๒๗ ตามสมควรแก่กำลังของผู้รักษา ศีลเป็นเครื่องขัดเกลา กายวาจาใจ
ให้สะอาด มีกิริยาวาจาใจเรียบร้อย คนที่มีกิริยาวาจาสุภาพเรียบร้อยมีใจดีนั้นเป็นคนน่ารักนักหนา ใครเห็น
ใครก็ชอบ ใครเห็นใครชม ใครได้อยู่ใกล้ชิดก็เอ็นดูรักใคร่ มีศีลหน้าตาอิ่มเอิบ ผิวพรรณผ่องใส ด้วยความ
ดีคือศีลที่เราทำไว้นี้จะเป็นเหตุให้เราได้มีรูปสวย ผิวพรรณงามในกาลภายหน้า

เราอยากให้คนอื่นเคารพนอบน้อมเชื่อฟังเรา เราก็ต้องหัดเคารพนอบน้อมเชื่อฟังผู้ที่
เราควรเชื่อฟังเสียก่อน ผู้ที่ควรเคารพนอบน้อมเชื่อฟังนั้นได้แก่ พระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ มารดา
บิดา ครูอาจารย์ ตลอดจนผู้ที่สูงกว่าเราด้วยชาติตระกูล ด้วยความรู้ และด้วยวัย ถ้าเราเคยเคารพนอบน้อมยกย่องผู้อื่น ไม่ดูหมิ่นผู้อื่นอย่างนี้ เราก็จะได้รับผลเช่นนั้นเองในภายหลัง

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 03 เม.ย. 2015, 07:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

เราต้องการให้ใคร ๆ ช่วยเหลือกิจการงานของเรา เราก็ต้องรู้จักช่วยเหลือกิจการงาน
ของผู้อื่น กิจการงานในที่นี้หมายถึงกิจการงานที่ดีที่ชอบที่สุจริต ไม่ใช่กิจการงานที่ทุจริตคิดมิชอบ
มีการลักขโมยเป็นต้น เราเคยช่วยเหลือกิจการงานของผู้อื่นด้วยความเต็มใจอย่างใด
เราก็จะได้รับผลคือการช่วยเหลือจากผู้อื่นอย่างนั้น

เราอยากมีสติปัญญาเฉลียวฉลาด เราก็ต้องหมั่นศึกษาหาความรู้ ด้วยการอ่านหนังสือที่ดีมี
คุณค่า และหมั่นคบหาสมาคมใกล้ชิดกับท่านผู้รู้ สดับตรับฟังคำสอนของท่านผู้รู้ทั้งหลายเหล่านั้น
มีพระพุทธเจ้าเป็นต้นอยู่เสมอ ๆ อ่านแล้วฟังแล้วก็นำมาคิดพิจารณาใคร่ครวญให้รอบคอบสติปัญญา
ความเฉลียวฉลาดจึงจะเกิดได้

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 03 เม.ย. 2015, 14:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

เพราะฉะนั้นเมื่อเราต้องการอย่างไร ก็จงทำเหตุให้ตรงกับผลที่จะได้รับ เหตุดีผลต้องดี
เหตุชั่วผลต้องชั่ว พระพุทธองค์ตรัสไว้ว่า บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้รับผลเช่นนั้น
เราหว่านข้าว เราก็ย่อมได้รับเมล็ดข้าว เราทำกรรมดี เราก็ได้รับผลดี เราทำกรรมชั่ว เราก็ได้รับผลชั่ว

คำตรัสของพระพุทธองค์ข้างต้นนี้ เป็นความจริงอย่างยิ่ง และจะจริงอยู่ตลอดไป
ไม่มีสิ่งใดจะมามีอำนาจทำให้ผันแปรเป็นอย่างอื่นได้ ด้วยเหตุนี้ สัตว์ทั้งหลายจึงเกิดมาด้วยกัน คือ
การกระทำของเราเองทั้งสิ้น เกิดมาแล้วก็มีชีวิตอยู่ด้วยกรรม คือ รับผลของกรรมเก่าบ้าง

สร้างกรรมใหม่ที่จะเป็นเหตุให้เกิดผลต่อไปอีกบ้าง ตายไปแล้วจะเป็น
อย่างไรต่อไป ก็เพราะกรรม ไม่ใช่เพราะพระพรหมลิขิต หรือผู้อื่นดลบันดาลให้เป็นไป
แต่กรรมที่ เราได้สะสมเอาไว้นั่นแหละ เป็นผู้ลิขิตชีวิตเรา ให้เป็นไปต่างๆ

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 04 เม.ย. 2015, 06:11 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

รวมความว่าเราไม่มีวันที่จะหนีกรรมที่เราทำไว้ได้พ้น นอกเสียจากว่า เมื่อเราได้ทำลายเหตุ ที่จะ
ทำให้เราเกิดได้หมดสิ้นแล้วด้วยอริยะมรรค เมื่อนั้นเราจะไม่ต้องรับกรรมหรือสร้างกรรมใดๆ อีกเลย เราจะ
เป็นผู้พ้นแล้วจากกรรมทั้งหมดเช่นเดียวกับที่พระพุทธเจ้าและพระอรหันตสาวกของพระองค์ได้พ้นกันมาแล้ว

ตามปกตินั้น คนเราไม่มีใครเลยที่เคยทำแต่ความดีหรือความชั่วเพียงอย่างเดียว ทุกคนล้วนแต่เคย
ทำความดีบ้างทำความชั่วบ้างกันมาแล้วทั้งสิ้น บางคนเคยทำความดีมากทำชั่วน้อย บางคนทำความดีน้อยทำ
ชั่วมาก และก็ไม่ได้ทำกันแต่เฉพาะชาตินี้เพียงชาติเดียวเท่านั้น หากแต่ได้เคยทำไว้ในชาติก่อนๆ ที่เคยเกิด
มาแล้วจนนับไม่ถ้วนนั้นด้วย

ด้วยเหตุนี้คนเราจึงต่างกัน ตามกำลังของบุญและบาปที่ได้เคยทำเอาไว้ บางคน
เกิดในตระกูลสูง เกิดในถิ่นที่เจริญ มีรูปสวย รวยทรัพย์ มีคนเคารพนับถือ มีสติปัญญา เฉลียวฉลาด บางคน
เกิดในตระกูลต่ำ เกิดในถิ่นที่ห่างไกลความเจริญ รูปไม่สวย ยากจน ขาดคนนับถือ ขาดสติปัญญา เมื่อเกิด
แล้วยังทำกรรมดีกรรมชั่วแตกต่างกันอีก

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 05 เม.ย. 2015, 06:16 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

พระพุทธองค์ จึงตรัสว่า "กรรมคือบุญและบาปเป็นเครื่องจำแนกสัตว์ทั้งหลาย
ให้ ดี เลว ประณีต แตกต่างกัน"

บางคนกำลังทำความชั่วอยู่ แต่กลับได้รับความสุขความสบายมีหน้ามีตา
ทั้งนี้ก็เพระความดีที่เขาเคยทำมากำลังให้ผล แต่กรรมชั่วที่เขากำลังทำอยู่ยังไม่ให้ผล
ตรงกันข้ามบางคนกำลังทำความดีอยู่ แต่กลับได้รับความทุกข์ยากลำบากนานาประการ

ทั้งนี้เพราะความชั่วที่เขาเคยทำมาแต่ก่อนๆ กำลังให้ผล ส่วนความดี
ที่เขากำลังทำอยู่ยังไม่ให้ผล ขึ้นชื่อว่าบุญคือความดีนั้นจะให้ผลชั่วย่อมไม่มี
และขึ้นชื่อว่าบาปคือความชั่วจะให้ผลดีย่อมไม่มี

ถ้าท่านเข้าใจผลของบุญและบาปอย่างถูกต้องอย่างนี้แล้ว ท่านจะไม่
โศกเศร้าเดือดร้อนใจเมื่อได้รับความทุกข์ และจะไม่ลำพองใจเมื่อได้รับความสุข
เพราะเราทำความดี ความชั่วด้วยตัวเราเอง เราจึงได้รับผลนั้นด้วยตัวเอง

สักวันหนึ่งความทุกข์นั้นก็จะหมดไปความสุขจะมาแทนที่
แล้วแต่ว่าเมื่อไรความดีหรือความชั่วที่เราได้ทำมาแล้วมากมายนั้นจะให้ผล

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 07 เม.ย. 2015, 11:13 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสว่า การที่จะได้เกิดเป็นมนุษย์นี้ยากนัก
เพราะการเกิดเป็นมนุษย์นั้นต้องอาศัยบุญที่ได้ทำไว้แต่ปางก่อน
นอกจากนั้นพระองค์ยังตรัสว่า มนุษย์เป็นสัตว์ประเสริฐ
เพราะมีโอกาสที่จะบำเพ็ญบุญได้ทุกชนิดตั้งแต่บุญเล็กๆ น้อยๆ
จนถึงบุญใหญ่ที่สามารถทำให้พ้นจากความทุกข์ทั้งมวลได้

ชาตินี้เราท่านได้เกิดเป็นมนุษย์แล้ว โอกาสที่จะทำความดีมีไม่นานเลย
อย่างมากไม่เกิน ๑๐๐ ปี จึงควรจะสั่งสมบุญของเราไว้ให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้
เพราะบุญที่ท่านได้สั่งสมไว้ดีแล้ว ย่อมนำความสุขมาให้ทั้งชาตินี้และชาติหน้า
ทรัพย์สมบัติอย่างอื่นไฟไหม้ได้ เสียหายได้ โจรลักได้ แต่อริยทรัพย์คือบุญ ไฟไหม้ไม่ได้
เสียหายไม่ได้ โจรลักไม่ได้ ทั้งบุญยังเป็นมิตรติดตามตน เป็นที่พึ่งแก่ตนไปในภพหน้าด้วย

ชีวิตของมนุษย์นี้น้อยนัก ไม่นานเลยก็ตาย ถ้ามัวรีรออยู่ ท่านอาจจะตายเสียก่อนได้ทำความดี
ก็ได้ เพราะใจของปุถุชนนั้นมักจะไหลไปหาบาปได้ง่าย

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 08 เม.ย. 2015, 06:27 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

พระพุทธองค์จึงทรงสอนว่า "เมื่อจิตคิดจะทำบุญเกิดขึ้นก็อย่ารีรอ
จงรีบทำเสียในขณะนั้น เพราะมัวรีรออยู่จิตที่เป็นบาปก็จะเกิดแทน บุญที่บุคคลทำแล้ว
ย่อมให้ผลเร็ว บุญที่บุคคลทำช้าย่อมให้ผลช้า" ดังที่เราท่านได้เคยพบอยู่เสมอๆ ว่า
บางคนต้องการสิ่งใด เขาจะได้สิ่งนั้นตามต้องการโดยรวดเร็ว แต่บางคนต้องการสิ่งใด
แล้วไม่ได้ตามต้องการก็มี ทั้งนี้เพราะไม่เคยคิดจะทำบุญ หรือคิดจะทำบุญแล้วไม่ได้
ทำนั่นเอง

รวมความว่า ทุกคนเกิดมาด้วยกรรม เป็นอยู่ด้วยกรรม จะเป็นอย่างไรต่อไปอีกก็เพราะกรรม
กรรม จึงเป็นเรื่องน่าสนใจ น่าใคร่ครวญ น่าศึกษาให้เข้าใจ มิใช่เพื่อใครเลยแต่เพื่อความสุข
ความเจริญของผู้ศึกษาเอง และเพื่อความสุขความเจริญของผู้ที่แวดล้อมเกี่ยวข้องกับเรา
เพื่อให้เรื่องนี้แจ่มแจ้งชัดเจนขึ้น จึงขอนำเอาพระพุทธดำรัสที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเทศนา
ไว้ในพระสูตรต่างๆ มาอ้างอิงประกอบดังต่อไปนี้

เจ้าของ:  น้องพลอย [ 09 เม.ย. 2015, 17:39 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

Kiss :b8:

เจ้าของ:  ศิษย์หลวงปู่ทา [ 12 เม.ย. 2015, 12:33 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

:b8:

เจ้าของ:  ลุงหมาน [ 21 พ.ค. 2018, 07:45 ]
หัวข้อกระทู้:  Re: คิดให้ดีแล้วเราอาจจะเห็นตามท่าน

Kiss

หน้า 1 จากทั้งหมด 1 เขตเวลา GMT + 7 ชั่วโมง
Powered by phpBB © 2000, 2002, 2005, 2007 phpBB Group
http://www.phpbb.com/